Bloggang.com : weblog for you and your gang
สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
สัตว์ในวรรณคดีของไทย
กินรี
กินรื ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามกินรี (ตัวเมีย) และ กินร (ตัวผู้) เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้ ตามตำนานเล่าว่าอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาศ นับเป็นสัตว์ที่มีปรากฏในงานศิลปะของไทยมาก ส่วนในวรรณคดีไทยก็มีการอ้างถึงกินรีด้วยเช่นกัน
ศิลปะ
ในงานจิตรกรรมไทยนิยมวาดภาพกินร และกินรีไว้ในที่ต่างๆ ในฉากของป่าหิมพานต์ นอกจากนี้ยังมีการปั้นรูปกินรและกินรีประดับไว้ในสถานที่สำคัญด้วย
ครุฑ หรือ พญาครุฑ (Garuda)
เป็นสัตว์กึ่งเทพ ในตำนานปรัมปราของอินเดีย ปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหากาพย์มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับพญานาค และทะเลาะเป็นศัตรูกัน นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์ปุราณะ ที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าของพญาครุฑ
ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์เชื่อว่าปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"
ครุฑเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็ว ทั้งยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อม ถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ
ครุฑพอจะแบ่งได้ 5 ประเภทคือ
ตัวเป็นคนอย่างธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่มีปีก
ตัวเป็นคน หัวเป็นนก
ตัวเป็นคน หัวและขาเป็นนก
ตัวเป็นนก หัวเป็นคน
รูปร่างเหมือนนกทั้งตัว
ครุฑในทางพุทธศาสนาจัดเป็นเทวดาชั้นล่างประเภทหนึ่งภายใต้การปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศใต้ เหตุที่มาเกิดเป็นครุฑเพราะทำบุญเจือด้วยโมหะ
ครุฑมีกำเนิดทั้ง 4 แบบ คือ โอปปาติกะ (เกิดแบบผุดขึ้น) ชลาพุชะ (เกิดในเถ้าไคล) อัณฑชะ (เกิดในไข่) และสังเสทชะ (เกิดในครรภ์) มีที่อยู่ตั้งแต่พื้นมนุษย์ ป่าหิมพานต์ ป่าไม้งิ้วรอบเขาพระสุเมรุ จนถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
ครุฑชั้นสูงจะมีกำเนิดแบบโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรเทพธิดา มีชีวิตอยู่เหมือนเทวดา แปลงกายได้ และบริโภคอาหารทิพย์เช่นเดียวกันเทวดา แต่ครุฑบางประเภทก็กินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ บางประเภทถ้าผูกเวรกับนาค ก็จะกินนาคเป็นอาหาร หรือถ้าผูกเวรกับสัตว์นรกในยมโลก ก็จะสมัครใจไปเป็นนายนิรยบาลลงทัณฑ์สัตว์นรก
ชื่อของครุฑมีชื่อเรียกหลายนาม เช่น
กาศยปิ (บุตรแห่งพระกัศยปมุนี)
เวนไตย (บุตรแห่งนางวินตา)
สุบรรณ (ผู้มีปีกอันงาม)
ครุตมาน (เจ้าแห่งนก)
สิตามัน (ผู้มีหน้าสีขาว)
รักตปักษ์ (ผู้มีปีกสีแดง)
เศวตโรหิต (ผู้มีสีขาวและแดง)
สุวรรณกาย (ผู้มีกายสีทอง)
คคเนศวร (เจ้าแห่งอากาศ)
ขเคศวร (ผู้เป็นใหญ่แห่งนก)
นาคนาศนะ (ศัตรูแห่งนาค)
สุเรนทรชิต (ผู้ชนะพระอินทร์)
ต้องขออภัยสำหรับรูปนกปักษาวายุภักษ์อาจเล็กไปนิดพยายามหารูปที่
ชัดและให้ใหญ่ที่สุดก็ไม่มี แต่ก็สามารถดูรูปได้จากสัญญลักษณ์ของ
ธนาคารกรุงไทยค่ะ
