ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~ ภาค 2 ตอนที่ 9

~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~ ภาค 2 ตอนที่9

คำเตือน : ไม่รู้จะเตือนอะไรแล้ว...ขอร้าบบบบ


….My best friends.

...................................................................................................................................................................

4 วันหลังจากนั้น...

“ไอ้พริก...ไอ้พริก ไอ้เพื่อนเวรไอ้เพื่อนเลว ไอ้...โว้ย!!” เสียงนุ่มห้าวของหนุ่มร่างสูงรูปร่างดี ใบหน้าสวยราวกับใบหน้าของอิสตรีดังก้อง เขากำลังหงุดหงิดอย่างหาที่ใดเปรียบ ร่างสูงปราดเปรียวของเขาถอดเสื้อชอปฝาดลงแรง ๆ กับม้าหินอ่อนหลังคณะวิศวกรรมศาสตร์

“ใจเย็น ๆ ไอย์ ใจเย็น ๆ เราไปหาพริกได้...”

“มิน เธอไม่เข้าใจ ไอ้พริก...ไอ้นั่น มันไม่มีควรโดดเรียนตอนนี้” ไอย์กระแทกร่างตัวเองลงนั่งหันหลังให้เพื่อนคนสวยและโต๊ะหินอ่อนเท้าแขนกับเข่าตัวเอง ฝ่ามือหนานั่นลูบใบหน้าเนียนสวย

“ไอย์เคยเล่าให้ฟัง เมื่อก่อนพริกเคยโดดเรียนมากกว่านี้”

“นั่นมันก่อนที่พริกจะคบกับชมพู่” ไอย์พูดด้วยเสียงเนือย “ฉันต้องไปหามันที่หอพัก...แต่..”

“นั่นหอพักสตรี”

“ฉันเข้าไม่ได้”

“เรารอเขาได้นะไอย์”

“ไม่... ฉัน..ไม่รู้หรอกว่าเกิดเรื่องอะไรกับไอ้พริก แต่การที่มัน ไม่รับโทรศัพท์ ไม่มาเรียน ติดต่อไม่ได้...แบบนี้ ฉันทนไม่ได้” ชายหนุ่มพูดออกมาอาการร้อนรนของเขาทำให้รามินสงสัยเหลือเกิน มันเคยเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา

“เคยเกิดอะไรขึ้นกับพริก..คะ”

“ไม่ใช่พริก...จะยังไงก็แล้วแต่ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ต้องไปหาไอ้พริก”

“นายเข้าหอนั้นไม่ได้นอกจากนั่งรอที่ด้านนอก”

“เธอเข้าไปได้...”

“ระบบแสกนลายนิ้วมือ...มินไม่ใช่คนในหอนั้น นอกจากพริกจะเปิดรับมินเข้าไป” ไอย์หลับตานิ่ง ภาพวันเวลาเก่า ๆ มันหมุนเข้ามาฉายภายในความคิดของเขา

ภาพของมะเหมี่ยวที่เสียคนรัก ภาพการเปลี่ยนไปของมะเหมี่ยว สภาพของเพื่อนรักของเขา เขาไม่ยอมให้พริกอยู่ในสภาพนั้น

“พริกอาจจะแค่ไม่สบาย หรืออาจจะแค่อยากโดดเรียน”

“เธอคิดอย่างนั้นเหรอ?”

“เขาอาจจะอยู่กับชมพู่”

“เธอก็รู้พอ ๆ กับที่ฉันรู้...มิน ตอนนี้พริกต้องอยู่คนเดียวแน่ ๆ ชมพู่อาจจะไม่ได้อยู่กับมัน” ไอย์พูดเรียบ ๆ คำสันนิษฐานของเขาเป็นความจริง เพียงแต่พวกเขาไม่รู้เท่านั้น

“โอเค ไปเมื่อไหร่”

“เดี๋ยวนี้”

“ชั่วโมงเรียน....โอเค เดี๋ยวนี้” รามินพูดหลังจากที่ตั้งใจว่าจะคัดค้านไอย์ ให้อยู่จนกว่าจะจบคลาสเรียนวันนี้ก่อน ช่วงนี้สำคัญสำหรับนักศึกษามันสำคัญมาก อีกไม่ถึงสิบวันพวกเขาต้องสอบปลายภาคแล้ว อาจารย์เริ่มแนะนำเกี่ยวกับข้อสอบ เริ่มสรุปบทเรียน แต่อาทิตย์นี้พริกไม่ได้มาเข้าเรียนเลยแม้แต่วันเดียว ติดต่อไม่ได้สักทาง

“มิน...เธอไปที่หอนั่นก่อน แล้วฉันจะตามไป” รามินหันมามองร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง

“ทำไม...”

