Mon 7/4/2016 12:23 หลังจากที่ได้ทำงานมาสักระยะหนึ่ง... ก็รู้สึกว่า เราต้องมีเงินเก็บ แต่ไม่ใช่เพียงสำหรับตัวเอง แต่รวมถึงครอบครัว และครอบครัวในอนาคต เริ่มการทำงานมาได้เพียงครึ่งเดือน ..
เกิดความกระวนกระวายใจอย่างที่พระเจ้าบอกว่า เราจะมีเจ้านาย 2คนได้อย่างไร ระหว่างทรัพย์สมบัติกับพระเจ้า
มธ.6 ข้อ 24“ ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายได้ เพราะว่าเขาจะชังนายข้างหนึ่ง และรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือเขาจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้
เงินเดือนเดือนแรก... น้ำตาปริ่ม.. ทำให้รู้สึกว่าเราต้องหางานใหม่ 55- ขอบคุณพระเจ้า
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อวันนี้ 3 ก.ค. 59 กำลังคิดอยู่ว่า เราจะถวายผลแรกทั้งหมดเลยหรือเปล่า คือเงินเดือนทั้งหมดที่เราได้รับมา ... แล้วเราก็ได้เรียนบทเรียน ปฐก. บทที่ 4 ข้อ 2-16 เรื่องท่าทีในการถวาย ในตอนที่คาอินกับอาแบล นำเครื่องเผาบูชามาถวายแด่พระเจ้า แล้วพระเจ้าพอพระทัยในเครื่องเผาบูชาของอาแบล เพราะ ถวายผลแรก และสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพระเจ้า
ปฐก. 4:3อยู่มาวันหนึ่งคาอินนำพืชผลจากผืนดินมาเป็นของถวายแด่พระยาห์เวห์ 4ส่วนอาเบลก็นำแกะหัวปีจากฝูงและไขมันของแกะมาถวาย พระยาห์เวห์พอพระทัยอาเบลและของถวายของเขา
เลยตัดสินใจ ถวายผลแรกไป แม้จะเป็นเพียงจำนวนเงินที่น้อยนิด เมื่อเทียบกับรายได้ของคนอื่นๆ ที่เค้ามีงานทำนะ .. แต่หลังจากที่ได้ถวายทรัพย์ไปแล้ว รู้สึกโล่งใจ ที่เราได้ถวายทรัพย์ให้พระเจ้า ทำให้เรารู้สึกว่า จริงๆแล้ว ทรัพย์เหล่านั้น ไม่ใช่ของเรา ทุกๆอย่างที่เรามีก็ไม่ใช่ของเรา แต่คือของพระเจ้า บางครั้งก็เหมือนเป็นการทดสอบว่า เราจะมีท่าทีอย่างไรในสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ เราจะชื่นชมยินดีที่จะจ่ายราคา หรือ ชื่นชมยินดีที่จะถวายทั้งสิ้นให้กับพระองค์ไหม ทั้งๆที่สิ่งของทุกอย่างล้วนเป็นของพระองค์ที่ทรงโปรดประทานให้
ลูกา 12:33 จงขายของที่ท่านมีอยู่และทำทาน จงกระทำถุงใส่เงินสำหรับตนซึ่งไม่รู้เก่า คือให้มีทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ซึ่งไม่เสื่อมสูญไป ที่ขโมยมิได้เข้ามาใกล้ และที่ตัวมอดมิได้ทำลายเสีย 12:34 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย
แต่ก็รู้สึกว่า เงินที่เราถวายไป.. น้อยเกินไป.. ไม่มากพอสำหรับที่จะทำให้คริสตจักรจำเริญขึ้นได้มากนัก..
กลับมาใคร่ครวญกับตัวเองใหม่ แล้วก็ได้ยินเสียงจากภายในใจกล่าวว่า
“ พระเจ้าไม่ได้มองว่าเรามีอะไร แต่พระเจ้าสนพระทัยในสิ่งที่เรามอบให้กับพระเจ้า และยิ่งกว่านั้น คือ “ท่าทีภายในจิตใจ” หรือ แรงจูงใจ ของเรา “
ทำให้นึกถึงหญิงที่ถวาย 2 เหรียญ..
มก.12: 41 พระเยซูประทับอยู่ตรงหน้าที่รับเงินถวายของพระวิหาร ทรงเฝ้าดูฝูงชนนำเงินมาใส่ คนรวยหลายคนเอาเงินจำนวนมากมาเทลงไป 42 แต่หญิงม่ายยากจนคนหนึ่งเอาเหรียญสองเหรียญ มูลค่าแค่เศษเสี้ยวสตางค์มาถวาย
43 พระเยซูทรงเรียกเหล่าสาวกมาและตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหญิงม่ายยากจนคนนี้ถวายเข้าคลังพระวิหารมากกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด 44 เพราะพวกเขาทั้งปวงล้วนเอาส่วนหนึ่งจากความมั่งคั่งของเขามาถวาย แต่หญิงม่ายนี้ทั้งที่ยากจนก็ยังเอาทุกสิ่ง คือทั้งหมดที่นางมีไว้เลี้ยงชีพมาถวาย”
ลูกา21:1 พระองค์เงยพระพักตร์ทอดพระเนตรเห็นคนมั่งมีทั้งหลายนำเงินมาใส่ในตู้เก็บเงินถวาย 2 พระองค์ทอดพระเนตรเห็นหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนยากจนนำเหรียญทองแดงสองอันมาใส่ด้วย 3 พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายยากจนคนนี้ได้ใส่ไว้มากกว่าคนทั้งปวงนี้ 4 เพราะว่าคนทั้งปวงนี้ได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ถวายแด่พระเจ้า แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุด ยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด”