Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
+•+•+•+ [ ป้อมพระสุเมรุ - สวนสันติชัยปราการ ] +•+•+•+

สวัสดีจ้า.....

เมื่อบ่ายๆ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ไปถ่ายภาพที่ ป้อมพระสุเมรุ มาค่ะ .....

อันที่จริง เพื่อนจากห้องฟูจิที่อยู่ต่างจังหวัดคนหนึ่ง (ป้านัน-filmgus) ได้เข้ามาทำธุระที่บางกอกค่ะ จัดการธุระปะป้งเสร็จสรรพ เลยคิดจะเดินถ่ายภาพเล่นในบางกอก เห็นว่าตอนเช้านัดกันไปถ่ายภาพที่พิพิธภัณฑ์ดอกบัวตอนเช้าตรู่ ที่รังสิตไกลปู๊นโน่นแน่ะค่ะ เราไม่ได้ไปเพราะตื่นเช้าไม่ไหว

เลยมาเจอกันบ่ายๆ ที่ป้อมพระสุเมรุจ้า




ตอนรับโทรศัพท์งัวเงียๆ เที่ยงๆ ได้ยินแว่วๆ ว่าไปถ่ายรูปที่ ป้อมพระจุลฯ กัน ก็ไม่ได้นึกอะไร รีบอาบน้ำอาบท่า พออาบเสร็จ นึกขึ้นมาได้ว่ามันอยู่ไกลมากๆ นี่หว่า

เลยโทรไปถามใหม่ ได้ความว่าไป ป้อมพระสุเมรุ ค่ะ เกือบหลงป้อมซะแร้น คิกคิก




ตอนเราไปถึง สมาชิกกำลังไปนั่งหลบแดดอยู่ที่ร้านกาแฟ ในรั้ว บ้านพระอาทิตย์ ซึ่งอดีตเป็นวังเก่าค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกเจ้าของคือคุณน้าสนธิ ลิ้มทองกุลนี่เอง อิอิ


ป้อมพระสุเมรุนี่ ตั้งอยู่ที่รอยต่อระหว่างสองถนนค่ะ ตรงมุมหนึ่งของป้อม ก็เลยปักป้ายชื่อถนนมันสองป้ายประชันกันซะงั๊น คือถนนพระสุเมรุ กับถนนพระอาทิตย์ค่ะ อยู่ตรงข้ามกับร้าน โรตี-มะตะบะ ชื่อดังพอดีค่ะ ซึ่งตรงร้านนั้นทั้งแถบ เป็นตึกแถวรูปแบบเก่าๆ เท่ห์สุดๆ ค่ะ


...............


ซื้อข้าวมันไก่ประตูน้ำมาฝากด้วยน๊า...ซื้อมะตะบะที่ถนนพระอาทิตย์มาฝากด้วยน๊า...

ซื้อมาฝากน๊า ไม่ได้ฝากซื้อ เป็นอะไร...เป็นสิว...




นั่งทานกาแฟอ้อยอิ่งกันเก๋ๆ เสร็จ ก็เช็คบิลล์ออกมาเดินย้อนกลับไปที่ป้อม และสวนสันติชัยปราการกันใหม่ค่ะ




ต้นไม้ในภาพนี้คือต้น "ลำพู" ไงคะ เป็นไม้ท้องถิ่นดั้งเดิมของแถบนี้ ต้นใหญ่ๆ นั่น อายุเกิน 100 ปีนะคะ และเป็นที่มาของชื่อย่านนี้ด้วย คือ "บางลำพู" ไงคะ

และคงเป็นธรรมดาโลก เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สรรพสิ่งก็ต้องเปลี่ยนแปลง ก็คงไม่มีแสงวิบๆ ของหิ่งห้อยมาให้เห็นในยามค่ำคืนอีกแล้วล่ะค่ะ.....


ทั้งบ้าน รถ และคน ไล่มันไปหมดนานแล้ว




พื้นที่บริเวณนี้ (ข้างๆ ป้อม) เมื่อก่อนเป็นที่ตั้งของโรงงานน้ำตาล และโกดังเก็บสินค้าของบริษัท ศรีมหาราชาน่ะค่ะ ต่อมาได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งหมด 8 ไร่นี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ให้ออกมาเป็นสวนเกร๋ๆ นี้อ่ะ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า "สวนสันติชัยปราการ" ค่ะ




สิ่งก่อสร้างอันหนึ่งงามๆ ที่เห็นอยู่กลางสวนเป็นที่เด่นชัดนี่คือ "พระที่นั่งสันติชัยปราการ" ค่ะ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบ 6 รอบพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ สร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งหมด เป็นศาลาทรงจตุรมุข งดงามมากค่ะ




