หลังจากเด็กๆเรียนหนักมาทั้งเทอม พอปิดเทอมช่วงธันวา พ่อตุ่นกะแม่วันก็คิดกันว่าหนาวนี้ไปสัมผัสความหนาวที่ไหนดี หลังจากครุ่นคิดมาเรื่อยๆก็มาลงเอยที่ ...จังหวัดน่าน...น่าน เนิบ ๆ ๆ ....

เราออกเดินทางอังคารที่ 19 ธันวา 2560 ด้วยความทุุลักทุเลพอควร เพราะน้องพิิ้งค์เกิดท้องเสียอย่างแรง ทำให้คืนแรกของการเดินทางที่วางแผนพักที่พิษณุโลกต้องเกิดปัญหาใหญ่ เพราะต้องพาน้องพิ้งค์ไปหาคุณหมอ เพราะน้องพิ้งค์ไข้ขึ้น และมีอาการเพ้อ วันรุ่งขึ้นเราจึงคิดว่ากลับมาตั้งหลักที่กรุงเทพก่อน หายแล้วค่อยว่ากันใหม่ ทำให้การเดินทางดูสั้นไปสักนิด แต่เรายังไม่ลืมที่ไปไหว้พระพุทธชินราช, แวะกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แวะแม่ลาปาเผา ร้านดังขึ้นชื่อของจังหวัดสิงห์บุรี ก่อนถึงกรุงเทพจ้า

หลังจากน้องหายดีเราจึงเริ่มจองที่พักใหม่ที่น่านใหม่อีกรอบ แล้วออกเดินทางนัดแก้ตัวอีกทีในวันที่ 3-7 มกราคา 2561 โดยรถฟอร์จูนเนอร์เหมือนเดิม เอาเป็นว่าเที่ยวยาวๆตั้งแต่ต้นปีซะเลย

วันแรก พ่อตุ่นขับรถยิงยาวถึงจังหวัดแพร่ เพื่อแวะทานอาหารเย็นที่ครัวริมบึง ร้านประจำของพวกเรา เด็กๆชอบมาก อิ่มท้อง แถมยังมีบ่อขนาดใหญ่ให้ตกปลาตัวโตๆ และนอนพักที่โรงแรมเปิดใหม่ เตียงใหญ่มากๆ

วันที่สอง หลังจากทานอาหารเช้า เราก็ไปไหว้ศาลปุงเถ้ากงเพื่อเป็นสิริมงคล แล้วไปแวะทานหมีเส้นขึ้นชื่อของแพร่ อร่อยจริงๆค่ะ แล้วก็ไปเที่ยวพระธาตุช่อแฮ, น้ำตกห้วยโรง แต่เสียดายน้ำน้อย เพราะช่วงหน้าแล้ง แล้วเราก็เดินทางต่อจนถึงดาวเสมอดาว  โชคดีที่มีเต้นท์ว่างวันที่ไปถึงแม้ว่าจองล่วงหน้าแค่ 3 วัน บรรยากาศดี สวย แต่เผอิญคืนที่เราไปไร้ดาวดาว มีแต่เมฆหนาปกคลุมท้องฟ้า ผสมกับลมแรงมาก ทำให้ใจตุ้มต่อมว่าจะต้องนอนตากฝนไหม

วันที่สาม รีบตื่นแต่เช้าเผื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและท้าทายลมหนาว สวยคุ้มกะการเดินทางจริงๆเลย หลังจากนั้นก็ไปผาชู้ เสานาดินน้อย หอศิลป์ริมน้ำ แล้วแวะกินอาหารเที่ยงที่หาดผาขน ล่องแพลำน้ำน่าน เด็กๆสนุกกะการนั่งกินบนแพ และนั้งเรื่อท้องแบนร่องลำน้ำน่าน แพที่เรากินเป็นของคุณผาย โทร 0890457409 เพราะทางค่อยข้างลึก ถ้าไปโทรไปเช็คก่อนก็ดีค่ะ น้ำน่านเย็นอย่าบอกใครเชียวค่ะ พอทานเสร็จก็มุ่งหน้าสู่อำเภอปัว เราพักเต้นท์ที่ อ้อมกอดวิวรีสอร์ท เจ้าของก็คือครูติ๊ก ครูใจดีที่ดูแลพี่ธันอย่างดีมาตลอดเลย ที่รีสอทมีชิงช้าให้เด็กเล่น มีสตอเบอร์รี่ให้เด็กเก็บกิน มีกองไฟให้เด็กๆได้เล่นผิงไฟ และยังได้ปิ้ง พิซซ่าดอยกินกันด้วยจ้า แต่น่าเสียดายเป็นคืนไร้ดาว เมฆจัดเต็มเหมือนเดิมค่ะ

วันที่สาม เราออกเดินทางแต่เช้าไปเที่ยวแลนด์มาร์คของอำเภอปัว ได้แก่ วัดภูเก็ต, ชุมชนหมู่บ้านไทลื้อ, กาแฟไทลื้อ, วังศิลาแลง  แล้วแวะไปทานอาหารเที่ยงที่วังน้ำปัว ดอยภูคา โดยเส้นทางไปดอยภูคาสู่บ่อเกลือ ทั้งสวย ทั้งหวาดเสียว ตื่นเต้นตลอดการเดินทางจนถึงที่พักสวนริมมาง

เป็นรีสอร์ทสวยมากอยู่ริมน้ำ อาหารเย็นมาก แล้วน้ำเย็นยะเยือกจริงๆ พอค่ำเราก็ออกมาฝากท้องที่บ่อเกลือวิวรีสอร์ท บรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ เพราะรีสอร์ทอยู่บนเขาทำให้เราเห็นวิวของบ่อเกลือยามราตรีค่ะ

วันที่สี่ ตอนเข้าเราไปเที่ยวบ่อเกลือสินเธาว์โบราณ แล้วรีบมุ่งหน้าเข้าเมือง เพราะได้ยินมาว่าเส้นทางสันติสุขโค้งเยอะ เลยเผื่อเวลาการเดินทางไว้เยอะหน่อยเพราะกะจะกลับกรุงเทพเลย แต่กว่าจะทะลุมาอำเภอเมืองได้เกือบบ่าย แถมเด็กๆก็เริ่มหิว แล้วยังไม่ได้เที่ยวเมืองน่านเลย จึงพักต่ออีกคืนที่ โรงแรมภูคาน่านฟ้า โรงแรมเก่าแก่ของน่านที่คงความเป็นน่านได้อย่างงดงาม หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็เริ่มเดินทางเที่ยวในเมืองวัดมิ่งเมือง, วัดภูมินทร์, พระธาตุแช่แห้ง และตกเย็นมากินกาดข่วงเมืองน่าน เป็นตลาดคนเดิน ของกินเยอะเยอะ สัมผัสบรรยากาศชาวล้านนานั่งกินขันโตกจ้า

วันที่ห้า เช้าไปสักการะพระธาตุเขาน้อย แล้วก็ตีกลับกรุงเทพค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นเด็กๆเปิดเทอม

พอจบทริปนี้ก็เริ่มคิดว่าปิดเทอมหน้าไปไหนดี 555

........................................................................................................................