Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
กว่าจะเป็นลูกเรือ

... Step by Step

ตอนที่สมัครครั้งนั้นยังไม่มีการเอื้อมแตะค่ะ ส่วนที่บอกระยะเวลามาให้นี่เพื่อจะได้เปรียบเทียบเอาจากของเก่านี่เอาคร่าวๆ ได้อ่ะนะจ๊ะ

Step 1 : Application Period
Period : 26Nov06 – 5Dec06
Details : สมัคร online ผ่านทาง www.jalways.co.th ...ขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้ไม่ต้องลากสังขารหรือโดดงานไปสมัครด้วยตัวเอง สะดวกโยธินมาก ... ก่อนสมัครก็เข้าไปศึกษาคุณสมบัติและขั้นตอนการกรอกใบสมัครอย่างละเอียดในเว็บ www.thaicabincrew.com (ไม่ขออธิบายซ้ำซ้อนแล้วกันเนอะ ในเว็บ thaicabincrew มีเนื้อหาและรายละเอียดมากมายครบถ้วนแล้วจริงๆ) อ่านจนเข้าใจ, เตรียมข้อมูลพร้อม และมั่นใจว่าเน็ทคล่อง ก็สมัครเลย ใครๆ ทำได้ไม่ยากเย็น ... สมัครแล้วจะได้เลขที่สมัคร จำไว้ให้ขึ้นใจ กลัวลืมก็จดไว้ เพราะจะใช้ไปตลอดจนวันเทรน
My Experience : เราเลือกสมัครวันสุดท้ายคือวันพ่อ 5 ธันวา ไม่ได้จะเอาฤกษ์มหามงคล แต่เพราะสมมติว่าได้ จะได้โดนเรียกเทรนท้ายๆ พอให้มีเวลาเตรียมตัวเรียนภาษาญี่ปุ่น .... แล้วก็ได้เลขที่ 2388 มานอนกอดรอ
Start No. : รอบนี้สมัครกันเข้ามาทั้งหมด ประมาณ 2,800 คน (บวกที่สมัคร online ผิดพลาดและที่ลืมเลขสมัคร ต้องกรอกซ้ำแล้ว)



Step 2 : First Interview Schedule
Period : 8Dec06 – 21Dec06
Details : เช็คเวลาและสถานที่ที่ได้เข้าสัมภาษณ์รอบแรกที่เว็บไซด์ของ JALways เช่นเดิม
Note : เนื่องจากคนสมัครเยอะมากเกือบ3,000 ทางเว็บจึง แบ่งเวลาให้ทยอยเข้าเช็คไล่เรียงไปตามเลขที่สมัคร เพื่อป้องกันเว็บล่ม แถมเช็คได้เฉพาะของตัวเองเท่านั้น ... คือต้องใส่เลขที่สมัครและเลขบัตรประชาชน 6 หลักเพื่อให้ได้ไปต่อ (ไม่ได้แป่ะประกาศเป็นพรืด เห็นของคนนู้นคนนี้ไปหมด) มีความเป็นส่วนตัวดี... เมื่อผ่านเข้าไปอีกหน้าจะแจ้งรายละเอียดทุกอย่างแล้วยังบอกถึงเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียมไปยื่นด้วย
- บัตรประชาชน (ตัวจริง)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริง)
- สำเนา transcript หรือใบคาดว่าจะจบ
- รูปถ่ายขนาด postcard และ 2 นิ้ว อย่างละ 1 รูป
- ผล TOEIC ตัวจริงหรือ reprint
My Experience : ได้สัมภาษณ์วันที่ 21 ธันวา 15.00 น. ... เอกสารพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม เหลือแต่เตรียมหาเหตุผลลางาน และนัดแนะกับผู้ประสงค์ดีให้ช่วยเคลียร์งานให้
Remaining No. : เหลือยอดผู้สมัครเข้ามาประมาณ 2,600 คน



Step 3 : First Interview
Period : 19Dec06 – 21Dec06
Details : ยื่นเอกสาร ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง และสัมภาษณ์รอบแรกโดยการทำ Group Discussion
My Experience : ตื่นเช้ามาวันที่ 21 ธันวา เพื่อเตรียมตัว ...แต่งหน้าทำผมเอง เพราะชอบแต่งเอง ไม่ได้เลิศมาก เอาแค่ให้เรามั่นใจ ไม่ชอบให้ร้านแต่ง เพราะเคยแต่งแล้วไม่ใช่ตัวเอง มันรู้สึกเสียself ทำอะไรก็กลัวไปหมด แถมแพงอีก ... ที่แรกก็สนใจอยากไปแต่งกับพี่อ้อมที่ว่าดังๆ พี่เค้าแต่งดีมากจริงๆ เห็นฝีมือบนหน้าเพื่อนๆ แล้วนับถือ แถมถูกด้วย ได้ข่าวว่า 400 เอง แต่อยู่ไกลบ้านมาก คนก็ไปเยอะ มันลำบากเกิน เลยแต่งเองซะ เล็บก็ทาไว้ตั้งแต่คืนก่อนหน้า เดี๋ยวแห้งไม่ทัน...

แต่งตัวแต่งหน้าทำผมเสร็จก็นั่งแท็กซี่ไป The Emerald ชั้น 14 เห็นเค้าว่าไปก่อนเวลาน่ะเป็นดี เลยไปก่อนเกือบสองชั่วโมง เผื่อเหลือเผื่อขาดรถติดและมีเวลาทำใจด้วย กะว่าที่เหลือจะไปนั่งคุยกับคนอื่นหาเพื่อนใหม่ ... แต่ว่าพอไปถึงโรงแรมเตรียมตัว ทำสมาธิในห้องน้ำราวๆ 15 นาทีเสร็จ เดินออกมาก็มีพี่เรียกให้ไปลงชื่อ ชั่งวัดสัดส่วน และไปตามกระบวนการได้เลย ไม่ใช่ว่าต้องรอให้ถึงเวลาตัวเองเท่านั้น (เค้าคงจัดให้ทยอยๆ กันมา ไม่ถาโถมเดี๋ยวชุลมุน)

ลงทะเบียน ยื่นเอกสาร วัดสัดส่วนเรียบร้อย แล้ว ก็ไปนั่งเก้าอี้รอ กรอกรายละเอียดและ ตอบคำถามในกระดาษ 3 ใบที่ได้รับมาเพื่อเอาไปยื่นให้กรรมการสัมภาษณ์ 3 คนในห้องพิพากษา ... เป็นห้อง Panorama ขนาดใหญ่ ที่จัดแบ่งเป็นหลายๆ คอก มีกรรมการอยู่รอสัมภาษณ์ประจำคอกๆ ไป (ปกติเค้าเอาไว้จัดงานรื่นเริง แต่พอคิดว่านี่คือห้องที่จะตัดสินอนาคตของเราแล้วก็รื่นรมย์ไม่ค่อยออก) ... จากนั้นพี่ที่จัดสัมภาษณ์ก็สุ่มผู้สมัครเข้ากลุ่มๆ ละ 5 คนไปนั่งเป็นแถวๆ หน้าห้องพิพากษา ... ตอนนี้ได้รู้จักผู้ร่วมชะตากรรมอีก 4 ชีวิตแล้ว เลยรีบทำความคุ้นเคยเป็นการด่วน ท่องชื่อเล่นเสียขึ้นใจ ก็เพราะรู้ตัวว่าเข้าไปในนั้นแล้วต้องตื่นเต้นเป็นแน่ แล้วพอได้ตื่นเต้นก็อย่าได้หวังว่าจะจำชื่ออะไรใครได้อีก สมองมันไม่รับ มันเอาไปสั่งการให้สงบสติอารมณ์อย่างเดียว...

