ชีวิตในฟินแลนด์ อยู่ให้เป็น ไปต่อให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในฟินแลนด์ ...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
การเรียน วิชาชีพ ที่ Stadin Ammattiopisto ,เฮลซิงกิ ...แชร์ประสบการณ์ การเรียนใน อัมมัตติค่ะ

ตั้งกะ 19 ม.ค. 2015 ป้าลีเข้าเรียนที่  Stadin Ammattiopisto ที่ myllypuro,Helsinki ค่ะ

นี่คือตึกที่เรียนค่ะ มี 3 สาขา คือ งานก่อสร้างและ ช่างทาสี


การเรียนในอัมมัตติมีข้อดีหลายอย่างนะคะ เช่น อาหารกลางวันฟรี  (แต่ก็เป็นอาหารพื้นๆ ที่อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ตามสไตล์ฟินแลนด์แหละนะคะ...แต่ของฟรีกินไปเถอะ เพราะว่าประหยัดเงินไปหลายยูโร ต่อวันค่าอาหารกลางวัน )



แต่บางวันอาหารก็อร่อยค่ะ เช่น ซามอล อบ หรือ ไก่ในซอสเนย แต่ว่ามีสลัดกับนมให้กินทุกวัน

ส่วนการเรียน จะเรียนหลากหลายนะคะ เพราะว่า คอร์สที่เรียน เรียกว่า  MAVA  ก็คือ หลักสูตรหนึ่งปี แต่..... ตรงนี้ให้อ่านอย่างละเอียดนะคะ เพราะว่า คนไทยทั่วไป เข้าใจผิดว่า มาว่ะ เป็นการเรียนรวมเบสิค แล้วค่อยไปเลือกเรียนว่าจะเข้าอัมมัตติสาขาใหนต่อไปในอนาคตหลังจบคอร์สหนึ่งปีแล้ว

อันนี้เข้าใจผิดนะคะ(แม้จะไม่ผิดทั้งหมดก็เถอะ)  เพราะว่า ตอนสอบเข้าป้าลีระบุกับครูคนสัมภาษณ์เรียบร้อยเลยว่า ต้องการสาขาช่างก่อสร้าง หรือ ช่างซ่อมบ้าน เท่านั้น สาขาอื่นไม่เอา...
(ป้าลีเคยเข้าเรียน อัมมัตติที่ Jyväskylä หลักสูตร 3 ปี แต่หยุดเรียนเพราะย้ายบ้านมาอยู่กับสามีที่ วานต้า)

และ เลขที่ออกก็คือ ป้าลีต้องระเห็ดมาเรียนที่ตึกแท่งสูงๆ ที่เห็นนี้ เพราะว่า ที่นี่คือการเรียน สาขาที่เกี่ยวข้องกับ การก่อสร้าง ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ศัพท์ที่เรียนในภาษาฟินน์ หรือ เบสิคการรับรู้เกี่ยวกับการก่อสร้าง และเครื่องจักร  ตามภาพนะคะ






ส่วนถ้ามีใครเรียน มาว่ะ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเลือกสาขาอะไรต่อไป เค้าก็จะให้เรียนรวมๆ  ส่วนผู้ที่ระบุในสาขาอื่น เช่น ทำเบเกอรี่ หรือ ทำอาหาร หรือ ผู้ช่วยพยาบาล เค้าก็จะถูกส่งไปเรียนในมาว่ะ ของสาขานั้นๆ เพื่อรู้คุ้นเคยกับคำพื้นฐานและปรับตัวเพื่อเข้าในอัมมัตติของสาขาที่เค้าเลือกนั้น ต่อไป และ มาว่ะ บางสาขาต้องมีการฝึกงานด้วยค่ะ แต่ของสาขาป้าลีเรียนไม่มีการฝึกงาน(อันนี้ชัวร์ค่ะเพราะถามครูเรียบร้อยแล้ว ว่าข้อมูลตรงนี้เป็นอย่างไร ก่อนจะมาเขียนลงตรงนี้ค่ะ เพราะน้องๆ จะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจและวางแผน )

แต่ป้าลีแพลนแบบนี้ค่ะ.... เข้าเรียน มาว่ะ แค่เทอมเดียว... แล้วโดดไปอัมมัตติเลยในเทอมฤดูไม้ร่วง หรือ เดือน สิงหาที่จะถึงนี้ ...

