เมื่อเธอรักตัวเองเธอจะรักการอ่าน เมื่อเธอรักคนอื่น เธอจะรักการเขียน – เป้ สีน้ำ ...
Group Blog
 
<<
เมษายน 2564
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 เมษายน 2564
 
All Blogs
 
Return of the Thief (Queen's Thief Book 6) การกลับมาของจอมโจร2

           


                  หลังจากลองไปอ่านเสียงรีวิวตามต่างประเทศมาบ้างก็ค่อนข้างพอใช้แต่ไม่ได้ดีเลิศเลอเท่าไหร่ ค่อนข้างเห็นด้วยว่า เล่ม 1-3 พีคสุดแล้ว ความจริงจอมโจรแห่งองค์ราชินีก็ตำแหน่งสายลับส่วนตัวดีๆนี่เอง   อีกอย่างที่คนติคือพฤติกรรมเจ็น แทนที่จะโตมากขึ้น บางทีก็วู่วามเกินไปหน่อย   คนที่ตายก็ตายเพื่อ...ให้มีคนตายเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบหรือเป็นจุดเปลี่ยน  มีชื่อหลายชื่อเข้ามาเยอะเกินจนต้องทำสารบบไว้ด้านหลัง  ส่วนเรื่องภูเขาไฟเอ็ดดิสเหมือนจะยังไม่ระเบิด ช่วงท้ายเรื่องเอ็ดดิสฝันไป พอตื่นมาในเเอตโทเลียกลับรู้สึกถึงแผ่นดินไหว  สำหรับใครอยากรู้ เรื่องย่อ  ช่วงนี้ก็ยังหาเวลาอ่านการกลับมาของจอมโจรอีกรอบไม่ได้ ถ้าอ่านซ้ำอาจจะเป็นเดือนแหงๆ เลยยก    ช่วงที่อ่านแล้วชอบใจมาก่อนละกัน เป็นพวกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย


 
 

            ช่วงแรกครื้นเครงทีเดียว  เจ็นดื่มเหล้าร้องเพลงแซวเมียตัวเอง แล้วก็แซวเอ็ดดิส จนโซฟอสหมั้นไส้ราดน้ำใส่จากชั้นบน  เจ็นโกรธเลยปืนขึ้นไปหาโซฟอส จะเอาเรื่องลากโซฟอสลงมา เดือดร้อนเอ็ดดิส แอตโทเลียต้องมาดึงโซฟอส ดึงเจ็นเข้ามาจากหน้าต่าง


 
 
         
              แฟนอาร์ตสำหรับเฟอริส ผู้เล่าเรื่องในเล่มนี้และมิตรภาพที่คาเม็ตช่วยสอนหนังสือให้  เฟอริสเคยมีลุงที่พิการซ้ำซ้อนชื่อเหมือนตัวเองแล้วฉลาดมาก เล่นหมากรุกชนะพ่อคือบารอนเอรอนไดทิส    ทำให้พ่อยิ่งอับอายเอาหมอนอุดปากฆ่าตาย  คนใช้ที่เลี้ยงเลยสอนให้เฟอริสแกล้งโง่จะได้รอด  


 

              ในวันที่เจ็นได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์เหนือสามดินแดน โซฟอส เลือกม้าสีขาวปลอดตัวสวยให้เป็นของขวัญเพื่อเอาให้เจ็นฝึกขี่ มันได้ชื่อว่า ฟริสต์ ตามเทพฤดูหนาว  ฟริสต์เป็นม้าที่เชื่องมาก  โซฟอสยืนยันว่าราวกับโซฟาต่อขาเลยทีเดียว เพื่อให้เจ็นที่เคยตกม้าขาหักตอนเด็กๆเลยไม่ชอบการขี้ม้าไปเลย จะขี่เป็นได้ง่ายขึ้น

แอตโทเลีย "บนหลังม้านั่น ท่านจะดูงามสง่าสมเป็นกษัตริย์"

เจ็น " ข้าอาจจะต้องเป็นกษัตริย์ แต่ข้าไม่จำเป็นต้องดูเหมือนกษัตริย์"