พอถึงเวลาโดนเรียกให้ไปด้านใน ... ไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ คิดอย่างเดียวว่า ทำตัวให้สบายๆ ไม่ต้องเครียด นี่แหล่ะที่ของเรา ตื่นตัว และทำให้ดีที่สุด

กลุ่มเราเข้าไปเจอกรรมการ 3 คน เป็นหญิงไทย 1 และคนญี่ปุ่น 2 (ญ1 ช1) หน้าตาน่ารัก ดูเป็นมิตรทุกคน ... เข้าไปถึงเดินไปยื่นเอกสารและไหว้อย่างนอบน้อม ถอยออกมาประจำที่นั่งแล้วไหว้อย่างงามอีกครั้งให้พร้อมกันทั้งกลุ่ม (นัดหมายกันตั้งแต่ก่อนเข้ามา แสดงความเป็นทีมเวิร์คที่ดีตั้งแต่ต้น) มองกรรมการและยิ้มให้อย่างจริงใจ เมื่อกรรมการอนุญาตให้นั่ง แล้วก็นั่งอย่างระมัดระวัง จับกระโปรง ให้แน่ใจว่าจะไม่โป๊ มือประสานข้อศอกปล่อยตามสบาย ไม่แข็งตึงจนดูรู้ว่าเกร็ง (ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นอยู่โครมคราม) หลังยืดตรง ไม่พิงพนัก ... ที่สำคัญ ยิ้มอย่างธรรมชาติเข้า ให้รู้กันไปว่าเราเกิดมาเพื่อยิ้ม

ก่อนอื่นแนะนำตัวทีละคน ก็แนะนำสั้นๆ ชื่อจริง ชื่อเล่น อายุ จบจากที่ไหนและกำลังทำงานอะไรอยู่ ท้ายสุดแอบหยอดด้วยประโยคที่เตรียมเอาไว้แล้ว “Hajimemashite Dosoyoroshiku Onegaishimasu” (แปลว่า “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”) ครบทุกคนแล้วกรรมการจะให้หัวข้อในการทำ Group Discussion …ได้หัวข้อเรื่อง “Hospitality” ... หัวข้อใหม่ ไม่มีในที่ติวกับฟ้าใส ได้เวลาปฏิบัติการดำน้ำแล้วละสิ ... ระหว่างประมวลความคิด อย่าลืม ยิ้มมมมม

เราเตรียมตัวมาก่อน แล้วว่าถ้าเจอหัวข้อที่ไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างนี้ จะปล่อยให้คนอื่นแสดงความเห็นกันไปก่อน ไม่ใช่ว่าให้เค้านำ แต่ระหว่างนั้นกำลังจับประเด็น แล้วก็คิดคำพูดของตัวเอง (หน้ายังยิ้มอยู่) พอสบโอกาสก็รีบเสนอความเห็น เริ่มด้วยการ “I do agree with all of you” and ตามด้วยความเห็น ประสบการณ์ส่วนตัว ของเรา ถ้ามันไปต่อกับความเห็นเพื่อนได้ ก็อ้างอิงถึงชื่อนิดหน่อย(ให้รู้ว่าเราใส่ใจว่าใครเป็นใครพูดอะไรบ้าง) แต่ไม่ใช่ลอกมาทั้งดุ้น ... (และไม่ลืม....ยิ้มมม) คร่าวๆ คือเราอธิบายงานที่ต้องทำกับคนหมู่มาก เช่นต้องเป็น MC เวลามี Plant Tour ต้องใช้ hospitality อย่างสูง เพื่อให้กรรมการเห็นว่าเราสามารถทำงานกับคนได้เป็นอย่างดี พอพูดจบก็หันไปถามเพื่อนคนอื่นต่อเพื่อแบ่งให้คนที่พูดน้อยได้พูดบ้าง ให้โอกาสเค้า เราช่วยๆ กัน โยนกันไปโยนกันมา ออกรสออกชาติพอสมควรแก่เวลา นาฬิกาจับเวลาก็ดัง ...

จากนั้นกรรมการทั้งสามก็ผลัดกันถามคำถามเดี่ยวทีละคน บางคนอาจถูกถามมากหน่อย บางคนน้อยหน่อยหรืออาจไม่ถูกถามเลยก็มี แต่ก็ใช้ตัดสินอะไรไม่ได้ ว่าจะได้ผ่านหรือไม่

คำถามเดี่ยวของเรามี
1. What qualification do you think is the most important for being Cabin Attendant?
คำตอบ “Attitude เพราะเราเชื่อมาตลอดว่า ถ้าหากเรามีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว เราจะทำมันออกมาจากข้างใน เราจะเต็มใจและทำมันได้นาน ไม่ต้องทรมานฝืนทนทำ”

2. Do you have any difficulty working with Japanese? (เขาเห็นเราทำที่โตโยต้า)
คำตอบ ไม่มีแม้แต่นิดเดียว เวลาหัวหน้าญี่ปุ่นสั่งงานอะไรก็จะอธิบายสิ่งที่ท่านต้องการอย่างชัดเจน อาจจะมีปัญหาเรื่องภาษาบ้าง แต่ท่านก็ยินดีที่จะอธิบายเพิ่มเติมให้เสมอ ...ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เราทำงานกับหัวหน้าญี่ปุ่นแล้วทึ่งในความเก่ง และนับถือเทิดทูนพวกเค้ามาเสมอจริงๆ เราตอบแบบออกมาจากใจได้เลยว่า I love my boss. (ถ้าเคยทำงานอะไรกับคนญี่ปุ่นควรนำมาพูดถึง เราคิดว่ามันเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก)

สำหรับท่าทางเราว่ามันก็มีส่วนด้วย ด้วยเพราะเราเห็นความอ่อนน้อมของนายญี่ปุ่นและเลขาสาวชาวญี่ปุ่น เค้าชอบโค้ง กิริยาถ่อมตนสุดๆ น่ะนะ เวลากรรมการถาม เราก็จะโน้มตัวไปด้านหน้า มันจะช่วยแสดงความสนใจในคำถาม พอตอบเสร็จก็โค้ง และไม่ลืม ... ช่ายย ยิ้มมมอย่างจริงใจ อ้อ แล้วก็เมื่อตอบคำถามจบแล้วก็ต้อง “Thank you” ทุกครั้งด้วย... หมดคำถามแล้วก็เสร็จสิ้นกระบวนการนี้ กลับบ้านนอนรอฟังผลด้วยใจระทึก



