กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
7 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 

เรื่องที่รู้อยู่แล้วหรืออาจจะยังไม่เคยรู้ : ประโยชน์ของไข่ กับ Omega 3 [Sponsored Content]

ก่อนหน้านี้ เคยได้ยินแต่ว่า กินไข่แล้วดีๆๆ มีประโยชน์  แต่ไม่ค่อยได้ใส่ใจ  กินมากไป รึน้อยไปแค่ไหนถึงจะดี (บางคนคงเคยได้ยินว่ากินมากไม่ดีเหมือนกันใช่ป่ะ)  จนต้องมาเขียนเรื่องนี้แหละ เลยหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วพบว่า ความเชื่อบางอย่างที่ผิดๆ เกี่ยวกับการบริโภคไข่ ก็มีเหมือนกันนะ.....เช่น กินไข่มากๆ แล้วคลอเรสเตอรอลสูง.....จริงๆแล้วมีการวิจัยประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว ออกมายืนยันว่า การกินไข่ มีผลต่อระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกายน้อยมากกก อาหารที่ทานเข้าส่งผลต่อระดับคลอเรสตอรอลในร่างกายประมาณแค่ 10%  สิ่งที่น่ากลัวกว่าไข่ คือ อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวเยอะๆ โดยเฉพาะไขมันสัตว์ ชีสสส นม เนย และอื่นๆ (ไขมันอิ่มตัวจากพืชไม่มีคลอเรสเตอรอล) อะยากละ....


ก่อนจะถลำลึกไปกว่านี้ ลองมาดูชนิดของไขมันในอาหารกันก่อนมะ...เบสิกๆ(หรอ)

ไขมันในอาหาร แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ อิ่มตัว และไม่อิ่มตัว  (ชื่อต่างๆ เป็นเรื่องของการจัดเรียงโมเลกุล ถ้าสนใจมากละจะยิ่งงง  คนธรรมดาเอาแค่พอรู้จัก ว่า แหล่งไหนดีไม่ดี พอละนะ  อธิบายมาก จะยาว 5555)

อันไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว มีทั้งแบบดี และแบบไม่ดี อย่าได้ปักใจเชื่อว่า ไขมันอันไหนไม่ดีเป็นพิเศษ แต่ให้สังเกตแหล่งที่มา แล้วจำๆ ไว้ว่าอันไหนควรกินไม่ควรกินจะง่ายกับชีวิตกว่า

ขมันอิ่มตัว >> มากับสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นปลา!! >> ผลผลิตต่อเนื่องจากไขมันสัตว์ เช่น นม เนย ชีส คุ๊กกี้ ไอติม  >> ก่อให้เกิดคลอเรสเตอรอล แบบที่เป็น ไขมันชนิดเลว

และไขมันอิ่มตัวบางชนิดที่มากับพืช เช่น มะพร้าว ปาล์ม โกโก้ >> ณ นาว ไม่แน่ใจว่าเถียงกันจบไปรึยังว่า saturated fat จากพืช ดี หรือไม่ดีกันแน่ บางตำราบอกดี บางตำราบอกไม่ดี  (เคยได้ยินตำราหมอชาวบ้านเขาว่า กินมะพร้าวให้กินทั้งเนื้อและน้ำ จะบาลานซ์สุด)

ไขมันไม่อิ่มตัวโมเลกุลเชิงเดี่ยว เช่น น้ำมันงา น้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก ถั่ว วอลนัท แมคคาดาเมีย สารพัด พอจะนึกออกใช่มะ  พวกนี้ กินเข้าไปแล้ว จะเข้าไปช่วยลดระดับไขมันเลวในเลือด 

ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน>> ไม่เสถียร ทนร้อนไม่ได้ เช่น น้ำมันปลา น้ำมันพืชที่ไม่ใช่สกุลปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน (ที่เห็นๆ เอามาทำกับข้าวได้ เพราะผ่านกระบวนการทำให้เสถียรแล้ว)

Omega 3 ก็เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ต่อต่างกาย ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี ในเลือด

ไขมันไม่อิ่มตัว อีกแบบคือ trans fat  พบในวัวควาย และ อุตสาหกรรมที่ใช้ไขมันแปรรูป(ผ่านกระบวนการเคมีสำหรับอุตสาหกรรม)   ไขมันทรานส์นอกจาก จะเพิ่มคลอเรสเตอรอล ไขมันชนิดเลวและยังลดไขมันชนิดดีในร่างกายอีกด้วย ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดมากขึ้น   ส่วนมากก็พวก ขนมอบ ครีมเทียม เนยเทียม (มาการีน) อาหารอบ อาหารทอด อันนี้พิษภัยใหญ่หลวงมากที่สุด เพราะกินเข้าไปแล้วไม่สามารถเอาออกได้


ทีนี้ เรามาดูคุณค่าของไข่เบสิกๆ ขนาดใหญ่ 1 ฟอง  ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ถึงจะมีคลอเรสเตอรอลสูง แต่ไม่เป็นอันตรายกับร่างกายนะ กินได้ตามปรกติอย่างที่บอกในตอนแรก

ที่มา: //www.thaiclinic.com/medbible/egg.html


คราวนี้ เรามาดูไข่ชนิดไม่ธรรมดากันบ้าง...
ปกติ ในไข่ไก่ธรรมดา จะมีปริมาณ  omega 3 อยู่ในระดับหนึ่ง  แต่การค้นคว้าวิจัยช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น โดยนักโภชนาการสามารถเพิ่มปริมาณ omega 3 ลงไปในไข่ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารที่มีมากอยู่แล้ว ให้มากขึ้นไปอีก เพื่อให้คนหันมากินไข่  เพิ่มข้อดีลดข้อจำกัดของคนที่คิดว่า ไข่แดงมีคลอเลสเตอรอลสูงโดยการเพิ่มปริมาณกรดไขมัน EPA และ DHA  เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับกรดไขมันมีประโยชน์นอกเหนือจากกจากการกินอาหารทะเลอาหารทะเลโดยตรง 

"มีรายงานการศึกษายืนยัน การให้คนปกติบริโภคไข่ที่มีโอเมก้า 3 วันละ 4 ฟองเป็นเวลานานติดต่อกัน 4 สัปดาห์นั้น ไม่มีผลให้ปริมาณคลอเลสตอรอลในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การบริโภคไข่ธรรมดาในลักษณะเดียวกันให้ผลในทางตรงกันข้าม อีกทั้งไข่โอเมก้า-3นี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของ DHA ซึ่งมีความสำคัญต่อพัฒนาการของระบบต่าง ๆ ที่สำคัญในวัยเด็ก"
ที่มา //www.ku.ac.th/kaset60/ku60/egg3.html


ปริมาณไข่ที่กินได้ต่อวัน

เด็กๆ กิน ไข่วันละ 1 – 2 ฟอง คุณหมอประจำเจ้ามิว แนะนำว่า สำหรับเด็กจิ๋ว ให้กินไข่ไปเลย วันละ  1 ฟองเป็นอย่างน้อย ช่วงตัวจิ๋วมาก หมอบอก สัปดาห์ละ 10 ฟองไหวไหมคุณแม่.....T_T  ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง หลอกล่อกันด้วยสารพัดวิธีเลยเชียวละ 

ผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือนักกีฬาที่ต้องใช้พลังงานในแต่ละวันมากกว่าปกติ สามารถกินไข่ได้ วันละ 1 -2 ฟอง เพราะพลังงานถูกใช้ไปอย่างสมดุล 

คนแก่ ก็สามารถกินได้วันละ 1 ฟองเช่นกัน แต่อาจจะหลีกเลี่ยง การทอด เปลี่ยนเป็น ตุ๋น ต้ม กินกับน้ำพริก ผัก ไรไปตามเรื่อง


นอกจากไข่แล้ว....omega 3 อย่างที่บอกว่า มาจากปลาทะเล อาหารทะเลเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วปลาน้ำจืดของไทยเรานี่ก็มีหลายชนิดนะ ที่มี omega 3 สูงมากกกก ยกตัวอย่าง เฉพาะทีตัวเองชอบกิน 55555


ที่มา : //advisor.anamai.moph.go.th/211/21102.html

แต่ ไม่ใช่ทุกคน จะกินปลาได้ทุกวัน หรือสักกี่คนจะทำอาหารจากปลาเป็น..อิชั้นนี่แหละคนนึงขอบาย.....ไม่สามารถ ทำไม่เป็นอ่ะ >_<   รวมไปถึงจ่ายตลาดแบบไปยืนเลือกจากกะละมัง ให้แม่ค้าทุบหัว ใส่ถุงหิ้วกลับบ้าน ให้เอามาควักไส้ล้วงพุง ทำเองอีก ไม่ไหวอ่า....(กระแดะมะ)

พอมาดู omega 3 ที่ใส่ลงไปในไข่ ก็ไม่ขี้เหร่นะเธอ.....อยู่ในขั้นโอเคเลยล่ะ ข้อดีคือ ทำกับข้าวได้หลายเมนู(เหมาะกับพวกทำกับข้าวไม่เป็นเยี่ยงอิชั้น กินง่าย อร่อย รวดเร็ว) 



พูดเรื่องวิชาการนานๆ อิชั้นก็เบื่อ ก็เปลี้ย ก็เพลียเหมือนกันนะฮระ....ถึงจะแบกดีกรี B.Sc.  ไปไหนมาด้วย แต่อิชั้นก็คืนครูบาอาจารย์ไปเกือบหมดละ Smiley

มาเข้าเรื่องถนัดเราดีก่า  โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สืบเนื่องจาก การที่จะต้องจัดเมนูไข่ให้คุณหนูที่บ้านรับประทานทุกวัน จากแต่ก่อนก็บ้าทำเบนโตะอยู่พักนึงใช่ป่ะ แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้ทำเพราะไม่มีเวลา  ทำเสร็จ ก็ถ่ายรูปไว้ดูเป็นที่ระทึก ไม่ค่อยถ่ายวิธีทำ หรืออธิบายวิธีการ  มาวันนี้ มีแรงขับเคลือน ฤกษ์งามยามดี เราจะมาแชร์สารพัดเมนูไข่หลอกเด็ก  จะทำยังไง ให้ไข่ฟองเดียวกันนี่แหละ แต่ออกมาหน้าตาไม่เหมือนกัน หลอกเด็กไปวันๆ (ชักจะน่าหมั่นไส้ละ หลอกให้อ่านมานานแล้วยังไม่พอ จะเริ่มได้ยัง)

อะแฮ่มๆ คืองี้...จริงๆ วิทยายุทธการทำเบนโตะญี่ปุ่น มันมีทฤษฎีเยอะมากนะฮระ....ไม่ใช่ทำกันมั่วๆ ซี้ซั้ว  ล้ำลึกและใส่ใจในทุกรายละเอียดตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น ทั้งคนกินและคนทำ เราชอบซื้อหนังสือทำอาหารญี่ปุ่นมากกกก มีเป็นสิบๆๆ เล่ม แต่เนื่องด้วยอุปสรรค์ทางภาษา อ่านไม่ออกอะ 5555 ดิชั้นก็ได้แต่เดา + เซริช และถามจากผู้รู้ให้ช่วยแปลให้ ได้ความดังนี้

5 Elements ของ obento



เริ่มจาก 1 กล่อง ต้องประกอบไปด้วย 5 สี  ไม่ใช่เหตุผลเฉพาะความสวยงามเท่านั้น แต่ลึกๆแล้ว เป็นเรื่องของความสมดุลของอาหาร จะได้มีสารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ(อาหารหลากสี มีสารอาหาร วิตามินแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการครบถ้วน)

ทุกครั้งที่เราจะทำข้าวกล่อง เราจะคิดก่อนว่า มีอะไรเป็นวัตถุดิบหลักที่จะใช้ จากนั้นมองหาองค์ประกอบ ที่มีคู่สีตรงข้าม และพยายามให้มีสีสันครบ ถ้าเป็นไปได้ จะเล็กจะน้อยนิดๆหน่อยๆ มันทำให้อาหารดูมี "อะไรๆ" ไม่ใช่สักแต่ทำๆ นะเธอ....บางทีแค่โรยงาลงไป ก็ทำให้ดูน่ากินขึ้นมาหลายเท่าตัว ข้าวขาวๆ เอาสาหร่ายมาแปะๆ ตัดเป็นรูปต่างๆ ดูน่ารัก  สิ่งสำคัญที่สุด สำหรับเรา คือต้องกินได้จริงๆ และอร่อย คือไม่ใช่สักแต่ว่าทำสวยแล้วทิ้ง หรือไม่อร่อย แห้งๆ โคดไม่น่ากิน เช่นผักต้ม บล็อคโคลี่ต้ม ใส่ๆ ยัดเข้าไปบานสะพรั่งสุดท้าย มันไม่ได้อร่อยขนาดนั้นป่ะ ถ้าขาดน้ำพริก หรือน้ำสลัด 

1) สีขาว =  ข้าว ขนมปัง หอมใหญ่ ไข่
2) สีแดง (ส้ม ชมพู) = มะเขือเทศ แครอท ซอสมะเขือ 
3) สีเขียว = สารพัดผัก ถั่ว
4) สีทอง(น้ำตาล-เหลือง) = เนื้อสัตว์ ไส้กรอก ข้าวโพด ซอส
5) สีดำ = สาหร่าย/เนื้อสัตว์/งา

รสชาติ ต้องประกอบไปด้วย 5 รส อย่างสมดุล (ยากนะ เอาแค่กินแล้วอร่อยก็ยากละ 5555)
1) เค็ม  2)เปรี้ยว 3)หวาน 4)ขม 5)เผ็ด

ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการกิน
1)ตาดู 2)หูฟัง(เสียงฉู่ฉี่ตอนอุ่นกินหรอ?) 3)มือสัมผัส 4)ปากกิน 5)จมูกดม

ในกล่อง ใช้วิธีประกอบอาหาร 5  แบบ
1)เคี่ยว
2)นึ่ง
3)ย่าง
4)ทอด
5)ตกแต่ง

จริงตอนกิน ยังมีเรื่องของจิตใจ อีก 5 อย่างดั้ว แต่จะลึกล้ำไปมะ คือเหมือนเป็นการฝึกจิตใจให้มีสมาธิระลึกถึงบุญคุณคนที่ทำข้าวกล่องให้....ระลึกถึงและขอบคุณที่ได้มีโอกาสได้กินอาหารดีๆ และอื่นๆ รวม 5 ข้อเช่นกัน อืมมมมม สมเป็นคนญี่ปุ่น

อุปกรณ์ที่ใช้
1. กล่องข้าว...แน่นอนอยู่แล้ว  (ใช้จานกินอยู่บ้านก็ไม่มีใครว่านะ)
เลือกกล่องเลือกได้ตามใจชอบ แต่ขอให้พิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบด้วย
- สีของกล่อง มีผลต่อความน่ากินของอาหาร ต้องดูด้วยว่า อาหารที่เราจะทำ เป็นเมนูอะไร และประกอบด้วยสีอะไรบ้าง ก่อนที่จะหยิบกล่องมาใช้  สีกล่องข้าวที่ safe สำหรับเราคือ กล่องสีขาว ครีม ใส่อะไรก็ดูน่ากิน  เข้าไมโครเวฟได้ ก็จะดี หรือบางคน prefer กล่องสแตนเลส ก็ปลอดภัย แต่อุ่นไม่ได้อ่ะ >_<
- ลักษณะของกล่อง  ปิดสนิทหรือเปล่า เหมาะกับใส่ของแห้ง หรือของน้ำๆ 
กล่องข้าวญี่ปุ่นแบบไม่แพง ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีไว้ใส่อาหารน้ำๆ ซุป เพราะ ไม่ได้ซีลสนิท มิดชิด เด็กถือแกว่งไปแกว่งมาอาจจะหกเลอะเทอะได้ 
และที่สำคัญ
- ขนาดกล่อง ต้องเหมาะสมกับคนกิน  ไม่ใหญ่เกินไป หรือเล็กเกินไป (เหตุคือ เปลือง กินเหลือ กินไม่หมด กินไม่อิ่ม นั่นเอง) แรกๆ เราทำข้าวกล่องให้มิว ก็เลือกแต่กล่องสวยแม่ชอบ จัดวางแล้วสวย สุดท้าย คุณลูกกินไม่หมด เหลือทิ้งกลับมาประจำ หลังๆ ก็ หาซื้อกล่องที่เล็กลงๆ จน ได้กล่องที่พอดี ถูกใจ

ฮิฮิ ชอบกล่องสีเหลือง เขียว ขาวเป็นพิเศษ เลยมีเยอะ
น้ำหนัก ส่วนสูง ไว้ประกอบการพิจารณา ขนาดกล่องข้าวและ kcal ที่พอเพียง

ปากคีบ/กรรไกรจิ๋ว/มีดจิ๋วหรือมีดคว้าน/ ตะเกียบ (ต้องใช้หมดทุกอันนะ)

ภาชนะแบ่งอาหารเล็กๆในกล่องข้าว หรือถ้วยซิลิโคน ถ้วยฟรอย ไว้แบ่งอาหารในกล่องไม่ให้ปะปนกันเละเทะ (แต่ถ้าอาหารบางอย่าง ที่มีน้ำขลุกขลิก ปนกับข้าวแล้วรสชาติดีขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องแยกก็ได้)
พิมพ์กด จริงๆ แล้ว ไม่ต้องเยอะขนาดนี้นะคะ 5555  พอดี พวกนี้ เป็นของสะสม เลยแบบ...น่ะ
รูปที่เบสิกๆ มีติดไว้ได้ใช้ก็เช่น หัวใจ ดาว ดอกไม้  อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ก็สุดแท้แต่

สำหรับที่เจาะสาหร่าย แนะนำให้ ซื้อแบบที่ด้านล่างเป็นโลหะ เจาะกระดาษ ถ้าเป็นแบบพลาสติก ไม่คม เจาะสาหร่ายไม่ขาดอย่างแรงงงง

ไม้จิ้ม ไว้จิ้มผัก ผลไม้ และอื่นๆ...แหะๆๆๆ เยอะอีกแล้ว อายว่ะ  ซื้อมาไมเยอะแยะ 


ปากกาใส่ซอส ไว้วาดรูปตามใจปรารถนา (เคยงกใช้ถุงพลาสติกใส่ ตัดก้นถุงแล้วบีบ มันไม่สวยอ่ะ) / พลาสติกแต่งกล่องข้าว ไว้เวลาหมดมุข หรือกล่องขาดสีสัน สีใดสีหนึ่งไป ใช้พวกนี้แทน เพื่อสร้างจุดสนใจ

สำหรับบล็อคไข่ต้ม บอกตรงๆ ไม่ค่อยเวริคเท่าไหร่ค่า มีหรือไม่มีก็ได้ บล็อคกดข้าว มีไว้ก็สะดวกสบายดี ไม่มีสามารถทำรูปแบสิกๆ ได้ด้วยการใช้ wrap พลาสติกห่ออาหาร ห่อข้าว(ตอนร้อนๆ)ให้พอดีขนาดที่ต้องการแล้วปั้นเอา ใช้ได้เหมือนกัน

ผงโรยข้าว เพื่อความสวยงามและความสะดวก  บางทีเด็กๆ ที่กินข้าวยาก มีพวกนี้ไว้เป็นตัวช่วยก็ไม่เลวนะคะ ทำจากซุปปลา สาหร่าย งา ปลาป่น และอื่นๆ 

สุดท้าย......ปูเสื่อรอพบกับ วิธีทำ เบนโตะ แบบง่ายๆ สารพัดเมนู จาก ไข่ไก่สด ตรา ซีพี โอเมก้า พลัส ได้ที่นี่ เร็วๆ นี้จ้า......





เฮือกกกกกกกกกก




 

Create Date : 07 กันยายน 2555
2 comments
Last Update : 7 กันยายน 2555 22:48:42 น.
Counter : 8983 Pageviews.

 

โห รายละเอียดเยอะมาก สุดยอดคุณแม่เลยอ่ะค่ะมี๊เกด ภาพสวยมาก ๆ ด้วย ว่าแต่ผงโรยข้าวจิ๋วๆ มี๊เกด ซื้อที่ไหนอ่ะ

 

โดย: มี๊เอ สามออ IP: 182.53.104.168 8 กันยายน 2555 6:40:19 น.  

 

ของเล่นเยอะมาก ^^

 

โดย: babe_Bee88 15 กันยายน 2555 10:42:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.