 ที่ยากคือเจ็นต้องหัดขี่ม้ามือเดียว แถมความเชื่องของม้าทำให้มันนิสัยเสียไม่ยอมโดดข้ามอะไรสูงๆ  ต่อให้ควบมาเร็วๆแล้วกระตุ้นก็ตาม พอมีมีรั้วหรือมีอะไรขวางก็หยุดกึก ส่งเจ็นลอยละลิ่วหัวทิ่มโคลน 

"ข้าว่าอะไรบางอย่างของข้าต้องพังทลายไปแล้วแน่ๆ"
เจ็นโผเผลุกขึ้นมาในรอบแรก

"ไม่เจ็บที่สำคัญหรอกมั้ง ข้าแน่ใจ"
แอตโทเลียกล่าวเมื่อเห็นเจ็นยังลุกขึ้นมาเองได้

"ศักดิ์ศรีของข้า" เจ็นคำราม

แอตโทเลียหัวเราะ

ครั้งต่อมาก็เช่นกัน  แต่คราวนี้เจ็นพุ่งสูงกว่าเดิม ลอยตัว ลงมายืนได้อย่างสง่างาม  เพราะเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว




              เมื่อพวกขุนนางชั้นสูงบีบบังคับให้เจ็นยอมขอโทษ ที่พยายามฆ่าทูตอีกเมืองที่แอบมาขโมยจูบราชินี   บารอนซูซาขู่ให้ยอมเพราะราชาก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าชนชั้นสูงรวมหัวกันต่อต้านบีบบังคับ  เจ็นเลยเอานิ้วกัดแหวนตราออก แล้วบอกให้ไปหาราชาคนอื่นเถอะ  

มหาดเล็กลนลาน เมื่อเจ็นกลับมาห้อง กำลังเก็บข้าวของ "องค์ราชา...." 

"ไม่ใช่ราชาแล้ว  ฝ่าบาทอาจจะใช่  ข้าก็แค่จอมโจรไกลบ้าน  เอ๊ะหรือว่าเจ้าชาย.... เจ้าชายคู่สมรส ไม่เคยมีใครเรียกข้าแบบนั้นเหมือนกัน" 

เจ็นหลบไปอ่านหนังสือ   พวกขุนนางเลยร้อนใจกันใหญ่ ไปหาราชินีก็บอกว่า ถ้ากษัตริย์ไม่ยอมเป็นกษัตริย์ นางก็จะไม่เป็นราชินี ถอดแหวนแล้ววางไว้เลย  เดือดร้อนซูซาต้องเอาแหวนมาง้อ ถ้าไม่เอาเจ็นก็จะได้บารอนเอรอนไดทิสไปแทนซึ่งขุนนางเกลียดเขามากกว่าอีก

ในเล่มนี้ก็เฉลยแล้วว่าเจ็นคุยอะไรกับราชินีในคืนวันแต่งงาน นั่นคือเขาชวนนางหนีตามกันไปยังหมู่เกาะอิสระ  เจ็นคาดไม่ถึงว่าคนที่เคร่งขรึมอย่างภรรยาเขาจะยอมลงจากตำแหน่งราชินีติดตามเขาไปด้วย ทำเอาเขาซึ้งมาก "โยนความระมัดระวังทิ้งไปในสายลมเถอะ" นางบอกอย่างไม่เกรงกลัว 



เช้าวันหนึ่ง ระหว่างที่มหาดเล็กแต่งตัวให้  อิออนบอกว่าถ้าเจ็นไว้ผมยาวกว่านี้อีกหน่อยจะหล่อเลย

 "ไหนบอกวิธีถักเปียด้วยมือข้างเดียวมาสิ
แล้วข้าจะไว้ผมยาวถึงเข่าเลย" เจ็นเหน็บ

 อิออนหน้าเสีย  

ราชครูเข้ามาไกล่เกลี่ยแล้วถาม "เจ้ายังคิดถึงมือที่เสียไปอยู่หรือ"

 "ถ้าไม่เสียมือ ข้าคงเป็นอีกคนที่ต่างออกไป ขอให้ได้แขนคืนคงเหมือนขอให้คนที่ข้ากำลังเป็นอยู่กลายเป็นคนแปลกหน้า ขอให้ตัวตนของข้าหายไป ใครจะขอเช่นนั้นล่ะ"

