"Just an odinary living retained by the breath of life , in the running world of timeless stream." "เพียงหนึ่งชีวิตที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยลมหายใจบนโลกที่ลื่นไหลในท้องธารแห่งกาลเวลา"
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
16 มีนาคม 2550

16 03 07 หนังสือเล่มนี้ปกยับ กูไม่เอา...

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสเข้าร้านหนังสือ แหมเขียนซะยังกะว่า เป็นการเข้าร้านหนังสือในรอบสิบปีเปล่ามันแค่รอบเดือนจึ๋ย! อย่าเข้าใจผิดนะ คือช่วงเดือนที่ผ่านมาอยากได้หนังสือมาเติมสมองก็เพิ่งได้เข้าเมื่อวานนี้จริง จริ๊งงงง
เดินหาทั่วร้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คิดไว้ในใจอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มี ก็เริ่มเดินหาเล่มที่น่าสนใจที่มีในร้าน เจอเป็นหนังสือแนะนำซะด้วย ก็เดินหาว่าจะมีวางตรงไหนอีกหรือเปล่า เพราะดูเหมือนว่า เล่มโชว์นี่จะเป็นเล่มเดียวตรงนั้น แต่มุมปกมันยับเดินหา....หา...หา..หา อีกไม่กี่นาฑีข้างหน้าร้านจะปิด ห้างจะปิด หยิบเล่มโชว์ไปถามพนักงาน พลางก็คิดในใจว่าถ้าเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายในร้าน...ก็คงจะต้องซื้อ ถามกับตัวเองว่าเราจะอ่านหนังสือนะไม่ได้จะดูปกแต่เพียงอย่างเดียว นักเขียนคนนี้ที่เราเคยคิดไปในทางเดียวกับเค้า คุณค่ามีอยู่มากกว่าจะมาคิดเล็กคิดน้อย แหมใครๆก็อยากได้ของดีไม่มีตำหนิ แต่ของมีตำหนิใช่ว่าจะไม่ใช่ของดี คุณค่าของหนังสือเล่มนี้ยังอยู่ครบ อย่างที่เคยเป็น...

ซื้อกลับมาอ่านอย่างมีความสุข สนุกกับเนื้อความถ้อยคำเรียงนั่น...แล้วก็ชวนให้นึกถึงตอนช่วงมัธยมปลาย ว่าเคยมีกรณีอย่างนี้มาครั้งนึงแล้ว เรือ่งมีอยู่ว่า...
หนังสือแบบเรียนรายวิชานึงขาดตลาด ทางโรงเรียนต้องจัดซื้อไปที่สำนักพิมพ์เองหรือไม่ก็ มีเหตุต้องเปลี่ยนสำนักพิมพ์เพื่อปากท้องของอาจารย์อันนี้สุดวิสัยไม่ทราบได้ เพราะตอนนั้น อาจารย์และบอร์ดของโรงเรียนเป็นผู้เลือกหนังสือให้เราเองในแต่ละรายวิชา
ก็สรุปเป็นว่า หนังสือจัดส่งมาอย่างรีบด่วน เพระาเปิดเทอมมาเดือนกว่าแล้ว จดกันมือหงิกแล้ว วันที่หนังสือมาถึง ตัวแทนห้องถูกอาจารย์เรียกไปรับหนังสือมาแจกเพื่อน มันก็ไล่แจกไปเรื่อยๆ
แจกไป ประมาณครึ่งนึง ผ่านเราไปแล้วล่ะ ... แล้วก็เป็นเรื่อง เพราะเล่มที่แจกไปปกมันยับ ไอ้คนที่ได้รับก็ลุกขึ้นคว้าแขนคนแจกแล้วก็ตะโกนว่า "เปลี่ยนเล่มให้กู เล่มนี้ปกยับกูไม่เอา" ทั้งที่มันไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนขยัน โดดเรียนก็บ่อย พูดง่ายว่า ถึงมันเอาหนังสือไปมันก็ไม่ได้อ่านนั่นเอง ไอ้คนแจกหนังสือก็เลยตะโกนกลับ "ก็เอาไปเถอะมันวนมาถึงมึงพอดี กูไม่ได้ตั้งใจ" อารมณ์ประมาณกรรมของมึง และมันก็คงคิดในใจว่า "ได้เล่มดีๆไปมึงก็ไม่ได้อ่าน" แต่กระนั้นไอ้คนรับมันก็ยังปกิเสธต่อ "ยังไงก็กูไม่เอา" ไอ้คนแจกมันก็แจกที่เหลือจนหมดครบทุกคน แต่ไอ้คนรับมันยังไม่ยอมหยุดชวนทะเลาะ จะเปลี่ยนเล่มให้ได้...สุดท้าย เราก็เลยเดินไปหาไอ้คนรับก่อนที่มันจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ ... แล้วเอาเล่มของเราให้มันไป ไอ้คนแจกก็หันมาขอบใจ
จบๆไป ปกยับ หน้ายับ หรือจะอะไร หนังสือก็ยังเป็นหนังสือ หน้ายังครบไม่ขาดหายก็ยังจะมีคุณค่าครบอย่างนั้น และเราก็ได้เรียนซะที ไม่งั๊นคงหาข้อสรุปไม่ได้... ห้องเราไปรับหนังสือเป็นห้องสุดท้าย จึงไม่สามารถเอาไปเปลี่ยนได้ ต่อให้เปลี่ยนได้ ... หนังสือเล่มนี้ก็คงจะไม่มีใครอยากได้...แค่เพียงเพราะความผิดพลาดของการจัดส่ง
คิดอีกที ถ้าเล่มที่ซื้อเมื่อวานปกไม่ยับ...เราอาจจะไม่ได้เจอก็ได้