Step 4 : First Interview Result
Period : 26Dec06 – 11Jan07
Details : ประกาศผลทางเว็บไซด์ แบ่งเวลาเข้าเช็คตามเดิม
My Experience : วันนั้นวันทำงาน เลขที่เราเข้าเช็คได้ปาไปตอนบ่ายๆ ตั้งแต่เช้าน่ะกระวนกระวายอยากรู้ผลไวๆ ทำงานไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยทีเดียว ระหว่างรอก็เข้าบอร์ด Jalways ใน TCC ดูสถานการณ์ ก็จะมีทั้งคนที่ได้และไม่ได้ ทยอยกันมาโพสต์บอกกัน ลุ้นกับเค้าไป มองนาฬิกาไป ตั้งแต่ 8 โมง 9 โมงก็แล้ว 10 โมงก็แล้ว ... ทำไมเวลามันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า อยากจะปรับให้นาฬิกาหมุนถึงบ่ายโมงเลย แต่มันก็เป็นแค่เวลาในนาฬิกาเราเอง ส่วนเวลาจริงน่ะ ยังคงสโลว์โมชั่นไม่เปลี่ยนแปลง รอถึงเที่ยงก็ดีใจ รีบไปหาอะไรกินดีกว่าจะได้คิดเรื่องกินแทนไม่ต้องวิตกจริต
พอบ่ายโมงปั๊บ โอ้คุณพระได้เวลาแล้ว รีบเปิดเข้าเว็บไซด์ หัวใจก็เต้นแทบจะหลุดทะลุออกมา ... ใส่เลขที่สมัคร .... ใส่เลขบัตรประชาชน 6 ตัวกดปุ่ม “Check” ... รอให้หน้าใหม่เปิดมา พรึ่บ เนื้อหาเยอะจัง ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าจะรวบรวมสติให้ค่อยๆ ไล่อ่านไป ...
“Dear Panthipa,
Thank you for attending First Interview, ……………….."

เนื้อหาหลังจากนั้นก็ประมาณว่า ยินดีด้วย คุณผ่านรอบแรกแล้ว ตารางสัมภาษณ์รอบต่อไปของคุณคือเวลานี้ๆๆ แล้วต้องใส่ชุดให้สุภาพเหมือนเดิม อย่าลืมนำบัตรปชช มาด้วยล่ะ ประมาณนี้ ...อ่านเสร็จยังคงเบลอ คิดไปคิดมาอ้าว นี่แปลว่าเราได้แล้วใช่มั้ย แอบนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว มันโล่งอก แต่ก็เริ่มหนักใจ ด่านต่อไปเราต้องทำให้ดีกว่าเดิม เพราะต้องลุยคนเดียวฉายเดี่ยวแล้ว ด่านสอง Second Interview 11Jan07 15.00น. ห้องพาโนรามา ชั้น 14 The Emerald Hotel เช่นเคย
Remaining No.: รอบนี้ผ่านเข้ามา 435 คน (ราว 17% จากประมาณ 2,600 คน)



Step 5 : Second Interview
Period : 9Jan07 – 11 Jan07
Details : สัมภาษณ์เดี่ยว + อ่าน passage แล้วตอบคำถามในเรื่อง และพบท่านผู้บริหาร
My Experience : ตื่นเช้าแต่งหน้าทำผมเองเช่นเคย (หลังจากที่ทำอยู่หลายครั้งก็เริ่มจะมั่นใจในฝีมือของตนเองพอประมาณ) ลนลานทาเล็บเพราะลืมทาไว้ตั้งแต่คืนก่อน (ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) สวมชุดเดิม (สูทแขนสั้นสีครีม ด้านในใส่คอเต่าสีชมพู) รองเท้าคัทชูแบบเรียบสีครีม กระเป๋าครีม เสร็จแล้ว ก็เช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนเรียกแท็กซี่ไปโรงแรม... ถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เลยไปรายงานตัวก่อนเวลาที่ได้

ระหว่างนั่งรอ ก็คุยกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยเพื่อนบางคนตื่นเต้นกันมาก สำหรับเราเฉยๆ เพราะคิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย เรามาให้ที่ของเราอีกครั้ง เราคุ้นเคยแล้ว มันเลยไม่กดดัน แล้วยิ่งได้คุยกับพี่เพชรที่คุมสัมภาษณ์ เรื่องกระเป๋าของเรา ไม่น่าเชื่อว่าพี่เพชรจะชอบกระเป๋าเรา กระเป๋าธรรมดาๆ ของเรา แต่พี่เพชรเห็นว่าหรูหราไฮคลาส ปลื้มมาก ใจชื้นขึ้นมาก ... (ตอนนี้เลยยกให้เป็นกระเป๋านำโชคไปโดยปริยาย) ... พวกพี่ๆ ที่ไปคุมสัมภาษณ์คนอื่นๆ ก็น่ารักมากกันทุกคน ยิ้มไม่เหนื่อย เห็นแล้วอยากไปเป็นรุ่นน้องตามรอยรุ่นพี่เก่งๆ อย่างนี้ไวๆ ก่อนเข้าห้องยังมีสอนนั่งอย่างสุภาพและสวยงามให้ด้วย สุดยอด งามทั้งกายและใจ (ถ้าใครเห็นว่าพี่เค้าหน้าบึ้ง ก็ต้องเข้าใจพี่ๆ เค้า คิดว่าถ้าเป็นเรามาทำอะไรแบบนั้นทั้งวันก็ต้องเหนื่อย ต้องออกหน้ากันบ้างมันเป็นของธรรมดา)

กว่าเกือบสองชั่วโมงที่นั่งรอ และแล้วเวลาเข้าห้องก็มาถึง (เอาละสิตื่นเต้นเลย ทั้งที่คิดว่าจะไม่ตื่นเต้นแล้วนะนี่) .... พี่เรียกเข้าห้อง ... เดินเข้าไปยืนรอหน้าคอก (มีแบ่งเป็นหลายกลุ่มเช่นเคยเพื่อความรวดเร็ว) ... ทำสมาธิระหว่างรอ ... พี่เรียกเข้าคอก ... หยุดหายใจไป 5 วินาที ... ก้าวเท้าเข้าไปอย่างเชื่องช้า และมั่นใจ

ไหว้อย่างงาม (หัวใจเต้น)

เงยหน้าขึ้นยิ้มด้วยความเป็นมิตร (ตึ่กๆ ตึ่กๆ)

