Bloggang.com : Stjerne Ng : เติมเต็มศักดิ์ศรี “มนุษย์”

เติมเต็มศักดิ์ศรี “มนุษย์”

แม้ผลสำรวจความพึงพอใจของคนไทยต่อโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่ในอดีตเรียกว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะระบุว่า มีสูงถึง 80%

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประ-เทศไทย ยังมีระยะทางอีกยาวไกล และต้องพัฒนาระบบให้มีความสมบูรณ์อีกมาก

นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2545 ที่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีผลบังคับใช้ จนถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปีเต็ม ที่ระบบการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่ง คุณหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาธิการ สปสช. เคยบอกว่า เป็นระบบของการ “เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข” ในสังคม คนมีช่วยคนจน คนที่ไม่ป่วยช่วยคนที่ป่วย เป็นสัญลักษณ์ของการช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ใช่อยู่อย่างตัวใครตัวมัน

ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามที่จะทำให้ “คนไทย” ทุกคนได้เข้าถึงบริการสุขภาพ

“บัตรทอง” บัตรใบเล็กๆ ที่เมื่อถือไปรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลซึ่งมีชื่อระบุอยู่ในบัตรประชาชน จะได้รับบริการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลว่า ถ้าต้องผ่าตัดหัวใจจะเอาเงินที่ไหนมารักษา จะต้องขายวัว ขายควายสักกี่ตัว ขายที่นากันกี่ไร่ ถึงจะยื้อชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บไว้ได้

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. บอกว่า ทุกวันนี้ คนไทยรู้จักและเข้าใจการมี “สิทธิ” ตามบัตรทองเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีประชาชนถือ “บัตรทอง” ที่มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพประมาณ 47.02 ล้านคน จากจำนวนประชากร 63 ล้านคน

เกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ!

“เป้าหมายหลักของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของประชาชนทุกคน ถ้าให้ดีขึ้นไปอีก ก็คือ เป็นบริการที่มีคุณภาพ โดยคำนึงถึงคุณค่าและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 ปีจนก้าวสู่ปีที่ 7 สปสช.ได้พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ปฏิรูประบบการบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้ให้บริการสามารถให้บริการอย่างมีความสุข และตอบสนองความต้องการของประชาชนมาโดยตลอด” คุณหมอวินัย อธิบายให้ฟัง พร้อมกับเล่าเพิ่มเติมว่า

รูปแบบหนึ่งที่พยายามดำเนินการ คือ การพัฒนาระบบบริการใกล้บ้าน ใกล้ใจ ในรูปแบบของศูนย์แพทย์ชุมชน ซึ่งในอนาคตจะรวมถึงการผลักดันให้เกิด “กองทุนสุขภาพระดับท้องถิ่นเพื่อลดภาระโรค” เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการไปสู่ชนบท ลดภาระงานใน รพ.ใหญ่

ปัจจุบันนี้ “บัตรทอง” ใบเดียว สามารถใช้บริการตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย เพราะครอบคลุม ตั้งแต่ค่าตรวจครรภ์ ทำคลอด ไปจนถึงการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย และจิตใจ ที่ครอบคลุมการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ จนสิ้นสุดการรักษา

ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยเอดส์!

เพราะเมื่อปี 2549 สปสช.ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยโรคเอดส์อย่างครบวงจร ไว้ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการพัฒนาระบบบริหารจัดการผู้ป่วยด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ปี 2550 เพิ่มสิทธิการรักษาครอบคลุมการรักษาผู้ป่วยวัณโรค หรือแม้แต่การจัดบริการแพทย์แผนไทย โดยการนวด ถ้าเป็นไปเพื่อการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสภาพ ก็สามารถเบิกจ่ายกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพได้ และล่าสุด ปี 2551 ได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์เรื่อง ของการให้บริการทดแทนไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ

และในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งเป็นปีที่ 7 ของการมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า สปสช.ได้รับงบประมาณสนับสนุน 80,232 ล้านบาท เป็นเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ และงบบริหารจัดการ 945 ล้านบาท

