ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~ ภาค 2 ตอนที่ 10

~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~ ภาค2 ตอนที่10

คำเตือน : ...ระวังค้าง!!

....................................................................................................................................
“คนนั้นละเป็นไง? มินว่าเนี๊ยบมากเลย”

“ไหน ๆ ..” คำถามได้รับคำตอบทันที เมื่อรามินบุ้ยหน้าไปทางสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านมาทางกลุ่มของเธอ กลุ่มของเธอ...ก็ ตัวรามินเอง ไอย์ และพริก...

“จุ๊ ๆ สายตามึนน้อยนี่ร้ายใช่เล่น...” คำชมของคนตาดุทำเอาคนหน้าสวยหันมายักคิ้วให้ แววตาส่อแววเจ้าชู้พราวระยับ หากเป็นเวลาปั้นหน้าปรกติของดาวคณะไม่มีทางหรอกที่จะมีใครได้เห็นแววตาแบบนี้ ก็นะ ดูเฉย ๆ ใส่กันคนละร้อยพริกไม่เอาสักบาท ไม่มีใครรู้หรอกว่า สาวสวยลึกซึ้งอย่างรามินจะ... แมนขนาดผู้ชายเรียกพี่

“ใช่มั้ยละ?”

“ดีมากมึนน้อย เจริญหูเจริญตาเยอะ” แต่พอจบคำพูดของคนตาดุเสียง ผัวะ!! ก็ดังตามมาและ
ผัวะ!!~...

“โอ๊ะ!!! เจ็บนะเนี่ยไอ้สวย มือหรือเท้าวะ” พริกหันมาโวยใส่คนหน้าสวยอีกคน ที่นั่งหน้างอเป็นจวัก แต่นะ คนมันเกิดมา(สวย)หน้าตาดี อย่างไอย์หน้างอขนาดนี้ยังสวย เอ้ย!! ยังหล่อ

“กะจะเอาเท้าเหมือนกัน แต่ขี้เกียจยก งานน่ะจะทำมั้ยวะ? ถ้ารู้จะนั่งมองสาวกันอย่างนี้ ฉันจะได้กลับไปนอนบ้าน” คนหน้าสวยโวย ทำเอาเพื่อนอีกสองคนขำกิ๊ก...ให้ตาย!! นี่ขนาดทำหน้าดุแล้วนะ...ยังสวย

ก็ภาพวันที่ไอย์โผล่ไปในห้องของพริกในสภาพสาวยิปซีแสนสวยนั่นมันยังติดตาอยู่นะสิ

“มึนน้อยว่ามะ ขนาดมันเคืองขนาดนี้ หน้ายังสวยเลย”


“นั่นสิคะพริก นี่ขนาดไม่พอใจนะคะ...ถ้ายิ้มหวาน ๆ แต่งแบบวันนั้นอีก....จุ๊ ๆ”

“โอยยยย...น้องอายยยยยยยย” สองสหายซุบซิบ ๆ กันตบท้ายด้วยพริกเรียกชื่อไอย์แบบลากเสียงยาว ๆ สีหน้าเพ้อฝัน จนเจ้าของชื่อเริ่มอยู่ไม่สุข

“อะไรของแกสองคนวะ..ซุบซิบอะไร น่าหงุดหงิด”

“โอ๊ะ ๆ อย่านะจ๊ะน้องอาย เอ้ย!! ไอย์ เดี๋ยวหน้าเป็นริ้วรอย”

“ใช่ค่ะ!!~ ตีนกาขึ้นละแย่เลย” สองสหายที่ไอย์แอบด่าในใจว่า สองผีเพี้ยน ย้ายมานั่งขนาบข้างกายของเขา สาวสวยคนหนึ่งเท้าคางมองหน้าเขานิ่งด้วยสายตาทอประกายวิบวับ ส่วนไอ้คนตาดุตัวแสบ ไม่นั่งเปล่า ยกแขนขึ้นโอบไหล่ของเขาไว้ พร้อมกับมองใบหน้าเขาจนตาที่ดุมันเยิ้มพราว ดูก็รู้...ว่าพวกมันแกล้ง แต่เขาก็ขนลุกอยู่ดี

“อะไรของพวกแก...” ถามแบบไม่มั่นใจสุด ๆ ถึงจะรู้ว่ากำลังจะโดนแกล้ง แต่แบบนี้มันก็เสียวนะโว้ย...

