คิดว่าจากการที่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน แม่และแฟน คงได้ศึกษานิสัยใจคอกันบ้างพอสมควร สำคัญนะเออ ไม่ใช่คิดว่า ผมแต่งกับลูกสาวเค้า ไม่ได้แต่งกับครอบครัวเขา การเข้ากับครอบครัวเขาได้เนี่ย มีชัยไปกว่าครึ่ง
ไม่ต้องยกตัวอย่างที่ไหนอื่นไกล เฉพาะเรื่องของฉันก็อ่านกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว .. แต่ค่อยเล่า ... กั๊กไว้

ก็มาถึงตอนที่มาสู่ขอกัน น่าจะมีแม่กับพี่สาวเค้า ตอนนั้นถอยรถเก๋งมือสองมาแล้ว ก็ขึ้นไปซื้อที่กรุงเทพนั้นแหละ ผ่อน – ส่ง เอา
ปัจจุบันก็ยังใช้คันนี้อยู่ รถยังดีอยู่เลยค่ะ ขอบคุณแม่ย่านางรถ ฉันก็ได้รถคันนี้แหละ ไปไหนต่อไหนมานักแล้ว
จำได้ว่าตอนแต่งใหม่ ๆ ต้องลงไปทำงานที่ยะลา ก็นั่งเครื่องมาลงภูเก็ต แล้วเอารถเก๋งคันนี้แหละขับไปยะลากันสองคน มีความสุขดีนะคะ
(อา ... ได้เปลี่ยนบรรยากาศ มันโดน ... หรือไม่โดนว๊า สงสัยกันอีกล่ะซิ)

เล่าถึงตอนนี้ แล้วไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะดูเลวร้ายลงทุกวัน เมื่อก่อนเรายังไปกันได้เลยเหนอะ ปัจจุบันมีหลายต่อหลายอย่างดูเปลี่ยนไป เวลาเปลี่ยนแต่นิโคลเอ้ยสามีไม่เคยเปลี่ยน ...

ดำอย่างไงก็ดำอย่างงั้น 555

ฉันไม่รู้ว่าเขาคุยกันตอนไหน ฉันก็ว่าอยู่ในสายตาฉันตลอดแล้วน่า แล้วไปคุยกันตอนไหนหว่า
จำได้ว่าแฟนบอกว่าล้านหนึ่ง คำเดียวสั้น ๆ ไม่พูดอะไรเลย ฉันก็เลยไม่รู้ ความรู้สึกนึกคิดแก

คุณค่ะ คุณค่ะ จะบอกว่า ต่อไปนี้คุณ ๆ ที่อ่านก็รู้จักสามีอิฉัน เท่า ๆ กับอิฉันล่ะค่ะ แล้วก็แปลกน่ะ ที่ฉันไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ เพราะฉะนั้นบางเรื่องดิฉันจึงไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ประวัติแกก่อนหน้านี้ ไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับแกเลย ต้องประติดประต่อเหมือนโกยรูปจิ๊กซอ จากคำบอกเล่าของคนอื่น มาเป็นตัวตนแก เช่นรู้ว่าก่อนหน้านี้มีแฟน แต่ .......... เพราะ แฟนไม่ดี ... แม่ไม่ปลื้ม ... รวยมากไป ...
ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ว่าเพราะอะไร
แต่คิดเอาเองว่าเหมือนกัน คือเอาสถานการณ์ของตัวเองมาเปรียบว่า เป็นเพราะแม่ไม่ชอบคนเก่า พอเจอคนใหม่ จะเป็นใครก็รับทั้งนั้น แกเลยโชคดีส้มหล่น ส่วนฉันก็สะตอหล่น อะไรประมาณนี้มั๊ง

