ชนะคนอื่นเป็นร้อย ยังไม่ยากเท่าชนะตนแค่คนเดียว...

ระงับความเกลียด…ด้วยความรักกันดีกว่า

         ความเกลียดชังเป็นกิเลสบริวารของโทสะหากมีอยู่ในใจของผู้ใดผู้นั้นก็ยากจะมีความสุข เพราะว่าความเกลียดจะคอยกัดกินใจผู้นั้นให้ร้อนรุ่มกระวนกระวายตลอดเวลาที่นึกถึงคนที่ตนเองเกลียดขึ้นมา ดังนั้น ความเกลียดชังไม่ว่าใครจะเกลียดใคร เราเกลียดเขา หรือเขาเกลียดเรา ก็มองไม่เห็นประโยชน์หรือความดีงามอะไรจะเกิดขึ้นสักนิด แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดเมื่อมีความเกลียดก็คือทำให้คนอยู่ไม่สุขนอนไม่สุข ความเกลียดเหมือนเชื้อโรค

        พระศรีญาณโสภณผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม๙ กาญจนาภิเษก เปรียบความเกลียดชังเหมือนเชื้อโรคที่มีสิทธิจะลามไปหาใครก็ได้ กล่าวคือ ถ้าเกิดขึ้นในใจก็จะลามถึงคนที่อยู่ในบ้านคนอื่นๆ ได้

      "สมมติถ้าเราเกลียดใคร เพราะผู้นั้นด่าหรือให้ร้ายเรา แล้วเรามานั่งพูดในโต๊ะอาหาร คุยกับภรรยาคุยกับลูกบ่อยเข้าๆ ในที่สุด เชื้อไวรัสตัวนี้ก็กระจายแพร่ไปถึงภรรยา สามี ลูก หรือคนอื่นๆ พานทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกไม่ชอบและเกลียดคนนั้นไปด้วย"

        ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกกล่าวว่า ความเกลียดเกิดที่ใจของใครต้องแก้ไขที่ใจของผู้นั้น จะไปแก้ไขที่คนที่ตนเกลียดเป็นไปไม่ได้เพราะคนอื่นนั้นเรากำหนดไม่ได้ จะต้องกำหนดที่ตัวเองคือควบคุมจิตใจของเราให้ได้ก่อน "เหมือนคนขับรถจะบอกถนนว่าอย่าขรุขระนะ ไม่ได้ แต่สิ่งที่คนขับควรทำคือ ตรงไหนที่รู้ว่าขรุขระก็ขับหลบไป เช่นเดียวกับความเกลียดเกิดขึ้นที่ใจเราก็ต้องควบคุมจิตใจของเราเป็นหลัก ไม่ใช่ไปมุ่งแก้ที่คนที่ตนเกลียด" พิจารณาโทษของความเกลียด

       พระศรีญาณโสภณ กล่าวว่า เมื่อความเกลียดเกิดขึ้นในใจ วิธีที่จะไม่เกลียดคนอื่นก็คือต้องระงับความเกลียดในใจของตนก่อน โดยให้พิจารณาโทษของความเกลียดที่เกิดขึ้นว่าเผาผลาญใจของตนรุนแรงแค่ไหน เช่น ทำให้เดือดร้อน นอนไม่หลับ ทำให้เส้นประสาทต่างๆ สูญเสียระบบ ทำให้ระบบหายใจเสียหาย ทำให้หัวใจเต้นแรง ทำให้เกิดความดัน ทำให้นอนผวา ทำให้เกิดความทุรนทุราย และที่สำคัญคือทำให้ปัญญาไม่เกิด คิดไม่ได้ตันไปหมด  "สมมติเราไปทำบุญถวายสังฆทาน ขณะกรวดน้ำอยู่ อารมณ์เกลียดคนอื่นได้ผุดขึ้นมา ทำให้เราอารมณ์เสีย เมื่อนั้นกระแสบุญที่เราพยายามจะอุทิศให้คนอื่นก็ไม่มี กลายเป็นกระแสบาป ซึ่งพอกระแสบาปของความเกลียดชังพุ่งมาบดบังก็จะเกิดความเสียหายทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายคนที่รักก็ไม่ได้รับผล ทั้งฝ่ายคนที่เกลียดก็ไม่ได้รับผล คือบุญไม่ถึงเขา ดังนั้น ในใจจะต้องคิดถึงโทษของความโกรธเกลียดนั้นมีมหาศาล"นึกถึงผู้นั้นเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไป

        ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ได้แนะวิธีที่จะไม่ให้ความเกลียดคนอื่นเกิดขึ้นในใจ ว่าโดยให้ดูที่ใจของตนเป็นหลัก ถ้ายังเกลียดคนนั้นอยู่ก็ให้นึกถึงเขาว่าเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไปเหมือนกับตัวเราว่าเขาคนนั้นก็มีธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เหมือนเรา มีญาติพี่น้องเหมือนเรา มีวิญญาณ มีชีวิตเหมือนเรา โดยให้นึกถึงแค่นี้ก่อน "อย่าเพิ่งไปบอกว่า เขาชื่อนั้น นามสกุลนั้นตำแหน่งนั้นเป็นศัตรูเรา ทำสิ่งไม่ดีกับเรา อย่างนั้นอย่างนี้ เช่น ด่าเรา ให้ร้ายเรา เป็นต้น แต่ให้มองเขาคือคนคนหนึ่งที่มีอวัยวะร่างกายเหมือนเราเท่านั้น" เปลี่ยนจากคู่กรณีเป็นคู่บารมี หากวิธีข้างต้นไม่สำเร็จ ท่านกำหนดให้ใช้วิธีที่จะทำให้จิตใจของเราไม่ไปเป็นคู่กรณีด้วย โดยท่านให้เหตุผลว่าทุกครั้งที่คิดว่าเขาคือคู่กรณีเราจะโกรธคนอื่นๆ ดังนั้นวิธีการก็คือจะต้องเปลี่ยนเขาและเราจาก "คู่กรณี" ให้เป็น "คู่บารมี" เพื่อที่เราจะได้สร้างบารมี

      "การเปลี่ยนจากคู่กรณีให้เป็นคู่บารมีนั้นจะทำให้เราได้สร้างเมตตาบารมี ขันติบารมี อุเบกขาบารมีสัจจบารมี สร้างอธิษฐานบารมีขึ้นมาในใจเรา มันกับการที่คนแล่นเรือใบเขาแล่นไปกลางทะเล สิ่งที่เขาต้องการคือลมและคลื่นเพื่อจะให้พัดเรือไป ส่วนเขาก็กางใบ ปรับปรุงใบ วิ่งขยับใบเรือให้ต้องกับลม โต้คลื่นไป ในที่สุดก็ถึงเส้นชัย ถ้าไม่มีลมไม่มีคลื่น เรือนั้นก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงฝั่งถึงเส้นชัยได้ มันจะเท้งเต้งอยู่กลางทะเล" พระศรีญาณโสภณ กล่าวว่า คนเราเกิดมาแล้วถ้าโกรธเกลียดกันแล้วคิดว่าเป็นคู่กรณีเมื่อไรก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ไม่มีความสุข ที่สำคัญเราก็ไม่มีโอกาสได้สร้างบารมี

      "ถ้าเราคิดว่าไม่สร้างคู่กรณี เราจะเอาคนคนนั้นที่เราเกลียด คนที่ด่าเรา คนที่ทำร้ายเรา มาเป็นคู่บารมีเพื่อสร้างบารมี เมื่อนั้นจิตใจของเราก็จะเบิกบาน ซึ่งจิตเบิกบานก็จะไปแก้ปัญหาที่เป็นคู่กรณีกันอย่างดีแปลว่างานใหม่คิดได้ งานเก่าที่มีปัญหาก็ถูกแก้ไขไปในตัว"การให้ชนะทุกสิ่ง

