◕〝◕ผิดหวังกับบริษัทนายหน้ารับฝากขายบ้าน-ที่ดิน ◕‿◕✿◡‿◡✿
ขออภัยล่วงหน้านะคะ เพราะเรื่องยาวมากแค่อยากอธิบายว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ควรจะทำสัญญาฝากขายบ้าน-ที่ดินมั้ย เริ่มเรื่องคือ ประกาศขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมาหลายปีแล้วค่ะ จนกระทั่งเมื่อ ปลายเดือน ธ.ค.52 มีนายหน้าจากบริษัทหนึ่งโทรมาขอเป็นตัวแทนขายให้ ตัวแทนโทรมาพูดหว่านล้อมอยู่หลายครั้งจนครั้งสุดท้ายเค้าบอกว่า ขายเองมาหลายปีแล้วยังไม่ได้ทำไมไม่ลองใช้บริการจากเราดูมั้ยคะ ตัวแทนขายทั่วประเทศมืออาชีพ โอ้โหกล้าเนอะ เหอะๆๆ ยอมตกลงทำสัญญาฝากขายที่ ตารางวาละ xx,000 บาทหรือประมาณ xx ล้าน โดยให้เค้ามาดูแลด้านการขายให้เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 53 ปีนี้ค่ะ ลงทางอินเตอร์เน็ตและนิตยสารขายบ้านที่ดิน ต่อมามีจดหมายจากบริษัทนายหน้าว่าราคาที่ลงประกาศขายให้คือ xx ล้านนะคะ ในใจคิดว่ามันต่ำกว่าจากที่ตกลงทำสัญญาตั้ง x ล้านทำไมเขาไม่ลงขายตามที่ตกลงกันไว้ก่อนล่ะ ถ้าจะต่อรองก็ค่อยว่ากัน เลยลองโทรไปสอบถามเค้าตอบว่า อ๋อ ในที่ประชุมมีมติให้ประกาศขายเท่านี้เนื่องจากทำเลไม่ค่อยดีรถเข้าออกไม่สะดวกบ้าง สารพัดที่จะอ้างค่ะ เราก็โอเคเพราะถ้าต่อราคาลงมาอีกจาก xx ล้านก็คงลดได้อีกนิดหน่อย จากนั้นก็มีโทรเข้ามาสอบถามว่า มีใครเข้าไปดูบ้างรึยังเพราะมีลูกค้าให้ความสนใจหลายคนเค้าโทรมาถามทางจากพี่ค่ะ เราก็บอกว่า ไม่เห็นนะคะ เพราะที่เข้ามาดูจริง ๆ จะโทรมาที่เราโดยตรง ถ้ามาจากทางคุณ ๆ ก็ต้องรู้สิ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้าจะเห็นเบอร์โทรจากที่เราประกาศไว้ทางอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่เห็นจากนายหน้าเป็นคนติดประกาศไว้ แล้วส่วนใหญ่ถ้าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ นายหน้าจะต้องเป็นคนพาผู้สนใจเข้ามาพบเจ้าของที่เอง ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกค้าหากินแบบบุฟเฟ่ต์ ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนเงียบกริบตลอดพอเข้าปลายเดือนมิ.ย. เริ่มพาลูกค้ารายแรกมาพบคุยกันจริง ๆ จัง ๆ แล้วพูดว่า ปล่อยขายไปเลยค่ะ xx ล้านแล้วภาษี+ค่าโอนต่าง ๆ ให้ทางผู้ซื้อออก เอ๊ะ!!เริ่มงงอย่างแรงไหนราคามันลงมาเยอะขนาดนี้ฟะเนี่ย ชักปรี๊ด มีการบอกต่อว่า ค่าโอนค่าภาษีผู้ซื้อออกหมดนะคะรวมทั้งค่านายหน้าด้วยประมาร x.x ล้าน สรุปราคาขายประมาณ xx แล้วคนที่พามาจะซื้อเนี่ยก็อยู่ซอยเดียวกันอีกแทนที่จะเดินเข้ามาในบ้านถามจากเจ้าของเลยยังได้ ดันโทรเบอร์ตามประกาศที่นายหน้าติดไว้ ก็เท่ากับว่าลูกค้ารายนี้ตกเป็นของบริษัทนายหน้าไปเรียบร้อยแล้ว งงต่อมาคือนายหน้าไปเอาค่าใช้จ่ายอะไรมา เป็นล้าน เพราะค่าภาษี+ค่าโอนและอื่น ๆ เราดูแล้วมันแค่ไม่กี่บาท ค่านายหน้าอีกหลายแสน เบ็ดเสร็จไม่เกินเท่านี้นะ (คิดไว้แล้ว) แล้วอีกก้อนส่วนต่างคืออะไร