สวัสดีเพื่อนๆทุกท่านครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมบล็อกของผมครับ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

นิทานชาวดง

คัดลอกจาก: ต่วยตูน ฉบับเดือนตุลาคม 2530 ปีที่ 17 เล่มที่ 2

นิทานชาวดง

โดย:อยู่ ละแก

เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังนี่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว(สมัยหมูป่าผัดเผ็ดพริกไทยอ่อนเพิ่งจะฮิต)

วันนั้น ผมกำลังวิ่งตีลูกล้อเล่นอยู่กลางลานหมู่บ้าน หมู่บ้านของผมอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง โน่น ติดเชิงเขาชายป่า

แต่ยังดีที่มีถนนลูกรังตัดผ่านเข้าไปถึง

ผมวิ่งตีลูกล้อเพลิดเพลินจนหลุดออกจากหมู่บ้านไปตามถนนลูกรัง แต่ไปได้นิดเดียวผมก็เห็นรถปิคอัพคันหนึ่ง

วิ่งเอื่อยๆสวนทางตรงเข้ามา ผมหยุดรอให้รถผ่าน แต่ปิคอัพคันนั้นกลับหยุดอยู่ตรงที่ผมยืน

ชายคนขับยื่นหน้าชะโงกจากหน้าต่างรถ

"ไอ้หนู!" เขาเรียกผม

ผมหิ้วลูกล้อเข้าไปหา

"บ้านข้างหน้านั่นชื่ออะไรรึ?"

"บ้านนาดี" ผมบอก

เขาพยักหัวหงึกๆ อย่างพอใจ

"ได้ข่าวว่าที่นี่หมูป่าชุมไม่ใช่รึ ไอ้หนู"

"โอ้โฮ" ผมโพล่งออกมา "ชุมชะมัดเลยน้า เข้ามากินผักหญ้าที่ปลูกไว้ชิบหายป่นปี้จนแทบ

ไม่มีใครอยากปลูกอะไรแล้วอีตอนนี้ น้าถามทำไมเรอะ"

"ฉันจะมาจับมัน" เขาว่าเรื่อยๆ

"ฮึ จะจริงเรอะน้า!" ผมตื่นเต้นแล้วก็ถือวิสาสะชะโงกเข้าไปดูในรถด้วยหวังจะได้เห็นปืน

ล่าหมู แต่ผมก็ไม่เห็นปืนสักกระบอก กระทั่งมีดพร้าก็ไม่เห็นมี

"หาอะไรวะไอ้หนู" เขาถาม

"ขอดูปืนหน่อยซีน้า"

เขาหัวเราะก้าก "ไม่มีหรอก"

"อ้าว แล้วน้าจะเอาอะไรจับมัน ไวจะตายห่า"

เขายกหัวแม่โป้งขึ้นชี้ข้ามไปทางหลัง

"โน่น อยูในกระบะท้ายรถ"

ผมถลันไปยังกระบะ เปิดผ้าคลุมออกดูก็เห็นข้าวโพดดิบเป็นฝักๆเต็มกระบะ ไม่เห็นมีอะไรอย่างอื่น ผมเดินกลับ

ไปหาเขา
"น้าจะมาเลี้ยงหมูเรอะจะมาจับหมูกันแน่"

"เอาเถอะ คอยดูไปก่อนก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ช่วยพาฉันไปหาผู้ใหญ่บ้านหน่อยซี เอ้า ขึ้นมานั่ง

ข้างๆฉันนี่"

แหม ยังกะเสียงสวรรค์ มีอะไรที่อยากยิ่งกว่าได้นั่งรถมั่งละครับ ผมตาลีตาลานขึ้นรถแล้วพาเขาไปบ้านผู้ใหญ่

"จะมาขอพักแถวๆนี้สักเดือนหนึ่ง" เขาเอ่ยกับผู้ใหญ่ตอนลงจากรถมาแล้วนี่ผมถึงสังเกตเห็น

เขาเต็มตัว อายุน่าจะราวสักสามสิบกว่าร่วมสี่สิบ ไม่สูงแล้วก็ไม่อ้วน สูงหุ่นดีว่างั้นเถอะ กางเกงยีนขายาวโทรมๆ

กับเชิร์ตสีซีดๆเข้ากันดี ตอนนั้นมีชาวบ้านทั้งหนุ่มและแก่เข้ามามุงฟังด้วยเป็นกลุ่มใหญ่

"จะมาทำไรเรอะ"

"ฉันได้ข่าวว่าที่นี่มีหมูป่าเข้ามากวน ก็เลยคิดจะมาช่วยกำจัด"