“ฉันต้องเห็นไอ้พริกด้วยตาตัวเอง แต่สภาพนี้ฉันเข้าหอนั่นไม่ได้แน่”

“ฉันพาพริกออกมาได้ไอย์” ใบหน้าสวยส่ายหน้า

“ไอ้พริกไม่ยอมออกมาแน่...ฉันต้องเข้าไป”

“ยังไง” รามินถามเสียงเย็น เธอชักกรุ่น ๆ กับความเรื่องมากของไอย์

“ฉันต้องสวย” เธอขมวดคิ้ว เท่าที่เธอรู้จักไอย์มา เขาเกลียดที่สุดก็คือคำว่า ...สวย...

“ได้ ถ้านายต้องการอย่างนั้น ฉันจะรออยู่ที่นั่น”

“ขอบใจ”

ทั้งสองแยกกันตรงนั้น รามินตรงไปยังหอพักสตรี A and B House ซึ่งอยู่ห่างจากมหา’ลัยไปราว ๆ สองถึงสามร้อยเมตร เธอเดินซอยนี้จนชินแล้ว เพราะหอพักของเธออยู่ท้ายซอยนี้เอง มันห่างหอพักของพริกไปไม่เท่าไหร่เอง

ส่วนพ่อหนุ่มหน้าสวย เขาขับรถออกไปนอกมหา’ลัย ไปยังสถานที่ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเหยียบเลยสักครั้งในชีวิต...ร้านเสื้อผ้าสตรี และร้านเสริมสวย ให้ตายเถอะ...เพื่อแกเลยนะเนี่ยไอ้เพื่อนรัก


............................................................................................................................................................

หลังจากแยกกับไอย์ ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว... ยังไม่มีท่าทีว่าหนุ่มสวยจะโผล่มาซักที รามินอุตส่าห์ ขอร้อง อ้อนวอน ข่มขู่ บังคับ ให้พี่เอเจ้าของหอพักพาเธอไปหาพริกที่ห้อง แต่ผลที่ออกมาคือ พริกล็อคห้อง กว่าที่พี่เอจะยอมหากุญแจสำรองมาไขให้ ก็ทำเอารามินแทบจะกลายร่างเป็นนางเอกละครหลังข่าว น้ำหูน้ำตาไหล

“รีบมาสิไอย์ เรื่องใหญ่แล้วนะ” รามินบ่นพลางเดินไปเดินมาที่หลังระเบียงห้องของพริก พลางเดินเข้ามามองพริกในห้องเป็นครั้งคราว

“ไอ้เวรเอ้ย!!! หายหางไปไหนวะ!!” เสียงสบถของเธอที่หากใครได้ยินคงไม่เชื่อว่านี่คือ ดาวคณะวิศวกรรมศาสตร์คนสวย ใบหน้าที่สวยซึ้ง ยิ่งมองยิ่งสวยของรามินตอนนี้ทมึ่งทึ่ง ปากเม้มสนิท ท่าทางที่เคยเรียบร้อยดูอ่อนหวานหายไปสิ้น เหลือเพียงรามินในมาดใหม่... มาดที่ใครไม่เคยเห็นนอกจากพวกพริก

นิ้วสวยของเธอกดโทรศัพท์เข้าหาเบอร์ของไอย์ รอสายสักพักเธอก็ได้ยินไอย์ตอบกลับมา

“อีกกี่ชาติแกจะมาถึงวะไอย์” ใครจะรู้ว่าสาวสวยอย่างรามินจะแมนแตกได้หลุดขนาดนี้

“อีก 5 นาที มีอะไร”

“รีบมา ไอ้พริกแย่มาก”

“มันเป็นอะไร” เสียงแสดงความร้อนรนของเพื่อนทำให้รามินถอนหายใจเฮือก...