นั่งลงหลังได้รับอนุญาต (จะนั่งเบี่ยงซ้ายหรือเอียงขวาดี อ่ะ ซ้ายละกัน ไม่ถนัดแต่ชั่วโมงนั้นไม่มีเวลาคิดอะไรมากและ)

กรรมการชายญี่ปุ่น 2 ท่านและหญิงไทย 1 ท่านกล่าวทักทาย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ... ตอนนั้นใจเต้นระรัว อยู่ๆ ก็ปอดขึ้นมา ดีว่ากรรมการท่านหยิบเอกสารผิดคน เลยได้มีเวลาพักสูดหายใจยาวๆ ตอนท่านกำลังหาชุดที่ถูกต้อง กรรมการหญิงกล่าวยินดีต้อนรับและขอบคุณที่มาร่วมสัมภาษณ์ แล้วก็เริ่มยิงคำถาม

1.Do you like Japanese food? How often?
คำตอบ Yes, I love Japanese food very much especially Sashimi.
2-3 times a month. ก็ลองใครบอกว่าไม่ชอบสิ เขาจะว่ายังไง แต่เราชอบจริงๆ มากด้วย
2. What do you know about Japan?
คำตอบ Japan is the country that has a long history. It is so unique with its culture, tradition, language, life style, architecture. Nowadays, so many countries in the world adopt Japanese style into their life. For example you can see home decoration and architecture around the world. Even in Hollywood movies, so often you can find Japanese style in them. ดูเป็นวิชาการมาก เพราะเตรียมคำตอบไว้ก่อนแล้ว แต่ตอนเข้าไปในห้องนั้น ทุกอย่างจะเบลอ ต้องตั้งสติให้ดี ไม่งั้นที่ท่องอะไรไว้ได้ลืมกันไปหมด
3. Do you have any foreign friends?
คำตอบ Yes, my boss’s secretary. กรรมการหัวเราะเลย ยิ้มกันใหญ่ แล้วบอกว่า “How about other countries?” อ๋อ... I have a pen pal with Greece.
4. Do you play any sports? How often?
คำตอบ Yes, I love swimming. Once a month. เหมือนบอกเป็นนัยได้ว่าเราว่ายน้ำเป็น ถึงไม่ require แต่ก็ว่ายเป็น เกิดอะไรขึ้นสามารถเอาตัวรอดได้
5. What do you think about the seniority?
คำตอบ In my opinion, seniority is quite important both in Thai and Japanese culture. And I think it’s a good thing to make myself charming. I always pay respect to senior person because they have more experience than me. So often, I ask them about the thing I haven’t know. ออกจะน้ำไปนิดอันนี้ แต่ก็พูดไปเพื่อให้กรรมการท่านเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ นะ (เรื่องยิ่งใหญ่ของที่นี่ใครๆ ก็พูดกัน) และจะไม่กระด้างกระเดื่อง ก่อม็อบ เมื่อเข้าไปทำงานกับเขาแล้ว
6. Why do you apply this airline?
คำตอบ Because I love Japanese working style. I always see my boss come to company so early in the morning. Earlier than every staff. I’m so appreciated with him.นับถือคนญี่ปุ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
7. What qualification does cabin attendant should be?
คำตอบ Friendly. Because cabin attendant has to work with many people. Both passengers and other cabin attendants. (สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของคนทำอาชีพนี้ แต่ต้อง Friendly อย่างจริงใจไม่เสแสร้งด้วยจะยิ่งดี)
8. What is the most important thing in working in foreign company?
คำตอบ Open-minded and adaptable. Because in the different culture, you have to be willing to learn new things and able to get along well with it.
9. Are your bosses the Japanese? How do you communicate with them?
คำตอบ In English. คงกำลังเกริ่นคำถามต่อไป
10. Can you speak any Japanese words?
คำตอบ คราวสัมภาษณ์รอบแรกนี่เตรียมท่อง Hajimeฯ เสียขึ้นใจ แต่มารอบสองดันลืมท่อง จำได้คลั้บคล้ายคลั้บคลา เลยมั่วๆ ดำน้ำผิดๆ ถูกๆไป ขำตัวเองมาก หัวเราะออกมาเลย กรรมการทั้งสามคนก็ขำด้วย อายมาก ก็เลยโค้งขอโทษไป 1 ที ... จริงๆ คือไม่จำเป็นว่าต้องได้ภาษาญี่ปุ่นเลย แต่ที่มั่วๆ ไปเพื่อให้กรรมการท่านเห็นว่าเราพยายาม นั่นเอง
11. Which kind of people do you want to work with?
คำตอบ I would like to work with a good team player. (ตอบเอาคะแนนชัดๆ) Because I love working with people and working in team (เอาใจสุดฤทธิ์ ก็แอร์เนี่ยทำงานคนเดียวไม่ได้หรอก ต้องทำงานกันเป็นทีม)

ตลอดการสัมภาษณ์ กรรมการน่ารักมาก ใบหน้ามีรอยยิ้มตลอด ไม่มีสร้างสถานการณ์กดดันทดสอบความอดทนแม้แต่นิด ประทับใจมาก โดยเฉพาะท่านกรรมการคนไทย ขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะ กรรมการชายชาวญี่ปุ่นที่ดูหนุ่มกว่า ก็ถามคำถามสำเนียงญี่ปุ่นแต่ก็ฟังชัด ช่วงไหนที่เราไม่ได้ยิน ท่านก็เต็มใจก็พูดซ้ำ ดูใจดีมาก ส่วนกรรมการชายญี่ปุ่นที่ดูอายุมากกว่าก็นั่งมองอย่างเดียว ไม่ถามคำถามเลย (เห็นว่าปกติจะมีกรรมการ 1 ท่านมานั่งสังเกตการณ์ทุกๆ กลุ่ม) จะได้ยินเสียงก็ตอนที่เราจะเดินกลับออกมา ได้ยินไม่ค่อยชัด คงประมาณว่าขอให้โชคดีมั้ง เลยโค้งรับยิ้มหวานให้ แล้วจากมา ...

ถัดไปต้องเข้าพบผู้บริหารของ แจลเวย์ ด้านในมีผู้บริหารรออยู่ 2 ท่าน ท่านดูเครียดนิดหน่อย พอดีว่าหาข้อมูลมาแล้วว่าท่านน่ะใจดี แต่อาจจะเหนื่อยเพราะต้องสัมภาษณ์มาหลายคน ก็อาจจะทำให้ดูเหมือนเครียดๆ บ้าง ...ใจก็เลยไม่กลัว เห็นท่านเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่เราสนิทแต่ก็ให้ความเคารพเกรงใจ ท่านถามอะไรมา ก็ตอบอย่างนอบน้อม ถ่อมตัวให้มากที่สุด และยิ้มให้มากที่สุด

คำถามที่ได้จากท่าน CEO
1. Please introduce yourself. What’s your nickname?
คำตอบ (ก็ตอบกันไป) ...
2. Please introduce your job.คำตอบ (ทำอะไรอยู่ก็บอกดีๆ) ...
3. Why do you change your job? Toyota is quite good company?
คำตอบ Because I love working with people. For my present job, I have to deal with documents and computer so that’s not fit me.

