การซื้อบ้านที่ฟินแลนด์
การจะซื้อบ้านสักหลัง ป้าลีอยากบอกว่า อย่าคิดเพียงแค่ว่า ก็ดีกว่าเช่า หรือ เอาไว้ขายก็ได้กำไร... คิดแค่นั้นไม่ได้นะคะ เพราะว่าบ้านเป็นสัญญาที่ผูกมัดเป็นเวลานานและต้องรับผิดชอบมากกว่าการ เช่า หรือ เผลอๆ จะจ่ายดอกเบี้ยต่อเดือน มากกว่าราคาที่ต้องเช่าเสียอีก หรือ เรื่องต้องซ่อมต้องบำรุงรักษามากกว่ากัน ภาษีครอบครองอีกหรืออะไรต่อมิอะไรอีก หลายอย่าง แต่ "บ้าน" ที่น่ารักๆ อบอุ่นๆ ใครๆก็อยากจับจองเป็นเจ้าของ จริงมั๊ยคะ แต่ในการซื้อบ้านหลังนี้ ป้าลีอยากให้ข้อคิดที่เป็นเบสิค และรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคารและภาษี หรือค่าใช้จ่ายต่างๆ
และเหตุผลที่ป้าลีกับสามีต้องซื้อ เบสิคมาก คือ กรณีเช่า ราคาเช่า 1,000 ยูโรต่อเดือน รวมน้ำไฟ กรณีซื้อซึ่งเรามองรัศมีห่างจากที่ทำงานสามีในเฮลซิงกิ ไม่เกิน 30 กม.และดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายธนาคาร ไม่เกิน 200 ยูโรต่อเดือน (เรื่องดอกเบี้ยสามารถขอคืนภาษีได้บางส่วน) รวมไปถึงค่าน้ำมันรถที่ต้องขับไกลขึ้น หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการดูแลบ้านหลังนี้ รวมแล้วคือ ในระยะเวลาสามปี ถ้าเราต้องขาย ขอแค่ได้เงินที่จ่ายไปทั้งหมดคืนมาแค่นี้เราสองคนก็พอแล้วเพราะเปรียบเทียบแล้วเท่ากับเราอยุ่ฟรีในบ้านหลังนี้... แต่ถ้าได้กำไรก็ดีไป คิดแค่นั้นเอง (ตรงนี้ป้าลีใช้หลักซื้อถูก ขายแพง พูดง่ายฟังง่ายใช่มั๊ยคะ แต่ทำยากตรงนี้ค่อยไปคุยที่เพจการลงุทน(ซ้ายมือ) ก็แล้วกัน)
ค่าใช้จ่ายกับทางธนาคาร ดอกเบี้ย 1.3-1.7% (สามีป้าลีเช็คมาสี่ธนาคารได้อัตราดอกเบี้ยพอๆกัน)
กรณีวางเงินดาวน์ 5% หรือ 15% มีค่าใช้จ่ายต่างกันดังนี้ ถ้าดาวน์ 15% ไม่ต้องเสียเงินค่าการันตีหนี้สิน (ประมาณ 1,700 ยูโร ต่อหนี้ 120,000ยูโร ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสภาพบ้านหรือทรัพย์ที่เราซื้อว่า สามารถการันตีตัวมันเองได้หรือไม่ หรือ ได้แต่มากแค่ใหน ประมาณนั้น(เช่น บ้านเก่าหรือ บ้านใหม่) เรื่องภาษีการโอน ฟินแลนด์ต่างจากไทยแลนด์ (ที่จริงบ้านเราขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างคนซื้อกับคนขายว่าใครจะจ่ายภาษีอ่ะนะ) คือ ผู้ซื้อเป็นผู้จ่ายภาษี ประมาณ 5,000 ยูโรต่อรายการทรัพย์ราคา 130,000 ยูโร(ยกตัวอย่างที่ราคานี้เพราะจะได้ตัวเลขภาษีที่กลมๆ คือ ห้าพันยูโร)