“แกรีบมา ก่อนที่ฉันจะไปลากแกมาเอง” เธอกดสัญญาณโทรศัพท์ทิ้ง ก่อนจะถอดเสื้อชอปของตัวเองออก เพราะรู้สึกเหมือนความร้อนในร่างกายมันพุ่งสูงขึ้น ดวงตาที่มีแววหวานซึ้งอยู่ตลอดเวลาจ้องมองร่างสูงของพริกที่นั่งคู้ตัวอยู่กับพื้นนิ่ง

“...ให้ตายเถอะ..รู้แล้วจริง ๆ” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ และมือถือของเธอก็ดังขึ้น

“ว่าไง...มาถึงแล้วใช่มั้ย?”

“เปิดประตูข้างหน้าได้ไหม”

“แกจะเข้ามาได้เหรอไอย์”

“เอาเถอะน่า มาเปิดก่อน ตอนนี้ที่หน้าหอไม่มีใคร เร็ว ๆ เลย” รามินวางสาย เดินออกจากห้องของพริก ตรงมายังประตูกระจกที่ตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือไว้ แต่ถ้าออกจากด้านใน แค่กดปุ่ม Exit ใครก็ออกได้ สำคัญก็ตรงแค่ เข้ามาให้ได้ก่อน

คนสวยยืนค้างอยู่ที่ประตู เพราะเธอไม่สามารถปล่อยให้ประตูปิดได้ ไม่งั้นได้ซวยกันอีกรอบแน่ เพราะพี่เอคงไม่ยอมให้เข้ามาได้อีกง่าย ๆ เธอกวาดตามองหาเพื่อนหนุ่มหน้าสวย แต่เธอก็ไม่เจอ มีเพียงสาวสวยคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงล๊อบบี้เล็ก ๆ นั้น

ผู้หญิงคนนั้นยืนหันหลังให้เธอ ท่ายืนเท้าสะเอวนั้นคุ้นตาเธอเหลือเกิน แถมลักษณะท่าทางก็ดูจะห้าวเกินหญิง และในวินาทีเธอคนนั้นก็หันมา

“ไอ้พริกเป็นไงบ้าง” ริมฝีปากบางเคลือบลิปติกสีแวววาวนั้นขยับเอ่ยประโยคคำถามที่รามินไม่คิดว่า คนสวยคนนี้จะพูด

“เอ่อ...คุณ”

“อย่ามาเอ๋อน่าไอ้มึนมึน” รามินตากับหูฝาดใช่มั้ย สาวสวยคนนี้พูดกับเธอด้วยเสียงของไอย์....หรือว่า..

“อะ..ไอย์” รามินอึ้งเมื่อได้รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร ไอย์ที่ไม่มีทางชอบเวลาที่ใครบอกว่าเขาสวย อยู่ในชุดผู้หญิง

เธอไม่รู้ว่าเขาไปหาไอ้เครื่องแต่งตัวแบบนั้นมาจากไหน แต่ที่แน่ ๆ ถ้าไอย์เป็นผู้หญิงจริง ๆ ละก็ รามินคนแรกล่ะที่จะจีบทำแฟนน่ะ

ก็แหม...นะ พอไอ้หน้าสวย ๆ หวาน ๆ นั่นแต่ด้วยเครื่องสำอางนิดหน่อย ก็ดูสวยพริ้ง แถมไอ้ผมยาวหยิกฟู่ คาดด้วยผ้าลายสวย บวกกับเครื่องแต่งกายแบบยิปซีนั่นอีก...สวยโว้ยยยยย

“ไอย์จริง ๆ เหรอเนี่ย”

“เอ่อ...” ไอย์เดินมาผลักร่างของรามินให้ถอยไปหลังประตูและตัวเองก็เดินตามเข้ามา เป็นอันว่าเขาลอบเข้ามาในหอหญิงนี่ได้แล้ว ด้วยใบหน้าสวย ๆ ของตัวเองนี่แหละ

“นายลงทุนมาก” รามินพูดขณะที่เดินนำเขาเดินตามทางเดินในหอพัก ระหว่างนั้นมีสาว ๆ ในหอพักเดินผ่านมา ทุกสายตาจับจ้องไอย์กับรามิน

1. ทั้งสองเป็นคนแปลกหน้า
2. ทั้งสองสวย โดยเฉพาะไอย์

“ไอ้พริกเป็นไงบ้าง” เขาถามเมื่อสาว ๆ เดินผ่านไปแล้ว และทั้งคู่มาหยุดที่หน้าห้อง 108