เสียงฮือฮาดังมาจากประดาคนที่มามุง

"อ๊ะ งั้นก็ดีซีคุณ" ผู้ใหญ่เองก็ตื่นเต้นพอๆกันกับชาวบ้าน

"ว่าแต่มาคนเดียวเท่านั้นเร๊อะ พวกฉันนี่ช่วยกันทุกวี่ทุกวันยังทำอะไรมันไม่เคยได้ อย่าว่าแต่

จะเข้าไปถึงตัวมันเลย แค่เห็นห่างๆ มันก็แว่บเข้าป่าไปแล้ว พอเผลอก็ออกมาขุดผักขุดมันของพวกฉันเละป่นปี้

ถ้ามีปืนดีๆ อย่างคุณยังพอจะไล่มันได้มั่ง"

"เปล่า ฉันไม่มีปืนมาด้วยหรอก"

"อ้าว " ผู้ใหญ่มีสีหน้าผิดหวังทันที

"เอาเถอะ ฉันจะขอเวลาสักเดือนหนึ่งอย่างที่บอกไว้ ฉันมีวิธีการของฉันเอง ขอให้ดูไปก่อน

ผู้ใหญ่พอจะบอกที่ให้ฉันนอนได้มั่งมั้ย เป็นศาลาหรือเพิงอะไรก็ได้"

ที่ท้ายบ้านด้านติดกับชายป่ามีกระท่มร้างหลังหนึ่ง ผู้ใหญ่แนะให้เขาไปพักที่นั่น ขาเดินกลับไปขึ้นรถ แต่ชะงัก

หันมาพูด
"อ้อ ฉันอยากจะขอร้องผู้ใหญ่ คือระหว่างที่ฉันทำงานอย่าให้ใครเข้าไปดูหรือไม่จำเป็นก็อย่า

เข้าไปวุ่นวายแถวนั้น ไม่งั้นงานฉันอาจไม่สำเร็จก็ได้"

"ได้" ผู้ใหญ่บ้านรับปาก "แล้วจะไม่ให้ใครช่วยเลยเรอะนี่"

เขารีรออึดใจ แล้วจึงชี้มาที่ผม "ขอไอ้หนูนี่คนเดียวก็พอแล้ว พรุ่งนี้เช้าไปหาฉันที่กระท่อมนะ"

******

รถกระบะคันนั้นจอดอยู่ข้างกระท่อม เขากำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่โคนไม้เมื่อตอนที่ผมไปถึง พอเห็นผมเขาก็ลุกขึ้น

ทิ้งบุหรี่เอาตีนขยี้ แล้วเอ่ยปาก

"ไปกันเถอะ"

ผมพาเขามุ่งไปทางไร่มันสำปะหลังติดชายป่า ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของหมูป่าฝูงนั้น ไร่มันปลูกติดกันถี่ๆทึบสูงท่วมหัว

เราลุยตัดไร่เข้าไปจนทะลุออกลานโล่งอีกด้านหนึ่ง ห่างจากที่เราโผล่ออกไปราวห้าสิบเมตร เราก็เห็นมัน หมูป่า

สามสี่ตัวกำลังขุดคุ้ยหัวมันกันอย่างเพลิดเพลิน ต้นมันล้มละเนระนาด

"ทั้งฝูงมีสักกี่ตัว" เขาถามผม

"ร่วมสามสิบเห็นจะได้" ผมตอบ "ที่เหลืออยู่ในดงโน่น"

เขาพยักหน้าแล้วก้าวเดินต่อไปหามัน ประมาณอีก 20 ก้าวจะถึง หมูสามสี่ตัวนั่นก็หยุดการ

เคี้ยว มันพากันวิ่งปุเลงๆเข้าไปในดงไม้ เราสองคนเดินตามเข้าไป ดงไม้นั้นเป็นละเมาะที่ไม่ทึบนัก เราเข้าไป

ไม่ไกลนักก็พบหมูป่าทั้งฝูงนั้นชุมนุมกันอยู่ เราหยุดห่างจากมันขนาดพอเห็นตัวกันได้ชัด หมูทุกตัวหยุดยืนนิ่ง

จังก้าจ้องมองเราด้วยท่าทีเตรียมพร้อม

นักล่าหมูของผมยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ผมคะเนว่าเขาจะนับคะเนจำนวนของมัน แล้วเขาก็หันมาพูดกะผม

"นี่ถ้าเราเดินเข้าไปหา มันจะทำยังไง"

"เอ้อ...ก็คงเตลิดเข้าลึกต่อไปมั้ง ฝูงนี้ไม่ค่อยดุเท่าไหร่" ผมตอบทั้งๆที่ไม่ค่อยแน่ใจเท่า