ใช้เวลานิดหน่อย แล้วท่านก็ยิ้มไล่ เอ้ย ยิ้มลา กลับ

ตอนนั่งแท็กซี่กลับ ก็แอบหวังอยู่ในใจ คิดเอาเองว่าพอใจกับที่เราทำไปทั้งหมด พอมีลุ้นได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่กล้าเหลิงมาก เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านกรรมการซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาเอาได้เลย ... จึงกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ลุ้นอยู่เล็กๆ ในใจ แบบไม่ได้หวังมาก เก็บไว้ตื่นเต้นกังวลวันประกาศผลทีเดียว



Step 6 : Second Interview Result
Period : 16Jan07 – 19Jan07
Details : ประกาศผลรอบสองทางเว็บไซด์ (ไม่แบ่งเวลาเข้าเช็คแล้วเพราะคนเหลือไม่เยอะแล้ว)
My Experience : ได้ข่าวว่าเช็คผลได้ตั้งแต่ 5 ทุ่มของวันที่ 15Jan แล้ว แต่เพราะเป็นแค่ข่าว ซึ่งอาจไม่ใช่ ก็เลยเข้านอนเลย อีกอย่างพี่เมย์ฟ้าใสก็บอกแล้วว่าไม่เช็คให้นะ ไม่ต้องโทรหา ... ที่ไหนได้คุณพี่นอนไม่หลับ ตื่นเต้นแทนน้องๆ เลยลองเข้าเว็บเล่นๆ เผื่อฟลุ๊คว่าจะเช็คได้ พอเข้าได้จริงเลยดูผลให้เราและเพื่อนๆ ปรากฎว่า ... เราผ่าน!!! เย้ ดีใจสุดขีด วี๊ดว๊ายๆ กะพิมสองคน โทรบอกคนนู้นคนนี้ แต่ก็ยังไม่หมดห่วง ยังมีด่านหินตรวจร่างกายที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญถึงว่าเฮี๊ยบเสียเหลือเกินอีกด่านหนึ่ง เลยจัดการเตรียมวางแผนฟิตร่างกาย หมูพิมรีบชวนไปว่ายน้ำ (น้องสุดที่เลิฟ รักหมูพิมจริงๆ)
Remaining No. : เหลือ 226 จาก 435 คน (50%)



Step 7 : Registration for Medical Check
Period : 17Jan07 – 19Jan07
Details : รายงานตัวยืนยันเข้ารับการตรวจร่างกาย (เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงประมาณ 5,000 บาท ซึ่งทางแจลเวย์จะเป็นผู้ออกให้) จะได้รับเอกสารการเตรียมตัวจากทางรพ.กรุงเทพ และกระปุกเก็บอุนจิ (เก็บเพียงปลายช้อนก็เพียงพอ)
My Experience : ไปวันแรกวันที่ 17มกรา เลยเพราะพี่ทางแจลเวย์อยากให้รีบไป เพื่อปิดเคสท์แล้วส่งเรื่องไปทางโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เจอพี่เพชรด้วย จำเราได้จากกระเป๋านำโชค (ปลื้ม) แล้วบังเอิญวันนั้นใส่สูทดำแขนยาว เสื้อเชิร์ตตัวในสีเหลือง เหมือนยูนิฟอร์มแจลเวย์ พี่เพชรชมว่าดีกว่าวันก่อนที่เจอ (ปลื้มอีกแล้วครับท่าน)



Step 8 : Medical Check
Period : 20Jan07
Details : ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ทุกคนโดยพร้อมเพรียงกัน แล้วจะส่งผลไปให้หมอทางญี่ปุ่นตัดสินผล
My Experience : กำหนดการเปิดรับตรวจร่างกาย 9.00 น. แต่พอไปถึงเห็นมีคนอื่นไปก่อนหน้าแล้ว นับร้อย คือถ้าใครลางานต้องลาทั้งวัน เพราะจะไม่สามารถเร่งขั้นตอนใดๆ ได้เลย ขั้นตอนก็เยอะตรวจยิบย่อย อย่างของเราเสร็จเกือบ 4 โมงเย็นนู่น ก็สนุกดีนะ เจอเพื่อนเยอะดี คุยกันเมื่อยปากกันไปข้างหนึ่ง (แต่ที่น่าสังเกตคือวันนี้เพื่อนนี่จะ friendly น้อยกว่าวันสัมภาษณ์เยอะมากนะ คงเพราะไม่ต้องซีเรียสอะไรกันแล้ว และคงจะเหนื่อยๆ กันด้วย) รอบนี้ก็ยังมีให้ลุ้นกันอีกเช่นเคย เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน ชีวิตเราอยู่ในกำมือของหมอที่ญี่ปุ่นเท่านั้น



Step 9 : Final Result
Period : 13Feb07 – 16Feb07
Details : เช็คผลการตรวจร่างกายผ่านทางเว็บไซด์ JALways เวลา 9.00 น. ของวันที่ 13กุมภา อย่างเป็นทางการ
My Experience : คราวนี้รู้แน่มีเพื่อนมายืนยันในบอร์ด JALways แล้วว่าเช็คผลได้ตั้งแต่ 5 ทุ่มของวันที่ 12 คืนนั้นเลยไม่เป็นอันนอน กวางบินก็อุตสาห์คุยด้วยรอจนให้ถึง 5 ทุ่ม เพื่อไม่ให้เครียด พอ 5 ทุ่มกวางบินอาสาเช็คผลให้ พอบอกหมายเลขสมัคร เลขบัตรปชช. แล้วก็รอ หัวใจงี้แทบวายตายเสียให้ได้ มือเย็นไปหมด กอดหมอนนิ้วจิกเกร็งรอ ... สุดท้ายก็ ... ผ่าน!!! เฮ้ย อึ้ง ... เราทำได้แล้วเหรอ ใช่ ทำได้จริงๆ แล้ว ความฝันของเรา เข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิดแล้ว ดีใจร้องไห้ น้ำตาแตก วิ่งไปกอดหมูพิมไม่ไหวแล้ว พอได้สติก็รีบโทรบอกป๊าแม่พี่น้อง เพื่อนสนิท ... ซักพัก พี่เมย์ฟ้าใสก็รีบโทรมา เห็นชื่อที่มือถือก็รู้เลยว่าบอกผลและมาดีใจด้วย โอ๊ย ซึ้ง ... คืนนั้นกว่าจะนอนได้นี่ตี 2 ตี 3 ได้ เพราะมัวแต่นอนยิ้มแก้มปริอยู่ ... ความสำเร็จอีกขึ้นของชีวิต อี๊ ดีใจ
Remaining No. : ผ่านมาได้ 189 จาก 226 ชีวิต