“ดูเองเถอะ” พูดจบเธอก็เปิดประตูเข้าไป ไอย์ก้าวตามเธอเข้ามาก่อนจะปิดประตูตามท้าย

“พริก...” ไอย์คราง เมื่อเห็นพริกนั้งคู้เข่าอยู่กับพื้น เขาถลาเข้าไปหาร่างอ่อนแรงนั้น จับไหล่ทั้งสองข้างของพริกแน่น จนใบหน้าซูบของพริกเงยขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น” ดวงตาเหม่อลอยของพริกจับจ้องใบหน้าสวยที่บัดนี้เหยเก มองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง

“เสียง...ไอ้สวยเหรอเนี่ย” เสียงแผ่วเบาของพริกทำเอาทุกคนในห้องสะท้อนใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขา

“แกสวยสมชื่อจริง ๆ เลยว่ะ ไปหาแต่งแบบนี้ที่ไหนวะ ฉันจะจำไม่ลืมเลย ถ่ายรูปไว้ก็ดีนะ มึนมึนน้อย ถ่ายเลย ๆ” พริกยังพูดต่อ พยายามยิ้มกับสภาพเพื่อนรักที่เขาไม่คิดว่าชาตินี้เขาจะได้เห็น

“อย่ามาพูดมาก เกิดอะไรขึ้นกับแก ไอ้ผัก ทำไมแกเน่าอย่างนี้” มือหน้าทั้งสองข้างของเขาเลื่อนไปจับใบหน้าซูบซีดของพริกไว้ ราวกับว่าจะปัดเป่าเอาร่องรอยความอ่อนล้าออกไป

“ฉันนอนไม่หลับมาหลายวันแล้วไอ้สวย ไม่หิว ไม่อยากดื่ม ไม่อยากขยับตัวเลย” พริกพูดเสียงแผ่ว รามินขยับตัวอย่างอึดอัด ทั้ง ๆ ที่รอบตัวของเธอก็มีพื้นที่ว่างเยอะแยะ แต่ทำไม ความรู้สึกเดียวดายนี้มันถึงได้บีบรัดใจของเธอนัก

“พริกคะ..ทำไมพริกอยู่คนเดียว ชมพู่ไปไหน” เสียงอ่อนโยนของเธอเอ่ยถาม และนั่นก็จุดประกายโศกเศร้าในแววตาดุที่เหม่อลอยอย่างชัดเจน เพียงเท่านั้นไม่ต้องมีคำตอบอะไรสำหรับคำถามนี้ทุกคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไอ้ผัก...” ฉายาขำ ๆ ที่ใช้เรียกกันในกลุ่มเพื่อนมักเรียกเสียงหัวเราได้เสมอ แต่บัดนี้มันมีแต่ความเศร้าจนบรรยายไม่ถูก ไอย์รั้งเอาร่างของพริกมากอดไว้แน่น มันเกิดขึ้นจนได้ สิ่งที่เขาและรามินไม่เปิดปากพูดมันเกิดขึ้นแล้ว

“ยัยนั่นเลือกคนนั้นไอ้สวย...ฉันจะทำยังไงวะ...” เสียงสั่นสะอื้นของพริกทำเอารามินน้ำตาคลอ เธอเบือนหน้าหนีภาพพริกโอบไอย์อย่างหาที่พักพิง เขากำลังอ่อนแออย่างถึงที่สุด

“แกต้องไม่เป็นอะไรนะไอ้ผัก แกยังมีฉันนะ แกต้องไม่เป็นไร”

“ทำไมวะ ฉันรักยัยนั่นน้อยไปหรือไง? หรือว่าฉันมันไม่ดีพอ”

“พริกดีพอค่ะ พริกดีกว่าใคร พริกดีกว่าไอ้บ้านั้นร้อยเท่าพันเท่า และพริกรักเธอมากกว่าผู้ชายคนนั้นแน่นอน” รามินโผล่งขึ้น เธอเดินมาทรุดข้าง ๆ กับพริกแตะเบา ๆ ตรงไหล่ที่สั่นไม่หยุด

“พริกดีที่สุดค่ะ เชื่อมินเถอะ”

“ไอ้มึนมันพูดถูกนะ แกทำดีที่สุดแล้วพริก” เสียงนุ่ม ๆ ของไอย์ปลอบพริก มือหนาของเขาลูบศีรษะของพริกเบา ๆ มันอบอุ่น เป็นความอบอุ่นเล็ก ๆ ที่พริกไม่ได้รับเลยให้หลายวันหลายคืนมานี้...



