ไปดูลิงที่ญี่ปุ่น วันที่ 1 - 2
คำเตือน : บล๊อกนี้จะมีแต่รูปของดิฉันเกือบทั้งหมด ไปเที่ยวก็ขอสวยบ้าง อยู่บ้านก็เป็นอีป้าซอมซ่อเหมือนเดิม แม้จะเบื่อหน้าก็ทนหน่อยนะคะ
ความตั้งใจไปประเทศญี่ปุ่นมีมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งสมปรารถนาก็เมื่อเดือนธันวาคม 2559 นี่เอง ไม่มีการวางแผนการเดินทางใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะซื้อทัวร์ไปค่ะ เป็นกลุ่มเล้ก ๆ 16 คน มีไกด์ 1 คนและหัวหน้าทัวร์ 1 คน
วันที่ 10 ธันวาคม 2559 สุวรรณภูมิ นาริตะ FUJINOBOUKAEN HOTEL - ONSEN เริ่มต้นที่สุวรรณภูมิ เดินทางโดยการบินไทย TG 676 เครื่อง A-380 ชั้นบน
นางบอกว่าลำนี้หญ่ายมาก
ถึงญี่ปุ่น สนามบินนาริตะผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้วก็จัดแจงหยิบเสื้อหนาวที่เตรียมไว้มาสวมก่อนไปผจญความหนาวข้างนอกสนามบิน ไกด์มารับและเดินทางไปขึ้นรถบัส เวลาที่นี่เร็วกว่าที่บ้านเราประมาณ3 ชั่วโมง คือเวลาเย็นแล้ว และเป็นหน้าหนาวด้วย จึงมืดเร็วเลยไม่ได้เห็นวิวข้างทางเท่าไรนัก แต่แค่สัมผัสความหนาวก็มั่นใจได้ว่าข้างทางต้องสวยแน่นอน
ด้วยความแตกต่างของเวลา ถึงนาริตะก็เย็นแล้ว
ระหว่างนั่งรอเพื่อนร่วมทัวร์
ได้แวะพักเพื่อเข้าห้องน้ำและเดินถ่ายรูปกัน ไม่มีใครสนใจจะซื้ออาหารรับประทานกันเลย
เรามาถึงที่พักช้าเนื่องจากมีอุบัติเหตุข้างทาง คืนนี้เราพักกันที่ Fujinobou Kaen Hotelกินอาหารค่ำกันเกือบ 3 ทุ่ม โรงแรมได้รอกลุ่มเราซึ่งมาเป็นกลุ่มสุดท้าย ได้ลิ้มรสก้ามปูยักษ์ บอกได้เลยว่า ชอบที่มันใหญ่โตแต่รสชาติสู้ปูม้านึ่งบ้านเราไม่ได้เลย
ก้ามใหญ่ เนื้อแยะมาก จะบอกว่ากินปูม้านึ่ง ตัวกลาง ๆ ของบ้านเราอร่อยกว่าค่ะ ทำใจอยู่ว่าจะแช่ออนเซ็นดีไหมก็ตัดสินใจได้ว่าคนอื่นเขายังลงแช่ได้ ทำไมเราจะแช่ไม่ได้ มั่นใจค่ะเราก็ไปตอนที่เขาใกล้จะปิด เพราะแทบไม่มีใครมาแช่เวลานี้ **** ไม่มีรูปแช่ออนเซ็นมาโชว์นะคะ
6 7 8 คือเวลานัดหมายของพรุ่งนี้นอนหลับอย่างสบายตัวบนเสื่อตาตามิ และชุดยูกาตะ มาญี่ปุ่นชุดนอนไม่ต้องเตรียมมาค่ะ หน้าโรงแรมยามเช้า
วันที่ 11 ธันวาคม 2559 ทะเลสาบยามานะคะโกะ โอชิโนะฮักไกมัตสึโมโต้ คุซัทสึ ยูบาตาเกะ KUSATSU NOW RESORT HOTEL-ONSEN
วิวสวยงามจากหน้าต่างโรงแรม ตื่นเช้ามารีบแต่งตัวค่ะเป้าหมายคือวิ่งไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก่อน รู้ว่าถ้ามัวชักช้ากินเสร็จก็ต้องขึ้นรถ คงไม่ได้ถ่ายรูปแน่ บรรยากาศสวยค่ะ เป็นคนชอบต้นไม้โกร๋น ๆไม่มีใบ ก็สมใจค่ะ ห้องทานอาหารด้านหนึ่งมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ แต่เดี๋ยวเราก็จะไปเห็นฟูจิกันในมุมที่ชัดแล้ว
