สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
เรื่องของเต่า

ปัจจุบันนี้มีเต่าถูกนำไปปล่อยที่วัดจำนวนมาก ด้วยความเชื่อที่ว่า
จะทำให้อายุยืนเหมือนกับเต่า ซึ่งเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอายุยาวนาน
แต่การปล่อยเต่าจะได้บุญจริงหรือ??


เต่าเป็นสัตว์ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ครั้งโบราณ มีหลายความเชื่อในโลกนี้
ที่มีตำนานว่า เต่ากำเนิดขึ้นมานับแต่สร้างโลก มีเรื่องเล่าของชาวอินเดียโบราณว่า โลกบูดๆเบี้ยวๆที่เราอาศัยอยู่นี้ ที่แท้แล้วตั้งอยู่บนหลัง
เต่ายักษ์ตัวมหึมา เต่าจึงเป็นสัตว์ที่รับภาระหนัก เพราะต้องแบกโลก
เอาไว้ทั้งใบ (มนุษย์เดินดินคนไหนที่เจอปัญหาหนักอก แล้วคิดว่าเรา
นี่หนอ ทุกข์หนักเหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก จนแทบจะทนอยู่ไม่ไหว
ก็คงจะต้องอายเต่า เพราะแบกโลกมานานตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ แต่ไม่เคย
บ่นเลยสักคำ)





อนุสาวรีย์อูราชิมา ทาโร ที่ญี่ปุ่น.


นอกจากตัวของเต่าเองที่มีความสำคัญกับโลก ในฐานะผู้แบกโลกไว้แล้ว มหาเทพองค์สำคัญก็มีความเกี่ยวพันกับเต่า กล่าวคือ พระนารายณ์เคยอวตารเป็นเต่า ในปางที่เรียกว่า กูรมาวตารปางที่ 2 ในจำนวนทั้งหมด
10 ปาง


แรกเริ่มเดิมทีนั้น เหล่าเทพกับอสูรได้ร่วมกันกวนนํ้าอมฤต โดยใช้ภูเขา
มันทรตั้งไว้ในกลางทะเลนํ้านม แล้วให้นาควาสุกรีใช้ลำตัวที่ทอดยาวเป็นเสมือนเชือก ให้เทวาและอสูรชักภูเขาเพื่อการกวนเกษียรสมุทร แต่ทำไปทำมาหลายร้อยปี มันทรคีรีที่ถูกชักเข้าชักออกก็เกิดเอียง ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องอวตารเป็นเต่า ไปหนุนภูเขาให้ตั้งตรงมั่นคงดั่งเดิม จนสามารถกวนเกษียรสมุทรสำเร็จได้ออกมาเป็นนํ้าอมฤต






พระนารายณ์อวตารเป็นเต่าไปช่วยการกวนเกษียรสมุทรภาพสลักที่นครวัด.


แต่บางตำนานก็เล่าว่า เหตุผลที่มันทรคีรีเอียงกระเท่เร่นั้น เป็นเพราะ
อสูรมัจฉาแอบอยู่ใต้นํ้า แล้วแทะภูเขา หวังให้นํ้าอมฤตรั่วลงสู่โลกมนุษย์ พระนารายณ์จึงต้องอวตารเป็นเต่าลงไปสู้กับเจ้ามัจฉา และเมื่อสังหารวายร้ายได้ พระองค์ก็คืนร่างกลับมาช่วยดูแลการกวนเกษียรสมุทรต่อจนเสร็จบริบูรณ์


เต่าจึงเป็นอวตารสำคัญที่ทำให้เกิดนํ้าอมฤตอันมีคุณแก่ปวงเทพด้วยเหตุนี้


นอกจากเต่าจะเป็นสัตว์สำคัญในตำนานแล้ว ในทางชีววิทยา เต่าก็มีความสำคัญในฐานะสัตว์ที่อายุยืนที่สุดประเภทหนึ่งของโลก โดยมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 250 ปี แล้วแต่สายพันธุ์และแหล่งที่อยู่ บางแห่งอาจจะเจอเต่าอายุมากกว่า 300 ปี หรือในบางความเชื่อ เช่น ความเชื่อของชาวจีนโบราณ ก็เชื่อว่า เต่าอาจจะมีอายุอยู่ได้ถึง 3,000 ปี


มีเหตุผลที่พอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมถึงเชื่อกันว่าเต่ามีอายุยืนมากขนาดนั้น นั่นก็เพราะใครก็ตามที่เริ่มเลี้ยงเต่า ก็จะเห็นเต่านั้นมีชีวิตอยู่เรื่อยไป จนผู้เลี้ยงเฒ่าชแรแก่ชรา มีลูก มีหลาน เต่าก็ยังคืบคลานอยู่อย่างนั้น แม้เจ้าของจะลาโลกไปแล้ว เต่าก็ยังอยู่ ทำให้หลายคนเกิดคิดไปเองว่า เต่าน่าจะอยู่ได้เป็นพันๆปี