ปักษาวายุภักษ์ หรือนกการเวกนั้น เรียกกันอีกชื่อหนึ่งในวรรณคดีเรื่อง ไตรภูมิพระร่วงว่า นกกรวิค อธิบายว่ามีเสียงไพเราะยิ่งนัก สัตว์ทุกชนิดเมื่อได้ยินเสียงนกกรวิคแล้วจะต้องหยุดฟังนอกจากนี้ยังปรากฏมีมาในพระบาลีว่าเสียงของพระพุทธเจ้านั้นเหมือนเสียงพรหม แจ่มใสชัดเจน อ่อนหวาน สำเนียงเสนาะ ไม่แตก ลึกซึ้ง มีกังวาลไพเราะและเหมือนเสียงนกการเวก ส่วนอาหารของนกการเวกนั้น มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ปัญจสุทนีว่า นกการเวก กินน้ำมะม่วงสุกเป็นอาหาร แต่โดยที่นกชนิดนี้หายากหลงเข้าใจกันแต่ว่าอยู่บนท้องฟ้ากินลมเป็นอาหารจึงตั้งชื่อว่า วายุภักษ์ ก็มีเช่นกัน ตามวรรณคดีไตรภูมิพระร่วงนั้น กล่าวว่าขนนกการเวกนั้นเป็นที่ต้องการเพราะกลายเป็นทองคำได้
ตราปักษาวายุภักษ์
ในพระธรรมนูญใช้ตรากล่าวว่าตราปักษาวายุภักษ์ เป็นตราของพระยาราชภักดีฯ เจ้ากรมพระจำนวน ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับภาษีอากร ต่อมาเมื่อโปรดให้ตั้งกระทรวงพระคลังฯและใช้ตราพระสุริยมณฑลแล้ว ตราปักษาวายุภักษ์ก็เลิกใช้ แต่นำเอามาใช้เป็นเครื่องหมายกระทรวงการคลัง นกวายุภักษ์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ตรัสอธิบายไว้ดังนี้ "ถ้าแปลตามคำก็ว่า นกกินลม ข้อยากในนกนี้เกิดขึ้นในที่ประชุมเสนาบดี สั่งให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ทรงเขียนผูกตรากระทรวงต่างๆเป็นลายข้อมือเสื้อเครื่องแบบ หากเป็นตราเก่าซึ่งมีตราประจำกระทรวงอยู่แล้ว จะเอามาใช้ได้ให้ใช้ตราเก่า ที่เป็นกระทรวงใหม่ไม่มีตรามาแต่เดิมจึงคิดผูกขึ้นใหม่ โดยคำสั่งอย่างนี้กระทรวงใดก็ไม่ยากเท่ากระทรวงคลัง ซึ่งเดิมพระยาราชภักดีฯทำการในหน้าที่ เสนาบดีกระทรวงพระคลัง คือตรานกวายุภักษ์ รูปนกวายุภักษ์ในตรานั้นก็เป็นนกแบบสัตว์หิมพานต์ เหมือนกับนกอินทรีย์ ฉะนั้นไม่ทรงเชื่อว่าถูก จึงได้ทรงรำลึกต่อไป ก็ทรงรำลึกได้ว่า มี ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งซึ่งมีความว่าทรงพระมาลาปักขนนกวายุภักษ์ ก็ทรงค้นหาพบในหมายท้ายหนังสือพระราชวิจารณ์จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนริทรเทวี เมื่อมีคำปรากฏเช่นนั้น นกวายุภักษ์ก็คือ นกการเวก เพราะพระมาลาทุกชนิดที่ปักขนนก ย่อมใช้ขนนกการเวกอย่างเดียวเป็นปกติ เมื่อทรงดำริปรับนกวายุภักษ์กับนกการเวกเข้ากัน ก็เห็นลงกันได้โดยมีทางเราพูดกันว่า นกการเวกนั้นมีปกติอยู่ในเมฆบนฟ้า กินลมเป็นภักษาหารตามที่ว่าพิสดารเช่นนั้น ก็เพราะนกชนิดนั้นในเมืองเราไม่มีและที่ว่ากินลมก็เพราะในเมฆไม่มีอะไร นอกจากลมจึงให้กินลมเป็นอาหาร แต่เมื่อปกติของมันอยู่ในเมฆแล้วก็ไฉนเล่ามนุษย์จึงได้ขนมันมาปักหมวก เชื่อว่าเพราะเหตุที่น่าสงสัยเช่นนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงตรัสสั่งไปต่างประเทศที่ส่งขนนกชนิดนั้นเข้ามา ให้ส่งตัวนกเข้ามาถวาย จึงได้ตัวจริงเป็นนกยัดไส้มีขนติดบริบูรณ์เข้ามา ก็เป็นนกที่เรียกตามภาษาอังกฤษ 'Paradise Birdซึ่งที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษเช่นนี้ นึกว่าแปลมาจากภาษาแขก ความก็ว่าเป็นนกฟ้าเราคงได้ฟังแขกเขาว่า จึงละเมอตามไป เมื่อได้นกยัดไส้เข้ามาแล้วจึงทรงจัดเอาขึ้นเกาะคอนมีด้าม ให้เด็กถือนำพระยานุมาศในงานสมเด็จเจ้าฟ้าโสกันต์ ตามที่ได้พยานมาว่าเป็นนกอยู่ในแผ่นดิน ไม่ใช่นกอยู่ในฟ้าเช่นนั้น ใครจะเชื่อกันหรือไม่ก็หาทราบไม่ แม้ราชสีห์เมื่อได้ตัวจริงมาบอกใครว่า นี่แหละราชสีห์ก็ไม่มีใครเชื่อด้วยไม่เหมือนกับที่เราปั้นเขียนกัน ตามที่เราปั้น เขียนกันนั้น ขาดสิ่งสำคัญที่ไม่มีสร้อยคอ อันจะพึงสมชื่อว่า ไกรสร หรือ ไกรสรสีห์ หรือ ไกรสรราชสีห์