ไหร่ ที่จริงแล้วผมเองก็ปอดๆอยู่เหมือนกันเพราะหมูป่านั้นเป็นสัตว์ที่ไว้ใจไม่ได้ที่สุด และหากมันเกิดฮึดสู้ขึ้นมา

ละก้อ...เป็นได้ฉิบหายแน่ๆ

เขาหัวเราะหึๆ "ถ้างั้นเราก็หยุดอยู่แค่นี้แล้วกันนะ"

ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาหิ้วถุงใบเล็กมาด้วย เขาล้วงเอาของในถุงออกมา มันคือข้าวโพด...มีอยู่ฝักเดียวเท่า

นั้น! เขาเงื้อมือแล้วขว้างข้าวโพดฝักนั้นไปตกตรงหน้าฝูงหมู

...
...
...

เงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมูทุกตัวยังหยุดนิ่งไม่ขยับ

...
...
...

"กลับกันเถอะ" เขาชวนผม

"อ้าว!" ผมอุทาน ยังไม่เห็นจะได้รื่องอะไรซักนิด ผมรีรอ

"จะอยู่ดูต่อก็ตามใจ" เขาว่าเมื่อเห็นท่าผม "แต่อย่าไปยุ่งกับมันนา ดูอยู่เฉยๆ ห่างๆ" สั่ง

แล้วก็เดินกลับออกไป

ผมทำทีเดินตามหลังเขาไปเพื่อมิให้หมูมันผิดสังเกต แล้วก็แอบแวบเข้าหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง อาศัยต้นไม้นี้

กำบังลอบสังเกตปฏิกริยาของไอ้หมูป่า

พวกมันค่อยๆคลายจากสภาวะตึงเครียด กระจายออกหากินตามเดิม แต่หลีกเลี่ยงห่างจากข้าวโพดที่ที้งอยู่กลาง

ดิน จนพักใหญ่หมูตัวโตตัวหนึ่งก็เริ่มเมียงๆเข้ามาใกล้ฝักข้างโพด ท่าทีมันอยากๆกลัวๆ ที่สุดมันก็เข้ามาดม เอา

จมูกดุนฝักข้าวโพดกลิ้งไปสองสามตลบ และแล้วมันก็ตั้งต้นขม้ำเอาขม้ำเอาจนข้าวโพดฝักนั้นอันตรธานไม่

เหลือกระทั่งซัง

ผมกลับไปที่กระท่อม พบชายคนนั้นนอนเอกเขนกสบายอารมณ์อยู่บนแคร่หน้ากระท่อม ผมรายงานถึงผลการ

สังเกตการณ์ให้เาฟัง เขายิ้มอย่างไม่สูจะสนใจในคำบอกกล่าวของผม บอกแต่เพียงว่าเช้าพรุ่งนี้ให้มาใหม่ เล่น

เอาผมงง เวลายังเหลืออีกตั้งเยอะแยะ กลับนอนเล่นเสียงั้นแหละ ทั้งวันผมเฝ้าครุ่นคิดว่าเขาจะจับไอ้หมูพวกนั้น

ได้อีท่าไหน

******

เช้าวันรุ่งขึ้นผมรีบไปหาเขาตั้งแต่ไก่โห่ รอจนเขาทำธุระเสร็จแล้วเราก็เดินไปตามเส้นทางเก่า เหตุการณ์ยังคง

คล้ายวันวาน หมูป่าสองสามตัวที่อกมาขุดคุ้ยหาหัวมันวิ่งเตลิดกลับเข้าดงไม้ไปรวมหมู่กับพรรคพวกของมัน

ต่างกันแต่ว่าหนนี้หลังจากเขาขว้างข้าวโพดไปตกตรงหน้ามัน ไอ้หมูใหญ่ตัวเดิมถลันออกมาจากฝูง และตรง

เข้าไปยังฝักข้าวโพดอย่างมั่นใจท่ามกลางสายตาของประดาหมูในฝูง มันเคี้ยวกินข้าวโพดอย่างเอร็ดอร่อย พอ

หมดฝักก็เงยหน้าขึ้นมามองทางเรา พรานล่าหมูของผมเขวี้ยงข้าวโพดฝักใหม่ไปให้มัน หนนี้มีหมูในฝูงสอง

สามตัวขยับเดินออกมาจากฝูง แต่ไม่ทันไอ้หมูใหญ่ตัวแรกที่เขมือบข้าวโพดฝักนั้นหมดไปอีกในชั่วพริบตา

