ชนะคนอื่นเป็นร้อย ยังไม่ยากเท่าชนะตนแค่คนเดียว...
ร่างกายของมนุษย์ตอน จมูก

     การรับกลิ่นเป็นผลงานที่ซับซ้อนระหว่างจมูกและสมองส่วนหน้าบริเวณที่เรียกว่าออลแฟกทอรี่บัลบ์ (olfactory bulb) เพื่อส่งต่อสัญญาณไปยังสมองส่วนซีรีบรัมให้แปลข้อมูลว่าเป็นกลิ่นอะไร หอมหรือเหม็น การรับรู้กลิ่นช่วยในการอยู่รอดของมนุษย์ทำให้รับรู้คุณภาพของอาหาร เป็นสัญญาณเตือนภัยให้มนุษย์และสัตว์อื่นๆ รู้ล่วงหน้าว่าภัยใกล้จะถึงตัว

ส่วนประกอบของจมูก
     จมูก มีโครงร่างเป็นกระดูกแข็งและกระดูกอ่อน ภายนอกหุ้มด้วยผิวหนัง ภายโนบุด้วยแผ่นเยื่อเมือกโดยตลอด ส่วนประกอบของจมูกมีดังนี้
     1. สันจมูก เป็นกระดูกอ่อนที่เริ่มตั้งแต่ใต้หัวคิ้ว ส่วนบนเป็นกระดูกที่เรียกว่าดั้งจมูก ส่วนล่างเป็นกระดูกอ่อน มีเนื้อเยื่อและผิวหนังปกคลุมอยู่ภายนอก
     2. รูจมูก มีอยู่ 2 ข้าง ตรงส่วนล่างของจมูก ภายในมีขนจมูกทำหน้าที่ป้องกันฝุ่นละอองในขณะหายใจเข้า
     3. โพรงจมูก อยู่ถัดจากรูจมูกเข้าไปข้างใน ชึ่งเป็นที่พักของอากาศก่อนจะถูกสูดเข้าปอด โพรงจมูกทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความชึ้นของอากาศ โดยหลอดเลือดฝอยชึ่งมีอยู่มากมายตามแผ่นเยื่อเมือกจะถ่ายเทความร้อนออกมาทำให้ อากาศชุ่มชื้น แผ่นเยื่อเมือกเองก็จะทำหน้าที่ปรับความชื้นให้กับอากาศพร้อม ทั้งดักจับฝุ่นละอองที่เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าไปแล้วขับทิ้งออกมาเป็นน้ำมูก นั่นเอง บริเวณด้านบนของโพรงจมูกมีปลายประสาท ทำหน้าที่รับกลิ่นอยู่มากมาย ภายโนจมูกยังมีรูเปิดของ ท่อน้ำตาชึ่งเป็นที่ระบายน้ำตาลงมาในโพรงจมูก เพื่อ มิให้เอ่อล้นออกมานอกลูกตา เมื่อเราร้องไห้จะมีน้ำตาออกมามาก น้ำตาส่วนหนึ่งไหลลงมาตามท่อนี้เข้าสู่ซ่องจมูก ทำให้เห็นเป็นน้ำมูกใสๆ ไหลออกมา ทางจมูก เวลาร้องไห้จึงมักจะคัดจมูกและมีน้ำมูกไหลออกมาด้วย
     4. โพรงอากาศรอบจมูก (ไชนัส) เป็นโพรงกระดูกที่อยู่โนบริเวณรอบๆ จมูก มีอยู่ 4 คู่ คือ บริเวณกึ่งกลางหน้าผากเหนือคิ้วทั้งสองข้าง 1 คู่ บริเวณใต้สมองทั้งสองข้าง 1 คู่ บริเวณค่อนไปข้าง หลังของกระดูกจมูก 1 คู่ และอยู่บริเวณสองข้างของ จมูกอีก 1 คู่
     โพรงอากาศเหล่านี้มีเยื่อบางๆ อยู่เช่นเดียวกับ ช่องจมูก และโพรงอากาศเหล่านี้ก็จะเปิดเข้ารูช่อง จมูกโดยตรงด้วย ดังนั้น ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่ช่องจมูกก็มีผลต่อโพรงอากาศนี้ด้วย

