เพลงนี้เพราะมาก ขึ้นอันดับ 1 คลื่น 102.5 ปีที่หนังฉายอ่ะค่ะ เป็น top of the year ของปีนั้น ชอบ badly drawn boy มาก เป็นคนทำเพลงที่เก่งมาก พอกับ kurt cobain ใครมันจะแต่งเพลงได้เพราะทุกเพลงขนาดนี้

About a boy นี้ฉากเป็ดนี่ฮามาก ๆ เลยหนา
มุกธรรมดาๆ แต่ฮาได้ใจจริงๆ

Nick Hornby นี่ชอบหนังสือของเขาเกือบทุกเล่มเลยนะ
อีกเล่มชื่อ How to be good ก็สนุกดี
จำชื่อภาษาไทยไม่ได้แล้ว ขึ้เกียจไปรื้อชั้นหนังสือ
ปกสีชมพูๆ มีรูปตุ๊กตาแต่งงาน

High Fidelity นี่จำได้ว่าพระเอกในเรื่องชอบจัดอันดับ Top 5 เรื่องราวในชีวิต เหมือนจัดอันดับเพลง ชื่อภาษาไทยว่ารักตกร่อง (ยังไม่ได้ดูหนัง ว่าจะหามาดู )
About a boy ชอบฉากจบของหนังสือมากกว่า
ปล่อยให้คนอ่านคิดเอง ว่าพระเอกในเรื่องจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร ไม่เหมือนในหนังนี่คิดแทนคนดูเสร็จสรรพ

เรื่องของ Nick Hornby นี่น่าจะไม่เข้าข่าย Chick Lit เท่าไรนัก คล้ายๆ เป็นเรื่อง ของผู้ชายที่โตแล้ว (หมายถึงแก่แล้วน่ะ อิอิ ) เรื่องราวมันเลยสลับซับซ้อนขึ้นอีกหน่อย

แต่ชอบที่นิค ฮอนบี้ มักเขียนให้พระเอกเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตมากนัก ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จของพระเอก เป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไรกับชีวิตมากนัก แหยๆ
ถูกแฟนทิ้งตลอดเวลา(ซึ่งน่ารักดี )

สำหรับบรรดา Chick Lit ที่สาวๆ เขาอ่านกันนี่อ่านไปสักสองสามเล่ม ก็เบื่อๆ เหมือนกันนะ มันพอเดาทางได้น่ะ ประเภทหญิงสาวหา Mr. Rightman ไดอารี่ฃองบริดเจ็ท โจนส์ นี่ถือว่าเป็นเรื่องเด็ดสุดแล้ว (ต้องเล่มแรกด้วยนะ )

ขอโทษที นี่บล็อกเพลงใช่ไหม ลืมไป แหะ แหะ

ป.ล.เพลงล่างฟังไม่ได้อ่ะ

"ถูกแฟนทิ้งตลอดเวลา(ซึ่งน่ารักดี )"
^
^

ชีวิตจริง ถูกแฟนทิ้ง คงไม่น่ารัก ... เพราะมันน่าเศร้า แหะๆ

เพลงที่สองฟังไม่ได้อ่ะครับ

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าหนูจะ "หลับ" ตอนดูเรื่อง About A Boy แหละ อิอิ

แต่หนูชอบดูหนังเกี่ยวกับสาวโสดนะคะ รู้สึกว่ามันใกล้ตัวดี เลยดูได้สนุก แล้วก็ไม่หลับด้วย อิอิ

ชอบ Silent Sigh นะคะ เปิดฟังบ่อยมากตอนที่เพลงมันออกใหม่ๆ

อ่านงานของ Nick Horny สองเรื่องค่ะ How to be good กับ About a boy เนี่ยแหละ
ชอบ How to be good มากกว่านิดนึง
ส่วนหนัง About a boy เนี่ย ไม่เคยดูค่ะ ไม่คิดจะดูด้วย เพราะไม่ชอบพระเอก

