Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
รักของเรา ตอน 4

รักของเราตอนที่ 4 จากกะทู้ ค่ะ

//topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2007/06/M5478058/M5478058.html


พักขายยาคะ (หนังกลางแปลง ค่ะ )

เล่าเรื่องกำไรชีวิต

ประเทศภูเก็ตเนี่ย นอกจากเป็นตำนานรักของฉันแล้ว ยังเป็นตำนานรักของคนที่ฉันรู้จักอีก 2 คู่
ฉันจึงมักบอกกับหนุ่มสาว ที่กำลังคั่ว ๆ กันว่า มาภูเก็ตซิ เสร็จทุกราย (ห้อง บีพี เค้าจะพูดว่าไปเสม็ด เสร็จทุกราย ค่ะ ) ฉันว่าด้วยความสวยงามของธรรมชาติ บรรยากาศมันพาไปเสีย 60 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 40 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ความเป็นตัวตนของตนเอง เนี่ยฉันก็แพ้ภัย 60 เปอร์เซ็นต์นี่แหละ จนสเปคที่ตั้งไว้ ลดลงสู่ก้นเหวที่เดียว

เพื่อนฉันนัดเดทกันที่ภูเก็ต ผู้ชายเป็นอเมริกัน ตัวบาเห่งเลย ส่วนเพื่อนเป็นสาวสงขลา ผู้ซึ่งเมื่อก่อนเรียกตูดว่าวาน เช่นเจ็บตูด มันก็จะพูดว่าเจ็บวาน ฉันก็ว่าอะไรของมันว่ะ มาบัดนี้ ฉันบอกมันว่า ช่วยด้วย ฉันเรียกตูดว่าวานเสียแล้ว โทรมาให้ฉันหาที่พักให้ และแล้วก็เสร็จอีกรายได้แต่งงานกัน แล้วมาฮันนีมูนที่ป่าตอง ฉันก็หาห้องพ้กให้ ดูแล เทคแคร์ ไปหาที่ห้อง ฝรั่งจะส่งเบียร์ให้กิน เพราะรู้คอกัน หรือไม่งั้นก็ด้วยสมญาฉันที่ว่า
กินอย่างไง ก็ไม่เมาหรอก

วันที่ 2 ฉันก็ว่าเดี๊ยวค่ำ ๆ ค่อยโทรไป ว่าจะไปไหนกันไหม ก็กำลังทำกับข้าว ใส่กางเกงขาสั้น หั่นผักบุ้งจะผัด มันก็โทรมาว่าอยู่ซอยบางลา แฟนมันจะซื้อมีดไว้ประดับห้อง ให้มาช่วยต่อราคาหน่อย ฉันก็เออ ไปแป๊บเดียวเดี๊ยวกลับมา ผักบงผักบุ้งคาเขียงไว้อย่างนั้นแหละ ก็ไปต่อราคาซื้อเสร็จ ก็แวะดื่มซะหน่อย ตรงนั้นมันซอยบางลาแล้วเนี่ย พอว่าจะกลับ สามีโทรมา ไฟดับ ยังไม่ต้องเข้ามาหรอก ฉันก็ว่าเหรอ เหรอ งั้นเดินเล่นก่อน ก็เข้าอีกสักร้านหนึ่ง ตานี้ก็สั่งพีน่าคาราด้า ซิ มันก็หวาน ๆ มีกะทิด้วย (เคยเป็นนักศึกษาฝึกงาน บาร์เทนดี้ ค่ะ มันส์มาก ช่วงนั้น) ว่าจะกลับ โทรไป ไฟมายัง ยัง

เอ้าเดินเล่นอีก ไปเจออีกร้านหนึ่ง ก็สั่งเบียร์คะ ต่อมาฝรั่งมันเกิดอาการอยากท้าทายสมญานามฉัน แล้วที่ร้านมีรายการดิ้ง3 แก้วแถมเสื้อตัวหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นโวดก้ามั๊ง มันก็ท้าว่าฉันไม่กล้าหรอก หนอย หนอย ยังไม่รู้จักฉันเสียแล้ว

