อิตาลี : เกาะ Elba นอกฤดูกาล
ทริปเกาะ Elba นับเป็นทริปสุดท้ายกับพี่เดือนพี่ชิน สองสามีภรรยาวัยเดียวกับผู้เขียน ไปไหนต่อไหนกันมาหลายทริปในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผ่านกันมาแล้วทุกรูปแบบ ตั้งแต่นั่งรถเมล์ ขับรถ ยันเช่ารถ อยากไปเที่ยวเกาะนี้มานาน ได้ยินมาว่าทะเลสวยน้ำใส แถมยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย จำได้ว่าเคยมีคนไทยมาไม่สบายวิ่งแก้ผ้าแก้ผ่อนในโรงพยาบาลบนเกาะนี้ คิดเล่นๆ ว่า เอลบ้า มาแล้วจะบ้าหรือเปล่า แม้จะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว คงมีคนไม่กี่คนที่นึกจะมาเที่ยวทะเลในเดือนตุลา แต่ตั้งใจแล้วก็ต้องมา จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายในภายหลังว่าไม่ได้มา ขับรถยาวๆ จากโรมไปยังท่าเรือ Piombino เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่พร้อมรถข้ามฟากไปย้งเกาะ Elba ผู้โดยสารกระโดดลงซื้อตั๋วอย่างเร็ว คนขับเตรียมรถรอขึ้นเรือ ทำงานกันเป็นทีมจนทุกอย่างทันตามเวลาที่คาดไว้หมด เรือลำใหญ่ของบริษัท Moby Lines มีที่จอดรถ มีชั้นที่นั่งหลายชั้น มีโซนขายอาหารและเครื่องดื่มและโซนดาดฟ้าสำหรับถ่ายภาพตากลม ถ่ายรูปชิลๆ เดินเล่นวนไปวนมาในเรือประมาณ ชม. เศษ เรือก็เข้าเทียบฝั่ง ลงเรือแล้วขับรถต่อไปยังโรงแรม Viticcio ในเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว ไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พัก มีเวลาสำรวจที่พักเล็กน้อยและรับประทานข้าวเหนียวหมูทอดเร็วๆ ก่อนเข้านอนเพื่อเก็บแรงไว้สำหรับกิจกรรมในวันรุ่งขึ้น กิจกรรมแรกในเช้าวันนี้ที่อากาศขมุกขมัว คือ การเยี่ยมชมหนึ่งในพระราชวังของจักรพรรดิ์นโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ผู้ถูกเนรเทศให้ออกมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเกาะเล็กๆ พระราชวังนี้มีชื่อว่า Villa di San Martino เป็นพระราชวังขนาดเล็ก เรียบง่าย สไตล์ Neoclassic เล็กเรียบง่ายแต่ว่ากันว่าเป็นบ้านที่นโปเลียนใช้ชีวิตส่วนตัวในฐานะผู้ถูกเนรเทศมากที่สุด เปรียบเทียบกับพระราชวังอีกหลังที่ใช้ชีวิตแบบทางการ เป็นสาธารณะ พบปะผู้คน ชั้นบนเป็นที่พักอาศัยของนโปเลียน มีห้องต่างๆ มีภาพเขียนนกเขากับปมรัก (lovers' knot) สะท้อนความรักของนโปเลียนที่มีต่อพระนาง Marie Louise ภรรยาคนที่สองของนโปเลียน ส่วนชั้นล่างเรียกว่า Demidoff Gallery สถานที่เก็บผลงานภาพวาด รูปปั้นต่างๆ ที่สำคัญคือรูปปั้น Galatea ตามตำนานเล่าว่าเป็นรูปปั้นสีขาวปลอดที่ King Pygmalion ปั้นขึ้นและหลงรัก ส่วนอันนี้ที่ Villa di San Martino เป็นรูปที่ปั้นจากแบบจริงของ Paolina Borghese น้องสาวนโปเลียนที่สมรสกับตระกูล Borghese ของอิตาลี ช่วงบ่ายตั้งใจจะขึ้นกระเช้าชมวิวเกาะ Elba แต่ก็ไม่สามารถขึ้นได้เพราะสภาพอากาศไม่ดีมีฝนตก เลยขับรถขึ้นเขาชมวิวแทน ภาพหมอกในหุบเขาแบบนี้ดูแล้วคล้ายทางลำปางแม่ฮ่องสอนเหมือนกัน