Chick lit นี่คิดเหมือนคุณกรัปป้าเลยนะ ว่าอ่านไปสองสามเรื่องมันก็เบื่อ

กรี้ดๆ ฮือๆ สะกดนามสกุลhornby ขาดตัว b ไปอ่ะค่ะ
ตายแล้วๆ อายมากเลยนะเนี่ย แก้ก็ไม่ได้ด้วย
จริงๆเคยพูดกับเพื่อนด้วยนะ ว่านามสกุลตานี่นี่แบบเสี่ยงต่อการสะกดผิดมาก แล้วเป็นไงหล่ะ ฮือ สะกดผิดซะงั้น อายๆๆๆๆๆๆ

^
^
สะกดผิดไม่ผ่านเซ็นเซอร์ / เดี๋ยวค่อยมาให้ความเห็น

พักนี้ จขบ. เล่นเพลงจากหนัง สามบล็อกติดเชียว (ไม่รู้ว่ามุขใหม่หรือเปล่า) เคยเห็นหนังสือของพ่อ Nick บ่อยๆแต่ไม่เคยอ่านหรอก / ได้ดูหนัง About A Boy เหมือนกัน มันก็เป็นหนังอังกฤษที่ใช้ได้เหมือนกัน เพราะมันตลก(แบบอังกฤษ)ด้วยกระมัง บวกกับลักษณะพระเอกที่จะเรีัยกว่า แอนตี้ฮีโร่ ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ถือเป็นการเปลี่ยนบทบาทของ ฮิว แกรนท์ นิดหน่อย จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เท่าไรรวมทั้งเพลงด้วย ก็เลยฟื้นความหลังเสียเลย เพลงเพราะทั้งสองครับ

ชอบเพลง Silent Sigh เหมือนกันแต่จะชอบเปิดเพลง I Love N.Y.E. ก่อน
แล้วต่อด้วย Silent Sigh ชอบเพลง I Love N.Y.E. มากกกกก
เป็นเพลงบรรเลง ฟังแล้วเหงาหน่อยๆ พอให้คิดว่าเรา blank หรือเปล่า
ก็เป็นบ้างมั้ง บางเวลาอะไรทำนองนั้น
พอต่อด้วย Silent Sigh เพลงมันค่อยๆคึกคักขึ้น
ฟังแล้วเหมือนทดแทนกัน เป็นกำลังใจอะไรทำนองนั้น

สรุปว่าชอบเพลง ชอบหนัง และก้หนังสือเรื่องนี้แหละ
หลายใจม้ะ

โอ๊ะ เพิ่งสังเกตว่าคุณหนูคูต้าว
สอยแผ่นญี่ปุ่นมา แล้วมันเพิ่มอารายมาบ้างหรือเปล่าเนี่ย

ทั้งหนังทั้งหนังสือไม่เคยทัศนา แต่ว่าโค่ดชอบ Badly Drawn Boy เลย เอามายืมฟังมั่งดิ โห มีแผ่นยุ่นด้วย ยืมโหน่ยยยยยยยยยยยยย

เพลงแรกเคยได้ฟัง ก็เพราะดี แต่ไม่ถึงกับชอบมาก
ภาพยนตร์ก็ไม่ได้ดู หนังสือก็ไม่ได้อ่าน src=https://www.bloggang.com/emo/emo7.gif>

ช่วยแสดงความคิดเห็นได้ดีมากเร้ยยยยฉัน

ปล. จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไป เวลางานเปิดนานไม่ได้ค่ะ

*น้องพลอย โห แสดงว่าเพลงเรื่องนี้ดังใช้ได้เลยนาครับ เพราะได้ยินมาว่าซาวน์แทรกซ์เรื่องนี้ไม่มีต้นสังกัดในเมืองไทย มีคนถามที่ร้านตลอด จนต้องอิมพอร์ตเข้ามาขาย ซึ่งราคาก็ใช่ย่อย

*คุณกรัป ง่า เอ่อ เมนท์ยาวกว่าบล้อกอีกง่า ตกลงว่าไม่ควรพลาดหนังสือของเฮียนิคแกใช่มั้ยนี่ 555 เอ แต่เรื่องแรกที่บอก ผมไม่เคยเห็นแฮะ เห้นแต่ About A Boy นี่ล่ะครับ แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะดูหนังแล้วเฉยๆน่ะ

ส่วน Chick Lit ผมเคยลองอ่านนักช้อปฯน่ะครับ จริงๆมันก็ฮาดีนะ แต่ผมว่ามันออกจะประโลมโลก และไม่สมเหตุผลบางเรื่องอ่ะ แต่ก็อ่านคลายเครียดดีครับ 555 แสดงว่าเรื่องอื่นๆก็มาแนวเดียวกันนี้อ่ะดิ ถึงเบื่อน่ะ

