ชุมชนร่างกฎหมายและให้ความเห็นทางกฎหมาย

<<
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 สิงหาคม 2551
 

Fight fo Slim

ก่อนอื่นต้องกล่าวสวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่ให้ความกรุณาเปิด

จดหมายข่าวฉบับน้อยฉบับนี้ขึ้นมาอ่าน สำหรับความเป็นมาเป็นไปของ

จดหมายข่าว Fight For Slim ก็สืบเนื่องมาจากว่าผู้เขียนได้มีโอกาสแทรก

กายน้อยๆ (ตรงไหน) ไปเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “โภชนาการโรค

อ้วน” ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๑ จัดโดยหน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการ

แพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อ

เสร็จสิ้นการอบรมผู้เขียนก็ได้บังเกิดจิตขึ้นมาว่าน่าจะเผยแพร่ความรู้ที่ได้รับ

มาให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ประสบปัญหากับภาวะน้ำหนักเกินพอดีไปซัก

หน่อยเช่นเดียวกับผู้เขียนที่ประสบปัญหาน้ำหนักเกิน (ร้อย) ไปหน่อยเดียว

เท่านั้น (เท่านั้นจริงจริ๊ง) ได้มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้อง

โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือพึ่งพาอาหารเสริมใดๆ แถมยังได้รับประทาน

อาหารอย่างที่เรากำหนดเองไม่ต้องอาศัยสูตรไหนๆ ให้ทรมานร่างกายจน

พาลให้เลิกล้มความตั้งใจไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง โดยจดหมายข่าว Fight

For Slim จะจัดเผยแพร่เดือนละสองครั้งซึ่งจะดำเนินการเผยแพร่ไปจนกว่า

ผู้เขียนจะหมดภูมิความรู้ที่ได้รับมาจากการอบรมเรียกว่าให้ความรู้จนหมดไส้

หมดพุงนั่นแล ในการนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อมูลที่จะเผยแพร่ในลำดับต่อไปและ

ต่อๆ ไปจะเป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจควบคุมน้ำหนักได้ไม่มากก็น้อย โดย

หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เขียน

ได้ตลอดเวลา

ในจดหมายข่าวฉบับนี้จะเป็นการให้ความรู้ในการควบคุมอาหาร โดยใช้หลัก

๗ ขั้นบันไดสู่ความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยตนเอง ซึ่งผู้เขียนได้รับความ

รู้มาจาก ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ หลัก ๗ ขั้นบันไดนี้จะเป็นหลักที่ครอบคลุม

วิธีการลดหนักอย่างถูกต้องโดยไม่ใช้สูตรอาหารสูตรใดสูตรหนึ่งไปตลอด

ทุกอย่างจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารด้วยตัวของเราเอง เลือกทานใน

สิ่งที่ชอบโดยใช้หลักความรู้ทางโภชนาการมาประกอบทำให้การควบ

คุมน้ำหนักเป็นเรื่องที่เราไม่รู้สึกว่ายากหรือทำไม่ได้ โดยเริ่มจากบันไดขั้นที่

๑ รู้ตน จากนั้นในจดหมายข่าวฉบับต่อไปจะนำขั้นบันไดที่เหลือมาอธิบายไป

จนครบทั้ง ๗ ขั้น โดยสอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักใน

ประเด็นต่างๆ โดยเป็นเรื่องที่ผู้อ่านอาจจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เอาล่ะเอา

ไว้พบกันใหม่ฉบับหน้านะขอรับ สวัสดีขอรับกระผม

บันได ๗ ขั้นสู่ความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยตัวเอง

ขั้นที่ ๑ รู้ตน


อย่างไรที่เรียกว่าอ้วนแล้ว????
๑. ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI)
เป็นตัวเลขที่บอกให้รู้ว่า คุณผอมไป อ้วนไป หรือน้ำหนักกำลังดี ดังตารางต่อไปนี้

ตารางแสดงค่า BMI ของคนเอเชีย


ค่า BMI (กก./ตรม.) ระดับความอ้วน
น้อยกว่า ๑๘.๕ คุณผอมไปหน่อยค่ะ
๑๘.๕-๒๒.๙ น้ำหนักปกติ หุ่นกำลังดีแล้วค่ะ
๒๓.๐-๒๔.๙ คุณเริ่มตุ้ยนุ้ยแล้วนะคะ
๒๕.๐-๒๙.๙ เสียใจด้วย คุณอ้วนแล้วนะ
ตั้งแต่ ๓๐.๐ ขึ้นไป คุณเป็นโรคอ้วนแล้ว รีบหาหมอด่วน!!!

ลองดูซิว่าขณะนี้ตัวคุณมีค่าดัชนีมวลกายอยู่ในระดับใด?