ทานอาหารเสร็จ ได้ไปหาไกด์ ให้ช่วยพาไปไปรษณีย์และจ่าหน้าซองเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ที ไกด์จึงพาไปใช้บริการแมวดำของโรงแรม ก็เป็นเหมือนไปรษณีย์เอกชนที่รับส่งจดหมายและพัสดุทั่วไปแหละค่ะ
โทรศัพท์เครื่องนี้แหละค่ะ ได้กลับไปหาเจ้าของแล้ว
ว่าจะไม่เล่า แต่เล่าดีกว่า เมื่อประมาณปีที่แล้วลูกค้าดิฉันเก็บโทรศัพท์มือถือ Sony Xperia ได้ในรถแท๊กซี่ แม่บ้านเอามาให้บอกให้ช่วยตามเจ้าของ เป็นความโชคดีที่ลูกชายใช้ sony ericsson อยู่แล้วจึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่และเข้าถึงเฟสบุ๊คเจ้าของเครื่องได้ จึงติดต่อไปทราบว่าเป็นคนญี่ปุ่นและเดินทางกลับประเทศไปแล้ว
ดิฉันจึงขอที่อยู่เพื่อส่งเป็นพัสดุไปให้ แต่ปัญหาคือเครื่องรุ่นนี้เป็นแบตเตอรี่ชนิดฝัง ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้จึงไม่สามารถส่งให้ได้ ก็ได้แจ้งให้เจ้าของเครื่องทราบว่าหากมีใครมาไทยก็ให้ติดต่อมา หรือถ้าได้ไปญี่ปุ่นก็จะเอาไปคืนให้
ดิฉันก็ได้มาญี่ปุ่นจริง ๆ ก็เลยติดต่อไปเพื่อขอที่อยู่ล่าสุด เจ้าของเครื่องดีใจมากเพราะไม่คิดว่าจะได้โทรศัพท์คืน ดิฉันใช้บริการแมวดำส่งแบบเก็บเงินปลายทางค่ะ ตอนนี้เจ้าของเครื่อง - ลูกชาย และดิฉันก็เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คแล้ว คิดว่าถ้ามีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดนาโกย่าที่เธออยู่ อาจขอให้ช่วยพาเที่ยวสักหน่อย
ท้องฟ้าเช้้านี้ถ่ายจากห้องอาหาร เห็นว่ามีเมฆมาบังฟูจิอยู่ มีลุ้นว่าตอนไปหมู่บ้านนน้ำใสฟ้าจะเปิดให้เราได้เห็นความงามของฟูจิซังไหม
เราไปที่ หมู่บ้าน โอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai Village) หรือหมู่บ้านน้ำใส จังหวัดยามานาชิเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิเพราะอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ชิมน้ำแร่ หมู่บ้านน้ำใสใสขนาดมองเห็นปลาและพืชใต้น้ำได้อย่างชัดเจน เพราะมีบ่อน้ำใสมาก รวมกันกว่า 8 บ่อเดินชม เดินชิม รอบหมู่บ้าน ซึ่งยังคงดูแบบหมู่บ้านโบราณ ๆเข้ากับบรรยากาศฟูจิซังแสนสวย อยากมีเวลาอ้อยอิ่งดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่มาก
มุมนี้โชว์ภูเขาไฟฟูจิค่ะ
มุมนี้โชว์ความใสของบ่อน้ำในหมู่บ้านแห่งนี้
ถ่ายรูปหมูกันหน่อย
มื้อเที่ยงวันนี้เป็นอาหารชุดค่ะ
อิ่มแล้วออกเดินทางต่อไปยังปราสาทมัตสึโมโต้ หรือปราสาทอีกา จังหวัดนางะโนะ เป็นปราสาทมีกำแพงสูงใหญ่ มีคูน้ำล้อมรอบ ปราสาทเป็นไม้ทั้งหลัง ผนังมีสีดำ ภายในจัดแสดงอาวุธสมัยก่อน
ปราสาทมัตสึโมโต้สวยเด่นเป็นสง่าในวันที่ฟ้าโปร่ง ย่างเข้าฤดูหนาว
เขาบอกว่าถ้ามาฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามมากเพราะจะโดดเด่นท่ามกลางดอกซากุระที่เบ่งบานฟังแบบนี้แล้วอยากกลับไปดูอีกครั้งจริง ๆ นะ
กำแพงของปราสาทเป็นก้อนหินขนาดใหญ่มาก
สะพานแดงด้านหลังนั้น ปิดซ่อมแซม
สำหรับรอบบ่ายนี้ ได้ถ่ายรูปกับมาสคอตด้วย เป็นสีสันของที่นี่ค่ะ ห้ามพลาด ก่อนเข้าในปราสาทต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะที่เตรียมไว้ให้ เดินชมสิ่งต่าง ๆ ที่จัดแสดงภายในปราสาท แล้วก็ถ่ายรูปกันเป็นระยะ ๆ แต่ไม่รู้ว่าอยู่กล้องใครกันบ้างยังหาภาพไม่เจอเลยค่ะ ถ้าอยากทราบข้างในมีอะไรไปเที่ยวกันเองนะคะ
เป็นมุมที่คิดว่าถ่ายรูปแล้วสวย
หน้าหนาวแบบนี้ กลางคืนจะยาวกว่ากลางวัน พอออกจากปราสาทอีกาแล้ว รู้สึกว่าความมืดเข้ามาเยือน ดูว่ามืดมิดไปหมด รถบัสพามาที่เมืองคุซัตสึ จังหวัดกุมมะ มาที่ยูบาตาเกะ เป็นแหล่งน้ำร้อนกลางเมืองและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ จากลานจอดรถเดินเข้ามาในเวลากลางคืนเช่นนี้ มองไปทางไหนมันดูสวยไปหมด กองหิมะข้างทาง บนหลังคา บนรถ ตามทางเดิน ค่อย ๆ เสพความสุขกับความงดงาม คนอื่นไม่ทราบว่าจะเป็นเหมือนดิฉันไหม แม้ว่าจะมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ แต่ไม่ช่วยให้ความหนาวจะตายลดลงได้เลย เห็นควันของน้ำพุร้อนตลบอบอวล นึกถึงความอบอุ่น แต่มันเป็นภาพลวงค่ะ สัมผัสจริงคือทำไมมันหนาวอย่างนี้ ๆๆๆ ปากคอสั่น แต่ก่อนอื่นวิ่งเข้าร้านค้าหลบฝนและหนีหนาวค่ะ อยากถ่าบรูปก็ต้องซื้อร่มไม่ไหวแล้วเริ่มเปียกตามเนื้อตัว มือไม้แข็งต้องสวมถุงมือ เวลาถ่ายรูปลำบากมากก็รีบถอดถุงมือแล้วรีบใส่ ทุลักทุเล แต่บอกเลยสนุกจัง ภาพสวย ๆ ไม่มี แต่ความทรงจำไม่ลบเลือน ยืนสู้ท้าความหนาวอยากมีภาพเดี่ยว
มาเวลานี้ได้สัมผัสถึงความงดงามของร้านค้าบริเวณนี้มีกองหิมะห้องล้อม หิมะโปรยปราย มองผ่านกระจก ทำให้อยากที่จะเข้าไปนั่งสั่งอาหารแล้วนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศเสียจริง ๆ
ถ่ายรูปหมู่กันด้วยความลำบาก คืนนี้พักที่ Kusatsu Now resortHotel ใส่ชุดยูตากะถ่ายรูปเล่น ใกล้ออนเซ็นปิด 5 ทุ่มครึ่งคือเวลาของเราจากที่แช่ในห้อง มองเห็นสาวน้อยหลายคนไปนอนแช่ข้างนอกกัน ก็สงสัยว่าเขาไม่หนาวกันหรือ ก็เลยรวบรวมความกล้าเดินหนีบไปแช่บ่อข้างนอก
นั่งฟินกับบรรยากาศหลังมื้อค่ำ
คือการค้นพบว่าฟินที่สุด ได้อารมณ์และดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบเปลือยเปล่าที่ไม่ต้องไปสนใจใคร ศีรษะพิงโขดหิน นอนแช่น้ำร้อน ภายใต้บรรยากาศหนาวเย็น ลมหนาวพัดเย็นยะเยือก หิมะตกปรอย ๆทำให้ลืมความร้อนของน้ำในบ่อ กลายเป็นความอบอุ่นแทน มองบรรยากาศที่ได้จัดสวนงดงาม โขดหินและนอนมองพระจันทร์กลมโต ช่างแสนสุขอะไรเช่นนี้ หมดไป 2 วันแล้วนะคะ เหนื่อยไหมคะ ความหนาวพอไหวนะคะ ลิงอยู่ไหน เชิญตามต่อบล๊อกหน้าค่ะ kimmybangkok
Create Date : 30 มีนาคม 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 18 เมษายน 2560 9:39:31 น. |
Counter : 1453 Pageviews. |
|
|
|