Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
สะบายดี หลวงพะบาง วันที่ 1



Smiley Smiley สะบายดี  หลวงพะบาง Smiley Smiley



"หลวงพระบาง"  เป็นความใฝ่ฝันมานานมากที่อยากจะไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ในที่สุดโอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อ จ.เชียงราย มีการเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่  4  ขึ้นเมื่อวันที่  11  ธันวาคม 2556  ที่ผ่านมา  จึงเป็นทางเลือกให้กับเราในการเดินทางไปครั้งนี้ กับรถโดยสารประจำทางสาย  เชียงใหม่ - หลวงพระบาง เราออกเดินทางในวันที่  5 - 9  กุมภาพันธ์  2557

จริง ๆ รถสายนี้มีมานานแล้วก่อนสะพานจะสร้างเสร็จ  แต่รถจะส่งเราถึงแค่ท่าเรือบั๊คที่เชียงของ  จากนั้นต้องเปลี่ยนเป็นรถประจำทางของประเทศลาวเข้าไปยังหลวงพระบาง  แต่ในเวลานี้รถประจำทางสายนี้เราสามารถนั่งจากเชียงรายเข้าไปถึงสถานีขนส่งหลวงพระบางได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนรถ 

เริ่มออกเดินทางไปกับเรานะคะ  อ้อลืมบอกไป ค่าโดยสารจากสถานีขนส่งเชียงราย - หลวงพระบาง ราคา  1,200  บาทต่อคนนะคะ    Smiley



แผนที่การเดินทางของเราในครั้งนี้





เราเดินทางมาถึง  อ.เชียงของ  เวลา 16.30  น.





ราคาค่าโดยสารจาก อ.เชียงของ





ผ่านแม่น้ำโขงบนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 4





ตม. ประเทศลาว










ลงเหยียบแผ่นดินลาวแล้วค่ะ





บรรยากาศภายในรถโดยสาร  มีคนขับรถ 2 คน ไม่ต้องห่วงค่ะ Smiley










ทั้งด่านไทยและลาวรูปทรงเหมือนกัน





หลังจากทำเรื่องที่ ตม. เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ  ฝั่งลาวเมื่อความเจริญเริ่มเข้ามาถึง การก่อสร้างต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย















เส้นทางคดเคี้ยวไปตลอดทาง แม่ฮ่องสอนเราว่าโค้งเยอะแล้วนะ มาเจอเส้นทางนี้แพ้ไปอย่างราบคาบเลยทีเดียว จากที่เราเดินทางไม่เคยกินยาแก้เมา  ก็ต้องวิ่งหาซื้อมากินกันให้วุ่นไปเลย ไม่งั้นคงไปไม่ถึงหลวงพระบางแน่ ๆ 










พระอาทิตย์เริ่มตกดินแล้ว  แต่การเดินทางก็ยังคงไปกันต่อ





เดินทางมาถึงสถานีขนส่งหลวงน้ำทา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ รถจอดให้เราแวะทานอาหารเย็นที่นี่  แต่จากสภาพถนนที่คดเคี้ยวทำให้ทานอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ นอกจากยาแก้เมารถเท่านั้น





หลังจากนั้นก็หลับ ๆ ตื่น ๆ จนเราเดินทางมาถึงหลวงพระบางในเวลา 7.30  น.  จากด่านเชียงของ ถึง สถานีขนส่งหลวงพระบาง  ใช้เวลาเดินทาง  15  ชั่วโมง  กับระยะทาง  505 กม.




















รถจาก จ. เลย - หลวงพระบาง  น่าจะเปิดใหม่เหมือนกันนะคะ





หลังจากต่อรองราคาค่ารถเข้าไปในเมืองหลวงพระบาง จาก 100 บาท ต่อเหลือ 80 บาท เราก็ไปกันโลดค่า    Smiley





เราไม่ได้จองที่พักไว้ล่วงหน้า จึงให้คนขับรถพาไปส่งที่ซอยโจมา (หาข้อมูลจากในเวปพันทิป) แต่ปรากฎว่าในซอยโจมา ที่พักเต็มทั้งหมด เราก็เดินหาซอยถัดไปจนมาได้ที่นี่ค่ะ  พิไลลัก วิลล่า  ซึ่งก็ยังไม่สามารถเข้าพักได้ เนื่องจากเรามาถึงเช้าไปหน่อย เค้าขอเวลาอนามัยห้อง (ทำความสะอาดห้อง)  ให้เข้าพักได้เวลา 11.00  น. 