นาค หรือ พญานาค งูใหญ่มีหงอน สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และนาคยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล
นาคเป็นเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ บางแห่งก็ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งฟ้า
ตำนานความเชื่อเรืองพญานาคมีความเก่าแก่มาก ดูท่าว่าจะเก่ากว่าพุทธศาสนาอีกด้วย สืบค้นได้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียใต้ ด้วยเหตุจากภูมิประเทศทางอินเดียใต้เป็นป่าเขาจึงทำให้มีงูอยู่ชุกชุม และด้วยเหตุที่งูนั้นลักษณะทางกายภาพคือมีพิษร้ายแรง งูจึงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ให้การนับถือว่ามีอำนาจ ชาวอินเดียใต้จึงนับถืองู
เป็นสัตว์เทวะชนิดหนึ่งในเทพนิยายและตำนานพื้นบ้าน บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีความเชื่อเรื่องพญานาคแพร่หลายในภูมิภาคต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย โดยเรียกชื่อต่างๆ กัน
ต้นกำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาคน่าจะอยู่ที่อินเดีย ด้วยมีนิยายหลายเรื่องเล่าถึงพญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ ซึ่งถือเป็นปรปักษ์ของพญาครุฑ ส่วนในตำนานพุทธประวัติ ก็เล่าถึงพญานาคไว้หลายครั้งด้วยกัน
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่องพญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่ และเมื่อไปเล่นน้ำในแม่น้ำโขงควรยกมือไหว้เพื่อเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี7สี และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช(อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในนำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม
ม้ามังกร หรือ ม้านิลมังกร สัตว์ประหลาดในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี ตามจินตนาการของสุนทรภู่ เป็นพาหนะของสุดสาคร โดยสุนทรภู่ได้รจนาถึงลักษณะของม้านิลมังกรไว้ว่า
พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พัก หัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน
เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์ กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร
กินคนผู้ปูปลาหญ้าใบไม้ มันทำได้หลายเล่ห์อ้ายเดรฉาน
เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน
เจ้าได้ม้าพาหนะตัวนี้ไว้ จะพ้นภัยภิญโญสโมสร
ให้ชื่อว่าม้านิลมังกร จงถาวรพูนสวัสดิ์แก่นัดดา
โดยที่สุนทรภู่มิได้ให้ที่มาที่ไปของม้านิลมังกร ว่าเป็นสัตว์อะไร มาจากไหน ปรากฏตัวครั้งแรกที่ชายหาด เกาะแก้วพิสดาร โดยสุดสาครไปพบเข้า เป็นสัตว์ดุร้าย มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ สุดสาครเป็นผู้ปราบได้จากไม้เท้าวิเศษของโยคี ในที่สุด ม้านิลมังกร ก็กลายเป็นพาหนะของสุดสาคร และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ต่อนาย จากการมาช่วยสุดสาครที่ตกหน้าผาจากการทำร้ายของชีเปลือย
ลักษณะของม้านิลมังกร ตัวเป็นม้าหัวเป็นมังกร หางเหมือนนาค ลำตัวเป็นเกล็ดสีดำแวววาว เหมือนดั่งชื่อ กินอาหารได้หลายอย่างดั่งคำกลอน จึงเชื่อว่าสุนทรภู่จินตนาการมาจากกิเลนของจีน ก็เป็นได้ เพราะไม่ปรากฏสัตว์ลักษณะเช่นนี้ในความเชื่อหรือวรรณคดีเรื่องใดของไทยมาก่อน อีกทั้งตัวละครและสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง ก็มีที่มาจากหลายภาคส่วนของแต่ละประเทศอีกด้วย
เวตาล เป็นอมนุษย์จำพวกหนึ่ง คล้ายค้างคาวผี ในปรัมปราคติของฮินดู ดำรงอยู่เป็นภูตที่อาศัยในซากศพผู้อื่นในตอนกลางวัน ศพเหล่านี้อาจใช้เป็นเครื่องมือเพื่อนการเดินทาง เพราะขณะที่เวตาลอาศัยอยู่นั้น ซากศพจะไม่เน่า แต่เวตาลอาจออกจากศพเพื่อหากินในตอนกลางคืน ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 กล่าวไว้ว่า "เวตาล คือ ผีจำพวกหนึ่ง ชอบสิงอยู่ในป่าช้า"
ตามตำนานของชาวฮินดู กล่าวว่าเวลานั้นเป็นวิญญาณร้ายที่วนเวียนอยู่ตามสุสาน และคอยเข้าสิงอยู่ในซากศพต่างๆ มันจะทำร้ายมนุษย์ที่เข้าไปรบกวน เหยื่อของเวตาลจะถูกเข้าสิง ทำให้มือและเท้าหันไปข้างหลังเสมอ เวตาลยังทำให้ผู้คนเป็นบ้า ฆ่าเด็ก และแท้งลูก แต่เวตาลยังมีข้อดี คือมันจะคอยดูแลหมู่บ้านของมันเอง
เวตาลนั้นเป็นวิญญาณร้าย คอยทำร้ายบุคคลที่ลูกหลานไม่ยอมทำพิธีศพให้พ่อแม่ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงถูกกักอยู่ในแดนสนธยา ระหว่างการดำรงอยู่ด้วยชีวิต และการดำรงอยู่หลังมีชีวิต (หลังความตาย) ปิศาจเหล่านี้อาจได้รับอามิสด้วยเครื่องเซ่นหรือถูกขับให้ตกใจด้วยมนตร์ เวตาลอาจหลุดพ้นจากสภาพปิศาจได้หากการทำพิธีศพของตน แต่เมื่อเป็นปิศาจแล้ว ก็ไม่สามารถพ้นจากกฎแห่งเวลาและเทศะ พวกมันจะความรู้ประหลาดเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และหยั่งรู้สึกถึงใจตน ดังนั้นหมอผีจำนวนมากจีงพยายามดั้นด้นเสาะหาเวตาล และควบคุมเอาไว้ใช้เป็นทาส
มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งหมอผีกราบทูลให้พระเจ้าวิกรมาทิตย์ไปจับเวตาล ซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ในใจกลางสุสาน วิธีเดียวที่จะจับเวตาลได้ก็คือ ต้องทำอย่างเงียบๆ และห้ามปริปากพูดสิ่งใด มิฉะนั้นเวตาลจะหนีกลับไปได้
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่พระเจ้าวิกรมาทิตย์จับเวตาลได้ มันจะหลอกล่อพระองค์โดยเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะจบด้วยคำถาม และพระองค์ก็อดรนทนไม่ได้ ต้องตอบคำถามนั้นทุกครั้งไป ทำให้เวตาลหนีกลับไปยังต้นไม้ได้ดังเดิม เรื่องราวเกี่ยวกับเวตาลนั้นรวบรวมไว้เรียกว่า "เวตาลปัญจวิงศติ" (หรือ นิทานเวตาล 25 เรื่อง) รวมอยู่ใน หนังสือกถาสริตสาคร ของนักปราชญ์อินเดียชื่อโสมเทวะ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 12:24:52 น.
0 comments
Counter : 15434 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
?
]
.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake
เพื่อนของกบ
ป้ามด
UnderSunShine (คุณนุ้ย)
แค่ฟ้ามีดาว^^(คุณอุ๊)
Paradijs(คุณไหม)
lozocat(คุณแคท)
ยอดสน
ญามี่
ขุนพลน้อยโค่วจง(คุณเขตต์)
ลูกนางฟ้าลงมาเกิด
Hawaii_Havaii(คุณอ้อย)
maew_kk
close2heaven
the river of Aquarius
thattron(คุณแอน)
KungGuenter(คุณกุ้ง)
N_BEE810
ดอกหญ้าเมืองเลย
เนยสีฟ้า(คุณเนย)
pk12th
หมูฟ้าใส
แพรวขวัญ
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
นู๋หญิงจ๋า(คุณหญิง)
ยายกุ๊กไก่
oranuch_sri(คุณนุช)
vannessa(คุณนุช)
fleuri
jj&TheGang(คุณแจน)
ลุงกล้วย
กะว่าก๋า
พลังชีวิต
ความเจ็บปวด
ถปรร
i-pinkberriiz's
รักษ์บ้านเกิด(คุณแอ๊น)
บ้านหวานเย็น
hiansoon
chabori (คุณไผ่)
ลุงแว่น
มิสเตอร์ฮอง
แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า
เกศสุริยง
ถั่วงอกน้อย
ไก่ย่างถูกเผามันจะถูกไม้เสียบ
kopdon
ปลายแป้นพิมพ์
Elbereth
ying_lp1
ถุงก๊อปแก๊ป
ชมพร
ooyporn
ดอกหญ้าใน Houston
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
cd2lucky
อุ้มสี
คนผ่านทางมาเจอ
แม่อ้วนคนสวย
แม่อ้วนใจดีที่สุด
Pastel pied
never the last
กำไลสีส้ม
CeciLia_MaLee
นายแว่นธรรมดา
praewa cute
ปูขาเก เซมารู
ลิงค์เพื่อนกัน
กต
กรมการกงสุล
hi5kobnon
Facebookkobnon
แม่บ้าน
h&c
ชีวจิต
naichef
hilunch
หมอชาวบ้าน
lisa
Group Blog
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ
ห้องพืชผักสมุนไพร
ห้องโรคกับอาหาร
ห้องรู้ทันโรค
ห้องสาระน่ารู้
ห้องบันทึกความทรงจำ
ห้องเกร็ดความรู้
ห้องแฟชั่นและความงาม
ห้องโชคชะตา
ห้องทำนายทายทัก
ห้องเทศกาลวันสำคัญ
ห้องสูตรอาหาร
ห้องพรรณไม้ดอกไม้
ห้องสมุดเยี่ยม
ห้องเล่าสู่กันฟัง
ห้องเก็บของ
Tag
ห้องออกกำลังกาย
ห้องบ้านรักษ์ธรรมชาติ
ห้องของสะสม
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ (2)
<<
กุมภาพันธ์ 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
26 กุมภาพันธ์ 2552
สัตว์ในวรรณคดีของไทย
All Blogs
Google ฉลองวันครูแห่งชาติ 2555
ในหลวงพระราชทาน ส.ค.ส. 2555แก่ปวงชนชาวไทย-ทรงให้พร มีสติ ไม่ประมาท
9 สัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
ตำนานลอยกระทง กับพระเจ้าห้าพระองค์
กระจกเงาสิ่งต้องห้ามในห้องครัว
เสี้ยวชีวิตหนึ่งหนีภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่บางบัวทอง
ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับการนำผลไม้ขึ้นหิ้งบูชา
กำเนิดปาท่องโก๋พร้อมสูตรลับ 4 สูตร
ประวัติวันออกพรรษา
หลวงปู่เจือ ปิยสีโล เจ้าตำรับเบี้ยแก้นครปฐม
ทำไมนะจีวรพระจึงมีหลายสี อยากรู้กันไหม....
ลางร้ายบอกเหตุ ควรระวัง!
พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
วีรกรรมขุนรองปลัดชู
10 อันดับวัดที่สวยที่สุดในโลก
ฟอร์บส์ จัดเศรษฐีใจบุญ ไทยติด 4 คน
ความเชื่อเกี่ยวกับพืชผักพื้นบ้านด้านประเพณี พิธีกรรม
วัดโพธิ์ เตรียมจัดสมโภช 9วัน 9คืน ฉลองจารึกเป็นมรดกโลก
ไม้มงคล 9 ชนิดเวลาก่อสร้างบ้านเรือน
เทศกาลไหว้บะจ่าง
ลัดดาแลนด์ แดนผีสุดสะพรึง
หลวงพ่อ คูณ ปริสุทฺโธ
หลากหลายความเชื่อเกี่ยวกับแมว
การปาทับทิมเข้าบ้านของคนจีน
ลอยโคม ความเชื่อของคนล้านนา
10 อันดับเรือผีสิงที่ยังหาคำตอบไม่ได้
ทำบุญวันสงกรานต์
ตำนานนางสงกรานต์
วัดพระธาตุลำปางหลวง
ที่สุดในโลก
ประวัติธงชาติไทย
ตำนานแวมไพร์! ผีดิบอมตะไม่มีวันตาย
วงแหวนแห่งไฟ..สั่นสะเทือนแปซิฟิค.