Step 10 : Registration for Employment after Final Result
Period : 14Feb07 – 16Feb07
Details : รายงานตัวยืนยันการเข้ารับการฝึกอบรม (ยังไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทเขานะ)
My Experience : ไปวันสุดท้าย 16 กุมภาเลย เพราะบริษัทหยุดพอดี ไม่ต้องลางาน ไปถึงชั้น 22 ตึก United ก็เข้าเซ็นต์ชื่อ แล้วพี่ชุงจะแจกเอกสารส่งตัวเข้าตรวจประวัติอาชญากรรมที่กรมตำรวจและรายละเอียดต่างๆ ที่ควรรู้ดังนี้
1. ระยะเวลาการตรวจประวัติอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 1 มีนา – 30 เมษา 50
2. วันตรวจประวัติแต่งกายให้เรียบร้อย และเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท
3. ใครมีความประสงค์ขอเทรนเร็ว ลงชื่อไว้ได้
4. วัน Preparation Day (1 เดือนล่วงหน้าวัน Entrance Day) แต่งกายให้เรียบร้อยเพราะมีถ่ายรูปติดบัตรพนักงาน และเซ็นต์สัญญาเข้าเป็นพนักงาน พร้อมยื่นเอกสารต่างๆ ได้แก่
1) บัตรปชช ตัวจริง
2) ทะเบียนบ้าน ตัวจริง
3) สำเนา transcript 1 ฉบับ (โดยไม่ต้องเซ็นรับรองสำเนา
4) หมายเลขบัตรผู้เสียภาษี (ในกรณีที่เคยทำงานมาก่อนเดือนตุลาคม 2546
5) หมายเลขบัตรประกันสังคม (ในกรณีที่เคยทำงานมาก่อน และเคยสมัครเข้าประกันสังคมแล้ว)
6) Passport ตัวจริง (ถ้าอายุไม่ถึง 10 เดือนนับจากวันที่เรียกเข้างาน ต้องต่ออายุให้เรียบร้อย
7) สมุดบัญชีออมทรัพย์ (ที่สามารถ update ได้) ของธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม

จากนั้นเข้าพบอาจารย์ซาไก ผู้สอนภาษาญี่ปุ่น (พูดไทยได้สำเนียงน่ารักมากๆ) แจกหนังสือเรียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเล่มเหลืองให้ไปทำเป็นการบ้าน และเตือนให้ลงเรียนภาษาญี่ปุ่นไว้เลยสำหรับคนที่ไม่โดนเรียกเทรนรุ่นแรก
รายละเอียดที่อาจารย์ซาไกแจ้งมีดังต่อไปนี้
1. ส่งการบ้านเล่มเหลืองวัน Preparation Day ช้าสุดส่งวัน Entrance Day
2. วัน Preparation Day มีสอบตัวอักษรและคำศัพท์ และแจกหนังสือ Minna no Nihongo
3. วัน Entrance Day สอบ Minna no.ฯ บทที่ 1-3



Step 11: Calling for Tranining
My Experience : 12 Apr 07
My Experience : จะเรียกเข้าเทรนรุ่นละประมาณ 40-50 คน จะแบ่งได้เป็น 4 รุ่น ระยะเวลาห่างกันเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน รุ่นแรกต้นเดือนมีนา เรารุ่นสุดท้ายต้นเดือนมิถุนา (นอนรอไป 4 เดือน)



Step 12 : Preparation Day
Period : 5 May07
Details : นอกจากต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน & Passport ตัวจริง ฯลฯ ไปยื่นแล้ว ยังเซ็นต์เอกสารเกี่ยวกับบัญชีเงินเดือนทั้งที่ไทย ญี่ปุ่น,อเมริกา +ใบสมัครเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเอกสารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย ยกเว้น สัญญาจ้างงานยังไม่มีการเซ็นต์, สุดท้ายก็ ถ่ายรูปติด ID Card (แนะนำให้แต่งหน้าทำผมไปให้สวยที่สุดเพราะรูปนี้จะต้องใช้ไปตลอดอายุงาน
My Experience : ไปก่อนเวลานัดประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยเพราะถ้าใครมาช้ามีหักคะแนนด้วย ... วันนั้นก็ได้เจอเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมด หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้น (เห็นแล้วหวั่นไหว) รวมแล้ว 40 คน ... ถึงจะมีคนสสละสิทธิ์แต่พี่เพชรก็จะเรียกคนเพิ่มให้ครบ 40 คน

ใช้เวลาเซ็นต์เอกสารตั้งแต่ 9.00น. พักเที่ยงและเซ็นต์ต่อจนกระทั่ง บ่ายโมงกว่าจึงไปถ่ายรูปติดบัตร เสร็จสิ้นกระบวนการประมาณบ่าย 3 โมงเย็น... นอกจากนั้นก็มีแบ่งกลุ่มเพื่อเตรียมการแสดงที่จะมีขึ้นในวันแรกที่เข้ามาเทรน เป็นงาน Welcome Party



Step 13 : Uniform Fitting
Period : 8 May07
Details : วัดตัวตัดชุด Uniform
My Experience : ได้วัดตัวชุดสูท ทั้งเสื้อ กระโปรง เสื้อกั๊ก... ผ้ากันเปื้อน และรองเท้า



Step 14 : Entrance Day
Period : 5 Jun 07 แต่เลื่อนเป็น 3 Jul 07
Details : วันเริ่มงาน หรือเริ่มเทรน และเซ็นต์สัญญา
My Experience : ได้เซ็นต์สัญญาว่าจ้างกันวันนี้ และสองวันแรกจะเป็น Orientation (รุ่นหลังเห็นว่าจะลดเหลือแค่วันเดียวนะ) มีการแนะนำกฏระเบียบ การแต่งกาย การปฏิบัติตัวเมื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท หลังจากนั้นจึงเป็นการเทรนดังนี้

05 JUL - 25 JUL 07 : JAPANESE NYUMON
27 JUL - 17 AUG 07 : F-1 CABIN SERVICE
20 AUG - 21 SEP 07 : CABIN SERVICE
24 SEP - 28 SEP 07 : EMERGENCY&FIRST AID
01 OCT - 05 OCT07 : EMERGENCY
07 OCT - 19 OCT07 : TOKYO TRAINING
25 OCT - 24 NOV07 : ON THE JOB TRAINING
27 NOV 07 : LINE OUT BRIEFING