ช่วงนั้นแฟนโทรมาบอก ไฟมาแล้ว แต่ใจฉันตอนนั้น ไม่ได้ กลับตอนนี้ เสียเอกราชแน่เลย บอกสามี เดี๊ยว ไป ก็เอาเลย 1 คว่ำแก้ว 2 แล้วก็ 3 ระหว่างนั้นแฟนโทรมาตามอยู่หลายที บอกว่าเดี๊ยว เดี๊ยว จนได้เสื้อมาหนึ่งตัว เสื้อแห่งความภาค ภูมิใจมาก

ต้องไปห้องน้ำ ห้องน้ำ สมองสั่งงานฉัน
มันพะอืดพะอม จนจะไม่ไหวแล้ว เพื่อนก็เข้ามาดู งั้นกลับ ๆ ขี่มอไซค์ไหวไหม รู้สึกฉันจะบอกเพื่อนว่าไหว
แต่ถ้าไม่ไหว เดี๊ยวให้แฟนมารับ
ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าจะได้นอนนอกบ้าน ก็ไปตั้งหลักที่โรงแรมเพื่อน
เห็นไหม ไม่เมา ไม่เมา ไม่งั้นจะขี่มอไซค์ได้เหรอ รู้สึกว่าพอถึงโรงแรม เหมือนมันจะวูบเสียให้ได้ ออกมาลูบหน้าลูบตา อะ หายแล้ว กลับบ้านล่ะ ก็ขี่มอไซค์กลับบ้าน ถึงบ้านพ่อมาเปิดประตูให้ เคาะห้อง มัน (คุณเธอ)ไม่ยอมเปิดประตูห้อง ฉันก็นอนข้างนอกก็ได้ว่ะ ตอนเช้าตื่นมาทำงาน โสร่ เสร่ เลย เพื่อนโทรมาเพราะมันจะกลับวันนี้แล้ว นัดแนะกันว่าเดี๊ยวสามีฉันจะไปส่ง พอเล่าให้เพื่อนฟังว่า เมื่อคืนสามีฉันโกรธมาก เนี่ยฉันต้องนอนนอกห้องเชียวนะแก
เพื่อนบอกว่า เดี๊ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง มันกลัวเสียยิ่งกว่าฉันกลัวเสียอีก 555

ตั้งกานั้น ประสบการณ์สอนว่า จะออกนอกบ้านคราใด
เตรียมที่หลับที่นอนนอกห้องให้พร้อมครัน



Create Date : 13 มิถุนายน 2550
Last Update : 22 เมษายน 2552 12:42:29 น. 11 comments
Counter : 450 Pageviews.

 
อะ เล่าต่อ วันกลับแกก็มารับเพื่อไปส่งสนามบิน ก็มีการให้ที่อยู่กัน แกก็ควักบัตรประชาชนมาให้ดู ฉันรีบรับมาดู ที่คำนำหน้าชื่อ อนิจา มันไม่ได้มีแยกแยะไว่เหมือนกับ
ผู้หญิงนี่หน่า แล้วฉันจะรู้ได้งัยว่ายังโสดหรือเปล่า ว่ะเนี้ย ก็บอกแต่ที่อยู่มาก็หมดเรือ่ง ก็จดที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ แลกเปลี่ยนกัน แอบชำเลืองดูอายุสมอง
แวบหนึ่งที่บัตร

ตลอดทางกลับมา เอ๊ มีความสุขจริงวุ้ยตรู ก็คิดอยู่แล้วว่ากลับไปถ้ามันไม่ยั่งยืน มีเงินก็จะคืนค่าเครื่องบินให้แก ปรากฎว่าเราไปยังไม่ถึงร้านทัวร์ (ปกติ ทำงานราชการเสร็จ จะมาทำทัวร์กับพี่คนหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ) ที่จริงจะอยู่ต่อก็ได้เพราะตั้งใจจะหายซะหนึ่งอาทิตย์ประท้วงงานราชการ แต่ติดที่ต้องมาทำงานที่ทัวร์ต่อ นะคะ แกโทรศัพท์มาเล่าให้พี่คนนี้ฟังหมดแล้ว (เห็นซื่อ ๆ อย่างนี้ ฉลาดล้ำลึกอยู่เหมือนกัน รู้จักฝากเนื้อฝากตัว)

ก็ต้องเล่าให้พี่คนนี้ฟังว่าไปงัย มางัย
ต่อมาคุณเธอก็ให้ลาออกจากงานที่ทัวร์ เพราะหากขืนยังทำอยู่ ฉันจะไม่มีโอกาสได้ไปภูเก็ตอีก

(แกมองการณ์ไกลน่าดู)


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:48:04 น.  

