ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
once upon a time in myanmar part4 ย่างกุ้ง


 อย่างที่บอกไว้พาร์ทแรกนะคะ
ทริปนี้ได้ทำรีวิวลงพันทิปไปแล้ว
แต่อยากจะเก็บไว้ในบล๊อกแก็งด้วย
เลยเอามาอัพซ้ำแบบก๊อปวางค่ะ

^^



มาต่อตอนสุดท้ายกันดีกว่า วันนี้เราจะเที่ยวย่างกุ้งกันค่ะ

เช้านี้ไม่รีบตื่นมากเหมือนวันก่อน แพลนจะเที่ยวแบบไม่รีบร้อน ชิลๆ
ลงมากินอาหารเช้าตอนประมาณ 8 โมงเช้า

โซนอาหารของร.ร.เป็นโซนเล็กๆ มีฝรั่งนั่งอยู่2-3คน
และครอบครัวคนไทยพ่อแม่ลูก4คนนั่งกินข้าวเช้าอยู่




เหลือบมองอาหารของคนอื่นเค้า ดูหลากหลายดี
นั่งรออยู่ซักพักไม่เห็นพนักงานเดินมาถามซักทีเลย
เลยเดินไปเรียกพนง.เอง
เค้าก็ขอดูกุญแจห้อง เราก็ถามว่ามีอะไรให้เลือกบ้าง
แต่กลายเป็นสื่อสารกันผิดจุดประสงค์ เค้าเข้าใจว่าเราถามหาเมนู
เลยเอาเมนูอาหารที่ไม่ใช้breakfast (เสียเงิน) มาให้
ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ ยังคิดว่าดีจัง
breakfast มีให้เลือกเยอะมากเลย (โง่อีกช้านน)


สั่งมาเลยเบอร์เกอร์





กินเสร็จ ได้รับบิลเพื่อเสียค่าโง่ไป 3200 จั๊ต
อุตส่าห์จองร.ร.ที่รวมอาหารเช้า อะไรจะเริ่มโก๊ะแต่เช้าอย่างนี้



ตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งแท็กซี่เที่ยวย่างกุ้งทีละจุด
ไม่เน้นเที่ยวให้ครบทุกที่ เน้นเดินเล่นเก็บบรรยากาศ
แต่ด้วยความที่ยังท้องเสียไม่หายดี
และยังกลัวๆกับเหตุการณ์เป็นลมบนรถบัส+เ้ข้าห้องส้วมไม่มีน้ำราด
เลยคิดว่าวันนี้จะยอมเสียเงินแพงหน่อย
จ้างรถจากทางร.ร.ให้พาเที่ยวค่ะ
เผื่อปวดท้องกระทันหันจะได้ให้เค้าหาห้องน้ำให้ได้
หรืออาการหนักขึ้นมาจะได้พาเราไปส่งรพ.ได้

ราคาโหดใช้ได้
full program เก็บทุกเม็ดรอบย่างกุ้ง 9.00 - 19.00น.
ราคา 70 USD พาไปอย่างเดียว ไม่เป็นไกด์ให้นะคะ

เราเลยบอกเราไม่อยากเที่ยวทุกที่นาดนั้น เลยลิสต์สถานที่ให้แค่
- เจดีย์สุเล ซึ่งใกล้มาก เดินไปยังได้
- เจดีย์โบตะตาว
- ทะเลสาบกันดอว์จี
- วัดงาทัตจี
- วัดเจ๊าทัตจี
- ตลาดสก็อต
- หมดนี่เมื่อไหร่ พาเราไปทิ้งไว้ร้านกาแฟที่ไหนก็ได้
แล้วมารับไปสนามบินตอน 18.30น.
เค้าก็โอเค ขอ 40 USD
จริงๆเราก็ว่ายังแพงไป
แต่ก็เอาเหอะ สภาพตอนนั้นไม่เต็มร้อยจริงๆ
ยังปวดท้องเป็นระลอกๆ
และเงินที่แลกมายังเหลือตั้ง 100 USD กับเงินจั๊ตประมาณ 10,000 จั๊ต
(พกเงินมาทั้งหมด 200 USD ผ่านไป2วัน ใช้ไปไม่ถึง100USDเลย)

อ่ะ 40 USD เอาก็เอา(วะ)


พี่โชเฟอร์พูดภาษาอังกฤษเก่งเลยทีเดียว สุภาพมาก
ตั้งแต่มาพม่ารู้สึกว่าพี่คนนี้คุยได้สุภาพ น่าฟัง
และภาษาอังกฤษฟังง่ายที่สุดแล้ว
คือเห็นแล้วรู้สึกอุ่นใจ ไม่น่ากลัว
(แท็กซี่และโชเฟอร์ไม่ได้เป็นของร.ร.โดยตรง เป็นลักษณะบริษัทที่โคกับร.ร.)