ทำใมต้องทำแบบนั้น เค้าให้เรียน หนึ่งปี ทำใมจะต้องโดดไปโน่นนี่อีกแล้ว ยายป้า...

คือ การจะเข้าเรียนอัมมัตติแบบหลังสูตร  3 ปีโดยตรงนั้น มันต้องสอบแข่ง

แต่ถ้าเรามาเรียนอยู่ในตึกแล้ว เราไปคุยกับ ครูที่เรียกว่า  OPO opettaja ของสาขาที่เราจะเข้า เช่นป้าลีก็ไปคุยกับ สาขาช่างซ่อมบ้าน แล้วถามเค้าว่า

ชั้นจะย้ายมาเรียนกับคลาสอัมมัตติ หลักสุตร  3 ปี ของโรงเรียนเธอนะ แต่ภาษาฟินน์ของชั้น ยังไม่ถึง B2 นะ จะเป็นปัญหาประการใดมั๊ย และข้อสอบประมาณใหน ในการสอบเข้า...

คำตอบคือ ไม่มีข้อสอบนะคะ ก็คือเข้าได้เลย แต่....สัมภาษณ์นิดหน่อย ว่าทำใมถึงอยากเรียน และถ้าภาษาซัวมิไม่เก่ง วิธีการแก้ปัญหาคืออะไร (ตอบไปว่า ก็พูดอังกฤษในยามขับขัน) คือ ป้าลีรู้ว่า เด็กๆชาวฟินแลนด์ที่เรียนร่วมกับเรา เค้าต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษของเค้าอยู่แล้ว เค้าก็จะพูดทุกวันในภาษาอังกฤษ ส่วนเราก็พูดซัวมิทุกวันกับเค้า สลับกัน....

 (อันนี้ป้าลีก็ทำแบบนี้กับการเข้าเรียนอัมมัตติสาขาแรกเมื่อปี  2012 ทั้งๆ ที่ป้าลีมาอยู่ฟิแลนด์แค่ปีเดียว แต่ก็เข้าอัมมัตติได้เลย และภาษาซัวมิ ระดับ  เอ หนึ่งสามก็ไม่ถึงด้วยซ้ำณ วันนั้น  แต่ในฐานะศิษย์เก่า เค้าให้เข้าเรียนค่ะ เพราะว่า กว่าจะจบอัมมัตติ สามปี เราก็เก่งซัวมิแล้ว นี่คือคำพูดของครูผู้รับเราเข้าเรียนค่ะ)

ประเด็นคือ... คนไทย ร้อยทั้งร้อยจะบอกว่า หนูไม่กล้าแม้แต่คิดจะสอบค่ะ ขอหนูเก่ง ซัวมิก่อน... (คำว่าเก่งนี่เมื่อไหร่จ๊ะ... ต้องจบ เบ สอง หรือ เซ เลยหรือเปล่าจ๊ะหนู)

การเรียน มาว่ะ ดีอย่างไร นอกจากอาหารฟรี(เรื่องกินเรื่องใหญ่นะ ยกเป็นข้อดีข้อแรกเลย อิอิ) ดีถัดมาคือ เราขอเข้าอัมมัตติได้เลย ถ้าเราเรียนอยู่ในตึกของเค้าแล้ว ในสาขาที่เราต้องการ แต่ถ้าเราไม่รู้ ณ วันแรก ที่เข้าเรียนมาว่ะ ก็อย่างที่บอก เราจะถูกส่งไปเรียนคลาสที่รวมๆ จับฉ่าย อาจจะอยู่ที่  Malmi,หรือที่ใดในเฮลซิงกิก็เถอะ คุณจะต้องเข้ามาสอบอัมมัตติในสาขาอื่นที่คุณพึ่งมารู้ตอนหลัง.... ดังนั้นตรงนี้คิดให้ดีนะคะ ก่อนสอบสัมภาษณ์

