ไม่ต้องกู้ อยู่แบบพอเพียง

กรณ์แจงศาลรธน. เหตุกู้ด่วน ไม่รีบหนักกว่านี้
Pic_8586

นายกรณ์ จาติกวณิช

รม ว.คลัง ในฐานะผู้แทนนายกฯ เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีออกพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน ระบุหากไม่ผ่านเศรษฐกิจจะหนักกว่านี้ ผู้ประกอบการจะขาดทุน สายป่านจะขาด เกิดการลดการผลิต ลดการจ้างงาน จนถึงขั้นปิดกิจการ

วันนี้ (26 พ.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของส.ส. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 กรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ พ.ศ.2552 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 หรือ วรรค 2 หรือไม่ว่า ขณะนี้ประเทศประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจเนื่องจากรับผลกระทบเศรษฐกิจโลก และวิกฤตการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2551 มูลค่าการส่งออกหดตัวลง รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง ธุรกิจปิดกิจการเพิ่มขึ้น การว่างงานเพิ่มขึ้น หนี้เสียก็เพิ่มขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากเดิม 3 ไตรมาสแรกของปี 2551 บวกร้อยละ 5.1 แต่เมื่อถึงไตรมาสที่ 4 กลับหดตัวลงเหลือร้อยละ 4.2 และในไตรมาสแรกของปี 2552 ก็หดตัวลงถึงร้อยละ 7.1

“ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องดำเนินมาตรการแก้เศรษฐกิจทั้งช่วยเหลือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ การใช้มาตรการทางภาษี การช่วยสภาพคล่องทางการเงินของภาคการผลิต ช่วยเกษตรกรฐานราก ลดภาระค่าใช้จ่าย ทำงบประมาณปี 2552 เพิ่มเติม 1.16 แสนล้าน แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น และยังมีปัญหาจากการไม่สามารถจัดประชุมอาเซียนได้ และผลกระทบจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ทำให้จีดีพีหดตัวลงร้อยละ 5.1 รัฐบาลจึงมีมาตรการไทยเข้มแข็งขึ้น โดยเน้นการลงทุน เพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจ คิดเป็นวงเงิน1.43 ล้านล้าน และคาดว่าจะเกิดการจ้างงาน 4-5 แสนคน” นายกรณ์ กล่าว

สำหรับการลงทุน ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งจะเบิกจ่ายตั้งแต่ปี 52-53 นายกรณ์ กล่าวว่า ยังขาดอีกประมาณ 2.3 แสนล้าน ดังนั้นเราต้องมีอำนาจกู้เงินด่วนเพื่อดำเนินโครงการ หากไม่รีบเศรษฐกิจจะหนักกว่านี้ ผู้ประกอบการจะขาดทุน สายป่านจะขาด เกิดการลดการผลิต ลดการจ้างงาน และปิดกิจการ เป็นปัญหาสังคม และยังจะมีหนี้เสียเพิ่มขึ้นส่งผลต่อปัญหาของประเทศ และการแก้ยากกว่าการป้องกันไม่ให้เกิด การใช้จ่ายภาครัฐจึงมีความจำเป็น การขึ้นภาษี หรือการขายทรัพย์สินของรัฐไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม เราจึงต้องดำเนินการก่อนที่ปัญหาเศรษฐกิจจะลุกลามใหญ่โตไปสู่ภาคอื่นๆ และการชะลอการลงทุน กลับจะเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ และหากจะออก พ.ร.ก.แก้ไขเพดานหนี้สาธารณะก็จะส่งผลให้เสียวินัยการเงินอย่างถาวร

รม ว.คลัง ยืนยันว่าการออกพ.ร.ก.ครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 และพ.ร.บวิธีพิจารณางบประมาณมาตรา 23 วรรคหนึ่งและมาตรา 24 วรรคหนึ่ง นอกจากนี้เรามีนโยบายกู้เงินในประเทศอีก 9.4 หมื่นล้าน จึงไม่เข้าข่ายการทำสัญญากับต่างประเทศที่ต้องรายงานสภาตามมาตรา 190
ไทยรัฐออนไลน์

* โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
* 26 พฤษภาคม 2552, 14:34 น.

tags:
กรณ์ จาติกวณิช,พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้าน,ศาลรัฐธรรมนูญ





 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2552
0 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2552 16:48:45 น.
Counter : 353 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Stjerne Ng
Location :
Sandefjord Norway

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




User Online

16_When you believ...

..ขอบคุณโค๊ดแต่งบล๊อกจากบล๊อกเพื่อนๆ ค่ะ..

Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Stjerne Ng's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.