พอฝากเป้ไว้กับทางร.ร.เสร็จ
พี่โชเฟอร์ก็เอารถมาเทียบหน้าร.ร. รถสภาพใหม่มาก สะอาด
ใครสนใจหลังไมค์มาได้นะคะ
เราขอนามบัตรพี่โชเฟอร์ไว้ เพราะประทับใจมากๆ
เผื่อมาเที่ยวอีกจะได้ติดต่อพี่แก



ไปที่แรกกันเลย เจดีย์สุเล
เป็นเจดีย์อายุเก่าแก่มาก ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
มีวงเวียนใหญ่ล้อมรอบ ถนนทุกสายวิ่งสู่วงเวียนนี้
พี่โชเฟอร์จอดนอกวงเวียนให้เราเดินข้ามถนนเข้าไป
ก่อนเข้าวัดก็ต้องถอดรองเท้าตามระเบียบ
แต่ที่นี่ไม่ให้หิ้วรองเท้าเ้ข้าไป จะมีจุดฝากรองเท้า
บริจาคค่าฝากตามศรัทธา
หน้าทางขึ้นดอกไม้สดขายอยู่ เลยซื้อกุหลาบ1ช่อ 1000จั๊ต
ค่าธรรมเนียมเข้าชม 3 USD

เข้ามาถึงข้างในรู้สึกหลุดไปอยู่อีกโลก 
ข้างนอกนี่รถอย่างวุ่นวาย เข้ามา้ข้างในกลายเป็นวัดสงบเงียบ




ไหว้พระประธานทั้งสี่ทิศ และเทพประจำทิศเกิด



ระหว่างเดินชมนู่นนี่เพลินจะมีชาวพม่าคอยมาถามเราว่า
เกิดวันอะไร แล้วอาสาพาไปสรงน้ำเทพประจำวันเกิด
แต่พวกนี้เค้าจะมาทำเป็นพาเดินเที่ยวเป็นไกด์ให้
สุดท้ายก็มัดมือชกให้เราจ่ายค่าจ้าง เราก็เลยตัดบทตั้งแต่คำแรกทุกคน

แต่อยู่ดีๆก็มีพี่หม่องคนหนึ่ง มาถามลักษณะเดิม (น่าจะเป็นคนที่4ละ ที่เดินมาถาม)
แต่คนนี้เรารู้สึกถูกชะตา หรือถูกมนตร์สะกด555
ยอมเดินคุยไปกะเค้าเฉยเลย
อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่ได้พยายามพาเราเดินเที่ยวตั้งแต่แรก
เค้าใช้วิธีเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังก่อน ว่าเค้าไปเรียนที่ไทยมา4ปี
น่าจะเป็นลักษณะไปเรียนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา
(ไม่ทราบว่าที่ไหน แต่พูดถึงวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดแจ้งบ่อยๆ
และบอกว่าชอบภาพเขียนที่วัดพระแก้วมาก)

พี่หม่องคนนี้พูดภาษาไทยเก่งเลยทีเดียว
แต่เราก็คุยกันโดยใช้ภาษาอังกฤษบ้างไทยบ้าง สลับๆกกัน
พี่แกดูมีความรู้อย่างลึกซึ้งเลย
อธิบายความหมายองสัญลักษณ์ทุกอย่างตั้งแต่ทิศต่างๆ
สิงห์ กระต่าย พญานาค เสานี้ พระองค์นี้
มีที่มาความสำคัญอย่างไร ฯลฯ
และยังบอกอีกว่าลักษณะของคนเกิดวันพฤหัสอย่างเรา
เป็นคนมีสติปัญญาดี กล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการแม้จะแตกต่าง
that's why travel alone!