 
กลับมาแกก็โทรมาตลอด แกอาจจะตั้งโปรแกรมไว้ก็ได้ หรือใช้จิตวิทยา ให้มันอยู่ในบรรยากาศตลอดเวลา
ตอนนั้นยังไม่มีมือถือกันหรอกคะ แต่แกจะมีเบอร์ทุกที่ที่ฉันจะอยู่ ที่ทำงานราชการ (ที่กระทรวง ฯ ) ที่ทัวร์ ที่บ้าน

ตอนเช้าก็ ตื่นหรือยัง กินข้าวน่ะ
ตอนเที่ยงก็ น้องกินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่
ถ้าโทรมาหลังเที่ยงก็ กินข้าวกับอะไร
ตอนเย็นก็ เลิกงานยัง อยู่ไหน
ตอนมืดก็ อยู่ที่ทัวร์เหรอครับ
ตกดึกหน่อย ถึงบ้านหรือยัง
ดึกมาก นอนยัง
ดึงมากถึงดึกม๊ากมาก หลับยัง ดู๊ ... มันยังปลุกฉันมารับโทรศัพท์

แกคงกลัวว่า หากแกไม่โทรมา ฉันคงไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติแน่ 555
ซึ่งฉันก็ตอบจริงมั๊ง หลอกมั๊ง
ไปตามสถานการณ์จะพาไป

อ้อ ด้วยความที่แกยังไม่เลิกรา และสมัยเด็กฉันได้รางวัลชนะเลิศวิชาศิลปะ เราก็ส่งจดหมายประดิดประดรอย (จะโชว์ความสามารถอันน้อยนิดที่มีอยู่ )
จึงมีจดหมายไปถึงเขียนคำว่า ...............ทะแล่ม
........ แทป .................. แท่ป .........


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:50:53 น.  

 
คิดถึง ..............คิดถึง ...............คิดถึง ..................
คิดถึง ..............คิดถึง ........คิดถึง ..................
คิดถึง ..............คิดถึง ...
คิดถึง ..................
คิดถึงป่าตอง คิดถึงกะรน คิดถึงกะตะ

คิดถึงยะนุ้ย คิดถึงในหาน คิดถึงแหลมพรหมเทพ

คิดถึงอะไร .......ไม่เท่าคิดถึงพี่

หนึ่งหน้ากระดาษ ล้วนเต็มไปด้วยข้อความเหล่านี้


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:53:07 น.  

 
อ้อ จำนนด้วยหลักฐาน แสดงว่าครั้งแรกต้องผ่าไปแหลมพรหมเทพแล้วล่ะซิ
เพราะฉะนั้นรู้สึกว่าข้ามไปหนึ่งช็อต
เรือ่งเล่า อาจจะโดดไปโดดมา ภาษาก็อาจไม่สละสลวย ภาพยังอาจไม่สอดคล้อง
คงต้องรอให้เป็นดาราก่อน แล้วหนังสือจะออกมาได้กิ๊บเก๋เลยที่เดียว

ตอนแกพาไปเที่ยวแหลมพรหมเทพน่ะ เดินจากที่จอดรถ ไปข้างบนฉันก็ยังโอเคล่ะ
แต่พอเห็นทางเดินลงไปที่หัวแหลมเท่านั้นแหละ
ฉันเนี่ยตาเหลือกเลยล่ะ
ในใจคิดว่า มันต้องพาฉันเดินลงไปถึงหัวแหลมนั้นแน่
(ย้อนกลับไปที่เหตุผลการเอาจริงเอาจัง ซีเรียส + กับช่วงนาทีทอง)
เท้าฉันเนี่ยตะคริวกินไปล่วงหน้าข้างหนึ่งทีเดียว