ไม่เป็นไรค่ะ ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว ฝากกระเป๋าที่เฮือนพักไว้ก่อนแล้วเราก็ออกมาเดินหาอะไรทานกันที่นี่เลยค่ะ เห็นใคร ๆ มาหลวงพระบางก็ต้องมาทานโจ๊กและกาแฟที่ร้านนี้ "ประชานิยม"





ที่นี่เรียก "ข้าวจี่"















หลังทานเสร็จ เราก็เดินเล่นริมฝั่งโขงไปเรื่อย ๆ เพราะร้านนี้อยู่ติดกับแม่น้ำโขงค่ะ










เดินอ้อมมาทางถนนสายกลางบ้าง เจอไปรษณีย์










เดินเล่นมาเรื่อย ๆ ก็มาเจอจุดแลกเงินพอดีค่ะ  วันที่ไป 1 บาท แลกได้ 250 กีบ





ร้านมินิมาร์ท ที่ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงพระบาง  สินค้าทุกอย่างนำเข้าจากประเทศไทย ไม่เว้นแม้กระทั่งไอศกรีมวอลล์





วุฒิศักดิ์ ก็มีอยู่ติดกับร้านกาแฟโจมา















เดินมาอีกนิดเดียวก็ถึงร้านกาแฟโจมา





ได้เวลาเข้าที่พัก อาบน้ำ แต่งตัว แล้วปั่นจักรยานไปเที่ยวเมืองหลวงพระบางกันแล้ว




















ช่วงที่เราไปนั้น นักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะมาก เห็นแม่ค้าบอกว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ของคนจีนเค้าก็เลยมาเที่ยวกันเยอะแยะมากมาย





มาถึงหลวงพระบางไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก เพราะมีเยอะมากเกือบทุกซอย





ปั่นจักรยานเล่นซักพักนึกขึ้นได้ว่าลืมซื้อตั๋วขากลับ ก็เลยต้องปั่นจักรยานไปซื้อที่สถานีขนส่ง ระยะทางประมาณ 3 กม. เล่นเอาหอบแฮ๊ก ๆ  เลยทีเดียว




ทางไปขนส่งผ่านสนามกีฬา





นี่เป็นสถานีขนส่งภายในประเทศลาว





ขนส่งระหว่างประเทศเลยไปอีกนิดหนึ่งก็ถึงแล้วค่ะ
























ได้ตั๋วกลับบ้านมาเรียบร้อยแล้วสบายใจ ก็ปั่นจักรยานเที่ยวกันต่อ จะเห็นรถจากประเทศจีนวิ่งกันเยอะมาก





ป้ายข้ามทางม้าลายเก๋ดีนะ  Smiley





เห็นพระธาตุจอมสีบนยอดเขาพูสี
เย็นนี้มีนัดกันข้างบนไปชมพระอาทิตย์ตกกัน





เริ่มหิวแล้ว แวะทานอาหารกันที่ร้านนี้แล้วกัน อยู่ใกล้กับวัดพระธาตุหมากโม





การใช้จ่ายที่นี่สามารถใช้ได้ทั้งเงินไทยและเงินลาว  แต่ใช้เงินกีบของลาวจะถูกกว่านะ





ทานข้าวอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดพระธาตุหมากโม















หน้าวัดมีของขายเหมือนวัดทั่วไป





ออกจากวัดแล้วเราก็ปั่นจักรยานกันต่อไปเรื่อย ๆ เริ่มจะหมดแรงแล้วเหมือนกัน  Smiley










ตึกนี้ดูเหมือนจะสูงที่สุดในหลวงพระบาง มี 4 ชั้น





ถนนสายนี้จะเป็นถนนคนเดิน มีทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ช่วงกลางคืนเค้าจะปิดถนนกลายเป็นตลาดมืดที่เค้าเรียกกันนะ










เราอ้อมมาทางแม่น้ำคานกันบ้างดีกว่า




















เราปั่นจักรยานอ้อมไปมาจนได้เวลาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกบนยอดเขาพูสีกันแล้ว  ทางขึ้นจะมีด้วยกัน 2 ด้าน คือด้านหน้าอยู่ตรงตลาดมืด กับด้านหลังอยู่ติดแม่น้ำคาน เราเลือกขึ้นด้านหลังเพราะมีขั้นบันไดน้อยกว่าด้านหน้าซึ่งมีถึง 328 ขั้น แต่ด้านหลังมีประมาณ 200 กว่าขั้น ก่อนเดินขึ้นพระธาตุเห็นมีปิ้งย่างขายอยู่ เดี๋ยวลงมาค่อยมากินแล้วกัน










