อ่านแล้วอ่านอีก ฮะ ฮ่ะ ฮ่า เรื่องดีๆแบบนี้ไม่มีเก่าเลย อ่านทีไรก็กรี๊ดกร๊าดเจ็นได้ตลอดขึ้นอันดับหนึ่งนิยายแฟนตาซีการเมืองยอดเยี่ยม เราชอบที่มันเป็นเรื่องที่ไม่ยาวมาก อารมณ์ขำ จิกกัดแบบแสบๆคล้ายๆมุกของไอร์เอิร์นแมน ของเจ็นกลับมาแล้ว ดีใจสุดๆ มันเป็นอารมณ์ขันแบบขื่นๆ เสียดสีแซวตัวเองด้วย วางกระจัดกระจายเต็มท้องเรื่องไปหมด อ่านแล้วยิ้มกว้างกว่าเกมส์ออฟโทรนส์เป็นไหนๆ สาเหตุที่อ่านแล้วสนุกมากๆเรียกได้ว่าเล่มนี้ท็อปฟอร์มคือ เหมือนรวมเอาความฮา การสบประมาทที่คนอื่นมีต่อเจ็นในเล่มแรกมาผสมความดาร์ก การเมืองในเล่มสอง บวกกับความสัมพันธ์แสนซับซ้อนอ่อนหวานของราชินีกับเจ็นมาลงเล่มนี้ ผสมปนเปกันได้ดีมากแถมไม่ลืมจุดหักมุมเล็กๆน้อยๆอีก
-ประเด็นหลักๆในเล่มนี้ คือการขึ้นเป็นกษัตริย์ของเจ็นเรื่องที่ไอรีน ขอให้เจ็นช่วยคือการสลายอิทธิพลของบารอนเอรอนไดทิส โดยเจ็นขอเวลาหกเดือน ส่วนเจ็นขอให้ไอรีนลดขนาดทหารราชองครักษ์ลงครึ่งนึง แต่ไอรีนบอกว่าถ้างั้นต้องไปขอให้เทเลอัส หัวหน้าทหารราชองครักษ์ยินยอมซะก่อน ถึงจะออกคำสั่งได้
-แต่เทเลอัสเป็นคนหัวแข็ง ถึงจะภักดีต่อราชินีแต่ก็ไม่ชอบขึ้หน้าเจ็นที่เล่มที่แล้วไปลักพาตัวราชินีใต้จมูกเทเลอัสด้วยซ้ำ ยากมากที่จะให้เขาเห็นด้วย เจ็นเลยคิดแผนเปลี่ยนความคิดเทเลอัสด้วยแนวคิดที่ว่า "จะเปลี่ยนความคิดใคร ก็ต้องเปลี่ยนความคิดคนที่อยู่ใกล้ตัวคนๆนั้นก่อน" เจ็นเลยเลือกลูกน้องหนุ่มฝีมือดีของเทเลอัสมาคนนึง คิดไปคิดมาแสดงว่าเจ็นต้องเล็งหรือเผลอๆจะสอบประวัติคอสติสไว้แต่แรก คือแกเป็นหัวหน้าหมู่ที่หนุ่มที่สุด อายุน่าจะมากกว่าเจ็นไม่กี่ปี จะได้คุยกันได้เข้าใจ แล้วที่สำคัญแกมีความซื่อสัตย์ รักศักดิ์ศรียิ่งชีพ ตั้งใจทำหน้าที่ มีความฉลาดพอตัว ถึงจะใจร้อนไปบ้างเวลาใครมาดูหมิ่น เพราะทหารที่เลือกคนนี้ เจ็นต้องการให้เขามาอยู่ใกล้ตัว เพื่อให้เข้าใจหัวอกเจ็น เข้าใจสภาวะที่กษัตริย์เผชิญอยู่
ยูเจนิดิสคิดว่าถ้าลองได้สัมผัสถึงตัวตน ความสามารถ อารมณ์ความรู้สึกของเขาแล้ว คอสติสก็น่าจะเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีต่อองค์กษัตริย์ได้ เพราะตั้งแต่ตอนแรกพวกข้าราชบริพารเเอตโทเลียไม่มีใครชอบหน้ายูเจนิดิสเลย เห็นได้จากความคิดเห็นของคอสติสที่เจ็นหลอกให้พูดออกมา อีกอย่างนึงที่คิด สำหรับปรัชญาการเมืองของเจ็น คนเราจำเป็นต้องมีคนที่ไว้ใจได้ เจ็นเองก็ต้องการความมั่นคงทางจิตใจเหมือนกัน ถ้ามีใครให้คุย หรืออยู่ด้วยได้โดยไม่ต้องเสแสร้งก็จะดีมาก อย่างที่ว่าคนเราหลอกบางอย่างกับบางคนได้ในบางเวลา แต่ไม่สามารถหลอกทุกอย่าง กับทุกคน ในทุกเวลาได้
