*-*พี่ยังรู้สึกดีกับน้องเสมอ
บันทึกความก้าวหน้า วันที่ 23 เม.ย. โทรสับไปหาเค้าวัตถุประสงค์เพื่อต้องการโทรไปเพื่อขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้กระทำกับเค้า และโทรบอกอยากให้เค้าไปทำบุญที่วัดในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเกิดของเค้า เป็นห่วงและหวังดี(ด้วยความรู้สึกจากใจจริง) ให้ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ยังงัยก็ต้องไป พี่เค้าบอกว่าคิดว่าเราไม่โทรหาแล้ว เค้าคงรู้สึกดีที่เราโทรหา เรากลางคำขอโทษ สำหรับทุก ๆ เรื่องราวที่เราทำให้เค้าไม่สบายใจ และพี่เค้าบอกว่าไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่คิดอะไรมาก กับเรื่องราวต่าง ๆที่น้องทำ แต่พี่รู้สึกเสียความรู้สึกที่มาพูดว่าพี่ในวันนั้น หาว่าพี่เอาเรื่องของน้องไปพูดให้คนอื่นฟัง ทั้ง ๆ ที่พี่ไม่เคยพูดอะไรที่เสียหายเลย เสียความรู้สึกและโมโหมากวันนั้น และพี่เค้าก็ถามว่าอยู่ไหน กินข้าวยัง อยู่กับใครพี่เค้าไปหาได้มั้ย เป็นคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเค้ายังรู้สึกดีกับเรา เราบอกว่าคิดว่าพี่อยากคุยไม่รับโทสับน้องด้วยซ้ำ ไม่อยากติดต่อรู้จักตลอดไป เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายขนาดนั้น เค้าเป็นคนที่มีเหตุผลพอ ยังไม่รู้จักพี่ดีพออีกเหรอ พี่ยังรู้สึกดีกับน้องเสมอ เป็นคำพูดที่เราทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมามาก พี่เค้าบอกว่าจะเข้ามาหา เราบอกว่าไม่ให้มามาวันหลังดีกว่า บอกว่าห้องรกไม่อยากให้มา พี่เค้าบอกว่าเด๋วช่วยจัดให้ก็ได้ แต่พี่เค้าบอกว่าจะมา แล้วพี่เค้าก็ขับรถมาแต่ไม่มีที่จอด เราเลยลงไปเจอ จอดรถอยู่หน้าหอพอดี หาที่จอดไม่ได้ เราขึ้นไปนั่งบนรถพี่เค้าขับออกปากซอยสักพักเราก็ต้องลงเพราะหาที่จอดไม่ได้บอกพี่เค้าว่า มาวันหลังแล้วกัน อีกอย่างพี่ชายน้องอยู่ด้วย พี่เค้าบอกว่าพี่ชายอยู่งั้นเดี๋ยวพี่มาวันหลังแล้วกัน เพราะเค้าคงยังไม่พร้อมจะเจอ พี่เค้าเลยบอกเราว่าวันหลังก็ได้ไม่เป็นไร พี่ไม่ว่าอะไรหรอก เราจับแขนพี่เค้าถามว่ากลับบ้านมาเป็นงัยบ้าง พี่บอกว่า เด๋วโทรคุยกันดีกว่าแล้วเราก็ลงจากรถ (ไม่ได้งอนไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนมีเหตุผลขึ้นมาก) เพราะเราเองก็เข้าใจอาจยังไม่พร้อมที่จะรู้จักในตอนนี้ เราไม่ได้ว่าอะไร สักพักพี่ก็โทรมา บอกว่าถึงห้องแล้วแล้วก็คุยหลาย ๆ เรื่อง มีการพูดว่า พี่จะมาหาแล้วไม่ให้มา เรารู้พี่แกคงมึน ๆเพราะกินเบียร์มา คำพูดหลาย ๆ คำไม่รู้เป็นเพราะฤทธิของแอลกอฮอร์รึเปล่า เราก็ถามไปหลายครั้งว่า พี่รู้สึกว่าโลกตะแคงรึเปล่า มึนหัวไหม กินมากี่ขวด พี่เค้าบอกว่าเราถามเหมือนเด็ก พี่พูดมีสตินะ เราก็เลยย้ำว่าพรุ่งนี้พี่ต้องไปวัดทำบุญนะ แล้วพี่เค้าก็บอกว่างั้นให้เราโทรไปปลุกไปด้วยกัน