กลไกการรับกลิ่น 
     การได้กลิ่นจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ อากาศที่หายใจเข้า ไปสัมผัสกับเซลล์ประสาทรับกลิ่น(olfactory receptor cell) ซึ่งอยู่บริเวณเพดานภายในช่องจมูก โดยเซลล์ประสาทรับกลิ่นนี้จะประกอบด้วยเซลล์ 3 ประเภทได้แก่ เซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่มีลักษณะเป็นขน (ciliated sensory neurons) เซลล์ค้ำจุน (supporting cells) และเซลล์พื้นฐาน(basal cells) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ชั้นล่างสุดของเยื่อบุจมูกเรียงตัวเป็นแถวเดียว

      เมื่อเซลล์ขนรับรู้กลิ่นซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลจำนวนมากที่ละลายในเยื่อเมือก (olfactory mucus membrane) ที่อยู่บนเยื่อบุเซลล์ (nasal epithelium) ภายในช่องจมูก โดยบริเวณนี้ของมนุษย์จะมีขนาดเล็กประมาณ 2-5 ตารางเซนติเมตร ซึ่งแตกต่างกับในสัตว์ เช่น สุนัขจะมีพื้นที่ในบริเวณนี้ขนาดใหญ่ประมาณ 25 ตารางเซนติเมตร โดยกลิ่นที่จะกระตุ้นเซลล์รับกลิ่นได้ดีนั้น ควรมีคุณสมบัติดังนี้คือ
     1.ระเหยได้ในอากาศ เพื่อสูดผ่านเข้าจมูกได้
     2.ละลายน้ำได้ดีเพื่อผ่านเยื่อบุจมูกไปสู่เซลล์รับกลิ่นได้
     3.ละลายได้ดีในไขมัน เนื่องจากเซลล์รับกลิ่นมีสารไขมันเป็นองค์ประกอบ
 
     หลังจากนั้นเยื่อเมือกที่มีโปรตีนซึ่งรวมตัวกับกลิ่นแล้วเรียกว่า ออเดอร์แร้นบายดิ้งโปรตีน (odorant binding protein) จะไปจับกับเซลล์รับกลิ่น(receptor) และไปกระตุ้นอะดีนิ่วไซเคส (adenyl cyclase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ ที่ฝังตัวอยู่ในเยื่อบุของเซลล์ขน (cilia) เพื่อกระตุ้นให้เปลี่ยนพลังงาน เอทีพี (ATP) เป็นไซคลิกเอเอ็มพี (cyclic AMP:cAMP) ในไซโตซอล (cytosol) จากนั้นไซคลิกเอเอ็มพี (cyclic AMP:cAMP) จะทำให้ช่องโซเดียม (sodiumchannels) เปิดเป็นผลให้โซเดียมเข้าสู่เซลล์ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงความต่างศักย์เกิดแอกชั่นโพเทนเชียล (action potential) เป็นกระแสประสาทส่งไปตามเส้นประสาทสมองคู่ที่ 1(olfactory nerve) ไปยังสมองเพื่อแปลสัญญาณกลิ่นที่ได้รับ (ดังภาพที่ 3.24)

ภาพที่3.24 กลไกการรับกลิ่น

      การที่คนเราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างกลิ่นต่างๆซึ่งมีอยู่มากมายประมาณ 10,000 กลิ่นได้นั้นเนื่องจาก เซลล์รับกลิ่นมียีนที่เฉพาะเจาะจงเพียง 1 ยีนเท่านั้น ฉะนั้นเซลล์รับกลิ่นจึงมีอยู่เป็นจำนวนมากและมีหลายชนิด โดยผู้ที่ค้นพบการอธิบาย ปรากฏการณ์นี้ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบองค์ความรู้ใหม่และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและแพทยศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2547 (คศ.2004) คือดร. ริชารด์ เอเซล (Richard Axel) แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รัฐนิวยอร์ก และดร.ลินดา บัค (Linda Buck) ซึ่งทำงานที่ศูนย์วิจัยโรคมะเร็งเฟร็ด ของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ เฮาเวริค ฮิวส์ นครซีแอ็ตเติล ประเทศสหรัฐอเมริกา
(Howard Hughes Medical Institute, Fred Hutchinson Cancer Research Center, University of Washington, Seattle, USA.)

ขั้นตอนการรับกลิ่น
      เมื่อกระแสประสาทถูกส่งผ่านแอกซอนของเซลล์รับกลิ่นผ่านเพดานโพรงจมูกเข้าไปในออลแฟกทอรี่บัลบ์ (olfactory bulb) แล้วไปตามออลแฟกทอรี่แทรค (olfactory tract) จากนั้นจะแยกกันอยู่ในสมอง 2 ส่วนคือ
     1.ออลแฟกทอรี่ด้านข้างส่วนต้น (primary lateral olfactory area) ในสมองส่วนพูด้านขมับ (temporal lobe) ทำหน้าที่ในการรับรู้กลิ่น
     2.ออลแฟกทอรี่ที่อยู่ตรงกลางและด้านใน (intermediate and medial olfactory area) ในสมองส่วนหน้า (frontal cortex) ทำหน้าที่ประสานงานและเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างกลิ่นกับการเกิดอารมณ์ต่างๆ ตามลำดับ

การดูแลรักษาจมูก
     เพื่อให้จมูกทำหน้าที่ได้ตามปกติ และปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ เราควรปฎิบัติดังนี้
     1. รักษาจมูกให้สะอาดอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ที่ๆมีฝุ่นละอองมากๆ
     2. ไม่เข้าไปในบริเวณที่มีกลิ่นฉุน เหม็น หรือใส่น้ำหอมกลิ่นรุนแรง เพราะทำให้ประสาทรับกลิ่นเสื่อมลง
     3. ไม่ใช้นิ้วหรือของอื่นๆ เช่นปากกา ดินสอ กระดาษ แหย่จมูกเล่น เพราะอาจทำให้จมูกอักเสบ หรือเป็นอันตรายได้
     4. ไม่ถอนขนจมูกหรือตัดให้สั้น เพราะขนจมูกมีประโยชน์ในการกรองฝุ่นละออง เชื้อโรค และสิ่งอื่นๆ ที่อาจปนเข้ามากับลมหายใจ ไม่ให้เข้าสู่ช่องจมูกและปอดได้
     5. เวลาจามให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษนุ่มๆ ปิดปากไว้ อย่าใช้มือบีบหรืออุดจมูกไว้จนแน่น
     6. เวลาสั่งน้ำมูกให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษนุ่มๆ รอไว้ที่จมูก แล้วค่อยๆสั่งน้ำมูก โดยสั่งพร้อมกันทั้งสองข้าง ไม่ควรใช้มือบีบจมูกแล้วจึงสั่งน้ำมูก
     7. เมือต้องการดมกลิ่นของบางอย่าง เพื่อที่จะทราบว่าเป็นอะไร อย่าใช้จมูกจ่อจนใกล้แล้วสูดหายใจ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ เช่น การสูดดมสารเคมีบางชนิด ฉะนั้นจึงควรให้ จมูกอยู่ห่างของนั้นพอประมาณ แล้วใช้มือโบกให้กลิ่นโชยเข้าจมูก โดยสูดกลิ่นเพียงเล็กน้อย
     8. เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นที่จมูก เช่น คัดจมูก เลือดกำเดาไหล ปวดจมูกหรืออื่นๆ ควรไปให้แพทย์ตรวจรักษา

ที่มา : //www3.ipst.ac.th , //www.learners.in.th/blogs/posts/451822

Smileyขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับSmiley




Create Date : 15 กรกฎาคม 2555
Last Update : 15 กรกฎาคม 2555 14:26:02 น. 1 comments
Counter : 18377 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...สวัสดีครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาฝากนะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:16:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kitpooh22
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




สวัสดีครับ
..............................
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม และมาเม้นให้ครับ



ขอบคุณครับ :-)
THX


วันเกิดบล็อก 25/5/2009
Google+
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
15 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kitpooh22's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.