และถ้าใครที่กลัวไม่กล้าสอบ กลัวทำไม่ได้ ขอให้เข้าไปสอบเถอะค่ะ เพราะว่า ถ้าเรามาเรียนมาว่ะ หนึ่งปีแรก เค้าก็ให้เราเรียนภาษาซัวมิทั้งปีอยู่ดีน่ะแหละ พอจบ หลักสูตร ระดับภาษาเราก็จะขั้นต่ำ อยุ่ที่ เบ หนึ่ง อยุ่ดี...ตรงนี้เน้นนะคะ

เปรียบเทียบง่ายๆ คือ ถ้าเราไปเรียนภาษาฟินน์ที่อื่น ในระดับเดียวกันคือ จบแล้วได้ เบหนึ่ง แต่คุณจะต้องจ่ายค่าอาหารกลางวัน หรือถือไปจากบ้าน(ก็ต้องซื้ออยุ่ดีถูกมั๊ยคะ) และต้องไปสมัครเข้าสอบอัมมัตตินะคะ ไม่ใช่เข้าได้เลย
แต่ถ้าคุณเข้า มาว่ะ ก็คือจบ ใน เบหนึ่งขั้นต่ำ แต่คุณเข้าอัมมัตติได้เลย และดีกว่านั้นคือ ทำแบบนี้ค่ะ... เรียนเทอมเดียวแล้วเข้าอัมมัตติไปเลย ไม่ต้องเคลียดเรื่องสอบ  เค นะคะ 

ไม่ต้องเคลียดเรื่องเงินจากเตื้อฯ หรือ เกล่า... เพราะว่า ถ้าเราเดินตามนี้เราจะไม่หลงทาง หรือเสียเวลาค่ะ (อย่าลืมว่า คนบางคน อยู่ ห้าปี เจ็ดปีแล้วก็ยังเข้า อัมมัตติไม่ได้นะคะ เพราะว่าไม่กล้าไปสอบนี่แหละ ส่วนใครที่สอบแล้ว แต่สอบไม่ได้ อันนี้ป้าลีชื่นชมนะคะ คุณเป็นฮีโร่ค่ะ ต่อให้สอบไม่ได้แต่คุณก็ไม่ยอมแพ้)


มาต่อที่วิชาที่เรียนมีอะไรบ้าง...

มีคอมพิวเตอร์
คณิตศาสตร์



มีเรียนภาษาอังกฤษ และเรียนภาษาซัวมิ รวมทั้งวัฒนธรรมของฟินแลนด์ด้วยค่ะ
แต่ทุกอย่างก็ต้องพูดและเขียน อ่าน ฟังเป็น ภาษาฟินน์นะคะ ภาษาอังกฤษก็คือเรียนควบกับภาษาฟินน์ค่ะ ไม่ใช่อังกฤษทั้งหมดแต่เป็นการเรียนแบบไบลิงกั้วค่ะ





Create Date : 14 มีนาคม 2558
Last Update : 27 มีนาคม 2558 23:20:07 น. 0 comments
Counter : 1190 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lee Jay
Location :
Nurmijärvi,Vantaa,Helsinki Finland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 143 คน [?]




ชื่อ ลี ค่ะ เป็นป้ารุ่น เกือบ เลขที่ 5 เข้าทีมวัยรุ่น
ไม่ได้อัดบล็อกเกือบ 3ปี

pub-3852458659373246
New Comments
Friends' blogs
[Add Lee Jay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.