การขนส่งน้ำมันแก๊สโซฮอล์

วันก่อน นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องการขนส่ง ทั้งส่งของใหญ่ของเล็กทั่วไป เรื่อยไปถึงการขนส่งไม้ ขนส่งพลังงาน ขนส่งน้ำมัน พลอยให้คิดเรื่องที่ผมเขียนบล็อกอยู่ ก็คือเรื่องการขนส่งน้ำมันแก๊สโซฮอล์ว่าเค้ามีกระบวนการกันอย่างไร มันยุ่งยากไหม แล้วมันเหมือนกับขนส่งน้ำมันเบนซินทั่วไปหรือเปล่า หลังจากไปค้นหามา ก็พบบทความที่ตีพิมพ์ใน กรุงเทพธุรกิจ บิสวีค เซ็คชั่นยานยนต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบขนส่งน้ำมันว่าเชื่อถือได้หรือไม่ อย่างไรครับ.....

….ปัจจุบันผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ๆ นั้นมีอยู่ที่ขอนแก่น นครปฐมและอยุธยา การขนส่งจากต้นทางไปคลังน้ำมันใช้รถบรรทุกทั้งชนิด 10 ล้อ และ 22 ล้อ เพื่อนำไปผสมกับน้ำมันแล้วเก็บไว้ในถังใหญ่ที่ตั้งอยู่ตามคลัง เข้าระบบการกักเก็บ ก่อนจะนำเอาไปส่งตามสถานีบริการน้ำมันด้วยรถบรรทุก 10 ล้อ และ 22 ล้อ

การบรรทุกเอทานอลจากต้นทางไปคลังน้ำมันนั้น มีกฎอยู่ว่าจะต้องเอาน้ำมันเบนซินใส่ไว้ในถัง 10% พอไปรับเอทานอลออกจากโรงงานก็จะเป็นเอทานอลที่มีส่วนผสมกับน้ำมัน ดังนั้น การที่พนักงานจะแวะหรือจอดแล้วเอาไปขาย ก็คงจะไม่มีธุรกิจใดๆ กล้าซื้อ เพราะไม่ใช่เป็น Ethanol บริสุทธิ์ ที่ต้นทางแต่ละแห่งยังมีเจ้าพนักงานสรรพสามิตคอยตรวจและปฏิบัติหน้าที่ตามกฎระเบียบ ส่วนบรรดาพ่อค้าที่วิ่งเร่รับซื้อน้ำมันหรือที่เรียกกันติดปากว่าซื้อหมู เขาก็คงไม่ซื้อเพราะไม่ใช่สินค้าตลาด นี่รวมถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ด้วย ส่วนน้ำมันที่ตลาดนิยมคือ น้ำมันดีเซล

ในยุคแรกๆ ของการเริ่ม มีน้ำมันเกรดแก๊สโซฮอล์จำหน่าย บริษัทน้ำมันบางรายใช้วิธีบรรทุกน้ำมันจากคลังไปผสมเอทานอลที่กรุงเทพฯ ผสมอยู่ในถังของรถบรรทุก พอผสมได้ที่จะมีกรรมวิธีด้านปฏิบัติการหรือ Laboratory พอวัดได้ค่ามาตรฐานก็นำออกไปส่งตามสถานีบริการน้ำมัน เป็นการผสมแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เกือบจะเป็นสินค้า OTOP ไปแล้วในสมัยนั้น แต่ภาพตรงกันข้ามที่ออกสู่สายตาประชาชนทางโทรทัศน์ ไม่เคยมีการบอกกล่าวถึงแหล่งที่มาหรือกรรมวิธีว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์

แต่ ณ วันนี้คงได้ความมั่นใจกับน้ำมันชนิดนี้เต็มที่แล้ว ก็ขนาดเกรด 91 ยังสามารถใช้ได้ดีปกติ นั่นก็ย่อมหมายความมีมาตรฐานในการเผาไหม้ได้ดีทีเดียว

สำหรับรถยนต์ที่นำไปบรรทุกขนส่งเอทานอลจากโรงงาน ก็ต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ บ้างกับรถบรรทุกบางคัน เพราะเป็นเอทานอลบริสุทธิ์ (Pure Ethanol) หากถามว่าแล้วรถที่ไปบรรทุกมาเป็นรถที่มีมาตรฐานขนาดไหน ก็บอกได้เลยครับว่าเกือบ 100% เป็นรถที่มีราคาแพง รถ trailer คันหนึ่งมูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท มีระบบ GPS แบบ Real time เห็นวิ่งอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการบรรทุกขนส่งและความสะอาดหรอกครับ เพราะถังที่ใช้บรรทุกส่วนมากเป็นถังที่ผลิตจาก Alloy หรืออะลูมิเนียมที่นำเข้าจากยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตรเลีย อย่างบริษัทที่ผลิตถังที่นิคมบางปะอิน บริษัท Heil Asia ก็มีบริษัทแม่อยู่อเมริกา เป็นบริษัทใหญ่มีความน่าเชื่อถือมาก….

มั่นใจขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่งครับผม…

Create Date : 25 ตุลาคม 2550		4 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 11:29:37 น.
Counter : 2188 Pageviews.
Share Tweet