ที่นี้มันก็มีอยู่คำพูดหนึ่ง ฉันได้ยินแม่เขาพูดว่า แกนะไม่ได้เรียนหนังสือ ฉันฟังแล้วก็ งง งง อะไรว่ะ ไม่ได้เรียน
หนังสือ มันหมายความว่าไงฟ่ะ แกจบปริญญา สาขาอะไรว่ะ
VV
VV
นี่ก็เป็นคำตอบหนึ่งที่ฉันบอกว่าแกไม่เคยเขียนจดหมายมาหาฉันเลย อะไรที่เกี่ยวกับขีดๆ เขียนเนี่ย แกไม่ถนัด แล้วฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเนี่ยมันปมข้อหนึ่งของแกหรือเปล่า แกเลยไม่ค่อยมาเกี่ยวข้องกับสังคมของฉัน

สเปคฉันเนี่ย ถ้าเขียนว่า สมัยยังสาว ๆ แสดงว่า
ตอนนี้แก่
เพราะฉะนั้น ต้องเขียนว่า ตอนสาว ๆ มาจนสาวปัจจุบัน เนี่ย
ไม่จบปริญาตรี ขีดออก หากคุณสมบัติเท่ากันแล้ว
ดูว่ารวยหรือเปล่า หากเท่ากันอีก ขั้นต่อไป ดูว่าหล่อคู่ควรแล้วหรือยัง

อู๊ย เทียบอยู่ 7 วันเก้าชั่วโมงค่ะ กว่าจะออกมาเป็น
แฟนคนเก่า
(บ่งบอกให้รู้ว่า ช้อยเยอะ)

เคยมีคนหนึ่งมาจีบ เรียนประถมด้วยกัน แล้วมันตามขึ้นไปเรียน ม. 4 ที่กรุงเทพ มันพักที่สายใต้เก่า ไปเรียนที่
รังสิต เรียนอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์
รักดีแต่แพ้ระยะทาง ก็ไม่ได้เรียน ตอนมาจีบฉัน เลยถูกขีดออก
ปัจจุบันมันขับเบนซ์ แถมเป็นผู้ใหญ่บ้านหนุ่ม (ไปรวยอะไรมาว่ะ ทำไมตอนนั้นไม่เอาคุณสมบัติข้อนี้มาโชว์ก่อน) 55

ตอนนั้นพอรู้ว่าแฟนจบการศึกษาภาคบังคับ อึ้งไปพักหนึ่ง งงมาก เห็นภาษาอังกฤษแกก็พูดได้ คบกันมาก็เห็นฉลาดดี มาคิดสารตะถึงความดีที่เค้ามีมันทำคะแนนโด่งไปไกลแล้ว และหากให้ความเห็นในตอนนี้
ต้องชมเชยเค้าด้วยซ้ำไปค่ะ

ถ้าเราเอาเรื่องใบปริญญามาเป็นข้อตั้ง
คนที่เค้ามีความสามารถ คงไม่มีโอกาส
บางที่บางแหล่งคนมันไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้หรอกค่ะ

หากเข้าใจในบริบทของป่าตองน่ะ เมื่อก่อนถนนหนทางมันไม่สะดวก การที่จะเดินทางไปเรียนเนี่ย มันก็ลำบากอยู่ (คิดได้งัย) เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องจริงผู้คนที่อยู่ในยุคนั้น เป็นเจ้าของโรงแรม เป็นเจ้าของกิจการต่าง ๆ แต่ไม่ได้เรียนสูงเท่าไรนัก ปัจจุบันจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่พยายามเรียนให้สูงที่สุด ตราบเท่าที่จะมีปัญญาเรียนได้ แล้วนำความรู้นั้นมาบริหารกิจการของพ่อแม่

ไหน ๆ พูดถึงเรื่องการศึกษาแล้ว ขอต่อหน่อย จำที่ฉันบอกว่าอยากเรียนปริญญาเอกได้ไหม แล้วบอกว่านอกจากปัจจัยความต้องการเรียนต่อปริญญาเอกที่ทุกคนมีเหมือนกันแล้ว ฉันยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่อยากพิสูจน์

ทฤษฏีที่อยากพิสูจน์ คืออยากรู้ว่าคนเรียนสูงกับคน
ไม่จบปริญญาน่ะ มันไปด้วยกันได้ไหม