แต่พอชายคนนั้นขยับเดินเข้าไปหามัน หมูทั้งหมดก็แตกฮือเตลิดเข้าไปในดงไม้

เช้าวันที่สาม เวลาเดิมตรงเป๊ะ เราเข้าไปพบฝูงหมูอีก หมูทุกตัวรอเราอยู่ ณ ที่เดิมราวกับรู้ คราวนี้เขาหอบข้าว

โพดไปถุงเบ้อเริ่ม เราช่วยกันขว้างข้าวโพดกระจายไปตรงจุดต่างๆ ไม่ห่างกันนัก หมูครึ่งฝูงเดินออกมากินข้าง

โพดของเรา แต่ก็ยังระวังตัวอยู่มาก

เช้าวันที่สี่ ผมช่วยเขาหอบข้าวโพดไปถุงหนึ่ง เราหว่านข้าวโพดในบริเวณนั้นกระจายไปโดยรอบ หมูตัวเล็กตัว

น้อยออกมากินหมดทั้งฝูง และอนุญาตให้เราเดินเข้าไปใกล้มันได้ในระยะสิบก้าว

วันที่ห้าเราเอาข้าวโพดไปเท่าวันวาน แต่วันนี้หลังจากหว่านข้าวโพดเรียบร้อยแล้ว พรานล่าหมูก็เอ่ยกะผมว่า

"ลงมือทำงานกันซะทีได้แล้ว ไอ้หนู ช่วยกันหากอไผ่แถวนี้ซักกอซิ" ผมไม่รู้จุดมุ่งหมาย

ของเขาหรอก แต่ก็ทำตามที่เขาสั่ง

เราตัดไม้ไผ่ลำโตหลายลำ แล้วตัดออกเป็นท่อนๆ แต่ละท่อนยาวราวหนึ่งเมตรและเสี้ยมปลายแหลม เราขนมัน

ไปกองไว้ใกล้ๆกับที่ชุมนุมของฝูงหมูป่า กว่าจะเสร็จก็เย็น ฝูงหมูยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ แต่ไม่มีตัวใดเข้ามา

ใกล้กองไม้ไผ่

วันที่หก หลังจากเลี้ยงข้าวโพดหมูตามปกติแล้ว เราก็ตัดไม้ไผ่อีกหลายสิบลำ แต่หนนี้ไม่ได้ทอนให้สั้น และริ

ดแบบให้มีกิ่งสั้นๆติดด้วย เราขนมันไปกองไว้เคียงกับกองเมื่อวาน

วันที่เจ็ด หลังจากเลี้ยงข้าวโพดหมูแล้วเราก็พบว่าจำนวนข้าวโพดร่อยหรอเกือบหมดกระบะรถ

"ฉันจะเข้าเมืองไปเอาข้าวโพด พรุ่งนี้จะกลับมาใหม่" เขาบอกผมก่อนจะขึ้นรถขับไป

******

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมยืนรอเขาตรงปากทางหมู่บ้าน จนสายก็ไม่เห็นเขามา แดดชักร้อนผมก็เลยกลับ เผอิญนึกสงสัย

อะไรบางอย่าง ผมจึงเดินเลยไปท้ายบ้าน ตัดไร่มันสำปะหลังไปยังดงไม้...

ครับ จริงอย่างที่คาดไว้ หมูป่าทั้งฝูงยืนรอตรงตำแหน่งเดิมของมัน ท่าทางแต่ละตัวหงุดหงิดกระวนกระวาย แต่

ไม่มีตัวไหนแตกฝูงออกไปขุดเผือกขุดมันตามที่เคยปฏิบัติแต่ก่อน พอเห็นผมมันก็ฮือเข้ามาหาเกือบถึงตัว ผม

ได้แต่แบบมือยกไหล่ให้มันแล้วหันหลังกลับบ้าน

เขาขับรถกลับมาจนเย็นย่ำ บอกกับผมว่าเกิดขัดข้องนิดหน่อยจึงกลับผิดเวลา ท้ายรถเขาบรรทุกข้าวโพดมาเพียบ

ผมรายงานเขาถึงปฏิกริยาของหมูที่ได้เห็นเมื่อเช้านี้ เขาหัวเราะหึๆและไม่กล่าวว่าอะไร

เช้าวันต่อมาเราหอบข้าวโพดไปดงไม้ ฝูงหมูรออยู่แล้ว เราหว่าข้าวโพดแทบไม่ทันใจมัน ทุกตัวตะกรุมตะกราม

