Live and Learn - กมลา สุโกศล // พอกับสิ่งที่มีแล้วจริงๆ หรอ?
“อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด”

เคยสงสัยความหมายของเพลง Live and Learn กันบ้างมั้ยคะ? 

อยู่กับสิ่งที่มี พอแล้วจริงมั้ย แล้วความฝันที่เรายังไม่เริ่มลงมีทำล่ะ เราจะทำอย่างไร เราคิดไกลไปมั้ย เราละโมบรึเปล่าที่อยากจะฝันต่อ มีคนเคยถามคำถามนี้กับ คุณประภาส ชลศรานนท์ ค่ะ เค้าคนนี้มีคำตอบ 
---------------------------------------------------------------------------------------------------

“ปัญหา”เป็นของคู่กับ “ชีวิต”
เหมือนกับว่ามันได้ถูกผูกติดมาด้วยกันตั้งแต่แรกเกิด
เมื่อมองปัญหาชีวิต ผมมองแยกออกเป็นสองประเภท นั่นคือประเภทที่อยู่ในมือเราและประเภทที่อยู่ในมือคนอื่น
ประเภทแรกก่อนนะครับ

อะไรก็ตามที่อยู่ในมือเรา ก็ย่อมหมายความว่าเราสามารถควบคุมมันได้

ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะควบคุมมันไหม หรือควบคุมมันไหวไหม ผมยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ความเกียจคร้านซึ่งผมถือว่าเป็นตัวการใหญที่ทำให้ชีวิตเกิดปัญหาอยู่ตลอด เวลา ถ้าเรามองว่าความเกียจคร้านเป็นปัญหา ทางแก้นั้นก็คงตอบง่ายๆว่าก็ แก้ด้วยความเพียร

ความเพียรนั้นเป็นของที่อยู่ในมือเรา เป็นอาวุธประจำตัวมนุษย์เลยทีเดียวครับ บทความหลายๆตอนที่ผมเขียนถึงความเพียรของโทมัส เอดิสันหรือบรรณาธิการที่เป็นอัมพาตทั้งตัวเขียนหนังสือจบเล่มด้วยการกระพริบเปลือกตาข้างเดียว ก็เพื่อจะสื่อให้รู้ว่าความเพียรของมนุษย์นั้นแทบจะไม่มีขีดจำกัดเลยด้วยซ้ำ

ส่วนปัญหาอีกประเภทหนึ่งที่ผมบอกว่าอยู่ในมือคนอื่นนั้นผมให้ความหมายกว้างไกลนับตั้งแต่มือของคนอื่นทั่วๆไปจนถึงมือของพระเจ้า

นายสมชายอยากได้มอเตอร์ไซด์มาขี่สักคัน

ลองมองปัญหานี้กันดูครับ ผมให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่านายสมชายเป็นคนมีเงินมีทองคนหนึ่ง ปัญหานี้แก้ง่ายมาก เมื่ออยากได้ก็ไปซื้อมาขี่

แล้ว ถ้าผมเปลี่ยนข้อมูลใหม่เป็นนายสมชายไม่มีสตางค์ละ นายสมชายจะแก้ปัญหานี้ต่อไปอย่างไร เงื่อนไขเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังถือว่าควบคุมได้ โดยการพยายามขยันทำมาหากินให้ได้เงินทองมา หรือแม้แต่การไปหยิบยืมคนอื่นมา แล้วค่อยหาใช้คืน

ยังถือว่าเป็นการไขปัญหาที่อยู่ในมือของตัวเองอยู่นะครับ ลองดูตัวอย่างที่สอง

พ่อนายสมชายเสียชีวิต นายสมชายจึงขาดความอบอุ่น ขาดที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจ

การเสียชีวิตของพ่อ เป็นสิ่งที่นายสมชายไม่อาจควบคุมได้ ชีวิตมนุษย์ย่อมต้องตายทุกคน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปได้ ถึงจะต่อสู้หรือเพียรพยายามเท่าใด ชีวิตของพ่อก็ไม่มีวันหวนคืนกลับมา ปัญหาแบบนี้ละครับที่มันไม่ได้อยู่ในมือเรา คนบนโน้นจะเมตตาเราหรือส่งบทเรียนมาให้เรา ก็แล้วแต่มือของท่าน