ประมาณว่า ฝันว่าไปออกทีวี แล้วมีคุณดู๋ สัมภาษณ์ถึงชีวิตรักครองเรือนของคนจบด็อกเตอร์กับคนจบแค่การศึกษาภาคบังคับ อะไรประมาณนี้ (ฝันมากไปหรือเปล่า) แต่ทุกวันนี้ ขอแชร์ความคิดเห็นว่า
มันไม่มีผลอะไรเลย ถามว่าเคยทะเลาะกันไหม มันก็ต้องมีบ้างแหละ
ถามคุณกลับไป คุณทะเลาะกับคู่ชีวิตเพราะการศึกษาหรือเปล่า คุณทะเลาะเพราะทัศนคติคุณไม่ตรงกันมากกว่า เพราะการอบรมเลี้ยงดูที่ต่างกัน ใช่ไหม

ส่วนฉันพอตัดเรื่องเงินออกไป ความผาสุกก็บังเกิดภายในครอบครัว
แค่อยากบอกว่า เงินไม่ใช่คำตอบหรอก

เออ ขอเพิ่มเติมนิ๊ด อยากจะเล่าเพิ่มเรื่องชีวิตครองเรือนนะค่ะ เผื่อเป้นประโยชน์กับผู้อ่านได้เปล่า

ฉันว่าปัญหาที่เกิดในครอบครัว เกือบ 80 เปอร์เซนต์มาจากเงินทอง ฉันก็พยายามตัดใจที่จะไม่รู้สึกรู้สา กับเรื่องเงินเนี่ย บางทีมียี่สิบบาทฉันก็มาทำงานได้ โดยไม่ไปสร้างความรู้สึกอะไรให้กับตนเอง บอกกับตัวเองว่า วันนี้เราไม่มี พรุ่งนี้เราคงมี

ส่วนปัญหาอื่น ๆ ก่อนจะทะเลาะ ก็ถามตัวเองว่าทะเลาะแล้ว จะอยู่กับคนนี้อีกไหม เรื่องนี้คอขาดบาดตายหรือเปล่า คำตอบก็อยู่ ก็พยายามเลี่ยงคำพูดซะ
เพราะทะเลาะไป ครอบครัวก็ทุกข์ไปซะเปล่า ๆ
ก็รู้นะว่า มันอึดอัด อกจะแตกตาย
แต่เดี๊ยวคงมีช่องทางให้พูดให้ระบายออกได้บ้างล่ะ

อะต่อ เรื่องการศึกษา
ฉันเสียอีก ที่บางที่ โง๊ โง่ ในบางเรือ่งที่เราไม่รู้ เราไม่เคยมีประสบการณ์กับมัน ยกตัวอย่างง่าย ๆ ไม่กี่วันมานี่ ฉันเห็นมดดำมันเดินอยู่ในบ้าน เราก็กลัวเดี๊ยวมันจะโดนลูก ก็เอามือหยิบมันทิ้ง โดนมันต่อยค่ะ
คุณขา ดิฉันไม่เคยรู้เลยว่า มดดำตัวใหญ่มันมีพิษค่ะ
นิ้วบวมอยู่ 3 วัน ค่ะ แฟนบอกว่า โง่ค่ะ คำเดียวสั้น ๆ ฉันเงี้ย หงิง หงิง ไม่ออกเชียว
เจ้าของมันไม่ปลอบหมาแล้วล่ะ

แล้วจะมีอะไรไปเถียงเค้าค่ะ ยิ่งอยู่ไปจะเห็นว่าอิฉันโง่กว่าเขามากมายอยู่หลายเรื่อง ก็ดีใจที่ไม่เอาข้อนี้มาเป็นองค์ประกอบค่ะ

อ้อ อีกเรือ่งหนึ่งก็คือ เขานะภาคภูมิใจกับฉันมาก ในเรือ่งเรียนนี้
แกบอกว่าจะขายนาส่งควายเลี้ยงต่อเอก ถ้าแกมีค่ะ

ตกลงแม่ตกหนึ่งล้าน ก็แยกย้ายกันไป ฉันก็อยู่กรุงเทพ ฯ แกก็อยู่ภูเก็ต ช่วงหลังเนี่ยแกให้มือถือฉันไว้เครือ่งหนึ่ง ดูไฮโซมาก ณ ขณะนั้น เพราะค่าโทรมันพุงกระฉูดน่ะซิ โทรทางไกล กลางวันนาทีละ 18 บาท
ตอนหลังเปิดมือถือ ซิมทางใต้ นาทีละ 3 บาท เนี่ยถ้าเป็นปุฟเฟ่เหมือนตอนนี้ โอ้ย !! ฉันคงตั้งคอนเฟอเร้นกันแล้ว 55 ( 5 สองตัว หมายถึง ฮานิดหน่อย)

คุณค่ะ อย่าหาว่าฉันอินโนเซนต์เลยนะค่ะ ดิฉันไม่รู้สึกอะไรเลยที่แม่ตกหนึ่งล้านบาทค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่รู้สึก จากที่คุณอ่าน ๆ มาคุณก็จะพบว่า ดิฉันไม่ตกใจ ไม่ .. ไม่ นั้นเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของดิฉันค่ะ

ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเงินหนึ่งล้านบาทมันมากมายอะไร ทั้งที่ได้เห็นฐานะทางบ้านเขาแล้ว ไม่ได้รวยค่ะ
สงสัยใจมันคิดว่า หนึ่งล้านกีบมั๊ง 555 (ฮามากกว่า 5 สองตัว อิฉันเริ่มหมดมุกค่ะ )

ช่วงหลังมาเนี่ยแกโทรมาน้ำเสียงแกเริ่มเย็น วังเวง วิโวงเวว อิฉันก็ยังไม่รู้ตัวค่ะ บางทีก็หายไป ไม่โทรมา ก็เคยโทรมาทุกวัน มันเป็นอะไรหว๊า ก็เป็นห่วง จำได้คร่า ๆ เราเป็นคนโทรไป แกรับสาย
เรา : เป็นไร เห็นเงียบไป
คุณเธอ : เงียบ
เรา : ถามทำไมไม่ตอบ จะเอาไง (จริง ๆ ถามว่าจะเอาท่าไหน) ล้อเล่น คือปกติไม่ค่อยง้อใครงัย มาทำเงียบ ๆ เดี๊ยวมีโมโห
แกตอบมาว่า อยากแต่งงาน
เรา : แล้วถ้าไม่แต่งกับเรา มีคนที่จะแต่งด้วยแล้วใช่ไหม โมโหวางหู

งง เหมือนกัน บางที่การสื่อสารระหว่างเรากับแก ก็ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเข้าใจว่าคุณคง งง

ช่วงนี้ แกเงียบไปจนฉันต้องเป็นคนโทร มีอยู่วันหนึ่งแกโทรมาบอกว่าแกจะพาแขกไปกระบี่ค้างด้วย อาจไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
แล้วพอดีช่วงนั้นพี่ชายก็ลงไปภูเก็ต ก็ไม่เจอแกที่บ้านจริง ๆ ฉันก็บอกพี่ชายว่าแกไปกระบี่ พี่ชายก็ไปนอนบ้านแกนั้นแหละ

มารู้ตอนหลังว่าช่วงนั้น แกมีกิ๊ก
คุณค่ะ ผ้าขาว ๆ อย่างแก มีกิ๊ก ค่ะ
คุณผู้ชายอ่านตรงนี้แล้วต้องสะจาย ใช่ไหม 55
ตรูว่าแล้ว ชาติเสือต้องไว้ลาย ใช่ป่ะ
เอาแล้วครับคุณผู้ชม โศกนาฎกรรม เริ่มก่อตัวอีกแล้วค่ะ

เรื่องหนึ่งล้านก็ยังไม่เครียร์ แถม แกไปมีกิ๊กอีก
แล้วมันจะโดนได้อย่างไง ห่าย ... (ภาษาใต้)
ให้ตายเถอะโรบิ้น (เด็กเตพ)