เข้าใจชุดไทย ....เสื้อผ้าแบบไทยต้องมองที่ฟอร์ม
ปัจจุบันคนหันมาให้ความสนใจกับการแต่งอย่างไทยกันมาก แต่หลายๆ คนก็ยังไม่เข้าใจว่าเสื้อผ้าอย่างไทยมันเป็นอย่างไร หลายคนไม่เข้าใจว่าจุดนี้ก็คิดกันไปว่าเสื้อผ้าอย่างไทยหรือชุดไทยจะต้องใช้ผ้าไทยตัดเท่านั้น บางคนก็ไม่กล้าใส่เพราะไปมองว่าชุดไทยหรือเสื้อผ้าแบบไทยจะต้องเป็นสิ่งที่มีลักษณะเป็นแบบนั้นแบบนี้อย่างที่เคยเห็นในรูปหรือตามปฏิทิน นั่นทำให้เกิดปัญหาขึ้น 2 ด้านหลักๆ คือ 1. ไม่รู้ว่าเลือกใส่อะไรได้บ้าง 2. ไม่กล้าใส่
แต่ที่จริงแล้วเสื้อผ้าอย่างไทยหรือชุดไทยที่แสดงถึงความเป็นไทยมันไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จขนาดนั้นครับ มันไม่ได้หมายความว่าถ้าแต่งชุดนี้แล้วเป็นไทยถ้าชุดอื่นก็ไม่เป็น แต่ความเป็นไทยมันอยู่ที่ลักษณะบางจุดของบนเสื้อผ้า เราต้องสนใจรายละเอียดและทำความเข้าใจมันก่อนถึงจะแต่งให้มันเป็นไทยได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อผ้าที่ทำด้วยผ้าไทย
ผมอยากให้คนมองเสื้อผ้าแบบไทยที่ลักษณะหรือฟอร์มของมันไม่ใช่ที่แบบหรือผ้าที่ใช้ เพราะการใช้ผ้าไทยมันไม่ได้แปลว่านั่นคือชุดหรือเสื้อผ้าแบบไทย การใช้ผ้าฝรั่งก็อาจเป็นเสื้อผ้าแบบไทยได้
อย่างถ้าเราเอาผ้าเดนิมมาตัดเป็นเสื้อไทยกางเกงไทยมันก็เป็นเสื้อผ้าแบบไทย เอาผ้าตัดสูทมาตัดเป็นชุดแบบไทยมันก็เป็นชุดแบบไทย กลับกันถ้าเอาผ้าไทยไปตัดเป็นกิโมโนมันก็เป็นกิโมโนไม่ใช่ชุดแบบไทย เอาผ้าไทยไปตัดชุดสากลมันก็เป็นชุดแบบสากลอยู่ดีไม่ใช่ชุดแบบไทยครับ.....อย่างเสื้อพระราชทานต่อให้ตัดดัวยผ้าเซิร์จ ชิโน กาบาร์ดีน หรือเฮอริ่งโบน มันก็เป็นเสื้อพระราชทานใช่ม้ยล่ะครับ เพราะงั้นสิ่งที่เป็นตัวตัดสินว่ามันคือชุดหรือเสื้อผ้าแบบไทยหรือไม่ หรือว่าเป็นชุดสากล ก็คือฟอร์มของมันไม่ใช่ผ้าที่ใช้
เมื่อเราพิจารณาที่ฟอร์มของเสื้อผ้าอย่างไทยแล้ว เราจะพบว่ามันไม่ได้หยิบมาใส่ยากเลย เพราะเราจะเห็นได้ว่ามันก็มีอะไรที่เหมือนกับเสื้อผ้าสากลที่เราคุ้นเคยอยู่หลายอย่างครับ เช่น.....