เลยลองสอบถามเค้าไปว่าค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างมันเท่าไหร่คำนวณให้ดูหน่อย นายหน้าเค้าบอกว่า ค่าภาษี+โอน+อื่นๆ ที่กรมที่ดิน เท่านี้ และค่านายหน้า 3% ประมาณ xx เป็น x ล้าน นึกในใจว่าจะเอาเป็นล้านให้ได้เลยใช่มั้ยแก พอเราถามว่า ชั้นลองใช้โปรแกรมสรรพากรคำนวณค่าภาษี+อากรออกมาแล้วยังแค่นี้ ค่าโอนอีก รวมกันเป็น xx ทำไมคุณคำนวณได้ตั้ง x ล้าน นายหน้าเงียบเลยค่ะ แล้วมีการพูดเล่น ๆ ว่า คุณทำอาชีพเกี่ยวกับอะไรคะ ทำไมรู้เรื่องภาษีดีจังโทรถามกรมที่ดินมาหรอคะ พอบอกกลับไปว่า อ๋อทำเกี่ยวกับบัญชีและภาษีอากร เลยพอทราบข้อมูลมาบ้างแล้วแต่ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ตอนนี้แน่ใจแล้วค่ะว่าค่าภาษีและอื่น ๆ ไม่ใช่ xxxx อย่างที่คุณแจ้งมาแน่ ๆ ใครจะว่างกก็ช่างนะคะเพราะเงินที่หายไปหลาย ๆ แสนซื้อรถญี่ปุ่นได้คันนึงเลยนะคะ หรือออกแท็กซี่ให้คนเช่ายังได้เลย พอตั้งแต่เดือน กรกฎาคม มานี้เงียบกริบไม่รู้นายหน้าหายหัวไปไหน ไม่โทรมาถามเลยนะคะว่ามีคนเข้าไปดูบ้างหรือยัง หรือขายไปรึยัง หรือถามไถ่ก็ไม่เคยมีเลยจนถึงวันที่เขียนลงบล็อกนี่ล่ะค่ะ สรุปว่าในรอบเกือบ 9 เดือนตั้งแต่วันที่ทำสัญญา นายหน้าพาลูกค้าเข้ามาคุยแค่คนเดียว แต่แปลกใจตัวเราเองยังกลับหาคนเข้ามาดูได้เรื่อย ๆ แถมได้ราคาดีกว่าเป็นล้านอย่างที่นายหน้าเชียร์ให้ขาย สรุปว่านายหน้าคนนี้จากบริษัท E ไม่ได้เรื่องมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ จะพูดยังไงดีล่ะคะ ถ้าบอกว่าตอนนี้กำลังคิดว่า นายหน้าคนนี้กะจะได้ % ฟรี ๆ โดยไม่ต้องพาคนมาเลยใช้มั้ยเนี่ย เพราะตามสัญญาระบุไว้หากมีการซื้อขายในช่วงเวลานี้ ถึงแม้นายหน้าจะไม่ได้เป็นผู้พาลูกค้ามาก็ยังถือว่าบริษัทมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่านายหน้า 3% จากราคาขายด้วยเช่นกัน จะไม่ให้คิดได้ยังไงล่ะในเมื่อผ่านมา 9 เดือนพาลูกค้าเข้ามาแค่คนเดียว แถมลูกค้าคนนี้อยู่ซอยเดียวกันตอนหลังโทรมาเองบอกขอซื้อ xx ล้านต่ำกว่าเดิมมากกกก ควรจะปรี๊ดมั้ยล่ะคะถ้าเจอแบบนี้ขายเองชั้นยังได้ราคาดีกว่านี้ตั้งเป็นล้าน ได้เงินเพิ่มมาซื้อรถคันละล้านกว่าหรือดาวน์คอนโดหรือบ้านแล้วปล่อยให้คนเช่าได้เดือนนึงเป็นหมื่นเลยนะนั่น ประเด็นที่ตัดสินใจทำสัญญาฝากขายกับบริษัท เพราะ 1. ตัวเราเองทำงานไม่มีเวลาพาใครไปดูได้เอง เพราะส่วนใหญ่ผู้สนใจจะชอบเข้ามาวันทำงาน ทำให้ตัวเราเองต้องลาหยุดบ่อย ๆ มีนายหน้าก็ให้เค้าพาเดินดูได้เลย 2. อย่างน้อยเค้าน่าจะทำราคาได้ดีกว่าไม่ใช่ทำให้ต่ำกว่าตัวเราเอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราเคยทำได้ที่ xx สูงกว่านายหน้าด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้ขายเนื่องจากเราคิดว่าที่บ้านเราทำเลมันใกล้รถไฟฟ้า BTS นะ(แต่ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินถึงนะต้องนั่งรถนิดหน่อย) ราคาควรจะได้ซัก xx นะเนี่ย แค่นี้น้อยไป (ถ้าติดรถไฟฟ้าติดถนนใหญ่เค้าขายกัน 5-7 แสน/ตร.