เกร็ดเก็บเล็กผสมน้อยอื่นๆ ที่น่าสนใจ ... อาจมีประโยชน์ในห้องสัมภาษณ์
1. วัฒนธรรมญี่ปุ่นเช่น จริงจังกับการทำงาน, ตรงเวลา, มีระเบียบวินัย, ขี้เกรงใจ
2. การกินเสียงดังถือเป็นวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งที่แสดงว่า “อร่อย”
3. คนญี่ปุ่นไม่ Flexible นะ อะไรๆ ต้องเป๊ะๆ
4. หน้าที่ของ Cabin Attendant นั้น การดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร มาก่อนการให้บริการเสมอ
5. ลูกเรือ JALways ตอนนี้มีประมาณ 1,200 คน
6. การสัมภาษณ์รอบแรกดู Grooming & First impression
7. JALways ชอบคนหน้ายิ้ม ฝึกดูกระจก ให้พูดไปยิ้มไปได้ เต็มใจมาสัมภาษณ์ มือไม้ทำให้เป็นธรรมชาติ แต่อย่าเอามาบนหน้า
8. รอบ group discussion เน้น 4 points คือ
- Personality มารยาทเรียบร้อย อย่า self เกินไป
- Attitude Friendly หน้ารับแขกได้มั้ย
- Appearance หน้าผม การแต่งกาย ถุงน่อง เล็บ
- การพูด ควรพูดแต่พอดี ลื่นหู ภาษาอังกฤษไม่ได้เน้น แต่ก็อย่าให้ผิดมาก รวมถึงการ get along กับกลุ่ม ควรแบ่งๆ กันพูด
9. ถ้าตอบไม่ได้ ให้พยายามตอบ แต่ถ้าตอบไม่ได้จริงๆ ก็ขอโทษ “ I have no information”
10. ถ้า field ที่เรียนมาโดดมากๆ โดนถามแน่ๆ เตรียมคำตอบดีๆ ไปได้เลย
11. ถ้าถามว่าพูดภาษาญี่ปุ่นได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ แต่ยินดีจะเรียนรู้เพิ่ม
12. ไม่ว่าจะเจออะไรก็ยิ้มเข้าไว้ (โดนด่าก็ยิ้ม)

ท้ายนี้ขออวยพรให้ทุกคนโชคดีนะ พยายามอย่างเต็มที่ อย่ากลัวล่ะ เดี๋ยวออกหน้าแล้วกรรมการเขาเห็นนะ
สู้ๆ




Create Date : 20 เมษายน 2550
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2551 15:45:54 น. 33 comments
Counter : 2794 Pageviews.

 
ยังไม่ได้อ่านหรอกนะ
แต่ขอเอาชื่อมาแปะเจิมเป็นคนแรกไว้ก่อนนะ

ปล. เห็นมั้ยล่าว่ากระตือรือร้นนะเนี่ย
มาอ่านเป็นคนแรกเลย
5555


โดย: ยัยลีลี วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:17:35:21 น.  

 
มาแปะอีกรอบว่าอ่านเสร็จแล้วเว้ย
อ่านอย่างจริงจังตรงสัมภาษณ์รอบแรกกับทริคท้าย ๆ
ไอ้ที่ผ่านสัมภาษณ์รอบสองและลึก ๆ อ่านผ่าน ๆ ว่ะ
เพราะไม่คิดว่าจะถึงรอบนั้นเลย
หลังจากผ่านประสบการณ์มา 4 รอบ หรือ 5 รอบก็จำไม่ได้แล้ว แม่ง
ไว้ผ่านรอบแรกค่อยมาอ่านยังไม่สายเนอะ

เฮ้อ
อ่านแล้วเศร้าจิตจริง ๆ


โดย: ยัยลีลี วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:17:56:19 น.  

 
อ่านจบแล้วเหมือนกันค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ ที่จขบ. ได้ทำงานที่เป็นความฝันของผู้หญิงเราอีกหลายๆคน

ช่วยมาเล่าเรื่องตอนเทรนงานให้ฟังด้วยนะคะ


โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:0:08:36 น.  

 
ขอบใจมากจ้า จุใจมากเลย

ได้ข่าวแว่วมาว่า กรรมการจะเปลี่ยนคำถามด้วย เพราะเขาได้มาอ่านในบอร์ด TCC ด้วย

ไม่รู้จะเป็นข่าวดี หรือป่าวเนี่ย เหอๆๆ ต้องเตรียมตัวหนักขึ้นอีกแล้ว เหอๆๆ แต่สู้ตายแน่นอน


โดย: Pinkneko วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:1:54:19 น.  

 
ได้ข่าวเหมือนกันว่า Group Discusstion จะเพิ่มหัวข้อใหม่ๆ มาทุกปี
ยังไงก็พยายามกันให้เต็มที่โชคดีกันทุกคนเลยนะจ๊า
สู้ๆ อย่าเพิ่งท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่ม


โดย: KiSs MoRe วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:22:17:16 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์มาก


โดย: ผ่านมา IP: 58.9.4.22 วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:23:11:43 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะค่ะ
รวบรวมเนื้อหาได้น่าอ่านมากๆ เลย


โดย: Chompoo IP: 61.90.200.2 วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:7:53:12 น.  

 
อยากถามเรื่องสีสูทที่ใส่ไปสมัครหน่อยนะค๊า
เหนว่าเจ้าของบล๊อกใส่สีครีมใช่ม้า
แล้วมีสีอื่นที่แนะนอีกมั้ยค่า
แบบประมาณสีชมพู สีเทาฟ้าๆเนี่ย เหมาะมั้ย
หรือว่าสีดำ สีครีม ดีกว่า
รบกวนตอบหน่อยน้า


โดย: jj IP: 124.120.207.37 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:14:25:03 น.  

 
สวัสดีจ้าคุณ jj

ถ้าเป็นแบบเรียบๆ ไม่ว่าสีไหนก็เหมาะทั้งนั้นจ่ะ
ไม่มีปัญหา ไม่ได้ว่าสีดำหรือครีมจะดีกว่า
สำหรับสูทสีชมพู สีฟ้านี่เห็นมีคนใส่ไปเหมือนกันนะจ๊ะ โดยด้านในอาจเป็นขาวหรือสีเข้มให้ตัดกับสูทจ้า

มีอะไรสงสัย ถามได้อีกนะ ยินดีจ๊ะ



โดย: KiSs MoRe วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:8:23:06 น.  

 
ขอถามอีกอย่างนะค้า
กระโปรงเนี่ยต้องทรงสอบอย่างเดียวอะป่าว
ความยาวเท่าไหร่
ถ้าทรง ต่อผ้าแปดชิ้น อ่ะ ได้ป่าวก้ะ


โดย: jj IP: 124.120.213.77 วันที่: 26 เมษายน 2550 เวลา:23:02:38 น.  

 
คิดว่าทรงสอบหรือทรงเอแบบเรียบๆ
จะดีกว่านะ ดูเป็นทางการดีค่ะ
ถ้าทรงต่อผ้าแปดชิ้นนี่จะออกแนวแฟชั่น
ไปหน่อยนึง

ตอนนี้ยังมีเวลา เตรียมตัวเยอะๆนะ



โดย: KiSs MoRe วันที่: 27 เมษายน 2550 เวลา:8:40:43 น.  

 
ข้อมูลมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ


โดย: palsy IP: 58.8.105.237 วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:18:52 น.  

 
อยากไปเป็นลูกเรือแจลด้วยจัง...แต่ปีนี้คงไม่ทัน..ว้า...


โดย: nan IP: 58.8.101.212 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:48:40 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะ


โดย: กวาง IP: 58.10.93.37 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:22:51 น.  

 
มีความรู้มาก ๆ วันหลังจะมาอ่านต่อ จ้า


โดย: รั่ว พยอม IP: 61.90.249.220 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:12:35:14 น.  

 
ทำไม Jayways จึงคัดเลื่อกคนหน้าลาวๆ มาเป็นแอร์ หรือว่าเอาเฉพาะที่มันขาวอย่างเดียว


โดย: BB IP: 125.25.198.30 วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:23:50:10 น.  

 
สวัสดีทุกคนที่แวะมาอ่านแล้วเม้นต์ให้ด้วยนะจ๊ะ
คุณ palsy, nan, กวาง, รั่ว(หรือรั้ว)พยอมและ BB

หวังว่าจะได้ประโยชน์ไปบ้างนิดนึงก็ดีใจแล้วค่ะ

ปล. คุณ BB อย่าเอาเราเป็นบรรทัดฐานวัดสาว
แจลเวย์ เลยนะจ๊ะ คนอื่นสวยๆ น่ารักๆ กันทั้งนั้น
เลยแหล่ะค่ะ ถ้าได้เข้ามาแล้วจะรู้ว่าสวยน่ารักกัน
จริงๆ จ้า


โดย: KiSs MoRe วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:08:45 น.  

 
เราอยากรู้ว่าวันสัมภาษณ์ เราใส่สูทสีชมพูสด จะดูเสล่อมั้ยคะ มีคนใส่บ้างมั้ย เราจะไปวันที่ 4 ต.ค. นี้แล้ว


โดย: meji IP: 58.64.74.195 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:14:20:58 น.  

 
แล้วจะตามไปเป็นรุ่นน้องค่ะ
ขอบคุณพี่มากเลย ไว้เจอกันนะคะ


โดย: ไนซ์ IP: 203.113.36.14 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:23:56:43 น.  

 
แล้วเจอกันนะจะพยายามเป็นแอร์ให้ได้เล้ย


โดย: sanita IP: 58.10.128.20 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:39:41 น.  

 
ขอบคุณนะคะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆเลยค่ะพี่ ปีหน้าจาลองไปสมัครแจลดู เพราะตอนนี้อยู่ปี 3 อยู่เลยค่ะ - - ^______^


โดย: littlefish IP: 202.28.27.3 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:15:32:55 น.  

 
ประหม่าจังเลย กลัวแรงกดดันตอนสัมภาษณ์อ่า


โดย: noojoo IP: 58.9.233.110 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:36:39 น.  

 
ตอนนี้กำลังเรียนธุรกิจการบิน อยากเข้าสายการบินนี้มากข้อมุลมีประโยชน์มากเลย


โดย: คินาซากิ IP: 58.9.109.155 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:36:19 น.  

 
ได้ความรู้เยอะมากเลยค่ะ
อยากทำงานสายการบินนี้เหมือนกันแต่ตอนนี้เรียนอยู่ปี1อีกค่ะ
จะถามว่าผลคะแนนTOEICจะต้องได้เท่าไหร่ค่ะแล้วพี่เรียนที่ฟ้าใสเป็นไงบ้างค่ะสอนดีรึเปล่า
รบกวนด้วยนะค่ะ


โดย: มีนจัง IP: 125.25.94.191 วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:16:45:23 น.  

 
TPEIC 650 จ่ะ
เรียนที่ฟ้าใสคอร์สแอร์ ไม่ได้เรียนคอร์สโทอิคนะจ๊ะ
พี่ๆ เค้าสอนดีนะ ดูแลเป็นอย่างดีเลยล่ะ


โดย: KiSs MoRe วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:8:19:17 น.  

 
ดีใจด้วยค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ


โดย: I♡SF IP: 124.121.56.43 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:11:19:02 น.  

 
อ่านแล้ว รู้สึกเป็นประโยชน์มากๆเลย
จาได้เตรียมตัว ฝึกฝน สู้ๆ
ดีใจด้วยนะจ๊ะ ได้เป็นแล้ว ตื้นเต้นแทนเลยอ่ะ


โดย: Nok{^v^} IP: 61.90.249.230 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:34:23 น.  

 
ถ้าสิวขึ้นอ่า เค้าจารับมั้ยเนี่ย แล้วต้องไปเรียนคอร์สเตรียมตัวที่ไหนดีอ่ะคะ ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องอาไรเรย อังกฤษก็ยังไม่ได้สอบเรย

ปล.อ่านจบแล้วเป็นประโยชน์มั่กๆ แต่ความสูงก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี


โดย: Morgan IP: 58.8.252.127 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:45:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นปีสาม
สงสัยมานานแล้วค่ะว่า ถ้าจะเป็นแอร์สายการบิน
ญี่ปุ่นต้องทำอะไรบ้างกว่าจะเป็นกันได้
ปัญหาของหนูคือพูดภาษาอังกฤษยังไม่ค่อยคล่องเลย แต่ภาษาญี่ปุ่นก็คุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้หนูต้องฟิตเรียนภาษาอังกฤษสุดๆๆ ทั้งสนทนาและไวยกรณ์
แต่คงมีเวลาเตรียมตัวอยู่ แล้วหนูจะตามไปให้ได้นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย


โดย: knight IP: 119.42.71.121 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:47:01 น.  

 
If you like to travel and want to see a detail of airline. Web page is introduce you about list name of Airlines, Airports in Thailand, Airlines foreign, Visa andeverything important for travel.

url://airline2u.blogspot.com/


โดย: 1 IP: 124.122.89.37 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:46:04 น.  

 
อ่านสนุก น่าจะไปเขียนหนังสือนะ


โดย: ลูกชาละวัน IP: 203.144.184.252 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:53:59 น.  

 
โอย สุดยอดมากๆเลยค่ะ
พยายามสุดๆจริงๆ

อยากเป็นลูกเรือเหมือนกันแต่หนทางยังอีกยาวไกลเลยค่ะ


โดย: OhBoW วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:5:22:42 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่านะครับ ได้ประโยชย์เยอะเลย แต่อยากถามว่า ประวัติอาชญกรรมเนี้ยครับ เป็นรอลงอาญา คดีครอบครองยาเสพติดอ่ะครับ จะยังมีโอกาสอยู่หรือไม่อ่ะ ไม่ได้ติดคุกนะครับ ถ้ายังไงแวะกลับมากระทู้นี้ก็ขอความเห็นด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ


โดย: lovestory IP: 58.11.25.186 วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:4:50:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KiSs MoRe
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บิน กิน เที่ยว เบี้ยวไปวันๆ
...
(บล็อคนี้ สาระการเป็นแอร์ = 0)


สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


Friends' blogs
[Add KiSs MoRe's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.