-เข้ามาวันแรกคอสติสได้เป็นคนฝึกดาบกับกษัตริย์ ซึ่ง ยูเจนิดิส ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาฝึกท่าพื้นฐาน จนคอสติสเบื่อ อย่างไรก็ตามเขาก็รู้แล้วว่ากษัตริย์โดนมหาดเล็กกลั่นแกล้งบ่อยๆ ตั้งแต่ทรายในอาหาร งูบนที่นอน จัดชุดแบบไม่เข้ากัน จัดอาหารที่คนมือเดียวกินไม่ได้มาให้ กิจวัตรของกษัตริย์ต้องทำนู่นทำนี่มากมาย ทั้งที่บางอย่างก็น่าเบื่อหน่าย เป็นครั้งแรกที่คอสติสได้เห็นว่าเจ็นเหนื่อยใจกับพวกมหาดเล็ก เขามักจะล็อกห้องแล้วเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบ่อยๆ แต่สิ่งแรกที่ทำให้คอสติสสะท้านได้คือการถอดแหวนให้กษัตริย์ แหวนนั่นค่อนข้างคับ ต้องพยายามอยู่สักพักถึงจะถอดได้ คืนนั้นเองคอสติส ลองพยายามถอดแหวนของตัวเองด้วยมือข้างเดียว มันไม่ง่ายเลย
-พอคอสติสได้เป็นทหารคนสนิทของกษัตริย์ก็มีผู้หวังประโยชน์เข้าหา คอสติสมักจะกังวลถึงเกียรติตัวเอง กลัวยูเจนิดิสจะหาว่าเขาเอาเรื่องส่วนตัวของกษัตริย์ไปขาย เจ็นหัวเราะเพราะดูเหมือนตัวเจ็นเองนี่แหละที่เอาเรื่องพวกนี้ไปเล่าเอง ต่อมาเจ็นไปยังวิหารเทพเจ้าของเอ็ดดิสในแอตโทเลียเพื่อถามคำถาม แต่นักบวชที่นั่นบอกว่าเทพรู้ทั้งคำถามคำตอบแล้ว แล้วก็ฉีกกระดาษที่เจ็นลงลายเช็นไว้ว่า แอตโทลิส มาให้ นั่นทำให้เจ็นเศร้ามาก เพราะไม่ว่าคำถามคืออะไร มันไม่สำคัญแล้ว คำตอบคือการเป็นราชันแห่งแอตโทเลีย เขากลับวังมานั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเดิม
แต่คอสติสที่ปกติจะยืนอยู่ข้างหลังใกล้ๆประตูมีเรื่องจะสารภาพเลยเดินไปหาองค์กษัตริย์ เพียงเพื่อจะพบว่ายูเจนิดิสนั่งน้ำตาไหลพรากอยู่เงียบๆ คอสติสกราบทูลว่าเขาบอกบารอนเจ้าของที่ดินของพ่อเขาไปว่ากษัตริย์นั่งมองไปนอกหน้าต่างแล้วก็ได้ค่าตอบแทนมา(นับเป็นการแพร่งพรายความลับ ไม่สมควรในหน้าที่ราชองครักษ์) แล้วคอสติสก็ถวายเหรียญให้ ยูเจนิดิสใคร่ครวญก่อนจะขอโทษคอสติสที่ทำให้เขาต้องลำบากใจ คอสติสได้รับคำสั่งให้ไปได้ เลยเดินลงบันไดไป ก่อนจะฉุกคิดว่าเจ็นจะมองอะไรนักหนานอกหน้าต่าง
ฝั่งที่เขาลงมาเป็นด้านเดียวกับหน้าต่าง เขาจึงมองดูบ้างก็เห็นแค่ตัวเมืองและหุบเขา แต่ทันใดนั้นเองก็ตระหนักว่าไม่สำคัญหรอกว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่มองไม่เห็นต่างหาก เพราะนั่นคือทัศนียภาพที่หันไปทางเอ็ดดิส
คอสติสถึงได้เชื่อมโยงได้ว่าเจ็นกำลังคิดถึงบ้านไม่ต่างจากตัวเองตอนที่ออกมาเป็นทหารใหม่ๆ แม้ที่บ้านญาติพี่น้องจะไม่ดีนัก เขาก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ในหมู่คนที่ไว้วางใจ คนที่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมที่อุ่นใจ และนี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นที่คอสติสเทใจให้ หลังจากพบว่าต่อให้องค์กษัตริย์สูงส่งแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆที่เจ็บปวดได้เมื่อได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เมื่อต้องมาอยู่ไกลบ้านอย่างโดดเดี่ยว ไว้ใจใครได้ไม่มากนัก
