กันยายน 2557

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
once upon a time in myanmar เมื่อฉันแบกเป้ลุยเดี่ยวครั้งแรก part1


ทริปแบกเป้ลุยพม่านี้ เป็นทริปที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้วค่ะ

และได้ทำกระทู้รีวิวลงpantipไปแล้ว


แต่ไม่ได้ลงในบล๊อกแก็ง 

คิดไปคิดมา bloggang ก็เสมือนบันทึกชีวิตส่วนหนึ่ง
งั้นก็ควรจะทำเอามาลงให้ครบทุกทริปดีกว่า

เลยเอามาลงใหม่อีกรอบ
แบบก๊อปวางเลย ขี้เกียจมากๆ
แต่ลบเนื้อหาออกไปเยอะหน่อย 
เน้นรูป

ใครเคยอ่านแล้ว
ผ่านได้เลยค๊า ^^







ทริปนี้มีเวลาเที่ยวแค่3วันเท่านั้นค่ะ T_T คือลางานได้วันศุกร์วันเดียว เลยไปวันที่25-27 เม.ย.ด้วยเวลาที่จำกัด เลยไปได้แค่ ไจ๊ทิโย บาโก ย่างกุ้งค่ะ


บินจากต่างจังหวัดไปถึงดอนเมืองเกือบเที่ยงคืนแล้ว เลยตัดสินใจนอนมันที่ดอนเมืองนี่ล่ะ เพราะอีกไม่กี่ชม.ก็ต้องมาเช็คอินแล้ว เดินๆหาที่เหมาะๆ แล้วนอนยาวเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวอันตราย เปิดไฟสว่าง คนเดินไปมากันทั้งคืน แถมมีคนนอนกันเพียบ 



   ปัญหาคือ ปวดหลัง อ๊ากกกกก นอนไม่สบายเลย แถมพอหลับได้สักพัก นักท่องเที่ยวจีน ดังมากกกกกกกกก ทั้งคุยกันดัง มีมาลากเก้าอี้ไปสร้างมุมอาณาจักรสุมกระเป๋าสุมที่นอนกัน โอ๊ยยยยย พอค่ะ เลิกนอน ตีสามครึ่งลุกมา ล้างหน้าล้างตาแต่งหน้า แล้วไปเช็คอินเลย
        ไฟล์ทที่จขกท.ไป เป็นกรุ๊ปทัวร์คนไทยประมาณ70%ของทั้งลำ ส่วนใหญ่เป็นคุณลุงคุณป้าคุณตาคุณยาย ซึ่งกรุ๊ปนี้ได้เจอกันตลอด3วันที่ไปเที่ยวเลย แพลนการเที่ยวของเราเหมือนกันมากๆ ถึงขนาดต้องเปลี่ยนแพลนบ้างเพื่อเลี่ยงคนเยอะ

        ถึงสนามบินย่างกุ้งตามเวลาเป๊ะ สนามบินของเค้าเล็กๆ เท่าที่เห็นเหมือนจะมีแค่ 4เกท ใช้รับส่งผู้โดยสารที่ ด้วยเกทเดียวกัน แต่กั้นทางเดินด้วยกระจกเอา

ถึงจุดตม. ก็ต้องต่อแถวคุณป้ากรุ๊ปทัวร์ยาวเหยียด ซักพักเจ้าหน้าที่มาบอกให้เราไปต่อแถวสำหรับชาวพม่า 
เราก็พยายามบอก “ No no . I’m Thai”
นางก็หัวเราะ “ I know” แล้วก็ยืนยันให้เราไปช่องชาวพม่าได้ 
จากนั้นก็ผ่านอย่างง่ายดายมากๆ ไม่พูดไม่ถามซักคำ หน้ายังแทบไม่มอง


ทันทีที่ก้าวออกประตู พี่หม่องแท็กซี่ก็กรูกันเข้ามา รัวภาษาอังกฤษที่ฟังผ่านๆนึกว่าพี่แกพูดภาษาพม่าใส่เรา คือฟังไม่ออกจริงๆ  ตั้งสติค่ะ พูดออกไปเลย ว่า  “อองมิงกลา bus station 6000 จั๊ต”  โอเค รู้เรื่องนะ คือใครคิดแพงกว่านี้ก็ถอยไปเลย จะเอาราคานี้  ได้ผลค่ะ พี่หม่องคนนึง ก้าวออกมา ตอบโอเค แล้วเดินนำไปยังรถพี่แกที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ ตรงข้ามกับสนามบิน




รถแท็กซี่ที่นี่มีตั้งแต่เก่าๆ เปิดกระจก โอเพ่นแอร์ ไปจนรถใหม่แอร์เย็นเฉียบ ก็ต้องเล็งก่อนโบกกันดีๆ 

แพลนของเราวันนี้คือ ไปขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งอองมิงกลา หารถบัสแอร์ไปลงที่ คินปุนแคมป์ (kinpun base camp) แล้วนั่งรถขนหมูเพื่อไปยังพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ


          พี่แท็กซี่พาเราไปลงหน้ารถบัสที่จะไปคินปุนแคมป์เลย ไม่ต้องเดินหา ได้รถรอบ9.30น.(รถบัสสภาพดีมีแอร์ที่จะไปคินปุนแคมป์ เท่าที่รู้มี 2 เจ้าค่ะ คือ win express และ Yoe Yoe Lay Express) ราคา 7000จั๊ต



ก่อนมาเที่ยวพม่า เราเข้าใจมาตลอดว่าคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่ง เค้าใช้ภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น (คือโดนฝังหัวมาอย่างนี้ ว่าไม่เก่งอังกฤษนี่แพ้พม่านะ) มาถึงเองเพิ่งเก็ท ว่าไม่จริงเลย ถามอะไรใครไม่เห็นมีใครตอบได้เลย คนที่พูดภาษาอังกฤษได้จะมีเฉพาะคนที่ทำงานเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ชาวบ้านทั่วไปจะออกแนวหวาดกลัวเราด้วยซ้ำ คงประมาณเรากลัวฝรั่ง เช่น ถ้าไปซื้อของบางร้านคุยภาษาอังกฤษไม่ได้เลย บางร้านจะมีคนพูดได้1คน ขลุกขลักพอประมาณ





นั่งรถบัสหลับๆตื่น ดูวิวข้างทางเพลินๆ ฟังทีวีที่เปิดในรถ (น่าจะเป็นวีซีดีการแสดงตลก เห็นขำกันดังลั่นทั้งรถตลอดทาง) สลับกับเปิดเอ็มวีเพลงพม่า 

พอเริ่มเมื่อยตรูด รถก็จอดหน้าร้านอาหารใหญ่ๆแห่งหนึ่ง คนลงกันหมดรถเลย เฮ้ยยย ถึงแล้วหรอ กว่าถึงคินปุนแคมป์มันใช้เวลา5ชม.นี่นา อันนี้เพิ่งนั่งรถมาได้ 2 ชม.ครึ่งเอง พอเดีเหลือบไปเห็นมนุษย์ผู้เดียวที่ยังคงนั่งบนรถ เป็นฝรั่งค่ะ OMG! เพิ่งสังเกตว่าเราไม่ใช่ชาวต่างชาติผู้เดียวบนรถคันนี้ ลองไปถามนาง นางบอกว่าสงสัยพักกินข้าวเที่ยงค่ะ นางก็จะไปคินปุนแคมป์เหมือนกันเลย อ่อ ก็เลยลงไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย เลยได้รู้จักกับเฮียญี่ปุ่นอีก1คน กลายเป็นนักท่องเที่ยว 3 คน 3 สัญชาติบนรถบัสคันนี้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่เดียวกันคือ พระธาตุอินทร์แขวน





บรรยากาศร้านที่แวะให้พักกินข้าว



มาถึงคินปุนแคมป์ ประมาณบ่ายสอง เราอยากรีบๆขึ้นไปให้ถึงรร. เลยรีบเดินไปขึ้นรถขนหมู (ท่ารถจะเป็นเหมือนโรงเรือนใหญ่ๆหลังคาสูง มีป้ายเหลืองๆภาษพม่าติดไว้ตัวใหญ่ๆที่หลังคา) 


          ไปๆมาๆ นักท่องเที่ยวทั้ง3สัญชาติ ก็กลับมานั่งอัดรวมกันในรถขนหมูคันหนึ่งค่ะ 555 เฮียญี่ปุ่นยอมนั่งริมสุดให้ สงสัยกลัวเราปลิวร่วงรถ

          ในรถขนหมูนั่งอัดกันมากๆ อัดจนคิดว่าเต็มแล้วนะ ยังใส่คนลงมาอีกอ่ะ โอ๊ยย แทบจะไปนั่งเกยบนตักพี่ฝรั่งละ ระหว่างทางก็แบบ เฮ้ยยยย เหมือนเล่นรถไฟเหาะ นี่ช้านมาเที่ยวadventure parkไรงี้ป่ะเนี่ย ซิ่งมาก เร็วมาก ทางขรุขระมาก โค้งหักศอกประมาณสิบแปดตลบรัวๆ พี่ฝรั่งอุทาน โอ้วมายก็อดๆตลอดทาง คนขับนี่น่าจะลองไปออดิชั่น Fast & furious ดูนะ สถานการณ์ช่วงนี้จะไม่มีรูปถ่ายเลย มือมีไว้เพื่อเกาะไม่ให้ร่วงรถเท่านั้น

ค่าโดยสาร ราคา 2500 จั๊ต ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที เราก็มาถึงอย่างปลอดภัย ลงรถมาเราขาสั่นเลย เพราะนั่งเกร็งขามาตลอดทาง


ก่อนเข้าเขตพระธาตุ นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าธรรมเนี่ยม คนละ 6000 จั๊ต 