เดชะบุญ ไม่รู้อะไร ดลจิดดลใจแก ไม่พาฉันเดินลงไป
ไม่อย่างนั้น ต่อให้ตะคริวจับทั้ง 2 ข้าง ฉันก็ต้องกระหย่องกระแหย่งคลานลงไป
เคยเป็นไหม ที่เพื่อนดี๊ ดี กับเรา จนเราไม่กล้าปฏิเสธน่ะ

และนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ไม่เคยได้ลงไปสัมผัสเลย
ส่วนยะนุ้ย แกก็พาไปนั่งกินข้าว
หาดนี้เป็นหาดเล็ก ๆ สงบ วิวสวย ชอบหาดนี้ที่สุดเลย
แต่ชอบพี่มากกว่าค่า 555



โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:55:29 น.  

 
หลังจากที่ส่งจดหมายไปแล้ว ก็หวังว่าจะได้รับกลับ
ฮึ !! ไม่มีหรอก เคยถามทำไมไม่ส่งจดหมายตอบบ้างเลย
แต่ที่จริงไม่น่าถามโง่ ๆ นะ
ก็แกโทรวันหนึ่งเป็นสิบหน แล้วจะมีอะไรต้องมาเขียนอีก
เผลอ ๆ หากแกคิดจะเขียน แกยังไม่ทันได้ปิดซอง
แกคงโทรมาก่อนแล้วละ

แต่ที่จริงตอนนี้รู้เหตุผลแล้วล่ะ ว่าทำไมแกถึงไม่เขียน
แล้วจะได้เฉลยกันต่อไป ...................

แกยังโทรมาทุกวัน จนเราเสียดายค่าโทร เริ่มรู้สึกว่า
แกกำลังจะฝืนกระแสรักแท้ แพ้ระยะทางอยู่
เราเริ่มตั้งสติ และให้ข้อมูลใหม่ที่เป็นตัวตนของเรามากที่สุดเท่าที่จะมากได้

รวมทั้งเรื่อง ...... เราบอกว่าเรามีแฟนแล้วนะ
คือกลับมาแฟนเก่าก็ยังมาเวียนอยู่ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเรื่องจะลงเอ่ยที่ใด พอเริ่มสงสารว่าแกอุตสาห์โทรมาหาเราทุกวัน เลยตัดสินใจเล่าให้ฟังทุกอย่าง ทุกเรื่อง แล้วบอกว่าต่อจากนี้ก็ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน ว่าจะเอาอย่างไง จำได้ว่ามีคำพูดหนึ่งบอกแกว่า ถ้าจะสู้ก็ลองดู
ซึ่งเราก็คิดแล้วล่ะ ว่า
รักแท้คงแพ้ระยะทางนะ แกคงทนโทรอยู่ได้ไม่นานหรอก

แต่.....แกก็ยังโทรทุกวันแหละ จนวันไหนไม่ได้ยินพาลจะกินข้าวได้มากกว่าปกติ เอื้อก เอื้อก


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:56:51 น.  

 
อยู่มาได้สักเดือนหรือสองเดือน มันมีวันหยุด 3 วัน นะ แกก็ส่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินมาให้ลงไปเที่ยว แกก็จองโรงแรมให้ แถว ๆ ที่เดิมนั้นแหละ
เราก็งง งง ว่าทำไมแกไม่พาเข้าบ้าน แต่ก็ช่างเหอะ
ก็ยังไม่คิดอะไร และเราก็ยังไม่พร้อม แต่ด้วยความที่เรารู้เลขที่บ้านแกใช่ไหม เวลาไปไหนมาไหน เราก็จะมองหาเลขที่บ้านแกโดยมองเน้นไปที่คฤหาสถ์ 555 ตามความเจ้าบุญทุ่มของแก

แกมารับที่สนามบินกับลุงเจ้าของกระบะ หลังจากนี่แกก็เอา CBR พาเที่ยว เข้าใจแล้ว ว่า คำว่าไข่ติดถังหลังติดนม มันเป็นอย่างไร แต่เราก็นั่งระวังน่าดู เชอะ!! ไม่มีวันเสียล่ะ