ที่เจดีย์สุเลก็มีเทพทันใจค่ะ
แต่เทพทันใจที่คนไทยนิยมไปมากๆจะอยู่ที่เจดีย์โบตะตาว
แต่ก็เข้าไปไหว้ขอพรที่นี่ด้วย

ที่เทพส่วนเทพทันใจจะมีคนทำพิธีอยู่(พูดอังกฤษไม่ได้)
พี่หม่องสื่อสารแทนให้ตลอด
เค้าจะให้เราซื้อเครื่องสักการะ นำไปวางหน้าเทพ
ใช้แบงค์อะไรก็ได้(เราใช้แบงค์ยี่สิบ)2ใบ ม้วนเป็นกรวย
เสียบในมือเทพ พอคนทำพิธี ท่องพม่างืมงำๆเสร็จ
ก็จะดึงแบงค์มาคืนให้1ใบ พร้อมกับให้ดอกไม้ติดตัว1ดอกคู่กับใบชนะ(ถ้าจำไม่ผิด)
บอกว่าเป็น lucky flower








สุดท้ายก่อนออกจากวัด พี่หม่องก็ขอค่าน้ำใจเรา
เราก็โอเคค่ะ คือเค้าก็ดีนะ เลยให้2000 จั๊ต
แต่ฮี ขอ5000 จั๊ต
เฮ้ยยย อันนี้เริ่มเยอะละ อะไรอ่ะ เราก็ไม่ได้ขอให้เค้ามาเป็นไกด์ให้นะ
ถึงแม้จะสอนอะไรเรามากมายก็เห๊อะ
สุดท้ายตัดเราจำใจยอมที่ 3000 จั๊ต แล้วรีบออกมาจากวัดเลย



ที่ต่อไป เจดีย์โบตะตาว
เสียค่าธรรมเนียม 3 USDที่ป้อมเล็กๆหน้าทางเ้ข้าวัด
จะได้รับเอกสารบรรยายเกี่ยวกับวัดเป็นภาษาอังกฤษ
สามารถฝากรองเท้าไว้ในป้อมได้เลย

โชคไม่ดี ดันมาพร้อมกับทัวร์ไทยอีก 2 กรุ๊ป คนเลยเยอะสุดๆ
ยิ่งตอนเข้าไปสักการะพระเกศาธาตุนี่เบียดกันสุดๆ
โดนเบียดผลักไปผลักมา สุดท้ายกระเด็น
ได้เห็นพระธาตุไกลๆประมาณ1วิ เสียดายอ่ะ ไม่มีรูปเลย
ไม่ไหวค่ะ ออกมาเดินเล่นรอบวัดดีกว่า




เสียดายต่อที่2 เจดีย์อยู่ในช่วงบูรณะซ่อมแซม





งั้นไปสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเลยดีกว่า
เทพทันใจค่ะ

ถ้าหันหน้าเข้าเจดีย์ พอผ่านประตูวัดเข้ามาให้เลี้ยวซ้าย จะเจอศาลาริมน้ำ เ้ข้าไปเลยค่ะ




หน้าทางเข้าศาลาจะมีซุ้มขายองเล็กๆ ตอนแรกนึกว่าซุ้มขายเครื่องสักการะ
แต่ไม่ใช่ค่ะ เป็นที่ขายอาหารปลา,เต่า ไว้ให้โยนเล่นระหว่างรอคิว

ก็ดูคิวเอาเถอะ ยาวซะขนาดนี้





ที่ต่อคิวอยู่น่าจะเป็นคนไทย 90%
ยืนซักพักก็เบื่อๆ เลยหันไปชวนคุณน้าที่ยืนต่อหลังเราคุยเล่น

me :  มากี่วันหรอคะ
คุณน้า  :  (ตกใจเล็กน้อย อิเด็กนี่อยู่ๆก็หันมาคุย) 4วันค่ะ
me :  อ๋อ อย่างงี้ไปถึงพุกามด้วยเลยป่ะคะ
คุณน้า  :  เอ่อ...อืม...ที่ไหนนะคะ...ไม่รู้เหมือนกัน มากับทัวร์ เพิ่งมาถึงเลย เค้าจะพาไปไหนบ้างไม่รู้ พาไปไหนก็ไป
me :  อ่อ ^^

ตอนถามก็ไม่ทันคิด
อย่างนี้สินะ ความแตกต่างระหว่าง backpacker และ tour tripper

ก่อนมาเราเตรียมตัวอ่านเยอะมากๆ เสพข้อมูลทุกวัน
แต่ถ้ามากับทัวร์เราไม่จำเป็นต้องรู้อะไรล่วงหน้าเลยก็ได้
มาถึงพม่าแล้วยังไม่ต้องรู้เลยก็ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ทัวร์จัดการ
แต่มันจะสนุกอะไรล่ะ ^^