ความจริงเราว่าสาเหตุหลักๆที่ร้องไห้คือไม่ชอบการเป็นกษัตริย์นั่นแหละ เรื่องมหาดเล็กกลั่นแกล้ง คิดถถึงบ้านยังเป็นเรื่องรองๆลงไป เหมือนเจ็นพยายามอดทนกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆมาตลอด แล้วพอจะหาคำยืนยันก็พบว่าเทพบอกว่า นี่แหละชะตาของเจ้า การเป็นราชันแห่ง แอตโทเลีย จงทำตัวเป็นราชาซะที
-เรื่องแผนการลอบปลงพระชนม์ คิดว่าซีเจนัสน่าจะเตรียมพร้อม ไม่เชิงประมาทฝีมือเจ็นเพราะเอามือสังหารมาตั้งสามคน ทั้งที่สู้กับคนมือเดียวใช้คนเดียวก็น่าจะได้ เจ็นเองรู้ว่าซีเจนัสมีแผนการบางอย่างเพียงแต่ไม่รู้วันเวลาสถานที่ แล้วตัวเองก็พลาดด้วยที่ไม่ได้สั่งให้ตรวจสวนก่อน ทั้งๆที่วันก่อนจะคุยกับไดทียังได้ตรวจสวน ยังดีที่เจ็นนั่งที่ตำแหน่งริมบ่อน้ำเลยเห็นเงาสะท้อนของซีเจนัสกับพวกมือสังหารบนระเบียงก่อน
แล้วต้องขอบคุณคอสติสที่มีไหวพริบทันเหตุการณ์ พอรู้สึกว่าทหารราชองครักษ์ถูกหลอกล่อให้ไปทำหน้าที่อื่น เลยสังหรณ์ใจว่าจะมีการลอบสังหารยูเจนิดิสแน่(ประกอบกับได้ข่าวลือของซีเจนัสมา) ระหว่างวิ่งมาหา คอสติสก็บนกับเทพไว้ว่าถ้ากษัตริย์ปลอดภัยจะถวายถ้วยทองคำสิบถ้วยให้ ก่อนจะพบว่ามือสังหารตายไปสอง บาดเจ็บหนึ่ง เจ็นเองก็บาดเจ็บ จนต้องให้คอสติสพยุง เจ็นแปลกใจเหมือนกันว่าคอสติสถึงกับบนถ้วยทองคำสิบใบเพื่อเขาเลย(ซึ่งต้องใช้เวลานานมากๆถ้าจะเอาเงินเดือนทหารมาจ่าย) คอสติสยืนยันว่าจะหาเงินมาให้ได้
"คอสติส ข้าพูดไม่ออกเลยนะ....นึกว่าเจ้าเกลียดข้าซะอีก"
"ใช่พะย่ะค่ะ"
เจ็นหัวเราะ(แผนข้าได้ผลซะที) บอกว่าจะออกค่าถ้วยให้ละกัน
ด้วยความที่ต้องพยุงตัวกษัตริย์ คอสติสเลยได้มีโอกาสมองตาเจ็นในระยะใกล้ ก่อนจะพบว่านัยน์ตานั้นล้ำลึกสุดหยั่ง มีหลายสิ่งเหลือเกินที่ยูเจนิดิสปิดบังไว้ แต่เขากลับเกิดความมั่นใจขึ้นอยู่อย่างว่าเขาพร้อมจะอุทิศตัวให้กษัตริย์องค์นี้อย่างแน่นอน
ฉากรักษากับหมอก็ตลกนะ เจ็นแหกปากร้อง สะดุ้ง ไม่มีมาดความเป็นผู้ดีเลยในตอนแรก ทำเอาคอสติสถอนใจว่ากษัตริย์ไม่อาจจะนอนตายอย่างมีศักดิ์ศรีได้เลย แต่ในภายหลังเขารู้ว่าเจ็นนั้นหากตั้งใจจะอดทนจริงๆก็ทำได้
ค่ำวันนั้นเองราชินีโกรธมาก สั่งประหารเทเลอัสกับหมู่ทหารรักษาพระองค์ที่เข้าเวรยามวันนั้นทันที ข้อหาบกพร่องต่อหน้าที่ ทำให้
คอสติสต้องไปขอร้องเจ็นที่นอนเปื่อยอยู่ให้ช่วย เจ็นแนะให้ใช้คำอ้อนวอนที่ตนเคยพูดในคุกให้ราชินีฟัง ปรากฏว่าได้ผล ราชินียอมปล่อยทหารทั้งหมด แต่ก็โกรธเจ็นมาก ถึงเจ็นจะแย้งว่าไม่ใช่ความผิดเทเลอัสทั้งหมด เขาก็โดนไอรีนตบหน้าไปหนึ่งทีในข้อหาใจดีเกินเหตุ (ความจริงยูเจนิดิสก็ทำเพื่อไอรีนเป็นหลักน่ะนะ เขารู้ว่าเทเลอัสสำคัญกับนางมาก )