แกพาไปที่พิพิทธภัณฑ์สัตว์น้ำ ขากลับรถเสีย ก็ทิ้งรถไว้ที่นั้น แล้วให้เพื่อนที่อยู่ที่นั้นแหละมาส่งป่าตอง

พูดถึงเพือ่นคนนี้ เพราะจะบอกว่า 10 กว่าปีที่แล้ว ที่เห็น เพื่อนของแฟนเป็นคนหน้าตาดีที่เดียวที่พูดถึงไม่ได้หมายความว่าไปปิ๊งอะไรเขา แต่พอดีไปเจออีกทีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พาเพื่อนไปเที่ยวอะควาเรียมอีกที เห็นสามีทักจำได้ว่า น่าจะเป็นคน ๆ เดียวกัน แต่ทำไมมันแก่อย่างนี้หว่า แกจนฉันตกใจ

ไอ้หย่า !! คนเราเนี่ยที่เห็นว่าหล่อสวยอยู่ตอนนั้น มันไม่ได้จีรังยั่งยืนหรอก ดีใจที่ฉันไม่ได้เลือกคนที่หน้าตา

รับรู้ไปถึงความรู้สึกของคนตาบอดที่เค้ารักกันว่า เค้าจะจินตนาการหน้าตากันได้อย่างไร
ก็คงเหมือนกับฉันที่มองไปที่หน้าตาแกที่ไร มันมองเลยไปถึงในจิตใจที่เดียว

นั้นคือคำตอบที่ว่า สเปคที่ลดลงยังก่นเหวนะ เพราะความดีที่แกมีอยู่นั้นเอง



โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:59:46 น.  

 
เคยมีพี่ที่ทัวร์นี่แหละ พูดว่า แฟนฉันดูเหมือนเดิม 10 ปีอย่างไร เดี่ยวนี้ก็อย่างงั้น ฉันก็เห็นด้วยที่ว่า 10 ปีที่แล้วขี้เหร่อย่างไร ปัจจุบันก็ขี้เหร่เท่าเดิม 55

ส่วนฉันนับวันจะสวยลง ๆ พร้อมกับความรู้สึกเสียดายตัวเองว่า สวย ๆ อย่างฉัน ทำไมมาอยู่กับคนขี้เหร่ ฟ่ะ

แต่แล้ว ความคิดอันน่าภาคภูมิใจของฉันก็ถูกทำลายลง พร้อมหลักฐานประกอบ คือ ตอนรับปริญญาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปถ่ายรูปที่สตูดิโอกัน ฉันเห็นรูปแล้ว งง กับความสามารถพิเศษของกล้อง ที่ขึ้นกล้องเป็นคน ๆ คุณเธอดูเด็กมาก ตรงกันข้ามกับฉันที่มีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า

จนฉันต้องอุทานว่า โอ อนิจจา ... รับไม่ได้ ....



โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:13:01:28 น.  

 
ตอนมาเที่ยวรอบ 2 เนี่ย แกยังเทคแคร์ ดูแลดีเหมือนเดิม
หัวค่ำก็ไปนั่งกินข้าว ชมวิว ที่ร้านนั้นแหละ พอปิดร้านก็ชวนเด็กเสริพที่ร้านมานอนเป็นเพื่อน 2 คน ก็พาเที่ยวกัน (เที่ยวกันของแฟนฉัน นะ คือ ขับรถดูแสงสี พาขึ้นเขา ลงเขา ชมวิว ยามค่ำคืน) ไปนอนเล่นที่เตียงผ้าใบชายหาดป่าตอง 4 คน

ตอนจะกลับ ฉันก็เตรียมจะขึ้นข้างหลัง คือโดยสำนึกว่า เราเด็กกว่า ปกติในตอนนั้น ไปไหนมาไหน เราก็จะเด็กกว่าใครอยู่แล้ว ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ มันสอนให้อ่อนน้อมถ่อมตนงัย
อย่างเวลาขึ้นรถใครเนี่ย มันก็ต้องขึ้นหลังตลอด ไม่นึกว่าวันนี้จะเป็นวันของเรา ปรากฎว่า 2 คนนั้น ร้องห้ามเสียงหลงเลย ตอนนั้นมันสะท้อนว่า ฉันเป็นคนสำคัญนะ หรือ วันนี้ฉันเป็นนางเอกนะ มีความสุขมาก