  เจ็นรู้สึกตัวเลยขอโทษอิออน 

"พระองค์ดูเงียบๆนะเช้านี้ แล้วก็กลายเป็นคนว่าง่ายอีก ไม่สบายรึเปล่าพ่ะย่ะค่ะ" อิออน ถลามาขวางทางเจ็น

"นี่ข้าไม่เคยเงียบหรือรับฟังคำแนะนำจากคนอื่นเลย ยกเว้นตอนใกล้ตายสินะ ขอบคุณสำหรับการกล่าวหากันแบบนั้น ไม่ ข้าไม่ได้ป่วย"


เจ็นแค่เครียดเพราะต้องไปดวลด้วยพิธีศักดิ์สิทธิ์ของเอ็ดดิสเพื่อพิสูจน์ผู้เป็นราชา(ยังกะ black panther)ว่าจะสู้สุดฝีมือกับคนหนุ่ม สิบสองคน คนแก่หนึ่งคน  ไม่จำเป็นต้องชนะหมด แค่ให้เห็นฝีมือ  เจ็นก็ดวลชนะมากกว่าแพ้ คนสุดท้ายปกติจะเป็นครูที่สอนดาบให้ ตอนแรกนึกว่าออร์นอน ทูตของเอ็ดดิส แต่กลับเป็นพ่อตัวเอง ก็สูสีกัน คนที่สู้มาสิบกว่าคน เหนื่อยกว่าอยู่แล้ว  ขนาดล้มลงไปนอนแล้วก็ยังจะสู้เพราะกลัวคนอื่นจะห้ามไม่ให้สู้จริงๆในสงคราม จนพ่อต้องบอก พอได้แล้ว  และสุดท้ายก็อุ้มเจ็นเข้าวัง


              ในวันที่อากาศร้อนเจ็นถอดเสื้อ ราชินีถามว่าทำไมไม่มีลายสักอย่างชาวเอ็ดดิสคนอื่น  เจ็นบอกว่าจะได้มาอันนึงที่แขนท่อนล่างตอนเข้าโรงเรียนฝึกหัด อีกอันที่ไหล่ตอนฆ่าคนคนแรกได้ (เอ็ดดิสนี่มันสปาร์ต้ารึเปล่าเนี่ย) แต่พวกจอมโจรจะไม่สักกันเพราะจะได้ปลอมตัวเป็นชาวเมืองอื่นได้ง่ายๆและไม่ต้องการการแสดงออกแบบคนอื่น  ในอดีตมีคนที่อายุเป็นสองเท่าของเจ็น มารังแกหักกระดูกเจ็น  ตาของเจ็นที่เป็นจอมโจรมาพบเข้าเลยให้เจ็นฆ่าเขาด้วยตัวเอง  ตั้งแต่ยังไม่จบจากโรงเรียนฝึกหัด ทำให้เจ็นเองก็ไม่อยากสักเพื่อย้ำเตือนความจำ



 


              วันเคลื่อนขบวนทัพ เจ็นชอบเสื้อผ้าหรูๆอู้ฟู่อยู่แล้ว
คนอื่นเห็นจะได้ประมาท แต่ชุดที่ใส่ขี่ม้ายิ่งดูอลังการงานสร้าง
แอตโทเลียมาเห็นเข้าทั้งชุดทั้งหมวกดูเหมือนนกจริงๆ
อ่านแล้วตลกคู่นี้ 


 

            ระหว่างสงครามเจ็นไปเยี่ยมแม่ทัพนายกอง โดยแต่งตัวธรรมดาไปเพราะอากาศหนาวเลยใส่เสื้อตัวใหญ่คลุม จนไม่มีใครเห็นตะขอที่มือขวา  ทหารรอบนอกเป็นพวกชาวบ้านที่มารบ ไม่เคยเห็นหน้าราชามาก่อน  เห็นเด็กหนุ่มเดินมากับเพื่อนก็คิดว่าเป็นพวกติดตามกองทัพทั่วๆไปเลยเชิญมาดื่มไวน์แก้หนาวรอบกองไฟด้วย