-ระหว่างพักฟื้น คอสติสก็มาคอยเฝ้า ระหว่างนี้เจ็นจัดการกับ ซีเจนัส ด้วยการวางแผนขุดบ่อล่อปลา ทำลายตระกูลเอรอนไดทิสลงได้ในเวลาสามเดือนกว่า อันที่จริงแผนมันได้ผลเพราะซีเจนัสมีจุดอ่อนที่ยังมีความรักฉันท์พี่น้องกับพี่ชายอ่ะนะ ไม่งั้นแผนเจ็นก็ต้องเป็นไปในแนวอื่น ทำเอาคอสติสกับพวกมหาดเล็กตกตะลึงในเล่ห์กลการเมืองของเจ็นและความใจดีของเขาในการจัดการบุคคลต่างๆ แต่ผลงานนี้คนทั่วไปกลับมองว่าเจ็นเป็นเครื่องมือให้ราชินี แม้แต่การปราบมือสังหารทั้งสามนั้น คนนอกก็มองว่า คอสติสกับเทเลอัสความจริงเป็นคนทำแล้วปล่อยให้เจ็นได้หน้าไป
เจ็นลงไปเยี่ยมเรลิอัส อดีตเจ้ากรมข่าวกรองที่โดนลงโทษในคุกเพราะทำพลาดแล้วโกหกราชินี ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าเจ็นมืออาชีพมาก ทั้งที่น่าจะเคียดแค้นเรลิอัสที่เคยทรมานตัวเองในคุกมาก่อน เรลิอัสก็คิดว่าเจ็นจะมาแก้แค้นเอาคืน แต่เจ็นอธิบายว่าในฐานะจอมโจรเขาได้รับการสั่งสอนมาว่าสักวันเมื่อตัวเองทำพลาด ถูกจับ การจะถูกทำร้าย หรือทรมานก็เป็นราคาที่ต้องจ่าย ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเลยไม่ได้เคืองแค้น เรลิอัสที่เคยมาทรมานเขาเพื่อรีดข้อมูลเกี่ยวกับเอ็ดดิส เช่นเดียวกับการที่แอตโทเลียตัดมือเขานั่นก็เป็นเรื่องที่เขาเข้าใจได้ ว่านางทำไปเพราะความจำเป็น ณ ตอนนั้นในฐานะราชินี
คือแอตโทเลียจับได้ก็อยากประหารไปเลย แต่ทูตมีดส์แนะว่าให้ตัดมือแล้วส่งตัวกลับแทน จะได้เป็นชนวนสงคราม แอตโทเลียเห็นด้วยเพราะคิดว่าถ้าตัดมือจอมโจรแห่งเอ็ดดิสแล้วเขาคงจะสิ้นพิษสง แต่ไม่ใช่เลยความรักของเขาที่มีต่อนางนั้นยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก(เอ็ดดิสเคยบอกว่าต่อให้เจ็นถูกทำร้ายยังไง นางก็คงไม่ยอมให้เจ็นใช้ชีวิตที่เหลือไปกับการแก้แค้นอยู่ดี)
เขาลงไปออกคำสั่งให้ปล่อยตัวเรลิอัสออกมารักษา ส่วนนึงก็เพราะรู้ว่าเรลิอัสจงรักภักดีกับราชินีมาก แต่ก็ผิดกับคำสั่งเดิมของราชินีที่ให้ลงโทษ เทเลอัสที่ได้คืนตำแหน่งราชองครักษ์ตกใจมาก แทนที่จะมองว่าตัวเองกับเรลิอัสติดหนี้บุญคุณองค์กษัตริย์ เขากลับมองว่ากษัตริย์ทำอะไรตามใจตัวเองมากไป เลยเถียงกับเจ็นยกใหญ่
ขณะที่เจ็นพักผ่อนรักษาแผลอยู่นั่นเอง เขาก็ไปเยี่ยมเยือน เรลิอัสแล้วคุยเรื่องโน่นนี่อยู่เสมอ ที่เจ็นใส่ใจเรลิอัส เทเลอัส เพราะรู้ว่าสองคนนี้เป็นขุนนางคู่ใจของไอรีน ต่อให้สองคนนี้พลาดบ้าง ไอรีนก็ไม่น่าทำร้ายถึงชีวิต เพราะนั่นจะยิ่งทำร้ายจิตใจของไอรีนเข้าไปใหญ่ นอกจากนั้นเรลิอัสก็เป็นเพื่อนของเทเลอัสมานาน สุดท้ายเจ็นเปลี่ยนใจเรลิอัสได้ย่อมส่งผลต่อเทเลอัส เรลิอัสพอได้สัมผัสตัวตนของเจ็นแล้วก็เคารพเขามากขึ้นพร้อมกับยืนยันให้ราชินีผลักดันให้เจ็นแสดงความสามารถออกมาเพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเจ็นแล้ว แต่ไอรีนรู้ดีว่าเจ็นไม่ชอบการเป็นกษัตริย์ ยูเจนิดิสยังคงกลัวว่าตัวเองจะพลาดแย่งอำนาจของราชินีไป