อยากบอกว่า ไม่รู้คุณจะเป็นใคร ในวันหนึ่งคุณจะเป็นนางเอกสำหรับคน ๆ หนึ่งเสมอค่ะ

ตอนชวนพี่เค้ามานอนเป็นเพื่อนด้วย ข่าวคลุกวงในบอกว่า เธคที่นี้ มันส์จะตาย ฉันล่ะ น้ำลายไหลยืด อยากไป อยากไป ... แต่ยังอดใจไว้

ฉันก็เลียบ ๆ เคียง ถามเรื่องแฟนฉันนั้นแหละ
ก็แหม !! อุตสาห์มาสืบราชการลับเนี่ย แฮ่ะ ๆ
สองคนนั้นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นน้ำใสอยู่บนใบบัวค่ะ

ส่วน 1 ใน 2 สาวเสริพ ณ ขณะนี้ อยู่เยอรมัน
มาซื้อบ้านหลังใหญ่อยู่ป่าตอง
ทำม่าย มันดีกว่าฉันเสียอีก ที่เรียนมาเสียตั้งมากตั้งมาย


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:13:04:14 น.  

 
ซึ่งแน่นอนล่ะ การมาของฉันครั้งนี้
ก็ต้องมาแบบเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิตฉัน
ประมาณว่าเกิดมาท่าไหน แกยังรู้เลย
ซึ่งฉันก็ตั้งใจที่จะให้แกรู้จักตัวตนของฉัน
ไม่แอปแบ๊วอีกต่อไป
เพื่อเป็นข้อมูลให้แกได้ตัดสินใจ

เวลาที่เรายังไม่คิดอะไรน่ะ เราสามารถเล่าเรื่องของเราทั้งดี ทั้งเลว ทั้งหมดได้ โดยที่ไม่กลัวว่าเขาจะไม่เลือกเรา ปัจจุบัน เรื่องบางเรื่องก็ไม่เล่า ใช่ไหม หากมันจะกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์

ซึ่งฉันก็เล่าให้แกฟังว่า กับแฟนเก่ายังไม่ถึงกับเลิกรากันไปหรอกน่ะ แกยังมาขอคืนดีอยู่

ส่วนกับแฟนเก่า ฉันก็เล่าให้แกฟังว่า เจอคน ๆ หนึ่ง กำลังดู ๆ อยู่นะ

ส่วนเรื่องของแก ฉันกลับไม่รู้อะไรเลย
ทุกวันนี้ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องในอดีตของแกหรอก ที่ว่าเป็นคนไม่เที่ยวนะ คือเที่ยวมาจนเบื่อ หรือ เป็นคนไม่เที่ยว ก็ไม่รู้
รู้แต่ว่า ทุกวันนี้ 3- 4 ทุ่ม มันนอนแล้ว 555


โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:13:07:04 น.  

 
มาครั้งนี้แกก็พาฉันไปเที่ยวพีพี ด้วยเรือใหญ่อยู่วันหนึ่ง
ฉันก็ดีใจ เฮได้มาเห็นสักที พีพี แต่กลับเฉยๆ นะ
ชอบภูเก็ตมากกว่า คงไม่ชอบที่มันต้องข้ามขึ้นรถลงเรือนะแหละ เหมือนกับสมุย ที่อยากจะไป๊ อยากจะไป
แต่พอได้ไปแล้ว ก็ไม่คิดจะไปอีก เบื่อตอนนั่งเรือค่ะ

เอามอไซค์ แต่วันนี้เป็นชอปเปอร์ ( เท่ห์อีกแหละ) โน้นนะไปพังงาแนะ ฉันนี่นั่งตูดระบมเลย
ดีนะ ที่ขาฉันไปโดนท่อเสียก่อน ไม่งั้นสงสัยแกควบถึงเชียงใหม่แน่ ก็เลยต้องมาประคบประหงมกับแผลฉันนี่แหละ