ทุกอย่างเงียบ พริกดูสงบขึ้นแล้วเขานิ่งแล้ว ไม่มีเสียงสะอื้นแล้ว รามินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพยุงตัวเองเลื่อนขึ้นไปนั่งบนเตียงใกล้ ๆ ไอย์ยังคงลูบศีรษะเขาอยู่เรื่อย ๆ

“พวกแก...” เสียงของพริกเอ่ยขึ้นเบา ๆ ทำเอาทุกคนต้องเงี่ยหูฟัง

“คะ...”

“รู้ได้ยังไง...”

“รู้อะไรไอ้ผัก...” ไอย์ถามเสียงงง ๆ พอมันหยุดร้องก็มีคำถามอีกแหะ ภาคต่อจากเมื่อกี้หรือไงกัน พริกดันร่างของตัวเองออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรักและพิงหลังกับขอบเตียงที่รามินนั่งอยู่

“รู้ได้ไง...ว่าคนใหม่ของชมพู่เป็นผู้ชาย...” คำถามของเขาทำเอาเพื่อนทั้งสองสบตากันโดยทันที พร้อมกันนั้นก็กลืนน้ำลายตัวเองลงคออย่างยากลำบาก ความลับไม่มีในโลก

“ว่าไง..” เขาย้ำ

“ขอโทษนะคะพริก...” รามินพูดเสียงแผ่ว ไอย์หันหน้าไปทางอื่น ก่อนจะหันกลับมามองเขาด้วยสายตาจริงจัง พริกเข้าใจสายตานั้น เขายิ้มขื่น ๆ ให้กับตัวเอง

“พวกแกรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก่อนหน้านี้เกือบสองเดือนแล้ว” คำตอบของไอย์ทำเอาพริกขำเยาะเบา ๆ

“มึนมึนน้อยละ?”

“ก่อนหน้าไอย์นิดหน่อย” ถึงจุดนี้เขาก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง มีเสียงหัวเราะไม่ดังนัก มันเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง

“ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก”

“เพราะถ้าแกรู้สภาพก็เป็นอย่างนี้ไง มันใกล้สอบมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นเรามีเทสต์มันทุกวันด้วย ฉันเสียใจ แต่พวกฉันเป็นห่วงแก อย่างน้อย ๆ ก็อยากจะบอกหลังสอบFinal เสร็จแล้ว”

“แต่ฉันดันเสือกไปรู้ก่อน...”

“เราเสียใจนะพริก...” เขาส่ายหน้าช้า ๆ อยากโกรธเพื่อนรัก แต่โกรธไม่ลงเพราะคำว่า ห่วง ที่เพื่อนพูดนั่นแหละ



...ปล่อยชมพู่มาก ๆ ระวังชมพู่จะมีกิ๊กนะ... อยู่ ๆ ในหัวของพริกก็มีคำพูดของมะเหมี่ยวลอยมากระแทก เขานิ่งไป ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

“ไอ้เหมี่ยวรู้ด้วย...หรือเปล่า?” คำถามของพริกทำเอาไอย์หลบตา “มันรู้ใช่มั้ย” ไอย์เพียงแค่พยักหน้า

“มันรู้ได้ยังไง?” ไอย์ส่ายหน้า จะให้เขาบอกเพื่อนรักยังไงละ เพราะเขาก็จนจะบอก ถ้าพริกรู้ว่าไอ้เหมี่ยวที่อยู่อีกครึ่งโลกรู้เรื่องนี้ก่อนพวกเขาด้วยซ้ำ และถ้าพริกรู้ว่าทำไมเหมี่ยวถึงรู้ พริกอาจจะบ้าไปเลยก็ได้

“โทรไปถามมันเองเถอะ...ฉันไม่อยากพูด” ไอย์พูดเท่านั้น

“ฉันโทรไปแน่... แต่พวกแกต้องบอกฉันมาให้หมด ทุกอย่างที่พวกแกรู้ ทุกอย่างที่พวกแกเห็น” พริกเปลี่ยนโหมดอย่างรวดเร็ว แม้เสียงของเขาแทบจะไม่ได้ยิน แต่เพื่อนอีกสองคนจับกระแสเสียงนั้นได้ว่า มันเหมือนมีอะไรมาประทุในอก

“แกจะรู้ทำไมวะพริก ในเมื่อ...”