ในอดีต ป้อมนี้ก็เป็นป้อมสำคัญมากๆ ป้อมหนึ่งของบางกอกนะคะ เพราะจุดนี้เป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ค่ะ ปัจจุบันเหลือป้อมแบบนี้ให้เห็นเพียงแค่ 2 ป้อมเท่านั้นค่ะ


วันนี้ มีงานศิลป์ๆ เกร๋ๆ อะไรไม่ทราบ มีการเอาป้ายชิ้นงานต่างๆ มาแขวนโชว์รอบๆ ป้อม และมีดนตรีเกร๋ๆ เล่นกันด้วยค่ะ




ก็ถือว่าตรงสวนนี่ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสบายๆ อีกที่นึงนะคะ นอกจะมีงานศิลป์เกร๋ๆ มาโชว์แล้ว ก็ยังมีฝรั่งทั้งชาย-หญิง มานั่งอ่านหนังสือเล่น รวมทั้งมีคนมานั่งทำโยคะตรงรอบๆ ป้อมด้วยค่ะ


เราเดินวนรอบๆ ป้อมถ่ายรูปเล่นจนหน่ำใจแระ ก็แหงนขึ้นไปมองซักหน่อย ป้อมนี่ก็ใหญ่พอสมควรค่ะ แบ่งเป็น 3 ชั้น ทุกชั้นสร้างเป็นรูป 8 เหลี่ยมค่ะ และมีปืนใหญ่ตั้งยืนปลายกระบอกออกมาเป็นระยะๆ ค่ะ เห็นว่าตรงชั้น 3 บนสุดเคยถล่มลงมาแล้ว แต่ก็บูรณะขึ้นมาใหม่ในปีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีน่ะค่ะ




บ่ายจัดๆ แล้ว เราเลยลาจากป้อมพระสุเมรุ และสวนสันติชัยปราการกันไปเท่านี้นะคะ แล้วเดินเท้ากันไปที่ วัดบวรนิเวศวิหาร กันต่อค่ะ

อันที่จริง ตลอดระยะทางที่ผ่านบริเวณนี้ สมัยก่อนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก จนต้องตั้ง "วังหน้า" หรือบวรราชวังไว้บริเวณนี้ค่ะ ดังนั้นตึกเก่าๆ และบ้านเรือนบริเวณนี้ จึงเป็นที่ตั้งของเจ้านายเชื้อสายวังหน้า และข้าราชบริพารสังกัดกรมกองวังหน้าหลายหลังค่ะ


แต่ปัจุบันนี้ น่าจะกลายเป็นผับเล็กๆ เกร๋ๆ ประเภทร้านเหล้านั่งสบายๆ ไปหมดแระค่ะ




เสียดายที่ว่าเมื่อเราเดินไปถึงวัดบวรฯ แดดก็หุบ และเหมือนฝนตั้งเค้าจะตกซะแล้วค่ะ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมาเลย ส่วนภาพนี้เป็นป้าขายพวงมาลัยตรงหน้าประตู "เซี่ยวกาง" น่ะค่ะ ซึ่งก็ได้ทีเลย ถือโอกาสตีซี๊กับป้า ถามว่าทำไมรูป "เซี่ยวกาง" ที่บานประตูทั้งหมดตรงนี้ มีรอยอะไรดำๆ ป้ายอยู่ที่ปากด้วย พร้อมทั้งมีถุงโอเลี้ยงดำๆ ห้อยกระเตงอยู่ประตูละหลายถุง

ป้าหัวเราะถูกใจที่มีคนมาชวนคุยด้วย แล้วบอกว่าคนเขามาแก้บนน่ะ เจ้าพ่อเซี่ยวกางท่านชอบ "ฝิ่น" น่ะค่ะ คนจึงชอบมาบนด้วยฝิ่น และของสีดำเช่นโอเลี้ยงน่ะค่ะ ดังนั้นรอยดำๆ ตรงปากนั่นคือ "ยางของฝิ่น" ที่เค๊ามาแก้บนโดยป้ายไปที่ปากท่าน พร้อมโอเลี้ยงอ่ะ

ลืมถามป้าไปว่าแผงพวงมาลัยป้าน่ะ มีฝิ่นแอบขายอยู่ใต้โต๊ะด้วยหรือเปล่าเนอะ คิกคิก

ป้ามัวแต่หัวเราะ อิอิ




ในวัดบวรฯ มีแมวเยอะจังค่ะ เพื่อนๆ ที่ไปด้วยถ่ายแมวมากันเยอะ ส่วนเราเป็นคนรักหมา วันๆ ชอบจับหมารวบขาสองขาหน้า พาดให้มันยืนเกาะขาเรา แล้วเอามือตบแรงๆ ที่ต้นขาหน้าและหลังซ้ายขวาอย่างละทีให้ดังป๊าบๆๆ หมามันชอบน่ะ

เราเลยจับแมวที่วัดบวรฯ ลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งเอามือตบๆ แมวให้ดังป๊าบๆ น้ำหนักในการตบเท่ากันกะหมาค่ะ เห็นแมวมันทำหน้าเชิ่ดใส่เรา แล้วเดินสะบัดก้นกระโดดแผล๊วข้ามกำแพงโบสถ์หายจ้อยไปเรยค่ะ

ไม่ยักกะรักเราแบบหมาแฮะ


.............