หลังการสอบสวนมือสังหาร พอเจ็นรู้ว่าพวกนั้นเป็นคนของนาฮูเซเรซ ทูตมีดส์ตัวร้าย ก็โกรธมาก แต่การมีมือเดียวก็เหลือทางเลือกให้เขาไม่มากนัก เจ็นอาละวาดทำลายข้าวของแล้วสั่งไม่ให้พวกมหาดเล็กไปบอกราชินี เพราะกลัวนางจะรู้ว่านางเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุความคับแค้นใจของเขา
-เรื่องกินไวน์เดินหวาดเสียวบนสันป้อมช่วงท้ายนี่ประทับใจมากๆเริ่มด้วยความขำจากคอสติส หลังจากนี้มีแต่ความพีคและจุดสุดยอด ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า เหมือนเจ็นจงใจจะเปิดอกคุยกับคอสติส เพราะรู้ว่าเป็นคอสติสทั้งที่ไม่ได้หันมามอง อาจจะด้วยเสียงฝีเท้า ไม่งั้นก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าตัวเองทำอะไรแผลงๆอันตรายๆพวกมหาดเล็กกับกองทหารของอาริสจะไปตามคอสติสที่เป็นคนสนิทมาช่วยแหงๆ เพราะก่อนหน้านี้เจ็นปลดตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวของคอสติสออกเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง(ประมาณว่าพวกนั้นซื้อคอสติสไม่ได้ ก็เลยกำจัดเลยดีกว่า) เจ็นรู้สึกติดค้างคำอธิบายที่ลากคอสติสมาในวังวนแผนของตน ประกอบกับอาจจะอยากเปิดใจหาคนคอยรับฟัง(เพราะพวกมหาดเล็กถึงจะสยบแล้ว แต่เจ็นก็ยังไม่ไว้ใจ)
เจ็นโยนขวดไวน์ให้คอสติส ก่อนจะกระโดดกลับหัว ทรงตัวมือเดียวบนสันป้อมแคบๆ
"ทรงเชื่อกระหม่อมด้วยชีวิตได้เลย"
"แต่เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่ด้วยไวน์ของข้า...เอาคืนมานะ"
เจ็นจะเอื้อมมือไปคว้า
"ทรงลงมาเอาด้วยพระองค์เองสิ" คอสติสเอาขวดไวน์หลบ พลางจะคว้ามือเจ็น แต่เขาไม่หลงกล ชักมือกลับทัน ก่อนเดินต่อไปเรื่อยๆ
"อยากรู้ไหมว่าข้ากำลังคิดอะไรอยู่"
"ถ้าคิดว่าจะเสด็จกลับลงมาก็อยากพ่ะย่ะค่ะ"
น้ำเสียงคอสติสท้อแท้
"นั่นอารมณ์ขันของเจ้ารึคอสติส"
"กระหม่อมก็มีเหมือนกันนะพ่ะย่ะค่ะ"
เสียงหัวเราะของกษัตริย์นั้นอบอุ่นจนคอสติสรู้สึกดี
เห็นได้ชัดว่าคอสติสได้พิสูจน์ตัวเองและเจ็นก็ไว้ใจคอสติสแล้ว ถึงเมาอยู่บ้าง เจ็นคงตั้งใจระบายความในใจมากกว่า ถึงได้พล่ามเรื่องที่ตัวเองเกลียดการเป็นกษัตริย์ ในแง่ของการมีคนคอยติดตาม มีคนคอยประจบสอพลอ มีคนคอยปองร้าย ต้องอยู่ท่ามกลางผู้คน ต้องทำตัวกิริยามารยาทให้สมเป็นกษัตริย์ เจ็นไม่ได้มีปัญหากับการใช้อำนาจเพียงแต่กังวลว่าจะข้ามหน้าข้ามตาไอรีน