แล้วเราไปเช็คอินที่ ร.ร.ไจ๊โท



ห้องพักที่นี่ สภาพแย่กว่าที่คิดไว้เล็กน้อย ราคา3700บาท แต่คุณภาพสู้ 450บาท บ้านเราไม่ได้เลย แต่อยู่ได้ค่ะ สบายมาก ไม่ได้ติที่ไม่ดีนะ เรากินง่ายนอนง่าย แต่ติที่มันแพงเกินคุณภาพอ่ะ คิดทีไร น้ำตาจาร่วง





จองแอร์คอนดิชั่นนะคะ ซึ่งเป็นแบบนี้ มันคือพัดลมดีๆนี่เอง







บริเวณโรงแรมมีระเบียงเป็นจุดชมวิว สวยดีค่ะ มองไปจะเห็นพระธาตุอยู่ไกลๆ




บ่ายสามครึ่งแล้ว ออกไปสักการะพระธาตุกันดีกว่า




ที่พระธาตุองค์จริงไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไปปิดทองได้นะคะ




ตรงนี้เป็นอาคารระหว่างทางเดินมาที่ตัวพระธาตุ ผู้หญิงสามารถปิดทองที่นี่ได้ค่ะ ตรงข้ามกับอาคารนี้จะมีพระนางชเวนันจิน เชื่อว่าหากเจ็บป่วยส่วนใดให้แตะที่ส่วนนั้นของพระนางแล้วจะช่วยให้อาการเจ็บป่วยหายได้

       ตามความเชื่อ จะต้องมาสักการะพระธาตุอินทร์อินทร์แขวนให้ได้ 3ครั้ง แต่เราคงไม่ได้มีโอกาสมาบ่อยขนาดนั้น ไหนๆมาแล้ว งั้นเอาเป็นว่าเดินจากร.ร.มาสักการะให้ได้ 3 ครั้งในการมาเที่ยวครั้งนี้ละกัน บ่าย ค่ำ และเช้ามืด




มื้อเย็นมากินข้าวที่ A1 restaurant  เดินย้อนออกมา อยู่นอกจุดจ่ายค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวเล็กน้อย 




ฝั่งตรงข้ามร้านเป็นโรงแรมmountain top ที่จขกท.อยากพักมาก เพราะดูรีวิวแล้วห้องดีกว่าไจ๊โทเยอะ แต่เต็มค่ะ เลยอด


ระหว่างนั่งรออาหาร มีช้อนส้อมแช่น้ำร้อน และตะเกียบมาเสิร์ฟก่อน หยิบตะเกียบมาดู เอ๊ะ ทำไมฉันอ่านภาษาพม่าออก อ่อๆ ภาษาไทยข้ามแดนมา



 อาหารมาแล้วววว ถือว่าเป็นมื้อแรกที่พม่าเลยนะ สั่งแกงพม่า(เป็นแกงกะหรี่หมูค่ะ) กับข้าวเปล่า สังเกตว่าที่พม่าไม่ว่าจะสั่งอาหารอะไร มักจะเสิร์ฟน้ำซุปให้ด้วยเสมอ

เซตนี้ + โค้กกระป๋อง 4500 จั๊ต อิ่มมากก








หลังจากกลับไปสลบที่ร.ร.พักใหญ่ ก็มีแรงเดินไปสักการะพระธาตุรอบที่2 ตอน1 ทุ่ม อากาศต่างกับตอนกลางวันมาก อากาศเย็นถึงหนาวนิดๆ 


พระธาตุอินทร์แขวนยามค่ำคืน สวยไปอีกแบบ









ไหว้พระธาตุเสร็จ หิวอีกแล้ว เลยกลับไปนั่งชิลๆรับอากาศเย็นที่ A1 restaurant อีก สั่งไมโลร้อน กับขนมปังปิ้งมานั่งกิน บรรยากาศกลางคืนดูครึกครื้นกว่าตอนกลางวัน วัยรุ่นเต็มเลย 

โต๊ะเดิม มุมเดิมกับเมื่อกลางวัน แต่ทางเดินโล่ง ไม่มีคนเดินผ่านไปมา




ไมโลร้อนนี่เสิร์ฟมาเป็นไมโล3in1 มาทั้งซอง พร้อมน้ำร้อน1แก้ว ฉีกชงเอาเอง อินดี้จริงๆ



แล้วกลับไปสลบไสลที่ห้องพักสุดหรู

เตรียมตื่นเช้าไปไหว้พระธาตุก่อนลงจากเขาในวันรุ่งขึ้นค่ะ







Create Date : 26 กันยายน 2557
Last Update : 26 กันยายน 2557 18:40:36 น.
Counter : 1037 Pageviews.

1 comments
  
ตามมาชมพม่าค่ะ ยังคงอยู่ในแพลน อยากไปมากกก
โดย: มิลเม วันที่: 29 กันยายน 2557 เวลา:2:31:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

meddytale
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments