ตัวของเรา สไตล์ของเรา ทำไมต้องเหมือนใคร
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
การแต่งตัวและเสื้อผ้าไทยพื้นเมืองของชาวบางกอก

ผมเห็นช่วงนี้คนให้ความสนใจกับชุดไทยกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระแสกำลังมา หลายคนก็อยากเอามาใส่ในชีวิตประจำวันกัน แต่ก็ด้วยความที่ชุดไทยที่คนส่วนใหญ่นึกออกกันมันเป็นชุดไทยแบบ formal ซึ่งเหมาะกับการเอาไว้ใส่แทนสูท หรือใส่ไปงานหรือใส่ในโอกาสพิเศษต่างๆ ทำให้มันเอามาใช้ได้ไม่ง่ายนัก ทางออกสำหรับจุดนี้เพื่อให้มันสามารถหยิบมาใส่ได้จริงก็คือต้องมองหาชุดไทยลำลองหรือแบบพื้นเมือง

พอพูดถึงชุดพื้นเมืองคนส่วนมากก็จะไปนึกถึงชุดของภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้กันซะมากกว่าที่จะนึกถึงชุดของภาคกลางหรือชุดแบบของคนบางกอก เป็นเพราะว่าเราไม่ค่อยได้มีการพูดถึงการแต่งตัวของคนกรุงในสมัยก่อนมากนัก จะมีพูดถึงก็ชุดสำหรับออกงานมากกว่าจะเป็นชุดลำลองหรือชุดที่ใส่ได้ทั่วๆ ไป

รูปแบบชุดของชาวบางกอก(คนกรุง)นั้นที่จริงมันก็คือชุดที่ผมได้เคยพูดถึงไปหมดแล้วนั่นเองครับ แต่วันนี้เราจะมารู้จักมันให้มากขึ้นกัน เพราะบางคนอาจไม่เชื่อว่าเสื้อผ้าแบบที่ผมเคยพูดถึงไปแล้วนั้นมันเป็นชุดไทยที่มีการใส่กันจริงๆ ก็ได้ เนื่องจากไม่เคยเห็นหรือได้ยินใครพูดถึงแบบนั้นกัน

สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านตอนเก่าๆ ก็ลองกลับไปอ่านดูก่อนก็ได้ครับ หรือจะอ่านตอนนี้ก่อนแล้วค่อยกลับไปอ่านตอนเก่าก็ได้.....ในตอน "เข้าใจก่อนเริ่มแต่งอย่างไทยในชีวิตประจำวัน" ผมได้มีลิงค์ไปถึงตอนเก่าทั้งหมดซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับชุดไทยลำลองที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันอยู่ทั้งหมดครับ


เอาล่ะเข้าเรื่องเลยดีกว่า....
คือผมได้ลองพูดคุยและสอบถามจากญาติผู้ใหญ่ที่โตมาในช่วงสงคราม ว่าสมัยก่อนชาวบางกอกแต่งตัวกันอย่างไร และตัวอย่างจากคุณตาคุณยายของผมเองที่ผมพอจำได้ลางๆ (คุณตาคุณยายเสียตั้งแต่ผมยังเด็กครับ) ซึ่งก็ต้องคุยกับญาติผู้ใหญ่ประกอบว่าคุณตาคุณยายเคยใส่อะไรยังไงบ้าง และผมก็ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ มาประกอบกันด้วยครับ

คำตอบที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ก็คือ....
ผมไม่แน่ใจนักว่ามันเริ่มใส่กันตั้งแต่ยุคไหนกันแน่ แต่เท่าที่พอจะแกะมาได้ในช่วงสมัย ร.7 จนถึงตอนกลางของ ร.9 ครับ คือบางอย่างก็รับเข้ามาตั้งแต่สมัยร.5 แล้วแต่ที่ใส่กันจริงจังจะเป็นช่วงร.6 เป็นต้นไป ซึ่งในระยะ ร.6-ร.7 นี่เองแหละครับที่เราจะเอามาใส่จริงกันได้

ในช่วงสมัย ร.5-ร.6 คนไทยยังนุ่งโจงกระเบนกันอยู่ (ซึ่งถ้าจะเอามาแต่งกันผมอยากให้มองยุคที่ใหม่กว่านี้อีกสักหน่อย) แต่ก็เป็นชุดสำหรับใส่แบบเป็นทางการ ช่วงนั้นสำหรับชุดลำลองแล้ว ผู้ชายจะนิยมใส่เสื้อผ้าบางกับกางเกงแพรครับ ส่วนของผู้หญิงถึงจะยังนุ่งซิ่นอยู่แต่ก็มีการผสมเสื้อผ้าแบบฝรั่งเข้ามาแล้ว

กางเกงแพรที่ตอนแรกเรารับมาจากจีนซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า "กางเกงจีน" นี่แหละครับ ที่มีการปรับจนกลายเป็น "กางเกงไทย" ไปในภายหลัง

ในสมัย ร.6-ร.7 คนนิยมใส่กางเกงแพรมากขึ้น พอจะไปข้างนอกก็จะเอาเสื้อราชปะแตนใส่ทับไปเลย....เท่าที่ผมค้นดูผมคิดว่ากางเกงแพรที่ตัดด้วยผ้าแพรคงจะมีใช้เฉพาะในกลุ่มของคนที่มีอันจะกิน เพราะผ้าแพรมีราคาแพง ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็น่าจะใส่กางเกงที่หน้าตาแบบเดียวกันแต่ทำด้วยผ้าธรรมดา

หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็เป็นในสมัย ร.8 รูปแบบการแต่งตัวถูกเปลี่ยนเป็นแบบฝรั่ง โดยผู้นำประเทศในสมัยนั้นต้องการให้ประชาชนมีการแต่งกายแบบฝรั่ง ผมต้องขอใช้คำว่ามีการ "บังคับ" ให้คนเปลี่ยนมาใส่แบบฝรั่งกัน การแต่งแบบไทยจึงกลายเป็นเสื้อผ้าที่ใช้ใส่อยู่บ้านหรือเดินอยู่ในชุมชนแถวบ้านกันไป แล้วก็ค่อยๆ ลดลงเพราะคนรุ่นใหม่ก็หันมาใส่แบบฝรั่งกัน จนมาถึงสมัย ร.9 ประมาณช่วงปี พ.ศ.2530 ที่การแต่งตัวแบบไทยก็หายไปจนเกือบหมด เพราะไม่มีคนรุ่นหลังให้ความสนใจที่จะใส่กันครับ ในทุกวันนี้ก็มีให้เห็นน้อยเต็มทีแล้ว

การแต่งกายแบบไทยพื้นเมืองของคนบางกอกในสมัยสุดท้าย (ร.7-ร.9) โดยที่ไม่มีรูปแบบของฝรั่งหรือมีปนเข้ามาน้อยที่สุดก็คือ

- ผู้ชายใส่เสื้อไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นเสื้อคอกลมหรือคอวี ไม่มีปก ผ่าหน้าตลอด หรือผ่าครึ่งอก หรือสวมหัว มีกระเป๋าที่ชายเสื้อ มีทั้งแขนสั้นและยาว กับกางเกงไทย (กางเกงจีนที่กลายเป็นของไทยแล้ว) ต่างๆ ทั้งแบบขายาวถึงข้อเท้าและขายาวคลุมเข่า หรือผ้านุ่งแบบลอยชายหรือจะเรียกว่าโสร่งก็ได้ ผ้าลอยชายที่ว่านี้จะเอาไว้ใส่อยู่บ้านหรือเดินอยู่ใกล้ๆ บ้านเท่านั้นครับ

- ผู้หญิงใส่เสื้อไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นเสื้อคล้ายของผู้ชาย แต่ตัวสั้นกว่าคือชายเสื้อยาวราวๆ ระดับคลุมสะดือซึ่งนั่นจะสั้นกว่าเสื้อปัจจุบันที่จะยาวราวสะโพก มีทั้งแบบไม่มีแขน แขนสั้น คลุมศอก และแขนยาว คอไม่ลึกหรือกว้างนัก เสื้อทำด้วยผ้าสีพื้นเรียบๆ มีการตกแต่งด้วยลูกไม้บ้างแต่ไม่ใช่เสื้อลูกไม้ซีทรูหรือเป็นแบบเสื้อถักอย่างที่นิยมหยิบมาใส่กันในปัจจุบัน....ส่วนเสื้อคอกระเช้าเป็นเสื้อที่เอาไว้ใส่อยู่บ้านอย่างเดียวครับ โดยปกติจะเป็นเสื้อที่ผู้ใหญ่หรือเด็กๆ จะใส่กัน....ชิ้นล่างเป็นซิ่นหรือผ้าถุง (ซิ่นแบบใส่อยู่บ้าน) อาจเป็นสีพื้นหรือมีลายก็ได้ มีทั้งยาวคลุมเข่า ครี่งแข้ง และเปิดข้อเท้า ส่วนแบบยาวปิดข้อเท้าจะเอาไว้ใช้แบบเป็นงานเป็นการเช่นชุดไปงานครับ

วัสดุเสื้อที่นิยมใช้กันคือฝ้ายเป็นตัวยืนพื้นเลยครับ คนทั่วไปหาซื้อใส่ได้ และนอกนั้นก็มีพวกที่แพงกว่าอย่าง ใยกัญชง(หรือกัญชา) ป่าน เป็นต้น ส่วนไหมจะใช้กับเสื้อมีราคา....ที่จริงแล้วในสมัยนั้นรูปแบบเสื้อผ้าแบบฝรั่งก็เข้ามามากแล้วทำให้มีการรับเอาลักษณะของเสื้อแบบฝรั่งเข้ามาผสมกับเสื้อไทยของผู้หญิงด้วยเช่น คอบัว คอแบบที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยม


ลักษณะของเสื้อผ้าอย่างไทยของชาวบางกอกนี้ก็สอดคล้องกับรูปแบบของเสื้อผ้าอย่างไทยที่ผมเคยเขียนเอาไว้ในหัวข้อ "รูปแบบของชุดเสื้อผ้าแบบไทย" ครับ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็ลองกลับไปอ่านได้

เสื้อผ้าอย่างที่พูดไปนี้ชาวบางกอกใส่ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราจะเอามาใส่ในชีวิตประจำวันก็สามารถใส่ได้จริงไม่เว่อร์เกินไปแน่นอนครับ....ใครสนใจก็เอาไปแต่งกันดูนะครับ


โดย นาย nyo


Create Date : 23 เมษายน 2558
Last Update : 2 พฤษภาคม 2558 19:54:38 น. 1 comments
Counter : 3743 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 22 มีนาคม 2560 เวลา:16:20:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nyo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ 2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก ส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค


ติดต่อผมได้ที่
naai.nyo@gmail.com

____________________

บล๊อกนี้ผมเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ผมไปรู้ไปเห็นมาก็เลยเอามาเล่าต่อเพื่อเป็นการแชร์ความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยครับ


กรูณาใช้ภาษาให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add nyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.