ดัชนีมวลกายของคุณ = น้ำหนักตัวของฉัน (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) x ส่วนสูง (เมตร)


๒. การวัดเส้นรอบพุง
เส้นรอบพุงนอกจากทำให้รู้ว่าจำเป็นต้องซื้อกางเกงหรือกระโปรงเอวขนาดไหนแล้ว ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เส้นรอบพุงจะบ่งบอกให้รู้ว่าขณะนี้คุณมีไขมันในช่องท้องมากน้อยเพียงใด สำหรับชาวเอเชียจะตัดสินว่าอ้วนลงพุง มีไขมันในช่องท้องมากเกินไปหรือไม่นั้นก็ต่อเมื่อ


ผู้หญิงมีเส้นรอบพุงมากกว่า ๘๐ เซนติเมตร
ผู้ชายมีเส้นรอบพุงมากกว่า ๙๐ เซนติเมตร


ถ้ามีไขมันในช่องท้องมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น

เมื่อรู้ว่าต้องควบคุมน้ำหนักได้แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่ากินแค่ไหนถึงจะพอดี
“ไม่ยาก” ทำตามขั้นตอนข้างล่างนี้ได้เลย

ขั้นตอนที่ ๑ พลังงานจากอาหารที่ร่างกายของคุณต้องการ
ให้คำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ก่อน จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาเทียบกับตารางข้างล่างนี้


ดัชนีมวลกาย(กิโลกรัม/ตารางเมตร) พลังงานที่คุณควรได้รับต่อวัน
น้อยกว่า ๓๐ ๑๒๐๐ กิโลแคลอรี
มากกว่า ๓๐ ๑๕๐๐ กิโลแคลอรี

ขั้นตอนที่ ๒ กินแค่ไหน ถึงจะพอ
เมื่อรู้ว่าควรกินอาหารให้ได้พลังงานเท่าไหร่ ให้ดูต่อไปถึงปริมาณอาหารที่คุณจะกินในแต่ละวัน แต่ละมื้อ ตามตารางอาหารต่อไปนี้

ตารางอาหารสำหรับคนวัยทำงาน

ปริมาณอาหารแลกเปลี่ยนสำหรับอาหาร ๑๒๐๐ กิโลแคลอรีต่อวัน

อาหาร ปริมาณต่อวัน เช้า เที่ยง เย็น
ข้าว,แป้ง ๓ ทัพพี ๑ ทัพพี ๑ ทัพพี ๑ ทัพพี
(๑ ทัพพี ประมาณ ๕ ช้อนกินข้าว)
เนื้อสัตว์
ไม่ติดมัน ๑๘ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ
ไขมัน ๓ ช้อนชา ๑ ช้อนชา ๑ ช้อนชา ๑ ช้อนชา
ผัก ๖ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี
ผลไม้ ๒ ครั้ง - ๘-๑๐ คำ ๘-๑๐ คำ
นม - - - -
น้ำตาล ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย
เกลือ/น้ำปลา เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น

ปริมาณอาหารแลกเปลี่ยนสำหรับอาหาร ๑๕๐๐ กิโลแคลอรีต่อวัน
อาหาร ปริมาณต่อวัน เช้า เที่ยง เย็น
ข้าว,แป้ง ๖ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี
เนื้อสัตว์
ไม่ติดมัน ๑๘ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ ๖ ช้อนโต๊ะ
ไขมัน ๕ ช้อนชา ๒ ช้อนชา ๒ ช้อนชา ๑ ช้อนชา
ผัก ๖ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี ๒ ทัพพี
ผลไม้ ๓ ครั้ง ๘-๑๐ คำ ๘-๑๐ คำ ๘-๑๐ คำ
นม - - - -
น้ำตาล ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย ใช้แต่น้อย
เกลือ/น้ำปลา เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น เท่าที่จำเป็น

* ถ้าคุณกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ควรดื่มนำเสริมโดยเลือกดื่มนม
ขาดมันเนย วันละ ๑ แก้ว/กล่อง

คำแนะนำ
- ถ้ามื้อเย็นไม่กินข้าวเลย กินแต่กับข้าวจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
- ไม่กินมันและหนังสัตว์ หลีกเลี่ยงอาหารชุบแป้งทอด
- ไม่กินกับข้าวที่ผัดหรือทอด เกิน ๑ อย่างต่อวัน

Did You Know??
Obesity แปลว่า โรคอ้วน
โรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง เกิดจากการที่มีปริมาณไขมันในร่างกายมากกว่าปกติจนมีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้การกระจายตัวของไขมันภายในร่างกายยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพ โรคอ้วนที่มีผลร้ายต่อสุขภาพมีอยู่ ๒ ประเภท คือ
๑. โรคอ้วนทั้งตัว (overall obesity) ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีไขมันทั้งร่างกายมากกว่าปกติ โดยไขมันที่เพิ่มขึ้นมิได้จำกัดอยู่ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยเฉพาะ
๒. โรคอ้วนลงพุง (visceral obesity/abbominal obesity) ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีไขมันของอวัยวะภายในช่องท้องมากกว่าปกติ โดยอาจมีไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) บริเวณหน้าท้องเพิ่มขึ้นด้วย บางคนนอกจากจะมีโรคอ้วนทั้งตัวแล้วยังเป็นโรคอ้วนลงพุงร่วมด้วย










Create Date : 18 สิงหาคม 2551
Last Update : 26 สิงหาคม 2551 15:02:55 น. 0 comments
Counter : 527 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

KMyoungelite
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]








[Add KMyoungelite's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com