หลายๆ คนหลังแต่งงานแล้ว นั่งๆ นอนๆ รอวีซ่าครอบครัว(เรสซิเด้นซ์เปอมิท) บางคนได้วีซ่าเร็วบางคนรอนานเกินครึ่งปี(ตามอ่านเรื่องวีซ่าที่ป้าลีเขียนก่อนหน้านี้แล้วนะคะทั้งวีซ่า นักเรียน และวีซ่าครอบครัวค่ะ)

เมื่อได้วีซ่าแล้ว ก็ต้องไปขึ้นทะเบียนเป็นคนว่างงานที่สำนักงานเตื้อวอยม่ะ 

(ไปรายงานตัวน่ะแหละ บอกเค้าว่า ชั้นพึ่งได้วีซ่ามาก็เลยจะมารายงานกับเตื้อ)

เสร็จจากไปสำนักงาน เตื้อฯ ก็ไปขอทำบัตรเกล่า ค่ะ (ไปทำวันเดียวกันกับที่ไป เตื้อฯ นั่นล่ะ) เกล่านี้ อาจจะ รอ 1-2 เดือนค่ะ

รวมแล้ว บางคนรอ  6-8 เดือน นับจากเริ่มขอวีซ่าครอบครัว  แต่บางคนก็รอแค่ สามเดือนก็ได้บัตรเกล่าแล้ว

แต่ยังไงซะ ป้าลีจะเล่าเรื่อง การจัดการด้านการเรียนให้ฟังค่ะ ว่าเรียน อย่างไรให้ไปจบวิชาชีพ ให้ได้ไวสุด

ตรงนี้สำคัญมาก

ก่อนอื่น มารุ้จัก กับระดับภาษาฟินน์ คร่าวๆ ก่อนนะคะ (ฟังจากครูที่โรงเรียนมาหลายรอบหลายโรงเรียนแล้ว แต่ไม่ได้เช็คจากเว็บไซด์ใหนด้วยตัวเองนะคะจึงไม่มีลิ้งค์ยืนยัน แต่ข้อมูลก็ประมาณนี้ค่ะ)

Step Suomi level

0-   0    -  A1.3

A1.3 - A2.1

A2.1 - A2.2

แล้วไปต่อ ที่   Level B 

(ถ้าจำไม่ผิด ระดับ B2.2 ใช้เป็นเกณฑ์สอบในการขอซิตี้เซ่นฟินแลนด์ และเมื่ออยุ่ครบห้าปีแล้วค่ะเดี๋ยวหาข้อมูลมายื่นยันอีกทีกนะคะ)

ป.ล. ระหว่าง สเต็บ อาจมีย่อยๆ ลงไปอีกนะคะแล้วแต่โรงเรียนจะกำหนดคอร์ส ค่ะ และถ้าเรียกไม่เหมือนกันอย่าพึ่งโกรธนะ เพราะว่าบางทีแต่ละโรงเรียน เรียกต่างออกไป เช่น ระดับ เอหนึ่ง ถึง เอ สาม ไรงี้ 

มาดูรายละเอียดกันค่ะ

สเต็บแรก Beginer 0-A2.1 ตรงนี้เรียนเร็วจะใช้เวลาเรียน 5  เดือนโดยประมาณค่ะ(ตอนนี้ป้าลีเรียนอยู่คอร์สนี้ค่ะ)

ตรงนี้อาจจะมีคอร์ส ปลีกย่อย เช่น 0- A1.3  แต่จากนั้นก็ต้องไปต่อให้จบที่  A2.1 อยู่ดีนะคะ

สเต็บถัดไป คือ A2.1 - A2.2 ตรงนี้ คอร์สเร็ว จะเรียน หนึ่งเดือนนะคะ ถ้าช้าห้าเดือนเลยค่ะ (ที่โรงเรียนป้าลีมีช้าแบบนั้นจริงๆ ให้ไปนั่งเรียนแบบนั้นสงสัยฝันว่าได้ฆ่าอาจารย์ผู้สอนตายแน่ๆ เลย)

สเต็บถัดไป คือ ไปเรียนวิชาชีพระยะสั้น เช่น ทำอาหาร ทำขนมปังทำผม หรือจะ เย็บจักร ถักผ้า คอร์สอะไรก็เถอะนะ

ถ้าในเฮลซิงกิ จะมีคอร์ส ที่เรียกว่า MAVA   ชื่อเต็มว่าอะไร เดี๋ยวไปหาให้อีกทีตอนนี้เอาชื่อเล่นไปก่อน

มะว่ะ นี้คือ คอร์สวิชาชีพสั้นๆ   เรียน ครึ่งปี ถ้าเป็นไทย ก็ประมาณ หลักสูตรลองเรียนเพื่อถามตัวเองว่าเราชอบที่จะเรียนวิชาชีพนั้นๆ จริงหรือไม่