“ก็พอรู้นะว่าไอย์นะไม่ชอบเวลาเขาว่าสวย”

“ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่โคตรเกลียด” หนุ่มหน้าสวยแก้คำของเพื่อนคนสวยซ่อนความแมน

“พอแกพูดอย่างนี้ฉันสงสารตัวเองว่ะไอย์” คำพูดของพริกทำเอาหน้าสวย ๆ ของเขาที่ยุ่งอยู่แล้วยุ่งเข้าไปอีก

“อะไรของแกไอ้ผัก”

“ก็ถ้าแกไม่สวย ฉันก็ต้องคิดถึงน้องอายใจแทบขาดตายแน่ ๆ เลยไอ้สวย ทรมานเหมือนจะขาดใจตาย”

“ได้ยินตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะไอ้ผักน้องอายอะไรของแกวะ...” คนถามเริ่มร้อนเริ่มหนาวหาฤดูที่แน่นอนไม่ได้ มันกำลังเล่นอะไรกันเนี่ย

“อ่าว!! ก็สาวสวยที่บุกไปหาฉันถึงห้องไงวะ...น้องอายยยยย”

“ใช่ค่ะ น้องอายคนสวย” จบประโยคของสองผีเพี้ยน ความอดทนที่หนุ่มหน้าสวยมันก็พุ่งพรวดมาที่ใบหน้า ให้เขาตายสามรอบหลัง
อาหารเขาก็ยอม แต่อย่าพูดเรื่องวันนั้นได้ม้ายยยย....รับตัวเองไม่ได้โว้ยยยย!!

“หยุดพูดเรื่องนั้นไปเลยนะทั้งสองคน” ไอย์กดเสียงต่ำ แต่รู้สึกจะย้ำไม่หนักพอ สองเพี้ยนเลยยังไม่เกรง เพราะยังลอยหน้าลอยตาตีรวนสนุกอยู่

“โอ๋...งอนซะแล้วค่ะพริก”

“น่า...อย่าเคืองไปเลยนะ... วันก่อนโน้นยังไม่เห็นไรเลย แถมยังกอดฉันซะแน่น แหม ๆ อยากให้น้องอายกอดอีกสักรอบ”

“น่าอิจฉานะคะเนี่ย”

“ใช่มะ...555 แต่เสียดายตอนนั้นกำลัง เฮิร์ต เลยแบบจำอะไรไม่ค่อยได้ ตอนนี้เลยอยากถูกกอดอีกสักครั้ง”

“เอาจริงเหรอคะพริก”

“ไออุ่นครานั้นยังตรึงใจพี่นัก” หึ...ไออุ่นครานั้นยังตรึงใจพี่นัก...งั้นเหรอ? ตั้งแต่พริกกลับมาเรียน จนวันนี้สอบวันสุดท้าย มันเอาแต่ล้อเขาเรื่องวันนั้น...เห็นอย่างนี้แล้วมันน่ามั้ย

“เพ้อขนาดนั้น...” รามินพูดกลั้วยิ้ม ขบขันกับท่าทางของพริกเหลือเกิน

“ตอนนี้พี่หนาวเหน็บยาใจของพี่จะให้ไออุ่นกับพี่ได้ไหมเล่า” หึ...ความอดทนของไอย์มันเป็น Min เข้าขั้นติดลบ แต่ความเดือดมัน Max เลยปรอทแล้ว....โว้ย!!