        คนส่วนใหญ่มักจะมองคนที่ตนเองเกลียดเป็นศัตรูทุกครั้งที่มองเขาเป็นศัตรูเขาก็มองเราเป็นศัตรูเหมือนกันแล้วก็จะมีปัญหาคาใจกันตลอด อีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือการแผ่เมตตาให้คนที่เกลียดนั้นให้มีความสุข  พระศรีญาณโสภณ เล่าถึงลิมิตของความเกลียดว่า สมมติมีคนสองคนยืนคู่กันอยู่ คนหนึ่งเรารัก คนหนึ่งเราเกลียด ถ้าเราทักให้และพูดคุยเฉพาะกับคนที่รัก 1 ครั้ง เราให้ขนม 1 ครั้ง ของกิน 1 ครั้ง แล้วไม่ให้กับคนที่เราเกลียด เพราะยังไงเราก็ให้ไม่ได้ รู้ไหมว่าการให้ครั้งที่หนึ่งกับคนที่รักนั้นจะเพิ่มความเกลียดให้กับคนที่ยืนดูอยู่ 1 เท่า ให้สิบครั้งก็เพิ่มเป็น 10 เท่าเพราะฉะนั้นถ้าสมมติว่ายังไงคนที่รักเราหรือคนที่เรารัก แม้เราไม่ให้เขาก็รักเราอยู่ดี เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปแก้ปัญหาที่คนคนนี้ แต่คนที่มีปัญหานี่แหละจะต้องแก้ไขทันทีด้วยการให้ ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาคนที่เราเกลียดชังที่ดีที่สุด

       พระอาจารย์กล่าวต่อว่า เราจะต้องพูดดีๆ กับเขาจะโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ได้ เพราะการให้ชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีการให้ใดที่ไม่ชนะ แต่ว่าการให้นั้นจะต้องให้เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าเราไม่ได้ซื้อเขา ไม่ได้ให้เพราะที่จะเอารัดเอาเปรียบเขา แต่ให้ด้วยใจ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องเอาเงินไปให้ แต่ให้การช่วยเหลือให้ความคิด ให้สติ ให้ปัญญา ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือป้องกันภัยให้เขา เป็นต้น

       "ยิ่งใครเกลียดเราหรือเราเกลียดใครก็ยิ่งต้องพูดดีกับเขา ยิ่งต้องให้กำลังใจเขา แรกๆ อาจจะฝืนใจใหม่ๆ นั้นลำบากมาก แต่นานเข้าจะเป็นผลดีต่อเราค่อยๆ พูด ค่อยๆ ทำไป เชื่อว่าทัศนคติที่เป็นลบก็จะกลายเป็นบวก เมื่อเป็นบวกจิตของเราก็จะเห็นคุณแม้คู่กรณีจะโต้ตอบมาแรงๆ แค่ไหนก็ตามก็จะไม่ถึงเรา เหมือนกับเราป้องกันโจรไม่ให้ขโมยไม่ได้ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือจะต้องปิดประตูห้อง ต้องใส่กุญแจประตูบ้าน หมายความว่าจิตของเราต้องแผ่เมตตาให้เขา ไม่ไปโกรธว่าคนนั้นจะมาปีนบ้านมาขโมยของ ทางที่ดีเราป้องกันใจของเรา ป้องกันทรัพย์สินของเราให้ดีที่สุด"

       เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่รู้ตนเองว่ากำลังเกลียดใครจงพยายามหยุดความเกลียดแล้วเปลี่ยนความเกลียดมาเป็นความรักให้ได้แล้วจะมีความสุข

ขอบคุณข้อมูลจาก : //www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/12078
                         : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2556
1 comments
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 9:16:05 น.
Counter : 2481 Pageviews.

 

สวัสดียามบ่ายๆ วันนี้อากาศร้อนแล้วนะคะพี่กิจ

 

โดย: sawkitty 12 ธันวาคม 2556 14:24:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kitpooh22
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




สวัสดีครับ
..............................
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม และมาเม้นให้ครับ



ขอบคุณครับ :-)
THX


วันเกิดบล็อก 25/5/2009
Google+
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2556
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kitpooh22's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.