ถ้าชอบการทำอาหาร หลังจากไปลองเรียนแล้ว ครึ่งปี แล้วหลงรักเลยก็ไปต่อ ที่ วิชาชีพ ที่เรียกว่า อัมมัตติ นะคะ เป็นหลักสูตรระดับ วิทยาลัย เรียนสามปี โดยประมาณค่ะ (ป้าลีได้เขียนไว้แล้วเรื่องเรียน ลองเปิดดูย้อนหลังนิดนะคะ)

หลักสูตรอัมมัตตินี้ จะมีบัตรนักศึกษาให้ด้วย เราสามารถใช้เป็นส่วนลดในหลายๆ รายการค่ะ เช่น

ค่าอาหาร ค่ารถเมล์ค่ารถไฟ  ค่าฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรืออะไรอื่นๆ ประมาณนั้นนะคะ หรือแม้กระทั่ง ขอวีซ่านักเรียนก็ได้เช่นกัน  แต่ได้ปีต่อปีค่ะ

(ถ้าเรียนภาษาฟินแลนด์เฉยๆ เป็นหลักสูตรระยะสั้น (ถึงแม้ว่าบางคนจะเรียนภาษานานหลายปีก็ตาม)

ตรงนี้จะไม่มีบัตรนักศึกษาให้และใช้ขอวีซ่าในการอยู่ถาวร(นานกว่าสามเดือน) ไม่ได้ค่ะ

สรุปตรงนี้ก่อน คือ

Beginer0- A2.2 ใช้เวลาเร็วก็คือ หกเดือน จบ และเมื่อจบแล้วสามารถ ไปขอเรียนต่อ ระดับ อื่นๆ ในวิทยาลัยได้

เพราะส่วนใหญ่แล้ว A2.2 เป็นข้อบังคับของหลายๆ วิทยาลัยค่ะ ว่าผู้สมัครเรียนจะต้องผ่านเกณฑ์ภาษาระดับนี้ก่อน

(บางสาขา ใช้ระดับสูงกว่านี้ เช่น ระดับ B ไปเลยทีเดียว )

แต่  ในบางจังหวัด หรือบางวิทยาลัย เค้ามีกำหนด แต่ป้าลีใช้ทางลัดเข้าไป (อันนี้เล่าไปแล้วแต่จะเล่าตรงนี้อีก เพราะมันจำเป็น และมีประโยชน์มากๆ )

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=leejayfinland&month=27-11-2013&group=18&gblog=13

เอาสเต็บ ธรรมดาก่อน มาดูกันว่า ปัญหามันคืออะไร ทำใมหลายๆคนใช้เวลาจบ  A2.2 นานเป็น สามปีสี่ปีก็มี

คิดดูถ้าคุณเรียน ภาษาซัวมิ จบระดับ A2.2 โดยใช้เวลา สี่ปี แล้วไปเรียนวิชาชีพ อีกสามปีรวมเป็นเจ็ดปีถึงจะได้ไปทำงานแบบที่มีใบอนุญาติ

เด็กๆ คงรอกันได้นะคะ แต่แก่ๆ อย่างป้าลีนี่ ขอลา เลยเด้อค้า นานจัด

ทีนี้ก่อนจะเข้าไปเรียน ระดับ วิทยาลัยนั้น  ตัวเราก็ไม่รู้ว่าเราจะชอบเรียนในสาขา นั้นๆ มั๊ยเช่น ไปเรียนทำอาหาร เพราะคิดว่า ได้งานแน่ๆ หลังจบ พอเรียนๆ ไป ดันไม่ชอบสาขาทำอาหาร ทำไงล่ะทีนี้

เค้าก็จะมีหลักสูตรระยะสั้น ให้ได้ลองทดสอบเรียนกันค่ะ  เรียนประมาณ หกเดือน  ที่เฮลซิงกิจะเรียกว่า  MAVA

แต่ที่ยูวาสกูล่ะ จะมีหลักสูตรระยะสั้นเช่นกัน เรียนหกเดือนเหมือนกันแต่ไม่ได้เรียกชื่อเดียวกันค่ะ จบแล้วได้ใบประกาศฯ

ซึ่งการจะเรียน มะว่ะ หรือไปต่อวิชาชีพโดยตรงเลย อีก 2-3ปีนั้น ก็ต้องใช้ซัวมิ ที่ระดับ เอ สองจุดสอง นะคะ

ทีนี้ จะบริหารอย่างไรให้เราได้ เอ สองจุดสองนี้มาครอบครอง

เช่น ตอนนี้หลักสูตรที่ป้าลีเรียนอยู่ คือ 0-A2.1 เรียนตั้งกะ 13.01 - 22.05.2014 รวมสี่เดือนนะคะ เสร็จแล้วปิดเทอมหน้าร้อนค่ะ  (ทุกโรงเรียนจะปิดหน้าซัมเมอร์หลายประเทศในยุโรป ใช้หลักการเดียวกันค่ะ)

ถ้าจบที่ พ.ค. อยากจะไปต่อ วิทยาลัยการอาชีพเลยได้มั๊ย  คำตอบคือ ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเค้าบังคับที่  A2.2  แต่ป้าลีได้แค่  A2.1

ดังนั้น ป้าลีต้องไปเรียน ต่ออีกหนึ่งคอร์สแต่ดันเป็นช่วงซัมเมอร์พอดีเลย ต้องรอล่ะ

ซึ่งเปิดเทอมคือ ประมาณ กันยา(หลังซัมเมอร์ว่างั้น)  ถึงจะได้อีกหนึ่งคอร์ส แต่เดือนกันยายน ดันจะเป็นช่วงเปิดเรียนของวิทยาลัยในฟินแลนด์(เกือบทั้งหมด)

อ้าวแล้วทำไงอ่ะ ป้าลียังไม่ได้จบคอร์สภาษาตามที่เค้ากำหนดเลย (A2.2)  จะไปสมัครวิชาชีพ ก็ไม่ทันแล้วอ่ะ  ต้องรอปีหน้าเหรอนี่  ซวยล่ะ

ก็จะทำแบบนี้ค่ะ คือต้องไปเรียน หลักสุตรเร่งรัด ให้จบ A2.1-A2.3  ภายในหนึ่งเดือน ในช่วง มิ.ย.  แล้วก้พยายามหา วิทยาลัยให้ได้เรียนทันในปีนี้ให้ได้ (การหาหลักสูตรเร่งรัด เราต้องจ่ายเองและแพงนิดหน่อย อาจจะร้อยกว่าๆ ยูโร แต่การเรียนหนึ่งเดือน นั่นคือถือว่าแพงสำหรับดินแดนเรียนฟรีแห่งนี้  และการเรียนเร่งรัดนี้ผู้เรียนต้องแม่นภาษามาก่อนนะคะไม่ใช่เรียนแล้วลืม จะมาเร่งรัดเอาไม่ได้นะคะ เพราะมันจะงง(แด๊ก) เลยทีเดียวดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อให้ทันในประจวบของเวลา)

นี่แหละค่ะ พอผ่านคอร์สภาษา  เราก็จะได้ไปเรียน หลักสูตร วิชาชีพที่ต้องเรียน อีก 2-3 ปี คือ รวมแล้ว ป้าลีใช้เวลา สามปีครึ่ง จบวิชาชีพ สาขาใดสาขาหนึ่งพร้อมใบอนุญาติ ออกไปทำงาน และไม่ใช่แรงงานขั้นต่ำอีกด้วย   

การทำแบบนี้ เรียกว่า วิ่งเรียน เหนื่อยมั๊ย เหนื่อยมากๆ เครียดมั๊ย?  มากๆ แต่เราจำเป็นเพราะว่า ขนาดเราเร่งแล้วยังต้องใช้เวลาตั้ง สามปีกว่าแน่ะ ถ้าไม่เร่งคิดดูเอาเองเถอะท่านผู้ชม

ทีนี้ ถ้าสาวๆ ไม่ได้แบบนี้ ปัญหาคืออะไร

หนึ่งเลย ตอนแรกก็รอวีซ่า สี่เดือนผ่านไป

สอง รอ บัตรเกล่า อีกสองเดือน กลายเป็น หกเดือนผ่านไป

สาม... รอเตื้อฯ เรียก และหาโรงเรียนให้ อีกสามเดือน(ล่ะมั๊ง)  เป็นเท่าไหร่ละ  9 เดือนผ่านไป(ทำใมต้องรอเตื้อเรียกก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เราก็หาโรงเรียนเองได้ แล้วไปเรียนล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อนกว่าเค้าจะเรียกก็ได้ ซัวมิ ระดับ  A2.2  ไปแล้ว)

ถัดมาคะ

เข้าเรียน สี่เดือน ให้จบแบบป้าลี ซึ่งเป็นคอร์สเร็ว  แล้วดันเรียนไม่ทันอีก เพราะว่ามันเร็วไปต้องไปเรียนคอร์สช้า

กว่าจะจบ A2.1  รอไปอีกแปดเดือน เพราะต้องเรียน ทีละคอร์ส เนื่องจากต้องเรียนช้า เพราะไม่เข้าใจ

รวมแล้ว 17 เดือน(นับจากเริ่มขอวีซ่า)  ก็ปีครึ่งเข้าไปแล้ว ยังไม่ได้ระดับที่จะเข้าวิทยาลัยอีกนะทีนี้ ดันไปติดซัมเมอร์ปีที่สองอีก

รออีก... กว่าจะได้จบเอสองจุดสอง วิทยาลัยก็เปิดภาคเรียนไปแล้ว  ต้องรอปีหน้าอีก..... กลายเป็น  3 ปีอย่างไม่ต้องสงสัย  

ถามว่า แล้วทำใมชั้นจะต้องเรียน วิชาชีพเหมือนป้าด้วยในเมื่อชั้นพูดได้ ฟังได้ สื่อสารได้ ชั้นก็ไปหางานทำดีกว่า...

อันนี้ ป้าลีขอตำหนิอย่างรุนแรง... ทำใมน่ะเหรอ... ต่อเพจหน้ากันค่ะ