“เพื่อที่ฉันจะได้จำไงวะ ว่าเขาทำอะไรกับฉันไว้บ้าง....และฉันจะได้ตัดมันทิ้งไปซะ”

“ไอ้พริก”

“และ..จะลืมให้หมด” แม้เสียงจะดูไร้เรี่ยวแรง แต่แววตาที่แฝงความเด็ดขาดนั้น ทำให้ทั้งสองไม่มีทางเลือก

ในเมื่อพริกจะจบ ไม่มีใครห้ามได้...


.................................................................................................................................................................

...มินเคยเห็นเขาสองคนอยู่ด้วยกันที่มหา’ลัยตอนมินไปรับพี่แมว แต่ไม่คิดว่าเขาจะ...

...ร้านไอศกรีมที่ห้าง ฉันเห็นสองคนนั่นอยู่ด้วยกัน แล้วก็เห็นเขาไปดูหนังด้วยกันบ่อย ๆ...

คำพูดของเพื่อนทั้งสองดังก้องอยู่ในหัวของเขา วนไปเวียนมา อีกหลาย ๆ เรื่องที่เขาไม่รู้ ที่ถูกปิดไว้ กระจ่างชัดมากขึ้น มีเขาเพียงคนเดียวที่ไม่รู้อะไร โง่งม เชื่อใจเธอ ไว้ใจเธอ...ตลอดเวลา ไม่เคยคิดว่าเธอจะหักหลังเขาแบบนี้...

มันไม่ใช่แค่เพิ่งเริ่ม แต่เป็นมานานแล้ว ที่เธอไม่พูด ไม่อธิบายอะไรเลยนั่นเพราะ ทุกอย่างมันคือความจริง...เธอทิ้งเขาไปกับหมอนั่นแล้ว

ถึงจะไม่พูดคำว่าเลิก... แต่การกระทำของเธอมันไม่ต่างอะไร

แววตาดุที่แฝงความหม่นเอาไว้ มองมือถือที่เสียบแบตฯ ไว้ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบมันมา กดเลื่อนหาเบอร์โทรที่เขาคิดว่า ถ้าไม่มีธุระ จะไม่โทรหาจริง ๆ เพราะค่าโทรข้ามประเทศมันแพงหืด

(ถ้าคำพูดของแกมันไม่เข้าหูฉันนะ รับรองได้เลยว่าฉันจะฉีกแกออกเป็นชิ้น ๆ ไอ้ผักเน่า) เสียงที่บ่งบอกว่าหงุดหงิดของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้พริกกลัวหรือเกรงใจ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าตอนนี้เวลาที่เยอรมันคงใกล้เช้าเต็มที

“ฉันเลิกกับน้องของแกนี่เข้าหูดีมั้ย” ปลายสายนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาถ้ามีภาพให้เห็น พริกคงเห็นมะเหมี่ยวทำหน้าเรียบเฉยจนเขาหมั่นไส้เป็นแน่แท้

(ทะลุออกไปอีกข้างหนึ่งเลย ว่ามา...) ปลายสายเริ่มกวนอารมณ์ของเขา แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นตั้งท่ารับฟังเพื่อนรักเต็มที่

“แกรู้เรื่องยัยนั้น?”

(ถ้าไม่รู้มันก็แปลก...แกโอเคดี?)

“แกรู้เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ เหมี่ยว ทำไมแกไม่บอก ไม่เตือนฉันบ้างวะ ทำไม...” ยิ่งพูดพริกก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าอารมณ์ของตัวเองยิ่งเดือด เพื่อนรักที่สุดของเขาไม่ห่วงเขาเลยสินะ

(ฉันรู้ตั้งแต่แรก ตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาในชีวิตของชมพู่... ) คำตอบกลับมาของมะเหมี่ยวทำเอาพริกอึ้ง...เหมือนถูกกระแทกหนัก ๆ

“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

(ก็หมายความว่า ฉันรู้เรื่องหมดทุกอย่างไงละ พู่บอกฉันทุกเรื่อง ตั้งแต่หมอนั่นเข้ามา ทำอะไรบ้าง? ไปไหน? รู้สึกยังไง? ทุก ๆ เรื่อง)

“ตั้งแต่แรกที่หมอนั่นเข้ามา”

(ใช่...)

“ทำไมแกไม่บอกฉัน!!~ เพราะอะไรวะไอ้เหมี่ยว?” พริกตวาดใส่หูโทรศัพท์ ถ้าเขาได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย เขาคงจะได้รู้ว่ามะเหมี่ยวก็ของขึ้นเหมือนกัน

“เพราะฉันเป็นแค่เพื่อน แล้วยัยนั่นเป็นน้องสุดที่รักของแก!! ฉันเลยไม่มีสิทธิ์รู้ใช้มั้ยว่าโง่ขนาดไหน?”