ใกล้ถึงตาเราแล้ววววว


วิธีไหว้เทพทันใจ
เตรียมแบงค์2ใบ ม้วนเป็นกรวยเช่นเดิมค่ะ
พอใกล้จะถึงตาเรา เค้าจะยกตะกร้าเครื่องสักการะมาให้
ประกอบไปด้วยพวกกล้วย มะพร้าว เครื่องไหว้ต่างๆ ผ้าคล้องคอ (หนักพอสมควร)
พอถึงตาเราก็เอาตะกร้าเครื่องไหว้ ไปวางตรงหน้าเทพทันใจ
จากนั้นก็เอาแบงค์ที่ม้วนไว้2ใบ เสียบที่มือขวาของเทพ
จากนั้นก็เอาหน้าผากเราแตะที่นิ้วชี้มือขวาของเทพ
(รูปปั้นเทพจะอยู่ในท่ายกมือขวา ชี้นิ้วชี้ไปข้างหน้า)
แล้วก็อธิษฐาน ควรจะขอเพียงแค่ 1 อย่างนะคะ
เสร็จแล้วก็หยิบแบงค์คืน1ใบ มาเก็บไว้เป็นสิริมงคล
เดินอ้อมหลังเทพ เอาผ้าคล้องคอคล้องเทพ เป้นอันเรียบร้อยค่ะ




วิหารเทพกระซิบจะอยู่ด้านนอกวัดค่ะ ตรงข้ามกับทางเข้าวัดเลย

คนเยอะมากๆอีกเช่นเคย ทัวร์ไทยกรุ๊ปนี้จะต้องเจอกันตลอดแทบทุกที่เลยสินะ ><"



เครื่องสักการะมีขายด้านในวิหาร มีตั้งแต่ตะกร้าพลาสติกเล็กๆ ไปจนพานยิ่งใหญ่อลังการ
ของเราจัดตะกร้าเล้กแบบนี้ ราคา80บาท (ถ้าไม่เอาผ้าคล้องคอ 40บาท)



เทพกระซิบชอบกินนมค่ะ เครื่องไหว้เลยมีนมกล่องอยู่ด้วย
จัดการเอาหลอดเจาะรอเลยนะคะ
แล้วก็ทำแบงค์ 1 ใบ ม้วนเป็นกรวยใส่ไว้




ระหว่างต่อแถวจะมีเด็กๆ เข้ามาพยายามช่วยเล็กๆน้อยๆ
เช่น มาช่วยม้วนแบงค์เป็นรูปกรวย แกะหลอด เจาะกล่องนม
ตอนแรกเรามองว่าน่ารักดี นึกว่าเป็น volunteer สุดท้ายเด็กๆจะเก็บเงินค่ะ เงิบ!

ต่อแถวประมาณ 10 นาที ก็ถึงตาเรา
คนทำพิธีจะเก็บแบงค์ไปใส่ตรง...ตรงไหนนะ ดูไม่ทัน เก็บไปเร็วๆจริงๆ
แล้วก็เอาผ้าคล้องคอ คล้องเทพกระซิบ
เอากล่องนม ไปจ่อปากเทพ หันหลอดให้ตรงปาก
คนทำพิธีก็งืมงำอะไรแป๊บนึง แล้วก็เก็บถาดเราไป
ให้เรากระซิบขอพรข้างๆหูเทพกระซิบ (มีทริคคือ ให้ขออย่างเดียวกับที่อเทพทันใจนะคะ)



ต่อสองแถวกระซิบสองหูแบบนี้ เทพท่านฟังทันไม่น๊า หวังว่าท่านคงไม่งงนะ ^^



พี่โชเฟอร์ขับพาไปดูแม่น้ำย่างกุ้ง ที่สุดทางถนนหน้าเจดีย์โบตะตาว
เป็นเหมือนท่าเรือเล็กๆ มีกองตู้คอนเทนเนอร์เต็มเลย

ตอนนั้นแดดร้อนใช้ได้ เราลงไปเดินถ่ายรูปกลางแดด ซักพักพี่โชเฟอร์วิ่งเอาร่มมากางให้
เฮ้ยยย อารมณ์คุณหนูมากๆอ๊ะ ไม่ชิน
ที่ผ่านมา2 วัน ขึ้นรถบัส รถขนหมู รถไฟปุเลงๆ แบกเป้ ตะลอนๆ
มาวันนี้มันช่างแตกต่างเหลือเกิน