*คุณคิงฯ น่านดิครับ โดนทิ้งมันน่ารักตรงไหน วู้ คิดหยั่งงี้กันหมดปล่าวนี่

*น้องอิ๋ม เอ่อ ดูเรื่องนี้แล้วหลับเหรอ อ่อ เห็นบอกชอบดูแนว Basic Instinct ไรเงี้ยเหรอ หูย

*คุณดรอปฯ 555 อ่านเมนท์แล้วขำมาก หะแรกผมก็ไม่ได้สังเกตนาเนี่ย ว่าแต่ไปเกลียดน้าฮิวจ์แกทำมไหรอ 555

*คุณเบล แหม่ มุขอารายครับ พอดีชอบเพลงนี้ตั้งนานแล้ว แล้วเพิ่งจะโหลดได้นี่ล่ะครับ แหะๆ เอ แต่ถ้าผมเป็นแบบพระเอกในเรื่อง (คือมีตังได้มาฟรีๆตลอด) ก็คงเฉื่อยๆแฉะๆแบบแกด้วยกระมังครับ 555

*คุณมะ เอา I Love N.Y.E. มาโชว์บ้างดิครับ โม้ไว้ซะอยากฟังบ้างง่ะ เผอิญผมมิมีซีดีชุดนี้ดอกครับ อาศัยแฮ้บโหลดเค้ามา ฉนั้น (กระซิบ) ซีดีญี่ปุ่นชุดนี้จะมีกะเค้าได้ไงอ่ะ แหะๆ เห็นปกมันแปลกดี เลยแฮ้บมาตามฟอร์ม

*เจ๊ 80 จิ๊ เจ้านี้อีกคน เอ่ะ สงสัยต้องสั่งซื้อแผ่นนี้ เพื่อรักษาหน้าแล้วล่ะมังนี่ เฮ้อ

*คุณซาสี่ 55 อย่างน้อยก็ยังเคยฟังเพลงนาครับ ว่าแต่ผ่านโปรแล้วไม่ใช่เหรอ อย่าไปกลัว เราต้องแข็งไว้อย่าไปกลัวใคร จิ๊ รับรองสิ้นปีเห็นผล โฮ่ๆๆ

โด่ ที่แท้ก็ไปแฮปเพลงจากอเมซอนมาอีกแล้ว

about a boy
กะลังหาเรื่องนี้อ่าน อยู่
ได้ยินกิตติศัพท์ว่า
หนัง สนุก เท่าๆ กับหนังสือ
ซึ่งหายากนะคะ
ที่จะหาเรื่องที่หนังสนุกเท่าหนังสือได้

เรื่องเพลงประกอบนี่ไม่รู้เรื่องเลยค่า

โห... ใส่ร้ายกันเห็นๆ อย่าคิดว่าหนูจะเหมือนพี่คูต้าวสิ ยอมรับมาซะดีๆเหอะ!! อิอิ

ยังไม่ได้ดู About A Boy ครับ ดูเเต่ High Fidelity ตอนเเรกที่เห็นจอห์น คูเเซ๊ก ผมก็คิดเเบบว่า เอ้ เล่นหนังเเบบนี้ด้วยหรอ พอได้ดูเท่านั้นหล่ะ ชอบเลยครับ ยิ่งบทที่ตาทิม ร็อบบิน เล่นในเรื่อง ผมขำมากๆครับ

พูดถึงชีวิตโสดเเล้ว ผมยอมโสดครับ ถ้าหากไม่ได้ฟังเพลงที่ชอบอีกต่อไป ดูจากหนังเรื่อง High Fidelity อยากเก็บสะสมเพลงให้ได้เยอะๆเเบบนั้นบ้างจัง คงมีความสุขน่าดู

ได้ยินกิตติศัพท์ของ Badly Drawn Boy มาตั้งนาน ผมเคยฟังผ่านๆ นานเเล้ว เเต่ไม่รู้ว่าเป็นงานของ BDB ครับ เเหม น่าอายจริงๆ เพราะทั้งสองเพลงครับ เเต่ชอบเพลง 'Something To Talk About' มากกว่านิดนึง ตรงเสียงกีตาร์อคูสติกใสๆ ตอนต้นครับ