(อย่า...มา...ดู...ถูก...ฉัน) เสียงนิ่ง เรียบ และเน้นหนักของมะเหมี่ยวทำพริกฮึดฮัด เหมี่ยวกำลังโกรธ และเขาก็รู้ว่าเขาใช้คำพูดผิด

(แกจะให้ฉันทำยังไงพริก...แกคิดว่าฉันดีใจ มีความสุข สนุกนักเหรอวะ กับการที่ต้องฟังน้องสาวของตัวเองบอกว่ากำลังนอกใจเพื่อนตัวเองเนี่ย บอกฉันสิวะ ว่าถ้าแกเป็นฉัน แกจะรู้สึกยังไง)

“.......” พริกเงียบ...ใช่ มะเหมี่ยวไม่มีทางเลือกอะไร นอกจากฟังและเงียบ ถ้าพูดออกมาก็ไม่ดีกับน้องสาว ถ้าไม่พูดก็ไม่ดีกับเขา

(ฉันเสียใจที่ช่วยอะไรแกไม่ได้พริก...ฉันเสียใจ ฉันรักชมพู่มาก แกก็รู้ และฉันก็รักแก...)

“ฉันเจ็บเหมี่ยว...ฉันเจ็บ”

(....ฉันรู้ เสียคนที่รักไม่มีใครไม่เจ็บ) ทั้งสองนิ่งเงียบ อีกฝากโลกได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ เขาจะทำยังไงดี...ให้ปลอบเพื่อนก็ทำอะไรไม่ได้มาก... ใจมันก็อยากไปนั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อนรัก...แต่ติดที่ว่าเขาอยู่ไกลเหลือเกิน

“ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ถ้าเลือกได้...ฉันจะไม่รับโทรศัพท์นั่น ไม่ไปเห็นยัยนั่นที่ร้านนั้น ฉันใจจะขาดตอนยัยนั่นเลือกหมอนั่น”

(ฉันรู้พริกว่าแกทรมาน...แต่แกก็ไม่ตาย แกยังหายใจอยู่ ฟังฉันนะพริก...ฉันจะบอกว่าแกยังโชคดี อย่างน้อย ๆ แกยังสามารถเจอชมพู่ได้ถ้าแกอยากเจอ... แกยังห่วงเธอได้ถ้ายังอยากจะห่วง หรือแกจะลืมไปเลยก็ได้ ถ้าลืมได้ก็ไม่มีใครว่าแก .... แกยังอยู่บนโลกใบเดียวกับเธอ อยู่ประเทศเดียวกัน แกเข้าใจใช่มั้ยพริก)

“ฉันรู้...ว่าถ้าฉันอยากเจอ ฉันก็เจอได้ แต่เหมี่ยวถ้าเจอเขาอยู่ด้วยกันฉันจะเป็นยังไงวะ ถึงจะบอกไอ้ไอย์ บอกตัวเอง ว่าจะลืมให้หมดจะตัดให้ขาด แต่แค่คิดว่าจะไม่มีเขาแล้ว...มันเหมือนจะตาย”

(ฉันเข้าใจแก แต่ฉันช่วยอะไรแกไม่ได้... แกต้องผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวของแกเอง)

“ที่ผ่านมา..แกผ่านมันไปได้ยังไงเหมี่ยว แกทำยังไง” คำถามของพริกทำให้อีกฝ่ายนิ่งอึ้ง ยิ้มขำตัวเอง

(พริก...แกคิดว่าฉันผ่านมันได้แล้วเหรอ ถ้าฉันผ่านมันได้ ฉันจะมาอยู่ที่นี่ทำไม? ฉันก็ทำเป็นพูดดีไปอย่างนั้นเอง ดีแค่พูด แต่เอาเข้าจริง ๆ ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับแกหรอก... ทุกครั้งที่คิดถึงก็เหมือนจะตาย หายใจให้เปลืองอากาศไปวัน ๆ ไม่ต่างจากแกตอนนี้หรอก) คำบอกเล่าของมะเหมี่ยวทำพริกหัวเราะขำ ใช่จริง ๆ เพื่อนเขาก็เหมือนกับเขา

เก่งกันแต่ปาก บอกจะลืม ๆ ความจริง ฆ่าให้ตายก็คงไม่ยอมลืม...รักมันฝังลึกจนทำใจลืมไม่ได้

(ตอนนี้อยากอ่อนแอ อยากบ้า อยากเสียใจ อยากหลุดแค่ไหนก็ทำไปเถอะ... แต่อย่าปล่อยอะไรให้สายไปพริก..เรารอเวลาได้ แต่เวลาไม่รอเรา เมื่อถึงเวลาแกต้องลุกขึ้น แล้วเดินต่อไป...มันต้องดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง พยายามในส่วนที่ฉันเคยทำพลาดด้วย...)