“ได้สิ..ถ้าพริกหนาวนักไอย์จะกอดให้ก็ได้...เข้ามาสิ...ที่รัก” ไอ้ต้นประโยคมันก็หวานหูดีอยู่หรอก แต่ไอ้คำลงท้ายนี่สิ...ทำไมมันหลอนนรกอย่างนั้นละ

พริกกระโดดหนีออกจากอ้อมแขนของไอย์อย่างรวดเร็ว พรวดเดียวก็อยู่ห่างจากพ่อคนหน้าสวยไปประมาณ 2 เมตร ก็คบกันมานาน ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้รอยยิ้มพิฆาตนั้นใครได้เจอมีหวังถึงตาย มือหนักเท้าหนักอย่างไอ้สวย ต่อให้มีสิบไอ้พริก ร้อยไอ้เหมี่ยวก็เอาไม่อยู่หรอก

“อ่าว...หนีทำไมละพริก...หนาวไม่ใช่เหรอ มาสิ เข้ามาจะได้กอดไง กอดให้แน่น ๆ เลย...”

“ไม่แล้วละ ฉันร้อนละ ไม่หนาวแล้ว...แกตามสบายเลย” พริกยกมือขึ้นปราม ขาก็ก้าวถอยหลังช้า ๆ

“ทำไมละ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะฉันก็จะไม่เกรงใจเหมือนกัน แกตายสมใจอยากแน่ ไอ้ผัก”

“โอ๋...ไม่นะ เวรเอ้ย!! ทำไมกูซวยคนเดียววะ ไอ้มึนด้วยสิวะ” ตะโกนถามพร้อมกับหันหลังวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

“มึงนั่นแหละ...ไอ้ตัวก่อเรื่อง”

“กูไม่รู้เรื่องนะโว้ย!!” เสียงโวยวายของสองคน ดังทั่วคณะ เพราะพริกก็วิ่งหนีสุดชีวิต ส่วนไอย์ก็ล่าไม่เลิก งานนี้ไม่มีตายคงไม่หยุด รามินนั่งหัวเราะดัง ๆ แต่ก็ต้องรีบสงบท่าที ไม่ได้ ๆ ตอนนี้เป็นสาวสวยเงียบขรึมอยู่ ต้องสร้างภาพ แต่ก็อดกลั้นหัวเราะไม่ได้ เลยขำจะตัวสั่นตัวงอ

ตั้งแต่พริกกลับมาเรียน เขาดูร่าเริงเหมือนเดิม แต่ทั้งเธอและไอย์ก็เข้าใจดีว่า นั่นคือภาพที่สร้างเอาไว้อย่างดี แต่ภายในใจของพริกนั้นดูก็รู้ว่ามันยังเจ็บปวดอยู่เสมอ

แต่เขาเป็นอย่างนี้ก็ยังดีกว่าที่จะเป็นอย่างวันนั้น รามินเองยังจำสภาพวันนั้นได้ชัดเจน มันติดอยู่ในความคิดสลัดไม่ออก ความโศกเศร้า เสียใจของพริก ขนาดเธอไม่ใช่ผู้เสียหาย ยังทรมานแทนเลย แล้วเขาละ หัวใจเท่ากำมือจะทนได้นานเท่าไหร่....

“โอย...เหนื่อย ไอ้สวยอยู่ไหนวะเนี่ย” พริกวิ่งมาหยุดนั่งพิงโต๊ะหินอ่อนเขาหายใจหอบถี่ ทุกวันเขาต้องวิ่งหนีไอ้สวยอย่างนี้ทุกวัน เหนื่อยจะตายแล้ว

“พริกนั่นแหละโผล่จากไหนมา...” คนตาดุไม่ตอบ โบกมือไหว ๆ พยายามหายใจให้ทัน การวิ่งร้อยเมตรให้เร็วกว่าสถิติโลกเท่านั้นที่จะรอดพ้นจากวิถีมารของหนุ่มหน้าสวย แต่ดูท่าพระเจ้าไม่เข้าข้างคนใจเป็นแผล

“ไง...เหนื่อยแล้วเหรอ...” เสียงเย็น ๆ ของไอย์ที่เดินเนิบ ๆ เข้ามาหาพริก...ทำเอาเขาต้องก้มหน้าพนมมือไหว้

“ขอเถอะวันนี้กูจะตายแล้ว...”