เต่าจึงเป็นสัญลักษณ์ของการอายุยืน และผู้ที่อยากอายุยืนก็มักจะบูชา หรือให้อาหาร ให้ที่อยู่แก่เต่า รวมถึงในสมัยโบราณที่ยังไม่มีการคิดประดิษฐ์กระดาษ คนจีนยุคอดีตก็อาศัยกระดองเต่าเป็นเหมือนสมุดไว้ขีดเขียนตัวหนังสือ ซึ่งก็เป็นสมุดที่สามารถอยู่ยั้งยืนยงได้นานแสนนานอีกเหมือนกัน


เมื่อพูดถึงการอยู่ยั้งยืนยง ก็ต้องเล่าต่อถึงความเชื่อเกี่ยวกับพิธีตั้งหลักเมือง ซึ่งก่อนจะมีการฝังหลักเมืองนั้น มักจะมีการทำพิธี และใส่ของสำคัญลงไปที่ก้นหลุม ซึ่งบางตำราก็บอกว่าเป็นคนนาม อิน จัน มั่น คง เพื่อเป็นเคล็ดถึงความมั่นคง แต่ทว่า เรื่องนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า จะมีการฝังคนทั้งเป็น เหมือนเรื่องเล่ากันแบบปากต่อปากเท่านั้น


แต่ในหลายความเชื่อของการตั้งหลักเมืองนั้น ไม่ฝังคน แต่ฝังรูป โดยเฉพาะรูปของสัตว์ที่มีฤทธิ์มาก เช่น ราชสีห์ซึ่งเป็นเจ้าป่า รวมทั้งรูปเต่า ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า เป็นเคล็ดถึงการอยู่ยืนนาน หรืออาจจะเป็นเพราะตำนานที่ว่า โลกตั้งอยู่บนหลังเต่า การให้เต่ามาดูแลหลักเมืองจึงเป็นเคล็ดให้มั่นคง


แต่สัตว์ที่สร้างความยั่งยืน และมั่นคงให้ผู้อื่นนี้ ตัวเองกำลังประสบปัญหา จนอาจเรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤติ เพราะขณะนี้ กำลังมีความเสี่ยงว่า เต่าอาจจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า โดยเฉพาะเต่าทะเล ซึ่งมีอัตราการวางไข่ลดน้อยลงเรื่อยๆ ประกอบกับมี


ชาวประมงที่นิยมจับเต่าไปขายให้กับผู้มีความเชื่อว่าหากได้รับประทานเนื้อเต่าแล้วจะอายุยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะเนื้อเต่าก็เหมือนกับเนื้อสัตว์อื่นๆที่เป็นโปรตีน และไม่ได้ทำให้ซู่ซ่าส์...แต่ประการใดด้วย


ชาวประมงอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ได้ตั้งใจจับเต่า แต่ก็สร้างปัญหาให้เต่า เพราะเมื่อลากอวนไปเพื่อจับปลา ก็อาจจะติดเต่ามาด้วย แม้ชาวประมงส่วนใหญ่จะปล่อยเต่าออกไปหลังจับได้ แต่เต่าจำนวนหนึ่งก็ต้องล้มตายลง





อูราชิมา ทาโร กับเต่าที่เขาช่วยไว้.


พูดถึงชาวประมงที่จับเต่าได้นั้น ต้องเล่าเรื่องของชาวประมงแดนอาทิตย์อุทัย หากมีเต่าติดอวนขึ้นมา ชาวประมงญี่ปุ่นจะตื่นเต้นกันมาก เพราะ
ถือเป็นเครื่องหมายแห่งโชคลาภ ว่าแล้วก็จะถือเจ้าเต่าอย่างทะนุ
ถนอมไปจนถึงริมฝั่ง


บางท่านอาจจะคิดว่าชาวประมงญี่ปุ่นจะเก็บเต่าไปเลี้ยง หรือไม่ก็เอาไปปล่อยวัดเหมือนบ้านเรา เปล่าหรอกค่ะ เขานำเต่าไปที่ชายฝั่งเพื่อเลี้ยง
เหล้าต่างหาก


อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เลี้ยงเหล้าเต่าจริงๆ ชาวประมงญี่ปุ่นจะเทสาเกให้
เต่ากินจนพอใจ เรียกว่า อยากเมาแค่ไหนก็เอากันให้เต็มที่ พอใจ
เมื่อไหร่ก็ค่อยปล่อยเต่าลงนํ้าไปตามเดิม และยังเชื่อกันว่า หลังรํ่า
สุราจนเมา เอ๊ย...จนหนําใจแล้ว เจ้าเต่าจะค่อยๆคลานลงนํ้า ดำนํ้าเล่นสักแป๊บ แล้วโผล่ขึ้นมาผงกหัวเป็นการขอบคุณที่อุตส่าห์เลี้ยงเหล้า แล้วชาวประมงผู้นั้นก็จะประสบแต่โชคดี





เต่าจำนวนมากต้องทุกข์ทรมานหรือตาย เพราะถูกนำมาปล่อยในสถาน
ที่ไม่เหมาะสม.





เต่าเคราะห์ร้ายที่ติดอวนชาวประมงขึ้นมา.


ไม่แน่ชัดนักว่า การที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เต่าเป็นสัตว์ที่ให้โชคลาภนั้น
มีต้นกำเนิดมาจากไหน แต่อาจจะมาจากนิทานพื้นบ้านเรื่องอูราชิมา
ทาโร หนุ่มใจดีที่ช่วยเหลือเต่าตัวหนึ่งที่เด็กๆกำลังรุมแกล้ง แล้วก็
ปล่อยเต่าตัวนั้นลงทะเลไป โดยหารู้ไม่ว่า เต่าที่ตัวเองช่วยเหลือมานั้น
เป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา


อันที่จริง เต่าตัวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพมังกรใต้ทะเลค่ะ ว่าแล้ว
เจ้าเต่าที่มีความกตัญญูก็กลับมาพาอูราชิมา ทาโร ขึ้นขี่หลังลงไปยังวังบาดาล ได้พบรักกับเจ้าหญิง และได้ทรัพย์สมบัติมากมายกลับมา


รวมความแล้ว เรื่องของเต่า ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเชิงมงคล ไม่ว่าจะ
เป็นความมั่นคง ความมีอายุยืนยาว และความมีโชคลาภ ทำให้คนจำนวน
ไม่น้อยเลยที่บูชาเต่า หรือกระดองเต่า โดยเฉพาะที่มีเสียงเล่าอ้างกันว่า
เป็นกระดองเต่าลงอาคม ก็จะมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก


โดยทั่วไปแล้ว คนไทยเราไม่ค่อยรับประทานเนื้อเต่า ยกเว้นบางคน
ที่เชื่อเรื่องที่ว่า เต่าเป็นยาโด๊ป ซึ่งดังได้กล่าวแล้วว่าไม่จริง





โครงการคืนชีวิตเต่าและตะพาบน้ำสู่ธรรมชาติ ของ "ชมรมรักษ์เต่า".


ตามปกติ เมื่อเจอเต่า คนไทยเรามักจะนิยมนำไปปล่อยที่วัด ด้วยหวัง
ความร่มเย็นของวัดเป็นสถานที่ที่ทำให้เต่าได้อยู่ดีมีสุข ไม่เพียงเท่านั้น
ในวันบุญ หรือวันที่ถูกทักว่ามีเคราะห์ ชาวพุทธเราก็มักจะไปหาซื้อเต่ามาปล่อยวัดอีกเหมือนกัน ทำไปทำมา วัดหลายแห่งมีเต่าอยู่จำนวนมาก และหลายตัวก็ล้มตาย เนื่องจากเต่าไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ดันเอาเต่าบกไปปล่อยในนํ้า สุดท้ายก็จมนํ้าตาย เพราะเต่าบกกับเต่านํ้าไม่เหมือนกัน หรือแม้จะเป็นเต่านํ้าเอง ก็ไม่สามารถอยู่ในนํ้าตลอดเวลาได้
แต่จะต้องมีตลิ่งให้ขึ้นมาพัก การปล่อยเต่าในสระ หรือคลองที่เต่าไม่สามารถขึ้นจากนํ้าได้ ก็ทำให้ตายอีก จากที่คิดว่าจะได้บุญ เลยกลาย
เป็นได้บาป


รู้อย่างนี้แล้ว อย่าซื้อเต่ามาสร้างอกุศล และหากพบเต่าที่ไหน ก็พิจารณา
ให้ดีก่อนนำไปปล่อยไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมกับเต่าแต่ละชนิดไม่แน่ว่า
อาจจะเป็นเต่าของราชามังกรปลอมตัวมาหาคนใจบุญก็ได้นะ



ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ทีมงานต่วย'ตูน
//women.sanook.com/pets/tips_55409.php


Create Date : 16 มิถุนายน 2552
Last Update : 16 มิถุนายน 2552 8:23:13 น. 0 comments
Counter : 2754 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.