“อย่ามาโยนงานให้ฉัน ฉันยังอยากพักร้อน”

(โถ ๆ ก็ค่าให้คำปรึกษาไงเพื่อนรัก นิดหน่อยน่า...)

“ค่าคำปรึกษาเหรอ? แล้วค่าโทรข้ามโลกของฉันละวะ”

(อันนี้มันเรื่องของแก ไม่เกี่ยวกับฉันเว้ย...) เสียงหัวเราะดังขึ้นจากคำพูดไม่กี่คำ...เขาคิดถูกที่โทรหาเพื่อนรักคนนี้...

เหมี่ยวพูดถูก...เรารอเวลาได้ แต่เวลาไม่รอเรา...

ถ้าถึงเวลา เขาจะลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่ล้มลงอีก ขอเวลาอีกสักนิด เขาจะดีขึ้น...

เธอ...เขาเสียใจ เขาเจ็บ ที่เธอทำอย่างนั้น

แต่เขาไม่เสียใจที่รักเธอ...

เขาจะยังรักเธอต่อไปหรือเปล่า? เขาไม่รู้ ตอนนี้เขาลืมเธอไม่ได้ ...

แต่ไม่ว่ายังไง เธอสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา วันต่อไปเขาจะไม่มีเธอยืนอยู่ข้างกาย แต่เธอก็จะยังเป็นความรู้สึกดี ๆ ของเขา


ได้ยินไหมคนดี เธอจะยังอยู่ในความทรงจำของฉัน... แม้วันข้างหน้าฉันจะไม่มีเธอก็ตาม...

ฉันรักเธอ...ชมพู่

..................................................................................................................................

จบละ...

อีกสักพักนะจะมาต่อตอนที่ 10 ให้ แบบว่า ขอออนทัวร์ก่อนขอรับ
ตอนนี้ไม่ได้ซีนอารมณ์เท่าไหร่หรอกมั้ง...เพราะเรื่องร้าย ๆ มันผ่านไปละ... เกือบถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วนะเนี่ย (มีใครรู้ตัวบ้างว่านี่คือการย้อนอดีตของคู่รักคู่นี้...)

ถามหน่อยเถอะ ว่าถึงตอนนี้แล้วอยากให้ใครคู่กับพริก...(หวังว่าคงไม่มีไอ้เหมี่ยวโผล่มาหรอกนะ)

ออกแนวหลอนเล็ก ๆ ที่มีคนบอกว่า พริกคู่กับเหมี่ยว แม่เจ้า... สงสารข้าน้อยเถอะ

ปวดหลัง...(เว้ย)

คงไม่ว่าอะไรถ้าตอนต่อไปจะมาช่วงสิ้นเดือนนะขอรับ ช่วงนี้เอาลงบ่อย เดี๋ยวมีคนหมั่นไส้ (ทำเหมือนแคร์) ^^ เอาละ เจอกันเมื่อชาติต้องการ...



ตอนที่ 10 >



Create Date : 21 มีนาคม 2552
Last Update : 2 เมษายน 2552 19:32:46 น. 2 comments
Counter : 614 Pageviews.

 
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่ามะเหมี่ยวกับพริกเขาเป็นเพื่อนรักกันจริงๆใช่ไหม แต่ไอ้แต่ละประโยคที่หลุดรอดผ่านฝีปากของทั้งสองออกมานั้นช่าง...ขอเซ็นเซอร์ อิอิ เอาเป็นว่าชอบบทกัดๆ รักกันม๊ากๆ ของทั้งคู่ค่ะ


โดย: m&m IP: 58.9.69.23 วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:0:37:27 น.  

 
มะเหมี่ยว ซึ้ง มาก



โดย: หมูน้อยกลอยใจ IP: 222.123.136.60 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:3:14:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.