เราบอกว่าเช้า ๆ เพราะตอนเย็นเรามีเรียน งั้นนอนนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ก็นัดกันอย่างดีให้เราโทรไปปลุก เราก็อ่านหนังสือ นอนตี 2 ตื่น 6 โมงเช้า กะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จประมาณ 7 โมงกว่าโทรไป 3 สายไม่รับ สงสัยนอนไม่ตื่น (ง่วงจัดเพราะมะคืนกินเบียร์) เลยไม่อยากกวน ไม่ไปก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีหน้าที่ไปเป็นเพื่อน เรื่องของการตัดสินใจไปหรือเปล่านั้นเป็นหน้าที่ของเค้า เราบังคังไมได้ เราไม่ว่ากัน ประมาณ 9 โมงเห็นเค้ายังไม่โทรมา ก็เลยคิดว่าพี่เค้าคงไม่อยากไป อาจเพราะแกรงใจเราด้วยที่ต้องอ่านหนังสือสอบ ก็เลยนั่งอานสือในห้องอยู่กับพี่บอยสองคน แล้วก็ส่ง SMS อวยพรวันเกิดให้ ครบรอบอีกปี แก่ขึ้นอีกแระ มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ จะเป็นกำลังใจให้ในทุก ๆ เรื่อง แล้วก็นอนหลับฝันดี รู้สึกมีความสุขมาก หลังจากระยะเวลา 16 วันที่ไม่ได้คุยกัน และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอกหัก แต่จริง ๆแล้วเค้าไม่ได้ทำให้เราอกหัก เพียงแค่เรายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่เข้าใจกันเท่านั้นเอง ความรู้สึกดี ๆยังมีอยู่เสมอ จะในฐานะอะไรก็แล้วแต่ และก็มีความรู้สึกว่าเค้าก็ชอบเรา และเหมือนกับว่าให้เราดู ๆ กันไป รักและรู้สึกดีกันด้วยเหตุผล เพราะฉันคิดว่า ความรักของฉันครั้งนี้มันคงไม่ได้รักแบบฉาบฉวยเป็นรักแบบวัยรุ่นแล้ว คิดว่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว รักเกิดขึ้นได้ไม่ยากและสำหรับฉันมันก็ไม่ง่ายเช่นกัน ยังคงต้องดูอะไร อีกหลาย ๆ เรื่อง การที่คนสองคนจะสามารถคุยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้มันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด คิดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ครอบครัวทั้งสองฝ่าย ฐานะ หน้าที่ การงาน และในขณะเดียวกัน ความรู้สึกระหว่างคนสองคนต้องเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาต่อกัน เห็นใจเข้าใจกันและกัน ให้เกียรติ เว้นช่องว่างระหว่างกัน รู้กาลเทศะ รู้หน้าที่ที่ควรทำ ใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท และอีกอย่างคนที่จะสามารถเป็นคู่ชีวิตฉันต้องมีธรรมะเป็นพื้นฐานการใช้ชีวิต ฉันไม่ได้คาดหวังกับรักครั้งนี้ ฉันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่ฉันต้องทำคือหวังดีและเข้าใจเค้าให้มากกกว่านี้จะในฐานะอะไรก็ตามแต่ จากความรู้สึกดีจากข้างใน *-* ด้วยรัก 25 เม.ย. 2553
Create Date : 25 เมษายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2553 19:20:34 น. |
Counter : 439 Pageviews. |
|
|
|
ภายใต้ 27 เมษายน 2553 13:15:51 น.