“ตอนแกล้งทำไมไม่คิด...” มือหนาของไอย์จับไหล่ที่สั่นเพราะแรงหอบหายใจและออกแรงบีบ

“โอ้ย!! ไอ้แรงควาย ปล่อยโว้ย!! ปล่อย ๆ” คนตาดุหลับตาโวยวายลั่น ก็แรงที่บีบน่ะ มันน้อยที่ไหนกัน

“เลิกพูดเรื่องนั้นสิวะ”

“ปล่อยก๊อน...”

“ก็เลิกพูดสิ”

“ไอ้มึนเล่า ทำไมไม่ว่ามันบ้าง โอ้ย....กูเจ็บบบบ” พริงคราง ไม่ได้แกล้งนะ แต่เจ็บจริง แสดงจริง ไม่มีสลิง ไม่ใช้สตั๊นฯ

“ถ้าแกไม่เริ่ม มึนมึนมันจะร่วมด้วยเรอะ...ห๊ะ” โอย...ไอ้มึนนั่นแหละตัวดี

“ปล่อยกู๊.....กูจะฟ้องอธิการ”

“เรื่องของมึง”

“กูจะฟ้องพี่ตา”

“กลัวที่ไหนวะ”

“กูจะบอกยัยยุยเอ๋อ...เรื่องแกไม่ใช่แมว...ว้ากกกก” พริกร้องอีกครั้งก่อนจะรู้สึกโล่งเมื่อมือของไอย์สะบัดออกจากร่างของเขาราวของร้อน

“อย่าได้แพล่มอะไรกับยัยเด็กนั่น ไม่งั้นแกตายเร็วกว่านี้ไอ้ผัก” ไอย์ขู่สำทับ พริกหน้าเบ้ น้ำตามันคลอที่หางตา โอย นี่ขนาดมันปล่อยไปแล้วนะเนี่ย ความเจ็บมันยังแปล๊บ ๆ อยู่เลย แรงทวดควายชัด ๆ

“แตะไม่ได้จริง ๆ เลยนะคะ เรื่องน้องยุยเนี่ย”

“ก็แหงสิ...ว่าที่เมียในอนาคต” พริกช่วยรามินเหน็บแนมเพื่อนหน้าสวยด้วยใบหน้าเหยเก สู้ไอ้บ้านี่เรื่องแรงไม่ได้จริง ๆ

“แกจะพูดอะไร ช่วยเอาฉันห่าง ๆ จากคุกหน่อยสิวะ”

“แนะ ๆ มึนน้อย จำได้มะ ก่อนหน้านี้เราแซวอย่างนี้มันเถียงคอเป็นเอ็นแถมด่าอีกต่างหาก ดูตอนนี้ดิ ไม่ปฏิเสธไม่ว่านะ แต่ให้เราแนะนำเฉยเลย ไอ้โคแก่”

“ปากแกนี่นะไอ้ผัก พูดดี ๆ เหมือนคนเขาบ้างสิวะ เด็กนั่น 13 อยู่นะโว้ย”

“ติดคุกไปครึ่งตัวละค่ะ” รามินเสริม พริกพยักหน้า

“ถ้ารวมไอ้ความเปลี่ยนแปลงในทางที่...แบบ..” พริกแทรกอีก

“ถ้าบวกเพิ่มไป ก็เหลือมือข้างเดียวที่อยู่นอกคุกค่ะ”