เคยเห็นวงนี้ ใน MTV สะดุดตาครับ รู้สึกจะเป็นเพลง มันๆ หนักกว่านี้ ชอบเลยแหละ แต่ไม่ได้ติดตามผลงาน ผ่านมาแล้วก็ลืมไป ...ตอนนี้สงสัยต้องไปหามาซะแล้ว เพลงที่นำมาฝาก ถูกใจมากครับผม

เสาร์นี้มาได้เป่าคะ ตอบด้วยยยยยยย

เคยดูแต่ High Fidelity แหละค่ะ (สะกดถูกเปล่าหว่า)

ไปดูกะอดีตแฟน คนนั้นเค้าบ้าเพลงมาก (พอๆ กะที่เราบ้าหนังสือ) กิจกรรมร่วมกันของเราสองคนคือ หนังค่ะ

เค้าดูแล้วชอบเรื่องนี้มาก (คนรักเสียงเพลงก็น่าจะชอบหละมังคะ)


ส่วน About A Boy ยังไม่ได้ดูค่ะ

ผมก็โสดครับ
เหอๆๆๆๆๆๆ

หนังเรื่องก็ยังไม่เคยดู
เพลง ก็ฟังไม่ได้ (ไม่รู้เป็นไร)
เลยไม่รู้คอมเม้นไรดี

พี่ข้าวตูสบายดีนะครับ :)

Badly Drawn Boy ผมเคยฟังแต่เพลงอื่นครับ
สองเพลงนี้ไม่เคยผ่านหูมาก่อนเลย

พูดถึงหนังบ้างดีกว่า
เรื่อง High Fidelity เป็นหนังที่มีคนพูดให้เข้าหูผมบ่อย
แต่กระนั้นวาสนาผมก็ยังไม่ถึงเสียที
จนทุกวันนี้ก็ยังพลาด ไม่ได้ดู

ส่วน About a Boy เป็นหนังที่ผมชอบมากครับ
ประทับใจฉากที่เจ้าเด็กในเรื่องนั่งร้องเพลงของ The Carpenters
แล้วเพื่อนร่วมชั้นก็หัวเราะเยาะ
สะท้อนใจมากๆ (เพราะเคยโดนกับตัวเอง)

ครั้นจะพูดมากกว่านี้ก็เกรงจะยาวเกินหน้า จขบ. อีกคน
ถือเสียว่าแวะมาทักทายแล้วกันครับ

Blog เริ่มมีกลิ่นอีกแล้ว อิอิ

อุเหม่เม๊ะ อ่านคอมเม้นท์คุณข้าวตูเสร็จรู้สึกตัวเองสิ้นคิดยังไงชอบกล

ครั้งหน้าจะหาเมนูไม่สิ้นคิดมั้ง

มิตรบ๊อกแฟนเพลงก๊กดนตรีหายไปไหนกันหมดฟะ ไปช่วยฟังเพลงหน่อย อุคส่าห์อัพ ฮักๆ ขายมะออก

เปิดกรงแมวด้วยเด้อ ส่งพิซซ่าหน้าเบลอกับอะไรแซงต์ๆ ไปให้แล้ว

ชอบเพลงที่สองอ้ะ

สบายๆ ฟังแล้วเหมือนโสดๆ ดี

เพลงฟังสบาย จริงๆ... ยิ่งฟังยิ่งชอบ

หนังสนุกมากทั้งสองเรื่องเลยค่ะ เป็นหนังที่ดูได้บ่อยๆด้วย เราว่ามุขตลกคนอังกฤษมันขำแบบขืนๆน่ะ ซึ่งเราชอบแบบนี้มากกว่า ( แม้บางมุขจะไม่เข้าใจ ) มันไม่โฉ่งฉางแบบ
อเมริกัน

เพลงเพราะมากทั้งสองเพลงเลย ขอแนะนำเพลง year of the rat ( น่าจะเขียนประมาณนี้ ) เพลงก็เพราะ MVก็สุดยอดมากๆ เราเข้าไปดูในบล็อกของคุณ" ดูหนังอย่างคนป่วย" เขาก็ชอบ badly drawn boy เหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆค่ะ