หลังจากนี้เรากลุ่มใหญ่ก็แยกย้ายกันค่ะ เรากับสมาชิกผู้มาเยือนบางกอก ไปสมทบกับอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อเลี้ยงส่ง ก็เลยเดินทางไปร้านอาหารทะเลเพื่อหาปู หอย กุ้งมาเผาสู่กันกินค่ะ.....

เป็นอันว่าจบบ่ายๆ สบายๆ ของวันอาทิตย์นี้เพียงเท่านี้


สวัสดีจ้า .....





Create Date : 30 กันยายน 2548
Last Update : 12 ตุลาคม 2548 3:25:59 น. 13 comments
Counter : 2210 Pageviews.

 
ป้านันเข้ากรุงนี่เอง ^^


สวัสดีคุณกำปงด้วยค่า ...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:7:46:55 น.  

 
นี่อยู่ใกล้ ๆ ออฟฟิสบันทึกสีขาวเลย คราวหน้ามาแถว ๆนี้บอกนะคะจะพาไปเลี้ยงข้าว


โดย: บันทึกสีขาว วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:8:25:23 น.  

 
แวะมาดูรูปภาพสวยๆค่า


โดย: ค้างคาว IP: 202.176.117.57 วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:8:28:36 น.  

 
รูปสวยมากกกกกกกกก เลยค่ะ ถ่ายเก่งจังเลย ชอบมุขดีแทคอ่ะ ขำดีอิอิ


โดย: ถั่วแดงเย็น วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:13:46:13 น.  

 
Wowwwww

มาเยี่ยมบล็อกของสาวน้อยน่ารักยามบ่ายจ้ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:14:03:08 น.  

 
ภาพสวยมากๆเลยค่ะ


โดย: fakeplasticgirl วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:15:18:45 น.  

 
เห็นแล้วเกิดอารมณ์อยากไปเดินเล่นเลยค่ะ
"บางลำพู" พูดถึงก็อยากไปจังเลย เมื่อก่อน
ถือเป็นถิ่นช้อปปิ้งวันหยุดเหมือนกันนะค่ะ

คิดถึงจัง


โดย: JewNid วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:21:27:33 น.  

 
ถ่ายwideได้ไม่น่าเบื่อดีครับ กว้างแบบนี้ใช้18mm เหรอ?


โดย: แป๊กก วันที่: 1 ตุลาคม 2548 เวลา:8:16:18 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านมากๆ จ้า ที่มาชมภาพและทักทายกัน

.................

ตอบคุณแป๊กก ---> ใช้เลนส์ซิกม่า 10-20 mm ค่ะ ส่วนใหญ่ใช้ที่ช่วง 10 อ่ะค่ะ

..................


โดย: กำปงพิราเทวี วันที่: 2 ตุลาคม 2548 เวลา:16:34:00 น.  

 
แหมป้อมหายขลังเลย โดนป้ายโฆษณาแขวนแบบนี้

แต่ก่อน หมอซ้งรายการตามไปดูเคยเอาถนนระหว่างป้ายชื่อถนนทั้งสองมาออกครับว่า

ถนนยาวสามเมตรนี้จะชื่อว่าอะไรดี... ถนนอาเมรุ หรือว่า สุทิตย์ ดี...


โดย: namit วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:17:38:11 น.  

 
ขอยืมลิงค์ ไปแปะไว้ พาคนมาเที่ยวนะคะ ตามไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ...
//www.managerradio.com/radio/webboard/question.asp?GID=68355&Mbrowse=1 ขอบคุณค่ะ...


โดย: ชบาแดงสีเหลือง IP: 222.123.128.188 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:8:21:49 น.  

 
ฝรนสางฝ


โดย: วลง IP: 124.120.40.198 วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:25:39 น.  

 
ลองดูรูปสวยๆ ของสวนสันติชัยปราการกันครับ
//www.shareapic.net/content.php?gid=640852&owner=bluebaney10


โดย: wikie IP: 118.172.49.156 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:47:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กำปงพิราเทวี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ สำหรับ
2 รางวัลใน BlogGang Award #2









Creative Commons License

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
Friends' blogs
[Add กำปงพิราเทวี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.