แต่ก็ไม่อยากจะออกไป เพราะการแต่งงานกับเเอตโทเลีย การเป็นแอตโทลิสเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง แล้วก็ทุกข์ใจกับทางเลือกของตน ถึงจะพยายามปกปิดความจริงที่รู้สึกแต่ก็ไม่ได้ผล ดื่มไวน์เพื่อปกปิดความจริงก็ไม่ได้ผล อีกอย่างหนึ่งก็เพราะการเหลือมือเดียวนั้นทำให้เขาเหลือทางเลือกน้อยลง กลับไปเป็นโจรก็ไม่สะดวกแล้ว ทำงานตัวคนเดียวไม่ได้ จะไปล้างแค้นตามฆ่านาฮูเซเรซก็ไม่ได้ คอสติสได้แต่ฟังด้วยความเห็นใจ
ณ ตอนนี้เราว่าเจ็นทำใจได้แล้วเรื่องเสียมือ แต่ต่อให้ยอมรับได้ก็ไม่ได้ทำให้มันขมขื่นน้อยลง "ข้าอาจเป็นกษัตริย์ที่ไม่ได้เรื่องด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่ข้าคงไม่ได้เป็นกษัตริย์ด้วยซ้ำ ถ้ายังมีมือครบสองข้าง" ความจริงเรื่องเจ็นถูกตัดมือนี่เป็นผลมาจากการที่ปวงเทพทรยศเอาความลับเจ็นไปบอกศัตรู พอส่งตัวเจ็นกลับมาเอ็ดดิส ทำให้ราชวงศ์เอ็ดดิสโกรธแค้นมาก สภามีมติเอกฉันท์ให้ทำสงครามกับแอตโทเลีย พ่อเจ็นเสนาบดีการสงครามงดออกเสียง
มีอยู่ครั้งนึง พวกหมอมาเชิญเจ็นที่หายดีแล้วไปเยี่ยมคนป่วยในโรงพยาบาลทหาร เจ็นกลับมาก็ไปนั่งตากหิมะบนหลังคาจนเอ็ดดิสเป็นห่วงว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
"วันนี้ข้าไปเยี่ยมคนป่วยที่ถูกตัดแขนขา พวกหมอต้องการให้คนไข้เห็นข้าเป็นตัวอย่างว่า เห็นไหม จอมโจรแห่งองค์ราชินี เสียมือไปสักข้างไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย เขายังมีชีวิตอยู่อย่างแฮปปี้ดีแทค สุดหรูเทพทรูได้ไม่ยาก พวกคนที่บาดเจ็บมองข้าอย่างชื่นชม ข้าเดินไปตบไหล่พวกเขาทุกคนเพื่อให้กำลังใจ แต่พอออกมาแล้วข้าก็อ้วก"
"ทำไมหมอไม่บอกไปล่ะ ว่าข้านี่แหละต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียมือ เสียแขนขาไป"
"โธ่เจ็น เจ้าไม่ใช่ต้นเหตุสงครามนี้ซะหน่อย ......รู้ไหมว่าเจ้ากลายเป็นวีรบุรุษแห่งเอ็ดดิสไปแล้วนะ"
"ข้าไม่รู้สึกว่าข้าเป็นวีรบุรุษ ข้ารู้สึกเหมือนเป็นไอ้งั่งมากกว่า"
"ข้าว่าวีรบุรุษส่วนใหญ่ก็รู้สึกแบบนั้นแหละ"
....เจ็นถอนใจ "อย่างน้อยข้ารอจนออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยอ้วก"
จนกระทั่งเจ็นไปตั้งคำถามเอากับเทพในท้ายเล่มสองว่าทำไมเขาถึงต้องถูกตัดมือ ปวงเทพให้นิมิตว่าภูเขาไฟในเอ็ดดิสจะระเบิด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน
ถ้าเอาตามที่คิด เพราะคนเขียนแน่ๆ555 เหมือนกับการถามคำถามว่าทำไมภูเขาไฟต้องระเบิด คือมันเป็นธรรมชาติของมันที่จะเป็นอย่างนั้น ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์สร้างจะจีรังยั่งยืน แม้แต่เทพผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้มีอำนาจบงการได้ทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น เทพถามเจ็นกลับว่า หากเจ้าได้มือคืน มันจะต้องแลกกับอะไรล่ะ อยากเสีย แอตโทเลีย อยากเห็นแอตโทเลียตกเป็นของมีดส์งั้นหรือ
