|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
8 เมษายน 2564
|
|
|
|
บันทึก snsa ยุคโควิด 8 มีนาคม 2564 ep.21
"โควิดก็ต้องกลัว ยากดภูมิก็ต้องกิน" ในยุคที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และคนที่ฉีดก็ติดไปเรียบร้อย เราก็ได้แต่เว้นระยะ ฉีดแอลกอฮอลล์บ่อยๆ ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก แต่ไม่paranoid เกินไป โชคดีของเราคือชีวิตประจำวันเราออกจากบ้านน้อยมาก และออกจากบ้านเฉพาะช่วงที่คนไม่พลุกพล่าน ถึงแม้เราจะอยู่พื้นที่แดงเถือกก็ตาม จะมีแค่เดือนก่อนไปงานแต่ง เหนือความคาดหมายคือทุกคนไม่เว้นระยะ ไม่ใส่แมส ไม่วัดอุณหภูมิ พนักงานเสริฟกันไม่แมสไม่ถุงมือ กลับมาจากงานก็กักตัวเงียบๆกันไป 10 วัน
ส่วนอัพเดทอาการ snsa ทุกวันนี้ก็ยังพบคุณหมอตามนัดเช่นเดิม นัดครั้งหน้าตรวจเลือดอีกครั้ง รอบล่าสุดได้ยาเพิ่มมา 1 ตัว gabapentin เพราะหลังๆมีอาการปวดหลังบ่อย ปวดทั้งวัน คุณหมอจับๆดูบอกกระดูกช่วงเอวเราผิดรูปนิดนึง อาจเป้นสาเหตุที่ปวดหลังให้ทานยาตัวนี้ไป 1 เดือน แล้วหยุดได้
ตอนนี้ที่ปวดบ่อยๆก็มีหลัง เหมือนจะเป็นกล้ามเนื้อด้วย กระดูกนิ้วโป้งซ้าย แต่ไม่บวม ไม่ขยับก็ไม่ปวด ข้อนิ้วมือซ้ายบางนิ้ว ปวดเฉพาะเวลากำมือแน่นๆ
กล้ามเนื้อนี่ปวดบ่อย ปวดง่าย วิ่งเล่นกับหลาน วันรุ่งขึ้นปวดต้นขาสองวันยังไม่หาย แต่พวกข้ออาการไม่ค่อยมี เดินแล้วขาแพลง เป็นวันสองวันก็หาย แต่กล้ามเนื้อถ้าปวด คุณหมอให้ทานยาคลายกล้ามเนื้อได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไปซ้ำซ้อนกับยาแก้อักเสบที่ทานอยู่ ส่วนเรื่องเข้าใจผิดของหลายๆคนว่าเป้นไข้ควรหยุดยากดภูมิ อันนี้ไม่ต้อง กินตามปกติ ยาแก้ไข้ก็กินได้เลยไม่ได้ไปรบราอะไรกัน
กระดูกคอ เสียงกร๊อบแกร๊บยังอยู่ไม่จากไปไหน กินแคลเซียม กินนม กินบ้างไม่กินบ้าง ตามประสาคนไร้วินัย
อาการเวียนหัว หายใจไม่สะดวก จะเป็นเวลาอยู่ในพื้นที่ปิด เช่น ห้าง ห้องกระจก มึนหัวบ้างเหมือนจะวูบ เป็นอาการที่เป็นมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ตอนกินยา indomethacin เมื่อปี 60 จนปัจจุบันเปลี่ยนมากิน priroxicam ได้ 3 เดือน ก็ยังมีอาการอยู่ อย่างที่มีคนเคยบอกว่าโรคนี้ไม่ชอบคนขี้เกียจ ช่วงไหนขี้เกียจ ขยับตัวน้อย ไม่ออกกำลัง จะมีอาการตลอด
ลึกๆเราเชื่อว่าอาการวิงเวียนเกี่ยวกับยา indomethacin เพราะหลายคนตอนปรับมาเป็นยาตัวนี้ มีอาการเหมือนกัน แต่ถามว่าทำไมเรายังกินมา 3 ปี บอกตรงๆเราเชื่อคุณหมอมากกว่าตัวเอง เพราะคุณหมอเราเองก็ตรวจเราละเอียดทุกครั้ง ถ้าไม่นับเรื่องอาการเวียนหัว หายใจติดขัดเวลาออกข้างนอก เรื่องโรคที่เราเป็นอยู่อาการหายไวมาก หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับวินัยในการดูแลตัวเองของเรา ออกกำลังกาย กินอาหาร อาการน่าจะดีขึ้น
ในวันนี้ถ้าย้อนกลับไปอ่านบันทึกของครั้งแรกที่เป็น ความรู้สึกตอนนี้ต่างกับตอนนั้นมากมาย โรคที่เราเป็นอยู่มันไม่ได้ทำให้เราหดหู่กับตัวเองเลย เราสามารถพูดถึงโรคได้เหมือนมันเป้นแค่โรคกระเพาะ ตัวเราเองที่อยุ่กับมันมาจนถึงทุกวันนี้ก็ 5 ปีแล้ว เราไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่มีโรคนี้อยู่ ถึงจะบอกว่ามันเป้นโรคที่รักษาไม่หาย แต่มันไม่ได้แสดงอาการตลอด เราใช้ชีวิตแบบปรับตัวเข้าหากันอะไรทำไม่ได้เราไม่ฝืน แล้วก็ไม่ได้เสียใจอะไร มองให้มันเล็กโรคมันก็เล็กนิดเดียว
หลายครั้งเราเจอเพื่อนร่วมโรคมือใหม่ มักจะเครียดกับคำว่ารักษาไม่หาย พิการ ทำงานไม่ได้ อยากบอกว่าทุกคนน่าจะต้องเคยผ่านความรู้สึกนี้มา ในวันที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็น snsa เราเองก็ดราม่าไปเป็นเดือน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราเองจะมีการปรับตัวเพื่อให้ร่างกายและจิตใจสมดุล เข้ากับสถานการณ์ที่เผชิญได้ ปัญหามันจะไม่ใหญ่อย่างที่เรารับรู้ครั้งแรก มันจะมีทางแก้ในทุกๆอย่างเข้ามาเอง เราอยากหายเรากินยา เราอยากเเข็งแรงเราออกกำลัง เราไม่ไหวเราก็พักไม่เร่งรีบ ไม่ใจร้อนต้องหายให้ได้ภายในปีนี้ แล้วเราก็จะอยู่กับมันได้เอง
เป็นกำลังใจให้คนที่เพิ่งเป็นและเพิ่งรู้จักกับโรคนี้เช่นเคยนะคะ อย่าให้มันทำลายเป้าหมายชีวิต เพราะโรคนี้มันแค่ทำให้ถึงเป้าหมายช้าไปบ้างเท่านั้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิมได้ค่ะ อัพเดทยาและอาหารเสริมปัจจุบัน - กดภูมิ methotrexate 4 เม็ดต่อสัปดาห์ - folic วันละ 1 เม็ด - priroxicam เช้าเย็นมื้อละ 1 เม็ด - gabapentin เช้าเย็นมื้อละ 1 เม็ด
อาหารเสริมที่กินบ้างไม่กินบ้าง สลับกัน - CAL TAB (บำรุงกระดูก) - วิตามิน B รวม (บำรุงปลายประสาท) - แล้วก็มีตัวอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับโรคนี้อีก ตามอายุที่มากขึ้น เรียกว่ากินข้าวไม่อิ่ม ก็ต้องอิ่มยา
Create Date : 08 เมษายน 2564 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2566 11:07:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1088 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
หมูหม้อ |
|
|
|
|