เสื้อไทย มีลักษณะคือ คอกลมหรือคอวี ไม่มีปกหรือมีปกตั้งขึ้นเล็กๆ (ผมเรียกว่าคอไทย) ตัวตรง ผ่าหน้าตลอดหรือผ่าครึ่งอกหรือสวมหัว รวมถึงแบบที่เหมือนเสื้อญี่ปุ่นก็มี แขนมีทั้งสั้น คลุมศอก(ของผู้หญิง) และยาว ลองนึกดูสิครับว่าเสื้อที่มีลักษณะอย่างที่ว่านี้มีเสื้ออะไรบ้าง เสื้อยืดก็ได้นะครับ (คือคอกลม+สวมหัว+ชายตรง) หรือ เสื้อยืดคอเฮนลี่ย์ (คือ คอกลม+ผ่าครึ่งอก+ชายตรง) เพราะงั้นเสื้อไทยก็ไม่ได้ใส่ยากเลยเห็นมั้ยครับ ในขณะเดียวกันเสื้อยืดก็สามารถเอามาใส่เป็นส่วนหนึ่งของการแต่งแบบไทยๆ ได้.....สรุปว่าฟอร์มของเสื้อไทยคือ.... - คอกลม / คอวี / คอไทย (มีปกตั้งขึ้นเล็กๆ) - สวมหัว / ผ่าครึ่งอก / ผ่าหน้าตลอด - แขนปล่อย - แขนสั้นหรือยาว - ตัวตรง - ชายตรง - ผ่าชายเสื้อด้านข้าง - เลือกติดกระเป๋าได้ที่อกและชายเสื้อ จุดสำคัญของเสื้อคือ คอ แขน และชายเสื้อครับ
กางเกงไทย ก็มีลักษณะเป็นกางเกงขาตรงซึ่งความกว้างของขาขึ้นอยู่กับว่าเป็นกางเกงของภาคไหน ความยาวมีทั้ง คลุมเข่า ครึ่งน่อง ครึ่งแข้ง เปิดข้อเท้าและปิดข้อเท้า ซึ่งโดยรวมก็เป็นกางเกงอยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะเอามาใส่ในชีวิตประจำวัน ผ้ามีน้ำหนักเบาใส่สบายด้วย เพียงแต่ต้องผูกสายคาดเอวเอาเองครับ......สรุปว่า ฟอร์มของกางเกงไทยคือ..... - ขาตรง - ขายาวคลุมเข่า / ครึ่งน่อง / ครึ่งแข้ง / เปิดข้อเท้า / ปิดข้อเท้า - ถ้าจะมีกระเป๋าก็จะกลมกลืนกับกางเกง จุดสำคัญของกางเกงก็คือขาตรงครับ
ซิ่น ก็คือผ้านุ่งที่นุ่งให้ผ้าสองข้างเกยกันเหมือนการนุ่งผ้าเช็ดตัว ผ้ามีชายตรง ยาวประมาณเข่า, คลุมเข่า, ครึ่งแข้ง, เปิดข้อเท้า, ปิดข้อเท้า นึกออกมั้ยล่ะครับว่าเหมือนอะไรบ้าง.....กระโปรงแร็ปอะราวด์ไงครับ หรือจะมองว่าเหมือนกระโปรงแบบตรงก็ได้เหมือนกัน.....เท่าที่ผมรู้ซิ่นแท้กับซิ่นสำเร็จรูปไม่เหมือนกันนะครับ ซิ่นแท้จะใส่คล้ายๆ กับกางเกงไทยทำให้ไม่รั้งเท่าซิ่นสำเร็จรูปและเดินได้ง่ายกว่า - ทรงตรงไม่รัด - ชายตรง - ความยาวประมาณเข่า / คลุมเข่า / ครึ่งแข้ง / เปิดข้อเท้า / ปิดข้อเท้า จุดสำคัญคือทรงตรงไม่รัดและชายตรงครับ
ฟิตติ้งหรือความพอดี...ข้อสุดท้ายที่หลายคนมักมองข้ามซึ่งมันมีผลมากๆ ครับ ความพอดีของเสื้อผ้าแบบไทยจะไม่รัดตัวหรือแนบติดผิวมากนัก เต็มที่ก็ออกจะเป็นพอดีตัวมากกว่า แต่ไม่รัดแน่ๆ ครับ เทียบเป็นเสื้อผ้าสากลแล้วเสื้อผ้าแบบไทยจะเป็นพวก สลิมฟิต เรกูล่าร์ฟิต รีแลกซ์ฟิต และ ลูสฟิต ส่วนไทท์ฟิตหรือพวกสกินนี่จะไม่มี ที่จริงสลิมก็ไม่เยอะนักนะครับ....รูปตัวอย่างให้ดูเสื้อนะครับ
ทีนี้เมื่อเข้าใจว่าเสื้อผ้าอย่างไทยแต่ละชิ้นมีฟอร์มหรือลักษณะอย่างไรบ้างแล้วปัญหาที่พูดกันไปก็จะไม่เป็นปัญหาแล้วครับ....