 ชาวบ้านแอตโทเลียพวกนี้อยู่ในวัยฉกรรจ์ไม่ก็กลางคน เคยผ่านการรบมาแล้วจึงไม่ได้กลัวสงคราม แม้ว่าการรบที่ผ่านมากองทัพมีดส์จะเหนือกว่าพวกเขาก็ไม่ได้ท้อถอย  "เมื่อไม่มีสงครามก็ไม่มีวีรบุรุษ" พวกเขาบอกเช่นนั้น

"นั่นไม่ดีหรอกรึ" เจ็นชวนคุย

"นั่นเป็นคำถามของอิสตรี"  ชาวบ้านคนนึงให้ความเห็น

"งั้นเมียข้าก็คงจะตอบได้"  เจ็นบอกอย่างซื่อๆ

"จะบอกอะไรให้อย่างนะ ไอ้หนุ่ม อย่าไปฟังเมียเจ้า"  เสียงหัวเราะรอบวงดังสนั่นหวั่นไหว   มหาดเล็กของเจ็นคันปากอยากจะท้วง แต่เจ็นห้ามเพราะชาวบ้านพวกนี้ไม่รู้จักตัวตนจริงของเขาเลย ย่อมไม่ได้อยากดูหมิ่นราชินี


"เมื่อกลับบ้านมาเห็นลูกเมียสบายดีเพราะเจ้าปกป้องพวกเขาไว้ ความรู้สึกนั้นไม่มีอะไรเทียบได้ จากนั้นแล้ว...เจ้าก็จะสาบาน ไม่มีวันกลับไปรบอีกแล้ว...แต่ใครจะหลับลงเมื่อพวกมีดส์กำลังมา อีกสิบปีจากนี้ใครจะบอกว่า วันนั้นข้าได้งีบหลับสบาย  ไม่มีใครจำการงีบหลับนั้นได้หรอก เขาจะจดจำว่า พรุ่งนี้เราจะสู้.....เพื่อบ้านและครอบครัวของเรา"  ชาวบ้านผ่านศึกคนหนึ่งร่ายยาวจากใจ

"ไม่ใช่ข้าแน่"  เจ็นเอ่ยอย่างเสียดาย

"ก็นะ เราคงสู้รบกันไม่ได้หรอกถ้าไม่ได้เจ้าช่วย ไอ้ลูกชาย"  พวกทหารคิดว่าร่างผอมบางอย่างเจ็นเป็นคนครัว เลยปลอบใจ

"ไม่มีใครสู้ไหวหรอกถ้าไม่มีคนทำอาหารให้กิน"  อีกคนเห็นด้วย

"ข้าอยากจะไปรบ แต่...เมียข้าไม่ยอมให้ข้าไป"  เจ็นบอกเสียงอ่อย

"ข้าบอกแล้ว ว่าอย่าไปฟังเมีย"  ชายคนนั้นย้ำ   ก่อนเสียงหัวเราะจะดังอีกครั้ง
ทหารคนนั้นเลยใหถุงมือเจ็น บอกว่าถ้าได้ออกรบแล้วกลับมาได้ให้นำมาคืน จะให้กินไวน์เพิ่มเป็นสามเท่าเลย  แล้วเจ็นก็ออกรบจนเอาถุงมือไปคืนเขาจนได้


         อันที่จริงเล่มนี้ตัดจบแค่ที่เปิดศึกก็ได้  เพราะส่วนสงครามกินที่แค่หนึ่งในสามเอง ไม่ค่อยสมกับที่รอคอยมาหลายเล่ม(กินเวลาจริง 20 ปี)  สู้ตัดไปเขียนเป็นเล่มเจ็ดแบบเต็มที่น่าจะสนุกกว่า   การจบมันขาดความหนักแน่นหรือซาบซึ้งในแบบที่เล่ม1-3 จบลงแบบตราตรึง 4-6 จบแบบเบาๆมากกว่า แต่ก็นะ ต้องตามใจคนเขียน แค่มีให้อ่านมาขนาดนี้ก็ดีใจเเล้ว18



Create Date : 08 เมษายน 2564
Last Update : 8 เมษายน 2564 0:32:25 น. 0 comments
Counter : 1509 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2412014
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2412014's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.