“ฉันว่าแกติดคุกไปเถอะว่ะไอย์ เด็กมันน่ารักขนาดนั้น...” พริกพูด เฮลั่น ยิ่งเห็นหน้าขาว ๆ ของไอย์แดงซ่านยิ่งขำ โอ้ย...เพื่อนของเขา ลุยมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ดันเสร็จเด็กน้อยข้างบ้าน

“เงียบไปเลย งานน่ะเสร็จแล้วหรือไง รีบทำไปเลยปะ จะได้เอาไปส่งอาจารย์ พูดมากอยู่ได้” ก็เป็นอย่างนี้ทุกทีสิน่า...สำหรับไอย์หนุ่มหน้าสวยคนนี้ เรื่องไหนก็ผ่านได้อยู่หรอก พอเป็นเรื่องของเด็กยุยหน้าแบ้วข้างบ้านเป็นอันจอด

ตัวพริกเองก็ยังอยากแกล้งเพื่อนต่ออยู่หรอก แต่ติดที่ว่างานตัวเองยังไม่เสร็จ วันนี้ก็จะส่งแล้ว ต้องรีบ พรุ่งนี้จะได้ไม่เสียเวลาเข้ามาหา’ลัยอีก จะได้ปิดเทอมกับเขาซะที อยากพักอยากนอนเหลือเกิน

“เออ...ใช่มิน หอพักของมินมีห้องว่างมั้ย?” นั่งทำงานกันอยู่ดี ๆ ไอย์ก็เอ่ยถามรามิน เหมือนเพิ่งนึกได้

“ก็มีว่างอยู่ค่ะ ทำไมเหรอ?”

“เพื่อนพี่ตาเขาจะมาอยู่แถวนี้น่ะ เขาให้ลองถามให้”

“ยังมีค่ะ...ลองเข้ามาดูเองละกันนะ” ไอย์พนักหน้า แล้วก็เงียบไป พริกเองก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เมื่อตั้งใจว่าจะทำงานให้เสร็จก็ต้องทำ เพราะเขากำลังคิดว่า เย็นนี้ต้องไปซื้อของเข้าห้องสักหน่อย

“มึนน้อย เย็นนี้ว่างมั้ย...”

“ไม่ว่างค่ะ ต้องเตรียมของกลับบ้านต่างจังหวัดค่ะ”

“แย่จริง...”

“มีอะไรเหรอพริก”

“ว่าจะช่วยไปซื้อของเข้าห้องน่ะ ไอ้สวยไปไหม...” คำถามของพริกได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าหวือ...

“ไม่ว่าง...พรุ่งนี้แม่พี่ตาจะมาที่บ้าน ต้องไปเก็บบ้าน” เซ็ง...คำนี้มันพูดเข้ามาในหัวของพริกทันที เขาอยากมีเพื่อนไปด้วยสักคน ไปซื้อคนคนเดียวทีไร...มันเหงา....

“ไปเองก็ได้วะ...” เขาบ่น ก้มหน้าทำงานต่อ...รีบ ๆ ทำให้เสร็จ ๆ ไป จะได้กลับสักที

..........................................................................................................................................
หอพัก A and B House ห้อง 108

พริกเดินเข้ามาในห้อง เขาโยนชีทงานสองสามแผ่นไว้บนเตียง แล้วเอารองเท้าไปเก็บไว้หลังห้อง เขาหันมาเปิดตู้เย็นหยิบเอาขวดน้ำมาเปิดและยกดื่มอย่างกระหาย ให้ตายเถอะ...อากาศร้อนเป็นบ้า

ตอนแรกเขาตั้งใจจะออกไปเดินเล่นในห้าง แต่ก็นึกเปลี่ยนใจรอไว้ช่วงเย็น ๆ ก่อนดีกว่า อากาศตอนนี้มันร้อนจนเขาอารมณ์ชักไม่ค่อยจะดี ยิ่งต้องมาวิ่งหนีเพื่อนไอย์คนสวยก่อนกลับหอยิ่งแล้วใหญ่