โดยประชาชนผู้ถือบัตรทอง จะมีหลักประกันเป็นงบรายหัวต่อปี คนละ 2,202 บาท เพิ่มจาก 1,202 บาทในปีแรกที่เริ่มโครงการฯ ถือว่าเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 100% ซึ่งก็จะทำให้สปสช.สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ จากบริการทางการแพทย์ที่เหมาะสมได้ พัฒนาระบบบริการให้ครอบคลุมภาระโรคต่างๆ มากขึ้น เช่น การดูแลการบริการที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคหัวใจ เพื่อไม่ให้ครัวเรือนประสบปัญหาเศรษฐกิจ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ติดเชื้อ HIV, การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เป็นต้น

ทีมข่าวสาธารณสุข มองว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา กระบวนการสร้างหลักประกันสุขภาพที่เคยมีคนมองว่าเป็นเรื่องที่ยาก และเปรียบเปรยว่าเหมือนสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา สามารถเกิดขึ้นแล้วในสังคมไทย

และแม้ในอนาคตอาจยังมีภูเขาอีกหลายลูกในงานสร้างหลักประกันสุขภาพที่ต้องช่วยกันเขยื้อน แต่เราเชื่อแน่ว่า หากประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมที่จะพัฒนาระบบด้วยกันแล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะบรรลุเป้าหมายของการสร้างหลักประกันสุขภาพ

คนไทยทุกคนเมื่อป่วยต้องได้รักษา

เมื่อถึงเวลาตาย ก็มีสิทธิที่จะตายอย่างไม่ไร้ศักดิ์ศรี.

ทีมข่าวสาธารณสุข

Credit:thairath .online

Stjerne Ng comment. This is former Pm. Mr. Taksins policies

จขบหายไปเป็นเดือน เจอไวรัสทั้งคนทั้งคอม.
และก็ยุ่งมากทั้งงานทั้งเรียน.
เดี๋ยววันหลังมาคุยให้ฟัง.
มีเรืองตื่นเต้นมากๆ .
หิมะตกหนักมากถนนลื่นมากๆ.
ภายในหนึ่งอาทิตย์ เกือบเกิดอุบัติเหตุสี่ครั้ง.
ครั้งแรกถนนเป็นน้ำแข็งขับรถตกถนนแบบเบรคไม่อยู่มันไถลไปเลยขนาดว่าขับตั้งหลายปี.
แต่ปีนี้โหดมาก.
วันที่สองขับขึี้นเขาไม่ได้มันไถลถอยหลังลงมาเลยลื่นมากๆ.
้ที่ทำงานมันอยู่บนภูเขากลางเมืองหน้าร้อนวิวสวยมาก.
แต่หน้าหนาวบรื๋อขนหัวลุก.
วันที่มันไถลเอาหลังลง เดี๊ยนนึกในใจโอเคถ้าตายก็ไปดีหล่ะเอ๊า สุดท้ายรอด.
วันนี้อีกถนนมันลื่นเบรคไม่อยู่ขับแค่60 เองรถอีกคันใจร้อนจะเข้ามาทางตรงแต่รอไม่ได้รีบแทรกรถคันอื่นแบรคแทบตายหน้าด่าฉิบ.
รถเดื๊ยนเหลือแค่5 นิ้วจะชนคันหน้า.
ใจแทบวาย.
ตื่นเต้นจริงๆ นี่หิมะก็ตกไม่หยุดพรุ่งนี้ว่าจะพาเด็กๆไปวัดหน่อย.

Create Date : 05 ธันวาคม 2551

Last Update : 6 ธันวาคม 2551 4:06:53 น.

3 comments

Counter : 405 Pageviews.

Hello, how are you today.

โดย: CrackyDong

วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:18:19:00 น.

หวัดดีจ๊ะน้องเม พี่แวะมาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ ลูกๆที่น่ารักคงสบายดีนะคะ ยังไงก็ระมัดระวังตัวในการเดินทางด้วยนะคะ เป็นห่วงค่ะ

โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง

) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:12:46:31 น.

ขับรถระมัดระวังนะคะ

โครงการบัตรทองฟังดูดีก็จริง แต่วงการสาธารณสุขของเราซับซ้อนมากค่ะ คนไข้บางคนก็เขี้ยวลากพื้น บุคลากรบางคนก็ใจจืดกับเพื่อนร่วมงานและผู้รับบริการ เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลคนไข้แน่นทุกวัน สงสารคนทำงาน นิ

โดย: angy_11

วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:15:31:08 น.