เราว่าการที่เจ็นเสียมือไปเป็นส่วนนึงที่ทำให้เเอตโทเลียหันกลับมามองเจ็นในมุมใหม่ที่ไม่เคยมอง แล้วก็รักเขา เป็นบทพิสูจน์ตัวเจ็นด้วยว่ารักอย่างแอบรัก รักแบบเด็กๆนั้นจริงจังมั่นคงรึเปล่า เจ็นถามตัวเองแล้วพบว่าถึงแอตโทเลียจะตัดมือเขา เขาก็ยังรักนางอยู่ เขาพร้อมจะยอมเป็นกษัตริย์เพื่อจะแต่งงานกับนาง นางเป็นสมบัติอันมีค่าเกินกว่าที่เขาจะยอมเสียไป
กลับมาที่ค่ำคืนอันน่าพรั่นพรึง เจ็นบ่นพล่ามไม่หยุดก่อนจะร่ำร้องถึงปวงเทพ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่ดังฟังชัดว่า "ไปนอนเสีย" เจ็นเอนตัวล้มลงในอ้อมแขนคอสติส ทำเอาคอสติสต้องเชื่อด้วยความอัศจรรย์ใจว่าปวงเทพของยูเจนิดิสนั้นมีจริง ก่อนเจ็นจะตัดพ้อต่อไปว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียง อะไรเลย นอกจากถ้อยคำของปวงเทพที่ว่า เลิกคร่ำครวญเสียที กับ ไปนอนเสีย คอสติสได้ที เลยขอบางสิ่งบางอย่าง
"เจ้าขอได้คอสติส แต่ข้าเป็นกษัตริย์
ไม่ใช่ยักษ์จีนี่ ข้าไม่ให้พรใครหรอก"
เขาขอให้กษัตริย์ไปที่ลานฝึกซ้อมดาบกับเขาในวันรุ่งขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ็นมีฝีมือ คอสติสไม่ใช่คนโกหกที่เข้าไปช่วยฆ่ามือสังหารแล้วยกเครดิตให้ แต่เจ็นทำได้ด้วยตัวเอง เขาอยากให้เพื่อนๆทหารราชองครักษ์ของเขาได้เห็นอย่างที่เขาเห็น คอสติสแน่ใจว่าหากพวกเขาได้รู้จักเนื้อแท้ของยูเจนิดิสแล้ว พวกเขาจะรักและเคารพเจ็นอย่างที่เขาเป็นอยู่
ในตอนเช้าคอสติสปลื้มที่เจ็นไม่ได้ใช้ตนแล้วทิ้งแต่ทำไปเพื่อปกป้องตนให้พ้นจากพวกขุนนางชั่ว ขณะฟันดาบกันนั้นเองคอสติสถึงรู้ว่าเจ็นฟันดาบเก่งมาก แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อมขั้นพื้นฐานอยู่เสมอตลอดเวลาที่ซ้อมฟันดาบกับคอสติส คอสติสบอกเรื่องที่เขาเสียหายเพราะถูกคนอื่นมองว่าโกหกให้เจ็นดูดี เจ็นเลยแสดงออกให้คนอื่นเห็นเลยว่ามีฝีมือ รุกไล่คู่ซ้อมแพ้ไปหลายครั้ง จนสุดท้าย คอสติส ต้องยอมแพ้ทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่
ส่วนเทเลอัสที่ติดหนี้บุญคุณที่เจ็นขอชีวิตให้ก็มาท้าเจ็นบ้าง เจ็นจะไม่สู้เพราะสู้ไปคนอื่นก็จะคิดว่าเทเลอัสอ่อนข้อให้อยู่ดี แต่ถูกเทเลอัสยั่วว่ากษัตริย์ตัดหัวเขาได้ด้วยคำสั่งเท่านั้นแหละ ทำเอาเจ็นของขึ้น บอกเงื่อนไขว่าถ้าเขาชนะ หัวหน้าราชองครักษ์ต้องยอมลดลูกน้องลงครึ่งนึง เทเลอัสยอมตายดีกว่าทำเช่นนั้น แต่สุดท้ายเจ็นใช้ดาบไม้ฟันคอเทเลอัสจนร่วงผล็อยลงไปได้ แล้วบอกความจริงว่าปู่ของเขา กษัตริย์องค์ก่อนๆของเอ็ดดิสนี่แหละเคยฆ่าคนด้วยดาบไม้มาแล้ว