ปั่นจักรยานมาทั้งวันแล้วต้องมาเดินขึ้นพระธาตุอีก แทบจะไม่ไหวเหมือนกันนะเนี่ย










มาถึงครึ่งทางมีเก็บค่าธรรมเนียมด้วย คนละ 20000 กีบ










ในที่สุดก็ขึ้นมาถึง ทิวทัศน์สวยงามมาก





เห็นสนามบินด้วย






























คนเยอะมาก แทบไม่มีที่ให้ถ่ายรูปเลย Smiley










ได้มาไม่กี่ภาพก็ยังดีเนอะ















เดินลงมากินปิ้งย่างกันดีกว่า




















รองท้องเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปเดินเล่นที่ตลาดมืดกันแล้ว ไปดูกันสิว่าเค้ามีอะไรขายบ้าง




















กาแฟชื่อดังของประเทศลาว "ดาว คอฟฟี่"






























ข้าวจี่ มีขายทุกที่















ร้านอาหารมีมากมายหลากหลาย





แล้วเราก็เดินมาถึงซอยขายอาหารบุฟเฟห์ ที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง




















ส้มตำร้านนี้อร่อยมาก




















บุฟเฟห์มีแต่ประเภทผัด กับผลไม้ หาเนื้อหมูแทบไม่มี ถ้าจะทานหมูหรือปลาต้องซื้อแยกต่างหาก










หลังทานอาหารเรียบร้อยก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนที่เฮือนพักในคืนแรก










จบทริปวันแรกไปแล้ว วันที่ 2 เราจองรถกับทางเฮือนพักเพื่อเดินทางไปเที่ยวน้ำตกกวางสี ขอบอกว่าสวยงามมาก ติดตามไปกับเราในวันที่ 2 นะคะ "สะบายดี หลวงพะบาง"











Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 20:28:12 น. 6 comments
Counter : 1867 Pageviews.

 
ตามมาเที่ยวหลวงพระบางด้วยคนค่า
ฟ้าใสสวยดีจังเนอะ ^^


โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:51:49 น.  

 
ติดใจส้มตำร้านนั้นเหมือนกันค่ะ


โดย: Sugar lip วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:2:01:22 น.  

 

ชมภาพแล้วอยากไปเที่ยว สปก.ลาว เลยค่ะ
แล้วรอชมภาพบล็อต่อไปนะคะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:29:48 น.  

 
เกาะขอบจอขอไปเที่ยวลาวด้วยคนนะคะ ^_^


โดย: The impression วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:30:33 น.  

 
ชอบวิวแม่น้ำคาน กับ วิวบนยอดเขาพูสีค่ะ

มหาชนคนเยอะมากค่ะ รอดูพระอาทิตย์ตกดินทั้งนั้น ค่อยๆ ลับเหลี่ยมเขา คงงามมากเลย อยากเห็นค่ะ ก็คุ้มนะคะ อุตส่าห์ไต่บันไดขึ้นไปตั้ง 200 กว่าขั้น



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:20:34:31 น.  

 
ทริปไกลอย่างนี้ คงได้รอโมเสสโตแน่ ๆ เลยค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 10 สิงหาคม 2557 เวลา:20:13:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kor_pink
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]





บันทึกการเดินทาง

19 พฤษภาคม 2556 หลังจากเริ่มหัดเขียน blog มาได้สักระยะแล้ว ก็ได้รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้มีมิตรภาพอยู่มากมาย
เนื่องจาก จขบ. เป็นคนชอบท่องเที่ยวและเก็บภาพที่ไปไว้ จึงอยากแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ที่ได้พบเจอมาลงในบล๊อกแห่งนี้ค่ะ ยังไงก็ลองติดตามดูกันนะคะ ^_^

(ขอบคุณของแต่ง blog จาก ยายเก๋า(ชมพร) คุณญามี่ คุณเนยสีฟ้า และขอบคุณทุกเพลงจากท่านที่นำมาลงในยูทูป นะคะ)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายกันค่ะ


New Comments
Friends' blogs
[Add kor_pink's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.