(รู้งี้แกล้งเอาขาไปถูกท่อไอเสียตั้งกะสะพานสารสินก็จบเรื่อง แลกกับความอึดของแก ** ช่วงนาทีทองไงคุณ)

พาไปซาว์น่าอย่างงี้ ชีวิตฉันเรื่องแบบนี้ไม่มีหรอก ตอนอยู่กรุงเทพ ฯ (คอนโด) ด้วยความที่ฉันโมโหคนข้างห้องมันชอบเสียงดังกัน ฉันเลยหลอกเพื่อนที่ทำงานมาตั้งวงนับเลขบ้าง ร้องคาราโอเกะบ้าง แก้แค้นข้างห้อง ไอ้เรื่องสุขภาพนะไม่มีเสียล่ะ ดังนั้น เวลามาพบเจอ
สิ่งดี ๆ ที่เขานำมาให้

เย็น ๆ แกพาไปวิ่งชายหาด ออกกำลังกายอย่างงี้ มันก็ดีใช่ไหมล่ะ ส่วนแกก็จะได้ไปออกกำลังกายของแกบ้าง ก็เนี่ยแหละ ผลดีของการออกกำลังกาย
ทำให้แกขี้เหร่เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ดูแก่

มีอยู่ครั้งหนึ่งไปไหนกันมาหว่า จำไม่ได้ แกขับรถยนต์ อยู่ดี ๆ แกก็เบครรถเสีย ฉันหน้าทิ่มเลย แล้วแกก็วิ่งลงไป กำลังสงสัยว่าจอดทำไม มีอะไร แกวิ่งไปซื้อนมให้ฉัน ฉันล่ะ ง๊ง ... งง อะไรของมันว่ะ
มนุษย์เราเนี่ย อะไรมันจะเป็นคนดีได้ขนาดนี้เลยเหรอ

สงสัยแกต้องเปิดหนังสือยุทธวิธีพิชิตใจฉันแน่เลย
ด้วยตัวตนผ้าขาว ๆ อย่างเนี่ย
ไม่น่าคิดได้เองขนาดนี้ เราว่า ............



โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:13:11:25 น.  

 
หลังจากคบ ๆ กันไปได้ซักพัก ก็ถึงเวลาที่หนุ่มเจ้าจะขึ้นมาพิสูจน์ทฤษฎี แกคงอยากจะมาสืบราชการลับบ้างแหละ

แกก็ส่งข่าวมาว่าแกจะขึ้นมาหากรุงเทพ ฯ ฉันเนี่ยเตี้ยมกับน้องชายน่าดู ปกติจะอยู่คอนโดกับน้องชาย เช่นว่า
ทำเป็นขอเงินพี่ต่อหน้าเค้านะ
อยู่ต่อหน้าเค้าเราก็ทำเป็นจนกันเข้าไว้
แม้ปัจจุบันไม่ได้ทำเป็นจน แต่มันก็ยังจนจริง ๆ อยู่ 555
เค้าก็ต้องแสดงความเป็นเจ้าบุญทุ่ม ใช่ไหม
เห็นไหมหนทางของการได้เงินมาโดยไม่ต้องขอ

เนี่ยแหละบาปกรรมของฉัน ตอนนี้เลยถูกแกดูดซะหมดตัวเลย (รู้น่ะ ว่าคิดอะไร )

การขึ้นมากรุงเทพ ฯ ครั้งนี้ เลยกลายเป็นผลดีกับแกไปในที่สุด เมือ่แฟนเก่าฉันโทรมาหา ฉันก็เล่าให้ฟังว่า แกจะขึ้นมาหาฉันที่กรุงเทพ ฯ

ศึกวันทรงชัย ก็เกิดขึ้น ...... รัว .....



โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:13:14:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเก็ต-ป่าตอง
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ข้าเจ้าเป็นสาวภูเก็ต แต้ๆ กะเจ้า

Friends' blogs
[Add ภูเก็ต-ป่าตอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.