นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นมาได้ก็เพราะคนที่ทำผิดกฎหมายใช่หรือไม่"
เซอร์ไพรส์ค่อนรุ่งขึ้นวันใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ถือจังหวะช่วงท้ายการประชุมร่วม 2 สภา เพื่อหาทางยุติวิกฤติม็อบเสื้อแดง
ประกาศเพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อประโยชน์ ทางการเมือง ก็จะแสดงความจริงใจด้วยการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในวันที่ 24 เมษายนนี้
เหนือการคาดหมาย ไม่มีสัญญาณใดๆ
และโดยน้ำเสียงที่พยายามสื่อถึงความจริงใจ "อภิสิทธิ์" ประกาศรับได้ทุกแนวทาง ที่ดำเนินการแล้วทำให้การเมืองลดความขัดแย้ง สามารถมีกติกาใหม่ และจะให้ยุบสภาก็ยินดี
ในอารมณ์ของคนเป็นผู้นำที่ "พร้อมรับผิดชอบ"
ทั้งหมดทั้งปวง โดยภาพที่ปรากฏทางจอทีวีระหว่างการถ่ายทอดสดการอภิปรายตลอดทั้งวัน กล้องจับไปที่นายกฯอภิสิทธิ์ที่นั่งจ้องจอมอนิเตอร์ส่วนตัวบนบัลลังก์ ในขณะที่ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย นำคลิปวีดิโอการสลายผู้ชุมนุมม็อบเสื้อแดงบางช่วงฉายกลางสภา โดยเฉพาะช็อตที่ทหาร 10 กว่านายรุมเตะ ถีบชายเสื้อแดงคนเดียว
"อภิสิทธิ์" คิ้วขมวด ถอนหายใจ
ยังไม่นับเรื่องบังเอิญที่พลทหารรับใช้บ้านพักของแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ตายปริศนา คล้อยหลังจากวันที่นายกฯอภิสิทธิ์ และ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ไปอาศัยพักในช่วงม็อบเสื้อแดงกำลังอาละวาด
โดยข้อมูลที่ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยอ้างเหตุเชื่อมโยงว่า ก่อนตายพลทหารคนดังกล่าวได้ส่งเอสเอ็มเอสไปบอกแม่ที่อีสานว่า นายกฯอภิสิทธิ์แวบมาหลบที่บ้านนาย
และก็เป็น "เทพเทือก" ที่ลุกขึ้นเคลียร์ว่า พลทหารที่ตายช่วงที่นายกฯกับตนเองไปนอนพักที่บ้านแม่ทัพภาค 1 เพราะลื่นล้มในห้องน้ำ และเสียชีวิตในวันถัดมา
"อภิสิทธิ์" น่าจะไม่ได้รับรายงานเรื่องบังเอิญแบบนี้มาก่อน
นายกฯยังขมวดคิ้ว
ฉะนั้น ก็ต้องยอมรับ เวทีอภิปรายร่วม 2 สภา ถือว่าเข้าทางฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ที่ได้โอกาสเสนอข้อมูลอีกด้านที่สังคมไม่เคยได้เห็นได้ฟังจากฟรีทีวีในสังกัดของทหารและรัฐบาล สื่อส่วนใหญ่ที่อัดข้อมูลสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายรัฐ
ยัดเฉพาะ "ภาพผู้ร้าย" ให้คนเสื้อแดง
ขัดแย้งกับความจริงที่รู้กันอยู่แก่ใจ ไม่ว่าจะโฆษณาชวนเชื่อ ปันกระแสความชอบธรรมกันยังไง
วิกฤติความแตกแยกก็ไม่มีทางจบด้วยการใช้อำนาจรัฐปราบ ปรามประชาชน
ยิ่งกดหัว ปิดหู ปิดตา ก็ยิ่งเร่งปฏิกิริยา "ระเบิด"
และก็เป็นอะไรที่สังเกตได้ตลอด 2 วัน คนที่นายกฯอภิสิทธิ์ตั้งใจฟังเป็นพิเศษก็คือช่วงของผู้อาวุโสอย่าง ?ป๋าเหนาะ? นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ต้องยกเครดิตให้เป็นคนที่พูดได้ดีที่สุดในเวทีประชุมร่วม 2 สภา รอบนี้
อภิปรายได้ดีที่สุดในชีวิตทางการเมืองเลยก็ว่าได้
"ป๋าเหนาะ" ถอดใจยอมรับเลยว่า มูลเหตุที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองตนเองก็มีส่วนสร้างขึ้นมา ตั้งแต่เข้าร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ที่สุดไม่รู้มีอะไรมาดลใจ หลงอำนาจ ใช้อำนาจในทางไม่ค่อยโปร่งใส ผู้หลักผู้ใหญ่เตือนก็ไม่ฟัง
จึงไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งตอนนั้นถือว่ามีเหตุผล แต่หลังการยึดอำนาจ 19 กันยาฯ เราได้รัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชน แต่ก็มีการปลุกระดมอ้างพ่ออ้างแม่ ทั้งที่ควรจะใช้ให้ถูกให้ควร แต่นี่ปลุกระดมคนให้ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน
พรรคประชาธิปัตย์มีจุดอ่อนคือนายกฯอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค แต่กลับปล่อยให้สมาชิกพรรคไปเป็นแกนนำปลุกระดมสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง อย่าได้ปฏิเสธความจริง มีการทำสารพัดอย่าง ทำให้เกิดการใช้อำนาจของสถาบันหลัก จนพังพินาศหมด ซึ่งการแย่งชิงให้ได้อำนาจมาด้วยการหักดิบมันไม่มีอะไรจีรัง
หากยังไม่หันหน้าเข้าหากันก็อย่าหวังว่าจะได้ความสงบสุขกลับคืนมา เพราะมันร้าวลึก เราอยากเห็นบ้านเมืองแตกแยกแบ่งประเทศเหมือนเขมร เกาหลี เวียดนามหรือ ที่ผ่านมาพูดอะไรไม่เคยผิด วันนี้ขอพูดอย่างสร้างสรรค์ ในฐานะผู้อาวุโส เป็นผู้เฒ่าที่รับผิดชอบบ้านเมือง
"อยากขอร้องนายกฯที่เป็นคนหนุ่ม เป็นอนาคตทางการเมืองของไทย ขอให้ไปไตร่ตรองที่มาของท่าน คำก็กฎหมาย สองคำก็ต้องทำตามกฎหมาย แต่ต้องยอมรับว่าได้ขึ้นมาก็เพราะคนที่ทำผิดกฎหมายใช่หรือไม่"
นี่ยังไง "ไดโนเสาร์" เล่นเอาสะอึกก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ไทยรัฐออนไลน์โดย ทีมข่าวการเมือง 25 เมษายน 2552, 06:13 น. tags:
Create Date : 26 เมษายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2552 1:47:45 น. |
Counter : 542 Pageviews. |
|
|
|
เม้นไม่ถูกเลย