จุดหมายต่อไป ทะเลสาบกันดอว์จี

เราตั้งใจจะมาดูภัตตาคารการะเวก
แต่โซนที่พี่โชเฟอร์พามาเป็นส่วนของสวนซึ่งเห็นภัตตาคารไม่ชัด
พี่โชเฟอร์เลยขับพาไปส่งหน้าภัตตาคารเลย
เราก็บอกว่า ไม่มีตังค์เข้าไปกินนะ แพงเกิน 555
เค้าบอกไม่เป็นไร เข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆเฉยๆก็ได้





ภัตตาคารสวยและลำใหญ่มากๆ ไม่สามารถถ่ายรูปให้เห็นเต็มลำได้
ก็เลยไปงอแงใส่พี่โชเฟอร์เล็กน้อยว่าอยากได้รูปแบบเต็มๆลำ
พี่แกก็ใจดีพาขับรถวนหามุมที่ถูกใจจนเจอ





ออกจากทะเลสาบก็เที่ยงแล้ว แต่เรายังไม่หิว
เลยขอพี่โชเฟอร์ไปลุยต่ออีก2วัดก่อน ค่อยกินละกัน




มาต่อกันที่ วัดเจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน

พระนอนองค์นี้สถาปัตยกรมจะต่างกับพระนอนที่บาโกมาก
ดูสัดส่วนและรายละเอียดที่สมจริงกว่า พี่บาโกจะออกแบนๆ
หุ่นไม่ค่อยเหมือนคนจริง รายละเอียดเป๊ะกว่า
ส่วนตา หวานสมคำร่ำลือค่ะ
พระพุทธรูปของพม่ากับไทยต่างกันมากๆ
ถ้าชินกับพระพุทธรูปของไทย พอมาเจอที่นี่จะรู้สึกเหมือนไม่ใช่พระพุทธรูป
ให้ความรู้สึกรูปปั้น,หุ่นคนมากกว่า
(อ้าวแล้วพระพุทธรูปไม่ใช่รูปปั้นคนหรอ / เอ่อ มันก็ใช่นะ
แต่เป็นคนที่รุปร่างลักษณะ ideal มากๆอ่ะ)
อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ไม่ได้มีความรู้ด้านนี้ใดๆทั้งสิ้น








พระพุทธรูปองค์เดิม ก่อนสร้างใหม่






มีแท่นสำหรับถ่ายรูปอยู่ทางปลายเท้าขององค์พระให้ด้วย จะเห็นครบทั้งองค์





พระบาท มีภาพวาดเป็นปริศนาธรรม 108 ประการ มีป้ายเฉลยให้อ่านด้วย









วัดแห่งสุดท้ายสำหรับทริปนี้แล้ว
วัดงาทัตจี

มีพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์องค์ใหญ่มากค่ะ สูงน่าจะประมาณตึก3-4ชั้น





นอกจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ยังสิ่งที่น่าสนใจคือ
งานไม้แกะสลักที่ดูยิ่งใหญ่อลังการมากๆ












หิวแล้วค่ะทีนี้ บ่ายโมงครึ่งแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ



ทางรร.แนะนำร้าน YKKO ไว้
บอกว่านักท่องเที่ยวชอบไปกัน พร้อมวงพิกัดใส่แผนที่ของเราไว้ให้

หน้าร้านดูเล็กๆค่ะ แต่พอเข้าไปแล้วร้านใหญ่พอสมควรเหมือนกัน
บรรยากาศก็โอเค แต่มืดๆหน่อย

คนเยอะใช้ได้เลย เมนูมีภาษาอังกฤษให้
มีทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง อิตาลี
อ่ะ ก๋วยเตี๋ยวปูละกัน อ้าวว ปูหมดหรอ เคๆ ไก่ก็ได้
อุตส่าห์จะกินอาหารพม่า สุดท้ายได้ก๋วยเตี๋ยวไก่ โคตรเบสิคเลย
แล้วก็สั่งน้ำผลไม้กิน เห็นเมนู YKKO juice อะไรไม่รู้อ่ะ ลองสั่งมาดูละกัน
หน้าตาเป็นงี้ค่ะ




เป็นแอปเปิ้ล สัปปะรด แครอท มาเป็นชิ้นๆ
เนื้อ 80% น้ำ20%
ดูดน้ำปรืดเดียวเกลี้ยง แล้วตักเนื้อกินเอา
แต่ขอบอก อร่อยมว๊ากกกกกก กลับมาถึงไทยยังลองทำกินเองเลยค่ะ 555