ว. ขั้นต่ำ) ถ้าทำให้ต่ำกว่าที่เราเคยทำได้หยั่งงี้ขายเองดีกว่า ไม่ต้องเสียค่านายหน้าด้วย 555 3. นายหน้าเค้าน่าจะชัวร์ในเรื่องของค่าภาษี+ค่าโอนที่ถูกต้องกว่าเรา เพราะเค้ามีประสบการณ์ขายมาหลายที่ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะต้องไม่พลาด (แล้วก็พลาด 555) สิ่งที่เล่ามานี้ไม่ได้ว่าอาชีพนายหน้าเป็นเหมือนทำนาบนหลังคนนะคะ เพราะนายหน้าที่ดี ๆที่ตั้งใจหาลูกค้ามาช่วยซื้อก็มี เพียงแต่ที่เรากำลังเจออยู่ตอนนี้มันไม่ดีไงคะ แล้วช่วงหลัง ๆ ที่เงียบไปปล่อยให้เราหาลูกค้าเอง ซึ่งนายหน้าเค้ารู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าของเค้าก็ขายเองด้วย เค้าอาจจะคิดว่าจะไปเหนื่อยพาไปทำไมถ้าขายได้ยังไงก็ได้ค่านายหน้าอยู่ดี น่าคิดนะคะ ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าคนที่โทร ๆ เข้ามาสอบถามที่ดินว่าขายไปรึยัง สนใจอยู่จะเข้าไปดู ที่ดินอยู่ตรงไหน คนเหล่านี้เป็นคนที่พวกนายหน้าใช้ให้ลองมาโทรสอบถามรึเปล่า เพราะถ้าเค้าสืบรู้ว่าแอบทำสัญญามัดจำหรือซื้อขายเค้ามีสิทธิ์ฟ้องเอาเงินค่านายหน้า 3% ได้ทันที (ชักเสียว ๆ 555) สุดท้ายจะฝากเตือนคนที่กำลังจะฝากขายบ้าน-ที่ดินกับบริษัท ที่หวังว่าจะมาเป็นมือเป็นเท้าแทนเราว่าควรจะทำสัญญาดีหรือ 1. สัญญาจะผูกมัดตัวคุณอย่างน้อย 1 ปี ทำอะไรภายในปีนี้ต้องจ่ายค่านายหน้าแน่นอน 2. ค่านายหน้า 3% จากราคาขาย โดยลูกค้านายหน้าจะพามาหรือตัวผู้ขายหามาก็ต้องจ่ายส่วนนี้อยู่ดี 3. ลูกค้าที่นายหน้าพาเข้ามาหากไม่ตัดสินใจซื้อภายในระยะเวลาตามสัญญา ภายหลังหากตกลงซื้อก็ยังถือว่าลูกค้าคนนี้เป็นของบริษัทอยู่ คุณก็ต้องจ่ายค่านายหน้า 3% อยู่ดี 4. หากคุณเป็นคนหาลูกค้ามาได้เอง คุณอยากจะจ่ายค่านายหน้า 3% ให้นายหน้าอยู่มั้ย ถ้าไม่อยากคุณจะทำสัญญาซื้อขายในระหว่างนี้ก็ไม่ได้ คุณต้องรอจนครบสัญญาถึงจะทำได้ รอไปอีกค่ะ 5. บริษัทนายหน้าจะให้วางเงินมัดจำทั้งหมดไว้กับบริษัทฯ ถึงเวลาก็หักกลบจากค่านายหน้าที่เหลือ
เราไม่รู้ว่าคนที่อ่านอาจจะคิดว่าเราเห็นแก่ตัวรึเปล่าหรือบางคนอาจคิดว่า สงสัยไม่อยากจ่ายค่านายหน้าอ่ะเด่ะ แต่เราคิดว่าคนที่ว่าเราเห็นแก่ตัวคงเป็นพวกนายหน้าที่ทำตัวแบบที่เรากล่าวไว้แน่ ๆ คำตอบเราชัดเจนนะว่า ถ้านายหน้าพาคนเข้ามาแล้วได้ราคาที่เราพอใจหรือขยันหาคนมาให้เราเลือก ค่านายหน้าเรายินดีจ่ายแน่นอน แต่ถ้านายหน้าทำงานแบบออมแรงแทงกั๊กแล้วยังจะหวังค่านายหน้า 3% อีก พูดได้เลยว่ายังไม่ขายในช่วงสัญญาแล้วค่านายหน้าก็ไม่จ่ายด้วย มีไรมั้ย ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านมายาวมาก ก็มันไม่ไหวจริง ๆ นี่คะเจอแบบนี้เซ็งมากกกกกกกกกกก ใครมีความคิดเห็นอะไรหรือเคยเจอประสบการณ์แย่ ๆ จากพวกนายหน้าแบบนี้โพสต์ได้เลยค่ะ ยินดีมาก
Create Date : 05 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 9:06:22 น. |
|
77 comments
|
Counter : 39284 Pageviews. |
|
|