ความเป็นมาของรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล
ประวัติ หลวงตามหาบัววัดป่าบ้านตาด
วันสมเด็จพระนารายณ์
ตำนานและเรื่องแปลกทั่วโลก
ตำนานดอกกุหลาบ
ตํานาน วาเลนไทน์
13 เทพเจ้าที่คนจีนนิยมบูชา
ประวัติพระสีวลีเถระ
สงครามยุทธหัตถี
ส.ค.ส.2554 พระราชทาน จากในหลวง
กำเนิดแม่น้ำชี
ประวัติวันคริสต์มาส
ประเพณีการแข่งเรือ
Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook เว็บ Social Networking ที่กำลังโด่งดัง
ประวัติวันพ่อแห่งชาติ
ความเชื่อเรื่องเลือกที่นั่งและทิศทางของคู่บ่าวสาว
ข้อห้ามเฉพาะสำหรับการสร้างบ้านทรงไทย
ความเชื่อโบราณในการทานผัก
ตำนานลอยกระทง กับพระเจ้าห้าพระองค์
นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย
พระนางเรือล่ม....ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่วัดกู้
ประวัติวันปิยะมหาราช
วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร
ตํานานความเป็นมาของเทศกาลกินเจและประโยชน์จากการกินเจ
ศาลเจ้าพ่อแปดเหลี่ยม
ตำนานเขาสามบาตร
ตำนานเจดีย์หลวงพ่อหนอน
เกาะหนูเกาะแมว
พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) หรือหลวงปู่ศุข
ตำนานพระธาตุจอมแจ้ง
ความเชื่อเรื่องแต่งงาน
กฏแห่งกรรม....คุณเชื่อหรือไม่
กำเนิดแม่น้ำชี
วัดพระพุทธบาทตากผ้า
ประวัติสระแก้ว-สระขวัญ
ตำนาน พระธาตุนางเพ็ญ
ตำนานวัดพระพุทธสิหิงห์
ประวัติพระแท่นดงรัง
ตำนานชื่อเมืองนครราชสีมา
ตำนานแหลมงอบเกาะช้าง
เวียงกุมกาม
กำพร้าบัวตอง หรือหมาขนคำ (ทองคำ)
ประวัติแหล่งโบราณคดีถํ้าเสือ
ประวัติถ้วยฟุตบอลโลก ตำนานโทรฟี่ฟุตบอลโลก
สักการะ 6 เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู บริเวณแยกราชประสงค์
หลวงปู่ขาว อนาลโย
เจ้าแม่หลิมกอเหนี่ยว
แพะเมืองผี
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
80 เรื่องของพ่อหลวงไทย ที่คนไทยยังไม่เคยรู้
เรื่องเล่าตำนาน เขาปู่ เขาย่า
ตำนานแหลมงอบเกาะช้าง
ตำนาน พระแม่ธรณี ผู้กำเนิดและคำชูมนุษย์
ตำนานผีแม่ม่าย
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553 วันครบรอบ 60 ปี พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมรส
ประวัติ มัสยิดต้นสน
ประวัติ เสาชิงช้า
ตำนานหลวงพ่อโสธร
ตำนานเทพีสงกรานต์
โพไซดอน
วัดพระธาตุช่อแฮ
ตำนาน 12 ราศี
เรื่องเล่าตำนาน เขาอกทะลุ
ตํานานเทพประจําทั้ง 7
พระประวัติกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ "องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ"
ความเชื่อของคนโบราณ
ตำนานวันตรุษจีน
ความเป็นมาของวันวาเลนไทน์
กว่าจะมาเป็นเทพีเสรีภาพ
10 สุดยอดคำสาปของโลก!