อย่างหิวโหย ผมสงสัยว่าเมื่อวานนี้มันได้ออกไปหากินกันหรือเปล่า

"วันนี้เราจะเลี้ยงมันชดเชยเมื่อวาน กลับไปเอามาอีกถุงนึงเถอะ" เขาชวนผมกลับไปที่รถ

แล้วหอบข้าวโพดมาอีกถุงใหญ่ อ้อ เขาลากเอาค้นปอนด์เบ้อเร่อออกจากรถและแบกติดมาด้วย หมูฝูงนี้ยังคงเก

ร่กรายอยู่แถวนั้นไม่ไปไหน พอหว่านข้าวโพดเสร็จเขาเอ่ยกะผมว่า

"ช่วยกันทำคอกได้แล้วไอ้หนู"

เราตั้งต้นเอาไม้ไผ่ท่อนสั้นที่บากไว้มาปักบนดินห่างกันราวเมตรหนึ่ง เอาค้อนตอกแน่นหนา เราทำไปเรื่อยๆไม่

กระโตกกระตากให้หมูมันตื่น ซึ่งหมูมันก็และเล็มหาอะไรกินอยู่ใกล้ๆเรานั่นเอง และไม่สนใจในสิ่งที่เราทำ

...ชักจะสนิทกันแล้วละ...

และนับแต่นั้นก็เป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกเช้าหมูทั้งฝูงจะยืนรอเราอยู่ตรงนั้น ไม่มีตัวใดกระจัดกระจายไปหากิน

วันไหนเราไปสายจะเห็นมันกระสับกระส่างุ่นง่าน และแทบจะเข้ามาขม้ำข้าวโพดจากมือเรา

เราใช้เวลาสองวันเต็มๆ จึงปักเสาล้อมเป็นรั้วสี่เหลี่ยมขนาดยี่สิบคูณยี่สิบเมตรเสร็จ หมูมันก็เดินเข้าเดิน

ออกระหว่างเสานี้ตลอดเวลาที่เราทำงานนั่นแหละ

ถัดจากนั้นเราก็เอาไม้ไผ่ลำยาวมาพาดขวาง แล้วเอาเส้นหวายมัดกับเสาอย่างแน่นหนา พาดสี่ชั้นโดยแต่ละชั้น

สูงกว่ากันราวคืบ อา คราวนี้ก็เป็นคอกโดยสมบูรณ์แล้ว มีประตูเข้าออกพร้อม แล้วเปิดประตูนี้ไว้ให้หมูเดินเข้า

ออกโดยเสรี

ตั้งแต่เริ่มต้นจนล้อมหมูป่าฝูงนี้ไว้ได้ เขาใช้เวลาไม่ถึงเดือน

******

ก็คงไม่ต้องให้ผมอธิบายให้มากความไปอีกนะครับว่าอีตอนจับหมูพวกนั้นขึ้นรถนั่นทำยังไงบ้าง หมูในคอกน่ะ

มันยากกว่าหมูในอวยนิดเดียวเอง

ประดาชาวบ้านนั้นไม่มีใครได้ล่วงรู้ถึงความเป็นความไปเป็นขั้นๆอย่างที่ผมเห็นกับตาตัวเอง ดังนั้นเมื่อชาย

คนนั้นทยอยเอาหมูป่าเป็นๆขึ้นรถไปวันละสี่ห้าตัว ก็ได้แต่มองตามตาค้าง

วันสุดท้าย เมื่อหมูป่าตัวสุดท้ายถูกหามขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาทางผมแล้วชักกระเป๋าตังค์ออกมา เขาตก

รางวัลผมอย่างงามเมื่อเทียบกับรายได้จากการทำมาหากินประสาบ้านนอกทั่วไป เขาขอบอกขอบใจผมสั้นๆ

แล้วหันกลับขึ้นรถ แต่ชะงักเมื่อได้ยินคำถามจากปากผม

"น้า...ถามซักคำเหอะ วิธีการของน้าเนี่ยใช้กับสัตว์อื่นได้มั้ย"

"อ๋อ" เขาตอบยิ้มๆ "ไม่ว่าสัตว์ชนิดไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้นแหละไอ้หนู ลงว่านายเปลี่ยนนิสัย

การกินอยู่ของมันได้ ทำให้มันสบายจนเคยตัวได้เมื่อไหร่ นายก็จูงจมูกมันได้เมื่อนั้น" ว่าแล้วเขาก็เปิดประตูรถ

ก้าวเข้าไปนั่งแล้วเหลียวมาอีกครั้งราวกับนึกอะไรขึ้นได้

"ถึงคนก็ใช้ได้เหมืนกัน"













 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2550
0 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 16:41:59 น.
Counter : 577 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


คุณเจน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แสดงความสนใจในตัวตนของ "คุณเจน" ครับ
Friends' blogs
[Add คุณเจน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.