-------------------------------------

เออ..ปลาตาย
เออ..ไฟไหม้ป่า
เออ..คนโดนยิง
เออ..เออ..เออ..
เป็นอะไรไปคนไทย..
เปล่าไม่ได้เป็นอะไร .. แต่แค่เป็นคนไทย
ก็เลยได้แต่ไทยๆ..ทำไมผิดตรงไหนที่ไทยๆ
เปล่าไม่ผิดก็ไทยๆเหมือนกัน..เอาเถอะน่าไทยๆ..
เดี๋ยวก็ผ่านไปไทยๆ..ใจร้ายแบบไทยๆ..แค่นี้เอง
เออ..เออ..เออ..
เออ..คนโดนยิง
เออ..ไฟไหม้ป่า
เออ..ปลาตาย

-------------------------------------------



Create Date : 16 มีนาคม 2550
Last Update : 16 มีนาคม 2550 10:58:50 น. 3 comments
Counter : 896 Pageviews.  

 
อือ..ไม่รู้สิคะ อ่านแล้วดันนึกไพล่ไปถึง..การเลือกคบคนที่เปลือกนอกอ่ะค่ะ..ไม่รู้ทำไมสิ เอ๊ะ..หรืออิชั้นจะคิดมากไป(ฟระ)คะ



โดย: i'm not superman วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:15:47:23 น.  

 
เมื่อก่อนซื้อหนังสือมาปกพลาสติกจากร้านไม่เอา
ต้องห่อปกเอง หนังสือต้องเนี้ยบ ถึงจะได้ลงมืออ่าน
ช่วงที่ไม่ว่างก็ทิ้งไว้ ไม่ห่อไม่อ่าน
จนต้องดองไว้หลายเล่ม

จนกระทั่งได้คิดใหม่ ทำใหม่ (ไม่ได้เลียนแบบใคร)
ถึงได้ปล่อยวางลงบ้างแล้ว
หนังสือปกยับเหลือเล่มเดียวในร้าน
ถ้าอยากอ่านยังไงก็เอา

คุณค่าอยู่ข้างในจริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณความคิดดี ๆ นะคะ


โดย: ร้อน ๆ หนาว ๆ วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:23:55:29 น.  

 
คุณ ไอ แอม น๊อท ซุปเปอร์แมน
กีย์ว่ามันก็เป็นเรื่องเดียวกัน คุณก็เลยคิดไปถึงเรื่องนั้นได้
อย่าตัดสินใครจากภายนอก
แต่ว่าการตัดสินคนเบื้องต้น...
มักจะถูกประเมินตั้งแต่แรกเห็น...ซึ่งนั่นก็ถูกต้องแล้ว
อย่างน้อยก็ต้องรู้กาละเทศะ..คุณว่ามั๊ย

คุณร้อนๆหนาวๆ
เคยโดนสอนอย่างคุณมา หมายถึงไม่ใช่นิสัย
การห่อปกหนังสือจึงเหมือนการถูกบังคับ...ไม่ชอบน่ะครับ
แล้วการปกพลาสติก ไม่ทราบเหมือนกัว่าใครคิด
รู้แต่ว่ามันลื่น เวลาอ่านหนังสือจะรำคาญมากกกกกกที่สุด
เพราะอิริยาบทในการอ่านมากมายหลายกระบวนท่า
แล้วแต่สถานที่ ฉะนั้นเวลาซื้อหนังสือ
ก็จะบอกพนักงานว่าไม่ต้องปก
เซฟเวลา ประหยัดทรัพยากร สบายใจทั้งสองฝ่าย
อ่านหนังสือสบายใจกันไปครับ




โดย: kee IP: 203.170.176.30 วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:9:45:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลุ่ย
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ปลุ่ย's blog to your web]