เจ็นให้คอสติสถือน้ำแข็งประคบคอให้เทเลอัสแล้วไปสู้กับหมู่องครักษ์ที่เหลือทั้งหมดแล้วยื่นเงื่อนไขเดียวกัน ซึ่งมีคนนึงเป็นฝ่ายที่มาลอบฆ่า เจ็นก็ใช้มือเปล่าด้วยเทคนิคอันล้ำเลิศผสมกับการฝึกปรืออย่างหนักเอาชนะจนได้ ท่ามกลางหมู่ขุนนาง พระราชินี และทูตออร์นอนที่เฝ้าดู ฉากนี้เป็นฉากแสดงความไม่ยอมแพ้ง่ายๆของเจ็น เขาใจสู้มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ออร์นอนนับถือว่าถึงเจ็นจะแพ้ จะล้มเหลวมาหลายครั้ง เขาก็ไม่ยอมล้มเลิกง่ายๆแต่จะพากเพียรพยายามต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆนานาจนชนะไปในที่สุด
-ฉากสุดท้ายในโรงอาบน้ำรวม ห้องซาวน่าของทหารราชองครักษ์ก็สมกับการเปิดเผยตัวตนจริงๆ เพราะเป็นการคุยกันแบบลูกผู้ชายเปลือยๆของเจ็นกับเทเลอัส และทหารทั้งกอง เจ็นคุยอย่างเปิดใจกับหัวหน้ากองทหาร
"แผลเป็นและรอยฟกช้ำที่เห็นบนพระวรกาย
นี่เป็นเพราะพวกเราหรือพ่ะย่ะค่ะ" ทหารใจกล้านามโฟคิสถามขึ้น
"ข้านึกว่ามีแต่หมาที่กัดข้านะ โฟคิส เจ้าก็ด้วยเหรอ"
เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ
เจ็นเล่าถึงสาเหตุที่ต้องพยามยามเปลี่ยนใจเทเลอัส สาเหตุที่ต้องลดทหารองครักษ์เพราะองครักษ์มากเกินไปจะดูแลยาก มีโอกาสถูกทรยศสูง เกลือจะเป็นหนอนแล้วเป็นอันตรายซะเอง
"ยากที่เราจะมอบความภักดีให้กับคนที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนให้เห็นเลย" เทเลอัสสบพระเนตรองค์กษัตริย์ตรงๆ
เจ็นเสมองไปทางอื่น ก่อนเอ่ยว่า "สำหรับสิ่งที่ข้าทำลงไปและทำได้ไม่ดีนัก ข้าขอโทษ"
"ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ เพราะในที่สุดพระองค์ก็ได้เปิดเผยตัวตนให้เห็นแล้ว" เทเลอัสปรายตามองพระวรกายกษัตริย์ที่ปราศจากสิ่งปกปิด
"นั่นอารมณ์ขันของเจ้าเรอะ เทเลอัส" ยูเจนิดิสถามยิ้มๆ
ก่อนจะเผยไต๋อีกอย่างว่าแผนเอาคอสติสมาใช้ส่วนตัว ก็คือแผนเปลี่ยนใจเทเลอัส
"ทำไมความคิดเห็นของกระหม่อมถึงสำคัญนัก พระองค์ตัดสินใจเอาเองสิ ในเมื่อพระองค์เป็นกษัตริย์"
"สำคัญสิ เทเลอัส เจ้าเห็นข้าเป็นกษัตริย์รึเปล่า"
"เป็น พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นข้าลดทหารองครักษ์ได้ไหม"
"ได้ พ่ะย่ะค่ะ"
ก่อนที่เจ็นจะอธิบายว่าการดึงมีดออกจากมือศัตรูนั้นเขาฝึกกับดาบไม้และทำได้กับดาบจริงด้วย เห็นได้จากรอยแผลเป็นที่เกิดจากมือสังหาร ทำเอาเทเลอัสยอมรับเจ็นหมดใจ
"กระหม่อมไม่รู้จะพูดยังไงดี"
"ก็พูดว่าข้าไม่ต้องระวังหลังตัวเองอีกต่อไป"
"กระหม่อมจะถวายความปลอดภัยตราบลมหายใจสุดท้าย"
"ระวังหลังให้ข้าเถิดเทเลอัส แล้วข้าจะดูแลนางให้ปลอดภัยเอง"
ทหารคนอื่นในกองพากันสรรเสริญกษัตริย์ด้วยถ้อยคำโบราณ
"บาซิเลอัส" แต่เทเลอัสมองว่า ยูเจนิดิสไม่ได้เป็นแค่นั้น เขาจะกลายเป็น "แอนนักซ์" ราชาแห่งราชันต่อไปในภายภาคหน้าด้วย คอสติสมองด้วยความยินดี
ไม่ทำเล่มหนุ่มสตอล์กเกอร์จีบเจ๊โหดบ้างหรือคะ *ตาวิบวับ*