ร่างโปร่งของเขาเดินมาทรุดนั่งตรงโซฟาสีเขียวขี้ม้าตัวโปรดหลังจากที่ถอดเสื้อชอปโยนใสตระกล้าผ้า และเปิดทีวีแล้ว ดวงตาดุจ้องมองภาพในจอนิ่ง สีหน้าไม่บ่งบอกว่ารู้สึก และคิดอะไรอยู่ แต่หากมองชัด ๆ แล้ว จะเห็นแววหม่นในดวงตาคู่นั้น

เขาค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ ราวกับคนง่วงนอน ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็ง่วงนอนจริง ๆ นั่นแหละ พักหลัง ๆ นี้เขาชักจะรู้ตัวแล้วว่ามันแปลกไป ร่างกายของเขามันไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงนอนไม่ค่อยจะหลับ

เขาหลับตาอย่างนั้นอยู่นาน สุดท้ายก็ลืมตาขึ้นมาและสะบัดใบหน้าหล่อแหลาจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือใบหน้าของอิสตรีแรง ๆ สองสามครั้ง ฝ่ามือสวยถูกยกขึ้นมาลูบใบหน้านั้นแรง ๆ ราวกับเรียกสตีของตัวเองให้กลับมา

ใครมันจะไปหลับได้ลง ทุกครั้งที่หลับตาภาพของใครบางคนมันเข้ามาหลอกหลอนจนเขาทำใจไม่ได้สักที สายตาของเขาตวัดมองไปทางโต๊ะเขียนหนังสือใกล้ ๆ กรอบรูปลายน่ารักมีรูปถ่ายของเขากับร่างบางของเธอที่โอบกอดกันอยู่ ใครมองก็รู้ว่าทั้งคู่รักกันแค่ไหน...แต่ทำไมละ ทำไมทุกอย่างถึงเป็นอย่างนี้...

พริกยิ้มขมขื่น เขาไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าเธอจะตอบแทนความรู้สึกของเขาทั้งหมดอย่างนี้ เขาอยากโกรธเธอ แต่ก็ไม่รู้จะโกรธเธอไปเพื่ออะไร ในเมื่อเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้... เขาก็ควรยอมรับมันซะ แต่มันก็ทำใจรับได้ลำบากจริง ๆ

ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่ถ้าตอนนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกันว่า จะอภัยให้เธอได้หรือเปล่า...
สำหรับเขา การจะรักใครสักคน เขาไม่กลัวเจ็บ แต่สิ่งที่เขารับไม่ได้คือ...
...การไม่ซื่อสัตย์...

……………………………………………………………..

พริกนั่งคิดเรื่องต่าง ๆ อยู่นาน โดยเฉพาะความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ จนเวลาล่วงเลยไปนาน

“จะหกโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย” เขาพึมพำ...ขยับตัวลงขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกเสือยืดลายเก๋สีน้ำเงินเข้มมาสวม เตรียมตัวออกไปเดินซื้อของมาตุนในห้อง

แต่ถ้าเขาล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรแล้วละก็... เขาอาจจะไม่ไปเดินห้างฯ วันนี้ก็ได้...

....................................................................................................................................



ยังไม่สิ้นเดือนข้าน้อยก็เอามาลงแล้ว... วุฮ่า ๆ

ทำไมคนเขียนใจดีอย่างนี้....หึหึ แน่ใจเหรอว่าดีจริง

เอาละ มาเข้าโหมดเดิม ๆ กันดีกว่า.... ใครอ่านแล้วไม่เม้นต์...แช่ง!!


ตอนที่ 11 >



Create Date : 21 มีนาคม 2552
Last Update : 2 เมษายน 2552 19:33:23 น. 1 comments
Counter : 612 Pageviews.

 
ตามเก็บรายละเอียด น่ะ ช้าไปหน่อยแต่ก็ตามนะ


โดย: demos IP: 124.122.123.150 วันที่: 10 มกราคม 2553 เวลา:20:56:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.