1. ไม่รู้ว่าเลือกใส่อะไรได้บ้าง ปัญหานี้ตอบอย่างง่ายๆ คือ เสื้อไทย กางเกงไทย ซิ่น แต่ถ้าเข้าใจแล้วว่าฟอร์มของมันเป็นอย่างไรเราก็เลือกใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะของเสื้อผ้าแบบไทยได้ ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการหาซื้อเอาเสื้อไทย กางเกงไทย ซิ่นมาใช้ หรือผสม 3 อย่างที่ว่านี้เข้ากับเสื้อผ้าแบบสากลที่มีฟอร์มแบบเสื้อผ้าแบบไทย หรือจะเลือกหยิบเอาเสื้อผ้าสากลที่มีฟอร์มแบบเสื้อผ้าแบบไทยมาใส่ก็สามารถทำให้ได้กลิ่นไทยๆ หรือได้ความรู้สึกแบบไทยๆ ขึ้นมาก็ได้เหมือนกันครับ
เช่นถ้าจะเลือกเสื้อสักตัว จุดสำคัญก็คือ คอ แขน และชายเสื้อ ก็ใช้ลักษณะต่างๆ ตามที่ได้อธิบายไปข้างบนนี้ เป็นตัวกำหนดตัวเลือก คือ คอกลม แขนปล่อยชายตรง แล้วก็ลองดูว่าเสื้อสากลอะไรบ้างที่มีลักษณะแบบนี้ ที่เข้าข่ายก็มี เสื้อยืดคอกลมหรือคอเฮนลี่ย์ เป็นต้น หรือถ้าไปที่ร้านที่ขายเสื้อผ้าฝ้ายแบบไทยก็เลือกเสื้อตามลักษณะที่ได้อธิบายไปแล้ว พวกที่เป็นคอปกแหลมเหมือนปกเชิ้ตหรือดูเหมือนเสื้อโปโลนั้นจะไม่ใช่ลักษณะของเสื้อไทยครับ
ที่จริงแล้วลองนึกดูดีๆ นะครับว่าฟอร์มของเสื้อผ้าแบบไทยก็ตรงกับเสื้อผ้าฝรั่งอยู่อีกหลายอย่างครับ เช่น เสื้อไทยแขนยาวผ่าหน้ากับคาร์ดิกัน, เสื้อไทยสวมหัวกับเสื้อยืด, เสื้อไทยแบบผ่าครึ่งอกกับเสื้อยืดคอเฮนลี่ย์, เสื้อไทยแขนยาวกับเสื้อยืดแขนยาว, เสื้อไทยผ่าหน้ากับเสื้อผู้หญิงบางแบบ, ซิ่นกับกระโปรงแร็ปอะราวด์ชายตรง, กางเกงไทยกับกางเกงขาตรงต่างๆ เป็นต้น
2. ไม่กล้าใส่ ที่คนไม่กล้าใส่กันผมพบว่าหลายคนมักจะคิดว่ามันดูไม่ดีบ้าง เชยบ้าง แมทช์ยากบ้าง นั่นเป็นเพราะความไม่เข้าใจ มัวแต่มองว่าการแต่งอย่างไทยจะต้องแต่งเป็นชุดบ้าง มองว่าเสื้อผ้าแบบไทยไม่เหมือนกับเสื้อผ้าฝรั่งบ้าง จึงเกิดเป็นความอคติต่างๆ ขึ้นมาแล้วก็เลยไม่ใส่กัน
ที่จริงแล้ว หลายๆ ครั้งเสื้อผ้าฝรั่งกับเสื้อผ้าแบบไทยก็มีลักษณะเดียวกัน บางครั้งฝรั่งก็มาเอาของไทยเราไปทำเป็นของเขาด้วยซ้ำครับ ในเมื่อมันก็มีลักษณะหรือ form เดียวกัน ผมอยากถามว่าเรากล้าใส่เสื้อผ้าของฝรั่งอย่างเช่น เสื้อคอกลมต่างๆ ทั้งสวมหัวและผ่าหน้าไม่ว่าจะเสื้อยืดหรือเสื้อผู้หญิง เสื้อคาร์ดิกัน กระโปรงแร็ปอะราวด์ชายตรง กางเกงขาตรงต่างๆ หรือเปล่า? และเพราะอะไร? ซึ่งถ้ากล้าใส่พวกที่พูดถึงไปนี้แล้วก็ไม่เห็นว่ามันน่าจะเป็นเรื่องน่าอายอะไรที่จะหยิบเอาเสื้อผ้าแบบไทยเช่น ซิ่น เสื้อไทย กางเกงไทย มาใส่โดยไม่มองว่ามันแก่หรือเชยครับ เพราะเสื้อผ้าแบบไทยก็มี form เดียวกันกับเสื้อผ้าฝรั่งเหล่านั้น
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ความไม่เข้าใจ ความยึดติดและความอคติครับ เราต้องปรับความคิดและทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ใหม่
ก็อยากให้คนเข้าใจกันมากขึ้นครับ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็จะใส่มันได้อย่างไม่รู้สึกแปลกอะไร และยังจะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดต่างๆ ได้อีกเยอะ รวมถึงการนำมันมาใส่ในชีวิตประจำวันอย่างที่หลายคนอยากจะทำกันด้วย
เราต้องสังเกตุให้มากขึ้น ไม่ใช่ดูแต่แบบเสื้อ แต่ต้องดูลักษณะหรือฟอร์มของมัน พิจารณาให้มากขึ้นแล้วเราจะเห็นว่าชุดหรือเสื้อผ้าฝรั่งก็มีอะไรเหมือนกับเสื้อผ้าแบบไทยไม่น้อยครับ
วันนี้ขอจบเท่านี้ล่ะครับ
โดย นาย nyo
ภาพประกอบเนื้อหาจากอินเตอร์เน็ต wear.jp fashion-j.com
Create Date : 05 พฤษภาคม 2558 |
|
2 comments |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2558 11:18:54 น. |
Counter : 6211 Pageviews. |
|
|
|
มองตู้เสื้อผ้าตัวเองแล้วมีเสื้อสไตล์ในบล็อกนี้เพียบ
ดีจัง ไม่ต้องไปหาสไบแบบที่เขาแห่ ๆ กันใส่แล้วแฮะ
(เราไม่กล้าใส่สไบเพราะว่ามันจะลำบากเวลาขึ้นรถเมล์เนี่ยสิ)