อาหารมาแล้วววว



มื้อนี้ 2800 จั๊ตค่ะ



เที่ยวที่สุดท้ายละ ตลาดสก็อตสุดฮิตของคนไทย
เป็นตลาดแหล่งขายงานแฮนด์เมด ผ้าทอ เครื่องประดับ พลอย มุก งานแกะสลัก ฯลฯ





ป้ายภาษาไทยเยอะมากกก
และแน่นอนกรุ๊ปทัวร์ไทย กรุ๊ปเดิม เจอกันตล๊อดดด



เดินๆละนึกถึงแม่ ถ้านางมา นางคงฟิน ^^


เที่ยวครบทุกที่ในเวลา บ่ายสามครึ่ง ให้พี่โชเฟอร์พาไปเอาเป้ที่ร.ร.
แล้วพาเราไปทิ้งไว้ร้านกาแฟที่ไหนก้ได้ พี่แกเลยพามาร้านกาแฟสุดฮิตสำหรับชาวต่างชาติ
ชื่อร้าน COFFEE CIRCLES Coffeehouse & Restaurant
ทางไปสนามบิน

ในร้านมีแต่ฝรั่งล้วนๆ
เล็งหามุมเหมาะๆ สั่งกาแฟกับขนมมา แล้วกบดานยาวถึง18.30น.เลย
นั่งเขียนบันทึกไป เล่นเนตไปเพลินๆ แป๊บเดียวพี่โชเฟอร์ก็มารับละ






มาถึงสนามบิน19.00 
เร็วเกินหรอ เคาท์เตอร์นกแอร์ยังไม่เปิดเลย
ไปแลกเงินคืนดีกว่า เหลือเงินตั้งหมื่นกว่าจั๊ต เกือบสี่ร้อยบาทเลยนะ
อ้าววว ในอาคารผู้โดยสาราออก ไม่มีเคาเตอร์แลกเงิน
มีเฉพาะที่อาคารขาเข้า แล้วเค้าไม่ให้ออกจากอาคารแล้วอ่ะ
จนท.มีการบอก ต่อให้ไป เคาท์เตอร์ก็ปิดแล้ว มันปิดหกโมงเย็น

พอเช็คอินได้เลยไปเดินดิวตี้ฟรี พยายามใช้เงินให้หมด
แต่แค่หมื่นจั๊ต จะไปซื้ออะไรได้ สุดท้ายได้เซ็ตสร้อยคอคู่สร้อยข้อมือมา1เซ็ต
เหลือเงินกลับไทย 250 จั๊ต ประมาณ 8 บาท ^^

นั่งรอเครื่องอย่างเงียบเหงา ทำไมเค้ายังไม่มากันนะ






กลับถึงไทยโดนสวัสดิภาพ เกือบห้าทุ่ม



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม หากมีโอกาสจะมารีวิวอีกนะคะ







Create Date : 06 ตุลาคม 2557
Last Update : 6 ตุลาคม 2557 14:40:41 น.
Counter : 2593 Pageviews.

4 comments
  
เย้ๆๆ เจิมมม
โดย: มิลเม วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:19:02:21 น.
  
ตามมากราบพระที่เมียนม่าร์ด้วยค่ะ
พระพุทธศาสนา ในเมียนม่าร์ ยังคงรักษาไว้ได้ดีมากๆเลยนะคะ
อยากไปสักครั้ง แต่วันนี้ตาม จขบ.ไปเที่ยวก่อนค่ะ
โดย: มิลเม วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:19:03:35 น.
  
ยินดีค่ะ
ที่นู่นยังรักษาพระพุทธศาสนาไว้ดีมากเลย
ศรัทธายิ่งใหญ่จริงๆ
โดย: meddytale วันที่: 28 ตุลาคม 2557 เวลา:15:39:17 น.
  
มาถึงก็เป็นตอนจบเสียแล้ว
ไปเที่ยวเองมันสนุกตรงได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรนี่แหละค่ะ
และบางทีก็ต้องลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้วย

เคยไปเที่ยวแล้วท้องเสียเหมือนกันค่ะ
แสนทรมาน เพราะไปไหนไกลห้องน้ำไม่ได้ ต้องเดินห้างทั้งวัน


จะไปเที่ยว ญป เหรอคะ ไปเมื่อไหร่คะ
โดย: AdrenalineRush วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:19:03:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

meddytale
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments