#ทำสี่อย่างเพื่อเปลี่ยนชีวิตใหม่
ใกล้สิ้นปีเก่า 2560 ปีใหม่ 2561 กำลังจะมาเยือน ผมเองได้ทบทวนสิ่งที่ทำมาตลอดทั้งปี และพบว่า ยังคงต้องพัฒนาตัวเองต่อไป สิ่งที่ผมคิดว่าต้องทำเพื่อเปลี่ยนชีวิตใหม่ มีดังต่อไปนี้
อย่างแรก ให้ความดี และความสำเร็จ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
การให้ความดีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เท่ากับเราจะได้พบเจอกับกระแสน้ำดี ๆ และความสำเร็จก็จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราตามไปด้วย
ผมพบว่าเวลาที่เราอยากให้ความสำเร็จเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรานั้น เวลาที่เราคิดจะมีความคัดแย้งในใจของเราตามมาด้วย สิ่งนั้นก็คือ ความคิดที่ว่ามัน เป็นไปได้ยาก จนถึงขั้นคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยก็มี ซึ่งก็ไม่ได้ผิดปกติแต่ประการใด ใคร ๆ ก็เป็นกันทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ผมเริ่มฝึกใจที่จะไม่สนใจความคิดแย้งนั้น และเพิ่งเป้าไปที่ความสำเร็จที่เราวาดเอาไว้เพียงอย่างเดียว รวมทั้งความดีด้วยนะครับ ทำแรก ๆ มันจะยากมาก ๆ เพราะคนเรานั้นมักจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น จับต้องสัมผัสได้
แต่ทำบ่อย ๆ ก็จะง่ายขึ้น และในที่สุดเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้น ๆ ไปเอง อย่าให้ความคิดลบ ๆ ครอบงำใจเรามากจนเกินไป มีแต่น้อยพอเป็น กะสัย ก็พอแล้วครับ
อย่างที่สอง ใช้ความเรียบง่าย เอาชนะความซับซ้อน ทำน้อย แต่ได้มาก
นี่คือ สิ่งที่จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้เวลาในชีวิตของเราดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลย หลายครั้งเราชอบคิดว่า ต้องทำอะไรซับซ้อนจึงจะประสบความสำเร็จ แต่แท้จริงแล้วความสำเร็จมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น มันเรียบง่ายเอามาก ๆ
การทำน้อยแต่ได้มาก คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราในแต่ละวัน และผมเข้าใจว่านี่คือเรื่อง จำเป็น ของเราทุกคนที่ควรใส่ใจและทำจนเป็นนิสัยที่ดี เราคงเคยเห็นคนทำมากแต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด ใครเป็นแบบนี้ต้องทบทวนจริงจังแล้วล่ะครับ
อย่างที่สาม ทำให้ใจเราเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานด้านบวก
แม้จะมีพลังงานด้านลบ บ้างก็ขอให้เป็นส่วนน้อย หลัง ๆ มีนักปราชญ์ หรือนักพัฒนาตนเอง หลายต่อหลายท่านพบว่า โลกที่เกิดขึ้นต่อหน้าเรานั้น มันมาจากพลังงานในตัวเรา หากเรามีพลังงานลบมาก โลกก็จะลบ และอยู่ยาก
ในทางกลับกันหากเราเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานด้านบวก โลกก็จะดีต่อหน้าเรา และถ้าคนหลาย ๆ คนบนโลกใบนี้มีพลังงานด้านบวกมากกว่าพลังงานด้านลบ โลกก็จะน่าอยู่
อย่างไรก็ตามพลังงานด้านลบก็มีประโยชน์อยู่บ้าง มันช่วยให้เราเป็นคนรอบคอบ ไม่ประมาทการใช้ชีวิต และไม่มองโลกในแง่ดีจนเกินไปนั่นเองครับ
อย่างที่สี่ มีตัวตนในความสำเร็จ และความดีให้น้อยที่สุด
การที่เรามีตัวตนในความสำเร็จน้อย เป็นการฝึกละวาง ไม่สะสมอีโก้ เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง ใจเราจะเบา เพราะไม่ได้เก็บอะไรไว้เลย
ประสบการณ์ที่ผ่านมาผมพบว่า ความสำเร็จ เป็นเพียง เงา คือจับต้องอะไรไม่ได้ เมื่อเราประสบความสำเร็จแล้ว มันก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว และทำให้เราต้องไขว่ขว้าหาความสำเร็จใหม่ ๆ และนั่นทำให้จิตใจเราไม่เคยสงบแบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที
การปล่อยวางจากความสำเร็จ เป็นเครื่องมือที่ทำให้ใจเราเยือกเย็น ไม่ยึดติดกับเงาแห่งความสำเร็จ เมื่อใจเราสงบร่มเย็น เราก็จะทำการณ์ใหญ่ได้ คนสำเร็จได้ถ้าใจนิ่งพอ
สี่อย่างที่กล่าวมานั้น ผมบอกเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่มีผิด ไม่มีถูก ใครเห็นว่าตรงไหนปรับไปใช้ได้ก็ยินดีครับ และหวังใจอย่างยิ่งว่า ปีใหม่นี้จะเป็นปีที่ดีของทุก ๆ ท่าน แลประสบสุขสำเร็จตามปรารถนา ทั้งทางโลก และทางธรรมนะครับ
จากใจ นายแว่นลงทุน