ตอนเย็นไปเดินเอาเท้าแตะน้ำทะเลเล่นที่เมือง Marina di Campo เป็นย่านท่องเที่ยวริมทะเล มีถนนคนเดิน ร้านรวงมากมาย ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มมีตลอดทั้งถนนริมทะเล นักท่องเที่ยวนั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ดูคนท้องถิ่นพูดคุยทักทายกันอย่างเป็นมิตร เช้าอีกวันหนึ่งถึงได้มีโอกาสสำรวจโรงแรมของเราอย่างจริงจัง เป็นโรงแรมที่ดูดี วิวสวย ราคาถูกมาก เพราะเราเป็นแขกห้องสุดท้ายของเขาก่อนปิดโรงแรมเพื่อพักยาวช่วงหน้าหนาว พอเรา check out ออกปุ๊บ โรงแรมก็ลากประตูเหล็กล็อครั้วทันที อารมณ์ประมาณนั้น โรงแรมนี้มีหาดส่วนตัวเป็นสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ ได้มาสำรวจตอนสายไปแล้ว กำลังจะต้องออกไปเที่ยวตามโปรแกรมต่อไป ถ้ารู้ก่อนว่ามีหาดสวยน้ำใสแบบนี้ ได้ลงเล่นน้ำเป็นแน่ อากาศเย็นแต่หินสวยน้ำใส เป็นส่วนตัวแบบนี้คงอดใจไม่ไหว ที่เที่ยวสุดท้ายก่อนขึ้นเรือกลับ คือ Palazzina dei Mulini ในเมือง Portoferraio เมืองที่เราต้องขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง เคยเป็นพระราชวังหรือบ้านพักทางการของนโปเลียน ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีนับร้อยนับพันของอิตาลี วังนี้แรกเริ่มเป็นบ้านของตระกูล Medici ก่อนจะให้นโปเลียนใช้เป็นที่พักทางการของเขา แม้จะถูกเนรเทศออกมาจากฝรั่งเศสแต่เนื่องจากเคยเป็นจักพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่จึงได้รับการดูแลในระดับที่ดีกว่าสามัญชนทั่วไป มีบ้านให้อยู่ ให้ตกแต่งได้ตามต้องการ แต่อยู่ได้ไม่นานก็รวบรวมกำลังไปยึดเอาฝรั่งเศสคืนมาได้อีก เนื่องจาก Palazzina dei Mulini ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีระหว่างป้อมปราการสองแห่งบนหน้าผาริมทะเล พื้นที่ใกล้เคียงจึงสวยงามเหมาะแก่การเดินเล่นถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ภาพวิวสวยๆ หลายภาพของทริปนี้ก็ได้มาจากบริเวณ Portoferraio นี่แหละ ตกเย็นก็ใช้แผน tag team ซื้อตั๋วคนหนึ่ง เลื่อนรถคนหนึ่ง สังเกตการณ์คนหนึ่งได้เอารถขึ้นเรือเฟอร์รี่เที่ยวนั้นทันเวลาอย่างเฉียดฉิวเช่นเคย แดดยังไม่ทันหมดได้เก็บภาพเรือที่ค่อยๆ แล่นผ่านเมือง Portoferraio ไปอย่างช้าๆ ใจหายเมื่อหันไปเห็นพี่เดือนกับพี่ชินถ่ายรูปกับวิวจากเรือ ทริปร่วมหัวจั่วหางสุดท้ายแล้วจริงหรือ ความทรงจำสนุกสนานดีๆ หลายอย่างมาจากทริปที่พวกเราไปกัน บล็อกหลายบล็อกก็มีบุคคลทั้งสองเป็นแรงบันดาลใจ เป็นเอเยนต์จัดทัวร์ เป็นสไตลิสต์ แม้กระทั่งคนขับรถ ขอกราบขอบพระคุณงามๆ มา ณ ที่นี้ ลุ้นเอาใจช่วยให้พ่อแม่พี่น้องชาวใต้ของผมพ้นภัยพายุปาบึกในวันนี้ด้วย
Create Date : 02 มกราคม 2562 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2562 13:20:33 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1630 Pageviews. |
|
|
ดูจากรูปห้องพักแย่กว่าบ้านเราอีกนะเนี่ย