เรื่องของภาษีตรงนี้ ถ้ากรณีผู้ซื้อยังไม่เคยซื้อบ้านมาก่อนจะได้รับการยกเว้นภาษีในการซื้อบ้านหลังแรก ส่วนรายจ่ายของธนาคารก็จะมี ค่าดำเนินการ ค่าเอกสารประเมินทรัพย์ รวมๆ แล้ว 2,500 ยูโร (ค่าเอกสารประเมินทรัพย์ในกรณีบ้านหลังนั้นมีการทำไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วก็ไม่ต้องออกเพราะธนาคารจะไม่เรียกเก็บ) สรุปก็คือ ถ้าราคาซื้อขาย 200,000 และ ดาวน์ที่ 15% ก็เตรียมเงินสด ประมาณ 40,000 ยูโร (ไม่รวมของแต่งบ้านอีกนะ) การพิจารณาให้กู้ของธนาคารที่นี่ยังให้อิสระกับสาขาในการประเมินว่าจะให้ลูกค้ากู้หรือไม่ น้อยรายที่จะถูกส่งเคสเข้า สนง.ใหญ่ และ การจ่ายหนี้ ก็ตัดผ่านบัญชีเช่นกัน แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเกี่ยวกับประกันภัยซึ่งจะรวมถึงการว่างงานของผู้กู้ด้วย (แต่ส่งแพง คือ ประมาณ 70-80 ยูโรต่อเดือนต่อหนี้สองแสนยูโร ถ้าตกงาน ประกันจ่ายค่าผ่อนบ้านให้แต่จะคุ้มครองหลังสามเดือน จาก วันโอนบ้านแล้วนะคะ) กรณี ดาวน์ต่ำที่ 5% ก็จะเสียค่าใช้จ่ายค่าการันตีหนี้ ประมาณ 2,000 ยูโรและมีค่าภาษีที่ต้องแพงขึ้นเพราะหนี้เยอะขึ้นนั่นเอง
(อยู่ฟินแลนด์ป้าลีมีโอกาสได้ล้วงลึกเกี่ยวกับงานบริษัทเอเจนซี่ ก็เลยพอจะทราบเกี่ยวกับระบบ พร็อพเพอตี้ของที่นี่บ้างพอสมควร) การซื้อขายของที่นี่ นิยมผ่านเอเจนซี่ค่ะ เพราะว่า สะดวกคนขายและคุ้มครองคนซื้อ ตามกฏหมาย (เพราะสัญญาซื้อขาย หากไม่ตรงตามเงื่อนไขการซื้อขายสามารถแจ้งยกเลิกการซื้อแล้วขอเงินคืนบวกค่าใช้จ่ายได้ ภายในสองปีไม่เหมือนบ้านเรา โอนเสร็จคือจบ) แต่ก็มีบ้างที่คนขาย อาจประกาศขายด้วยตัวเองโดยที่ไม่ผ่านเอเจนซี่ แต่ก็เห็นน้อยรายค่ะ
ส่วนค่านายหน้ากับเอเจนซี่ ก็ 2-5% และเอเจนซี่จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดรวมไปถึงจ่ายค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์อีกด้วย
ทริคก็คือ กรณีเป็นผู้ซื้อให้หาราคาต่ำสุดที่พอจะเจรจาขอออฟเฟอให้ได้(ตรงนี้ไม่ยากค่ะ) กรณีคนขาย ให้หาเอเจนซี่ในบริษัทที่เรียกต่ำสุดเช่น 2% แต่ดูว่าเอเจนซี่ให้ราคาตลาดที่จะประกาศขายเท่าไหร่ด้วยเพราะว่าถ้าประกาศราคาสูงก็หาคนซื้อยาก(แม้ว่าเอเจนซี่บริษัทนั้นดูแล้วจะกะตือรือล้นต่องานก็เถอะ) (เดี๋ยวป้าลีไปแนะนำวิธีการมองหาบ้านให้ถูกใจ และราคาที่สบายกระเป๋า ในเพจเรื่องการลงทุนอีกทีนะคะ) หมายเหตุ... วีซ่านักศึกษาใช้กู้ซื้อบ้านไม่ได้นะคะ ต้องซื้อแล้วนำไปจดสัญญาก่อนแต่งที่อำเภอเอา(ตรงนี้ขอจดเองได้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ติดต่ออำเภอของทะเบียนบ้านเราได้เลยค่ะ)
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 18:54:13 น. |
|
1 comments
|
Counter : 4873 Pageviews. |
|
|
สบายดีมั้ยคะ
ข้อมูลเรื่องการซื้อบ้าน ละเอียดดีจังค่ะ