ขออัญเชิญภาพ ส.ค.ส. พระราชทาน ปี 2553 มาส่งความสุขให้เพื่อนๆ ชาวบล็อกแก๊งค์
ตำนานวันปีใหม่
พบแหล่งแร่ทองคำในไทย 31 จังหวัด
การสักยันต์
วันต้องห้ามตามคติโบราณ
ตำนานแมวกวัก มาเนะคิเนโคะ
เรื่องเล่าเกี่ยวกับอัญมณี ตอนจบ
โลกยังไม่มีวันแตก
เรื่องเล่าเกี่ยวกับอัญมณีตอนที่ 2
เรื่องเล่าเกี่ยวกับอัญมณีตอนที่ 1
สุดยอดผีดุจากทั่วโลก
เทศกาลกินเจ
ทำบุญวันเกิด พิธีทำบุญ อาหารมงคลในวันเกิด
TOWER OF LONDON วังผีสิงแห่งอังกฤษ
เรื่องของ เลข 9 ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
'เรื่องจริง'อิง'เร้นลับ'
6 ปี 6นักโทษประหารฉีดยา ! ประหารเงียบ
ฮก ลก ซิ่ว
วันแม่แห่งชาติ
ที่มาของขนมจีน
ตระการตา 'มหกรรมฯเฉลิมพระเกียรติ'
ตำนานปลากัดไทย
ลุ้นชมปรากฏการณ์ 'สุริยุปราคา' เชื่อมโยงตำราเรียนกับเรื่องจริง
รอบรู้เรื่องวันอาสาฬหบูชาวันสำคัญของพุทธศาสนิกชน
เคล็ดไม่ลับ กับการทำบุญ
Aromaterapy สดชื่นด้วยกลิ่นบำบัด
เรื่องของเต่า
ความรู้เกี่ยวกับสปา
การครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ปาฏิหาริย์ หลวงพ่อปากแดง
กำเนิดแม่โพสพ เจ้าแม่แห่งข้าว
ประวัติความเป็นมาของการจัดพิธีบรมราชาภิเษก
ความเป็นมาขนมไทยวันสงกรานต์
นิทานข้าวแช่กับวันสงกรานต์
ตำนานนางสงกรานต์
ตำนานโบราณเกี่ยวกับสัตว์ประจำทิศต่างๆ
ตำนานวันสงกรานต์
ตำนานเรื่องเล่าศุกร์ 13 วันอาถรรพ์จริงหรือ? ความเชื่อนี้มีจุดเริ่มต้นจากไหนกัน
พระราชดำริเกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่าทะเล
ที่มาของสีประจำวันของไทย
สัตว์ในวรรณคดีของไทย
เล่าขานตำนานตุ๊กตา
ตำนานสปาของชาวโรมัน
ตำนาน "ปืนใหญ่นางพญาตานี"
วีนัสเทพแห่งความงาม
ชาวพุทธฯ..ตะลึงเกิด 4 อัศจรรย์ครั้งเดียวในโลก..วันมาฆบูชา
ตำนานเทพแห่งความรักคิวปิด
เรื่องเล่าเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
ตรุษจีน กับทุกกิจกรรมทำเพื่อให้เฮง-เฮง
เตรียมของไหว้ตรุษจีน เฮง เฮง เฮง รับปีฉลู
ตำนานงานตรุษจีนปากน้ำโพ
ความหลังไอศกรีม
พระพิฆเณศวรเทพแห่งศิลป์
2009 อาหารปีใหม่ คุณค่าที่มากับความเชื่อ
ตำนานขนมครก
"ในหลวง" พระราชทาน ส.ค.ส. ปีใหม่ แก่พสกนิกรชาวไทย
ความเชื่อในสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในวันขึ้นปีใหม่
ส.ค.ส.พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย
รู้กันไหมเพลงพรปีใหม่มาได้อย่างไร?
ทำไมต้อง "X'mas"
เรื่องเล่าคริสต์มาส : ของขวัญที่แสนพิเศษ
ปริศนา เจ้าแม่สองนางพี่น้อง-มุกดาหาร
9 คำสอนของพ่อ
นาคเทพ บรรพบุรุษของชาวสุวรรณภูมิ
บันทึก ๖๐ เรื่องน่ารู้ ในหลวงของเรา
เรื่องน่ารักของในหลวง
ในหลวงของเราตอน "กษัตริย์ยอดกตัญญู"
เรื่องของในหลวงที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้
พระกระยาหารโปรดในหลวง
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kobnon's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.