ตัวอย่างที่สามครับ

นายสมชายหลงรักนางสาวสมศรี และอยากได้นางสาวสมศรีมาเป็นคู่ครอง

ปัญหาซับซ้อนแบบนี้แหละที่ผู้คนในสังคมประสบพบเจออยู่ตลอดเวลา มันเป็นปัญหาที่จัดอยู่ในประเภทลูกครึ่ง นั่นคือบางส่วนควบคุมได้และบางส่วนควบคุมไม่ได้ ลองแยกดูสิครับ

นายสมชายสามารถทำตัวดีๆให้นางสาวสมศรีสนใจรักใคร่ได้ นายสมชายสามารถเอาอกเอาใจนางสาวสมศรีให้เธอรู้สึกพึงใจได้ วิธีการเหล่านี้ล้วนอยู่ในมือของนายสมชาย นายสมชายควบคุมได้ ส่วนจิตใจของนางสาวสมศรีจะรู้สึกปฎิพัทธิ์นายสมชายหรือไม่เป็นเรื่องของนาง สาวสมศรี นายสมชายไม่สามารถควบคุมได้

ผมชอบการแยกประเด็นแบบนี้ แล้วผมก็ใช้มันบ่อยๆเวลามีความวิตก การเตรียมตัวสอบหรือเข้าทำงาน ก็เป็นปัญหาในรูปแบบนี้

ความเพียรของตัวเองที่จะเตรียมตัวสอบนั้นเราควบคุมมันได้ แต่ความเพียรของคู่แข่งนี่ ต้องยอมรับว่าเราควบคุมไม่ได้ นึกออกไหมครับ เราไม่มีทางรู้ว่าจะมีใครคนไหนขยันอ่านหนังสือมากกว่าเราหรือไม่ รวมไปถึงการตัดสินว่าจะรับใครเข้าหรือไม่เข้า

ผมกำลังจะบอกว่าเราจึงไม่ควรไปทุกข์กับปัญหาที่เราควบคุมอะไรไม่ได้
ทุกข์ของคนจะสอบเข้าถ้าจะมีก็ควรเหลือเพียงว่า “เราจะทำข้อสอบได้ไหม” ไม่ใช่มัวแต่ทุกข์ว่า “จะเข้าได้ไหม”

เพลงของคุณบอยเพลงนี้ ผมก็เชื่อว่าคุณบอยแต่งขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนเอาไว้ต่างน้ำเย็นประโลมใจยามที่เจอปัญหาประเภทที่ไม่อยู่ในมือเรา

แฟนทิ้ง

พ่อแม่เลิกกัน

เศรษฐกิจของชาติวิกฤต

พลัดพรากจากคนที่รักตลอดกาล

เป็นโรคที่รักษาไม่ได้

ฯลฯ

กับสิ่งที่เราควบคุมมันไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว เราต้องยอมรับมัน และก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างที่เพลงบอกไว้

ร้องมันทั้งสองเพลงก็ได้ครับ อะไรในฝันที่เราพอจะสั่งมันด้วยมือของเราได้ เราก็ร้อง “ฝันให้ไกลไปให้ถึง” อย่าได้หยุด ส่วนปัญหาใดที่อยู่ในมือของพระเจ้า เราก็ยืนหยัดเงยหน้ายอมรับและก็ร้อง live and learn อย่างรู้เท่าทัน

ประภาส



-  Live and Learn

เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ
ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน

เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สุขก็เตรียมไว้ ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว

เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด



Create Date : 26 กรกฎาคม 2557
Last Update : 26 กรกฎาคม 2557 15:47:36 น.
Counter : 3861 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bluewildwolf
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ยินดีต้อนรับจ้า
สำหรับ Blog นี้ จะเกี่ยวกับที่มาของเพลง และความหมายที่ซ่อนไว้ในเพลงนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลง Folk Song ต่างประเทศ

แต่ก่อนเคยเขียนเก็บไว้ในเพจ แล้วตัดสินใจรวบรวมมาไว้ใน Blog แห่งนี้แทน
กรกฏาคม 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31