จากที่สอบถามมิตรรักแฟนเพจ และเพื่อนฝูง ทุกคนให้ความเห็นตรงกันว่า ของฝากที่ชอบและจำเป็นที่สุดคือ......เงิน และทอง (จะสลากออมสินก็ไม่ว่ากันนะ)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว....ถ้าไม่ใช่ญาติสนิท หรือผู้อาวุโสกว่า จะแจกเงินแจกทอง ก็แปลกๆ นอกจากนี้ ในฐานะคนให้ก็อยากจะซื้ออะไรที่เป็นของขวัญที่คนรับได้ใช้จริงๆ และเดินเลือกซื้อของให้เบบี๋สนุกสนานแทนทีจะให้เป็นเงินอย่างเดียว หลังจากทำ research เล็กๆน้อยๆ ก็พอจะสรุปได้ความว่า การเตรียมของขวัญไปเยี่ยมคุณแม่มือใหม่ อาจจะแบ่งประเภทของที่จะไปเยี่ยมและได้ประโยชน์ถูกใจคุณแม่คุณลูก ประมาณนี้คือ
1. ของใช้จำเป็นที่ใช้แล้วหมดไป ให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ.......(จริงๆ เงินก็จัดอยู่ในหมวดนี้นะ 55555) ได้แก่.....
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตอนเราเตรียมของให้มิวมิว ไม่รู้มาก่อนเลยว่า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เค้าต้องใช้ไซส์ไหน ใช้นานแค่ไหน วันละกี่ชิ้น แล้วเด็กกี่เดือน จะน้ำหนักกี่กิโล เปลี่ยนไซส์เมื่อไหร่
ตามประสาแม่มือใหม่ เราก็ซื้อ Mamypoko newborn ห่อจิ๋วที่สุด กะว่า ไว้ใช้ยามจำเป็นก็พอ(ไม่รู้ว่าต้องใช้มากน้อยแค่ไหน) แล้วก็ซื้อผ้าอ้อมผ้ามาตุน เอาเข้าจริงๆ ผ้าอ้อมผ้า กลับไม่ค่อยได้ใช้ เพราะแค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยมากไม่มีแรงเปลี่ยนผ้าอ้อมผ้าบ่อยๆทุกครั้ง และ เจ้ามิวมิวเกิดมาตัวจิ๋ว ด้วยน้ำหนัก 2400 กรัม ผ้าอ้อมผ้าที่มียังใหญ่เกินไป ใช้ลำบาก.....โชคดีมากที่มีเพื่อนมาเยี่ยมแล้วเอา poko newborn ห่อใหญ่มาให้ ช่วยชีวิตเราไว้จริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะซื้อของไปเยี่ยม คิดอะไรไม่ออก แนะนำให้ ซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปไว้ก่อน ได้ใช้ชัวร์ จะเป็น new born (แรกเกิด-5 กก.) หรือ ไซส์ S ( 4-8 กก.) ก็ได้ (ถ้า new born จะดีกว่าสำหรับเบบี๋แรกเกิด เพราะมีเว้าๆ ตรงสะดือ เหมาะสำหรับเด็กที่สายสะดือยังไม่หลุด ทำให้ไม่เสียดสี)
เบบี๋แรกเกิดในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือนกว่าๆ ก็จะน้ำหนักขึ้นพรวดๆเดือนละประมาณ 1 กิโล กินนม ทุก 3-4 ชม. กินแล้วอึ อึแล้วกิน...กินแล้วอึ อยู่แบบนี้ วันละหลายรอบ... ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไซส์ S ก็จะต้องใช้ไปอีก ไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือนเลยจ้า จำเป็นแน่นอน
ถ้าซื้อเป็นของฝาก ก็ควรเลือกดีๆ หน่อย ผ้าอ้อมนุ่ม แผ่นไม่หนา ซึมซับได้ดี แห้งสบายตัว หาซื้อง่าย ลายน่ารัก
(ส่วนผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่คุณภาพปานกลางไปจนถึงไม่น่าประทับใจเป็นยังไงจะบอกให้ วัสดุจะแข็งๆหน่อย แถบกาวด้านข้างเป็นเหมือนสก๊อตช์เทป แปะได้ครั้งเดียว ถ้าแปะผิด แกะออกมาแปะมากกว่า 1 ครั้งจะติดไม่ค่อยอยู่ เวลาเจอของเหลวเจลจะบวมมาก ก้นย้วยสุดๆ ความชื้นจะกัดก้น ทำให้ก้นแดง บางยี่ห้อ ขากว้าง ทะลักออกข้างๆ อีก...เพลีย อาจจะเหมาะกับเด็กขาใหญ่ขาหมู ตัวฟูระยะหลัง แต่ระยะแรก เบบี๋ตัวเหี่ยวๆ ไม่ค่อยเหมาะ)
ผ้าเปียกเช็ดก้นเด็ก ตามทฤษฎีประหยัด เขาก็ให้ใช้ สำลี ชุบน้ำต้มสุกเช็ด....แต่ตามความเป็นจริง บางครั้งไม่สะดวกเลย กลางคืนง่วงๆ มานั่งควานหากระปุกสำลี กระป๋องน้ำ คืนละ 3 รอบ T_T และโดยเฉพาะเวลาออกไปนอกบ้าน ยังไงๆ ก็ต้องใช้นะ ผ้าเปียกเนี่ย ในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ ยกตัวอย่าง ผ้าเปียก Mamypoko ถือว่าคุณภาพใช้ได้ดี ราคาไม่ได้แพงเวอร์ แพคเกจดี (ถ้าแพคเกจห่วยเปิดใช้ไม่นาน สติ๊กเกอร์ฝาปิดหลุด ผ้าเปียกก็จะกลายเป็นทิชชู่ธรรมดา เสียรมณ์สุดๆ เหอะ)
สบู่ แชมพู ยาสระผม สำลี คอตตอนบัด น้ำยาซักผ้าเด็ก น้ำยาล้างขวดนม ของพวกนี้ เป็นจำเป็นที่ใช้แล้วหมดไป...สามารถเก็บไว้ในรายการของฝากได้เช่นกัน ซึ่งคนส่วนมากมักจะซื้อตะกร้าของฝากสำเร็จมาให้ ซ้ำๆ กันเยอะมาก ใช้กันจนลูกโตยังไม่หมด (อาจจะเสี่ยงนิดนึงเพราะเด็กบางคน ขี้แพ้ แม่มักจะไม่ค่อยเปลี่ยนสบู่ แชมพูให้ลูก หรือเด็กบางคนก็อาบน้ำเปล่า เนื่องจากเด็กแรกเกิดผิวมักจะแห้งมาก)
2. ของใช้จำเป็น ที่ควรถามก่อนซื้อจะได้ไม่ซื้อซ้ำกัน
หมอนรองให้นม เป็นไอเท็มที่เริ่ดมากนะเธอว์ ช่วยให้ให้นมลูกได้สบาย ไม่ปวดหลัง ถ้าคุณแม่ยังไม่ซื้อ ก็ควรซื้อให้ แต่ถ้าซื้อมาแล้ว อยากจะซื้อซ้ำ ก็ไม่เป็นไร อย่างบ้านเรามีตั้งสองใบแหนะ ไว้บนบ้าน กับ ข้างล่าง ไม่ต้องหอบหิ้วย้ายไปมา พอลูกโต จับให้นั่งพิงหมอนล็อคเอาไว้ ไม่กลิ้งหงายหลังได้ด้วย
สำหรับขวดนมและนมกระป๋อง อยากจัดอยู่ในประเภทของต้องห้ามซื้อฝากเพราะเด็กแต่ละคน กินนมไม่เหมือนกัน บางคนแพ้นมวัว บางคนกินยี่ห้อนี้แล้วอึไม่ออก บางคนกินแล้วท้องเสีย....ขวดนมถ้าจะซื้อ ควรดูที่เขียนว่า BPA free แต่ทางที่ดี เราควรสนับสนุนนมแม่ ไม่ต้องซื้อขวดนมเป็นของฝากจะดีกว่า เด็กที่กินนมแม่ มีความจำเป็นต้องใช้ขวดนมน้อยมากแต่ถ้าซื้อเครื่องนึ่งขวด นึ่งจานชาม อาหาร นั่นใช้ได้นาน
เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ แบบดิจิตอล วัดไข้ทางหู(เท่านั้นที่เวิร์ค) เพราะปรอทธรรมดา เด็กๆ ดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อมใต้ลิ้นไม่ได้ แหย่รักแร้ หรือก้น ก็ใช้เวลานานเกิน แถบๆ อันละไม่กี่สิบบาท ก็ไม่แม่นยำ บางกรณี เด็กเล็กไม่สบายอาจจะมีไข้สูง ยังสื่อสารบอกไม่ได้ การวัดไข้ที่แม่นยำ จำเป็นมากๆ ไอเท็มนี้ใช้ได้จนโต จำเป็นต้องมีติดบ้าน ราคาไม่ถูกไม่แพง ซื้อเป็นของขวัญก็จะช่วยทุ่นเงินในกระเป๋าพ่อแม่ไป
คาร์ซีท เป็นของจำเป็นที่ต้องมี ถ้าจะซื้อเป็นของขวัญ ควรเช็คก่อนซื้อว่า เขามีแล้วหรือยัง แล้วมีแบบไหนนะ เพราะส่วนใหญ่ ถ้าพ่อแม่ไม่มองข้ามความปลอดภัย มักจะเลือกลงทุนซื้ออุปกรณ์พวกนี้ไว้ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้องเนื่องจากต้องใช้ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล
คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก(Infant car seat) จะเป็นแบบกระเช้า ต้องหันหน้าเข้าเบาะ ใช้ได้ถึงสักประมาณ 9 เดือน หรือ 15 กก. โดยประมาณ บางรุ่นยกไปสวมบนรถเข็นได้เลย สามารถใช้ด้วยกันได้ จากนั้นหลังจากลูกเริ่มนั่งได้แข็ง โตหน่อย ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้คาร์ซีทเด็กโต (9 กก.++) ที่หันหน้าออกจากเบาะรถยนต์ได้ตามปรกติ หรือคาร์ซีทบางรุ่น ใช้ได้แรกเกิดยัน 4 ขวบเลยก็มี อันนี้ ต้องลองดูงบประมาณซื้อฝาก และความต้องการพ่อแม่ด้วย เจ้ามิวมิวได้ของขวัญ เป็นคาร์ซีท 1 ตัว 9-25 กก. จากป้าๆที่ออฟฟิส แม่เลยซื้อแบบกระเช้ามาไว้ใช้ตอนเบบี๋ พอเริ่มโตเปลี่ยนมาใช้อันใหญ่ ทุกวันนี้ยังใช้อยู่เลย เป็นของขวัญที่คุ้มค่าสุดๆอีกชิ้น
รถเข็น/ เป้อุ้มเด็ก....สามารถเป็นของขวัญได้เช่นกัน มีสารพัดแบบ สารพัดรุ่น เข็นหันหน้าหันหลัง ปรับเอนนอนได้ราบ ล้อหมุนรอบทิศทาง ช็อคอัพ และอื่นๆ....เลือกตามสะดวก เป้อุ้ม ขอข้ามนะ มีหลายแบบหลายประเภท ใช้มาหมดละ แต่ถ้าจะให้รีวิว อีกยาว
อุปกรณ์รับประทานอาหาร ของฝากสำหรับคนมองการณ์ไกล
ถ้ามีคนซื้อของฝากเป็นของใช้และอื่นๆ มากมายแล้ว ในอีกไม่เกิน 6 เดือนข้างหน้า เจ้าเบบี๋ตัวจิ๋วจะต้องฝึกกินอาหาร จาน ชาม ช้อน แก้วหัดดื่ม ที่บดอาหาร ถาดใส่อาหารแช่แข็ง เป็นอีกทางเลือกที่เริ่ด ไม่ซ้ำใคร แต่ต้องเลือกชนิดที่ทนความร้อนและเย็นได้สูงๆ จะดีมาก ถ้าสามารถนำภาชนะนึ่งได้ด้วยนะ แจ่ม
3. ของเล่น และเสื้อผ้า อันนี้ ก็ขาดไม่ได้
สำหรับเสื้อผ้าตัวจิ๋วๆ มองไปทางไหนก็น่ารักไปหมด อยากให้ลูกๆ หลานๆ ใส่คงจะน่ารักน่าดู แต่ตามความเห็นเรา คิดว่าเสื้อผ้าเป็นของฝากที่ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ (แต่ก็แล้วแต่กรณี แต่ละบ้าน) ปกติ แม่ๆทุกคน เป็นโรคบ้าซื้อ เห็นเสื้อผ้าเด็กสวยๆ ไม่ได้ต้องซื้อ แม่บางคนซื้อตุนกันไปจนลูก 2-3 ขวบก็มี...ดังนั้นแล้ว ถ้าเราให้เสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กแรกเกิด มักจะเกิดปัญหา ใส่ไม่ทัน หยิบมาใส่อีกที คับเสียแล้ว เป็นที่น่าเสียดาย
ส่วนของเล่นที่ควรซื้อให้เบบี๋ แนะนำให้เป็นของเล่นผ้า หนังสือผ้า สีสันสดใส ซักได้ มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง กรอบแกรบ สะท้อนวิบวับ ดึงดูดสายตาเด็กเล็กที่มองเห็นแค่ระยะใกล้ไม่กี่เมตร โมบายเสียงเพลง, play gym
ถ้าของเล่นพลาสติก ยาง ควรเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐาน มอก. ของเล่นตลาดนัดอาจเป็นอันตรายเพราะเบบี๋ชอบเอาของเข้าปากแทะ กัด ชิม อม หรือเป็นของเล่นไว้เล่นตอนอาบน้ำ ก็ไอเดียไม่เลวนะ พ่อแม่มักจะลืมซื้อ
4. ของกระจุกกระจิก ที่มีคุณค่าทางใจ
ไม่ว่าจะเป็น scrapbook / baby first year book บันทึกข้อมูล ช่วงเวลาสำคัญๆ ของเบบี๋และครอบครัว หรือ keepsake box ไว้เก็บของมีค่าของเบบี๋ ฟิลม์เอ็กเรย์ สายสะดือที่หลุดแล้ว รองเท้าคู่จิ๋วๆ เสื้อผ้าตัวจิ๋ว ฟันน้ำนมซี่แรก ป้ายชื่อจาก รพ. ดวงวันเกิดตัดจากหนังสือพิมพ์ ปฏิทินจีนวัน เดือน ปี ที่เค้าเกิด เก็บไว้ให้เค้าดูตอนโต
อันนี้ น่าร๊ากกก
พ่อแม่อาจจะลืม หรือไม่มีเวลาไปเสาะแสวงหา ถ้าเพื่ิอนสนิทมิตรสหายซื้อของเหล่านี้มอบให้เป็นของขวัญ ก็ประทับใจดีเน้ออออออ.......
สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไว้เป็นทางเลือกตามสะดวกจ้า