เมื่อฟ้าใส......หายตัว
หลังจากที่ได้งาน และก็มัวแต่ทำงาน เพราะงานที่ทำหนักอยู่ ร่างกายต้องการการปรับตัวเป็นอย่างมาก แม้กลับมาจะมีเวลาเล่นกับเด็กๆ แต่ก็ไม่มากเท่าที่หวัง..... เพราะเหนื่อยเหลือเกิน.....ตอนนี้ร่างกายคงเริ่มชินกับงานที่หนักบ้าง เบาบ้าง คละเคล้ากันไป จึงทำให้ไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน...เมื่อวานได้หยุดงาน หลังจากที่ทำมาตลอดห้าวันอาทิตย์นี้ดีใจได้หยุดเสาร์อาทิตย์ จึงชวนสามีไปกินข้าวบ้านเพื่อน ซึ่งพี่เค้าก็โทรมาชวนไว้นานแล้ว,,,,ก่อนออกจากบ้าน ได้เปิดประตูบ้านไว้ และเดินเข้าไปปิดไฟในครัว และก็คุยโทรศัพท์กับเกียดอยู่ คุยเสร็จ วางสาย ก็เดินไปบอกเด็กๆ ว่าเด๋วแม่แนนจากลับมาเล่นด้วยตอนบ่ายๆนะ ซึ่งในเวลานั้นเจ้าจอมซนทั้งหลายหลับกันหมดเเล้วแหล่ะ แต่แนนก็กระซิบบอกเค้านะ กลัวตื่นแล้ว เด๋วหาแม่ไม่เจอ จำได้ว่าลาเจ้าฟ้าใสตัวดีก่อนเลย ในห้องครัว เพราะตอนนั้นเห็นว่าเค้านั่งกัดขนมปังอยู่ แล้วจึงไปลาคนอื่น แล้วก็ปิดประตูจากไป.....กินข้าวบ้านเพื่อน ใช้เวลาหมดไปประมาณชั่วโมงกว่าได้มั้ง ก็กลับบ้าน เมื่อมาถึง เห็นถุงนอนอยู่คนเดียวเจ้าฟ้าใสไปไหนเนี่ย แล้วก็เริ่มเรียกค่ะ มองไปในห้องนั่งเล่น เห็นพี่แมมกับน้ำข้าวหลับสบายอยู่ เจ้าตัวแสบไม่ได้เข้าไปข้างในแน่ๆ เพราะถ้าเค้าเข้าไปในนั้นนะ ไม่มีทางที่เจ้าสองตัวนั้นจะหลับสบายแบบนี้ได้หรอกเอ แล้วมานหายไปไหนเนี่ย...........เริ่มโมโห และความโมโหก็ผ่านไป หาไปครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่เจอ ส่วนเกียดเหรอ หามากกว่าแนนอีกนะ เพราะลูกรักเค้าเลยอ่ะ.... ตอนแรกแนนใจเย็นอยู่นะ เพราะคิดว่าเค้าคงแอบไปอยู่ตรงซอกไหนแน่เลย แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจออ่ะเอาแล้วไง จากใจที่เย็น เริ่มไม่ยงไม่เย็นมันแล้วอ่ะ เคาะมันทุกห้องเลยแล้วถามว่าเห้นกระต่ายฉันไหม๊คนที่โดนถามก็ตอบไม่เห็นอย่างเดียว แนนในตอนนั้นร้องให้แล้วนะ ใจเสียด้วยอ่ะ ยิ่งน่ารักอยู่ด้วย คนเอาไปไม่กลัวหรอก ถ้าเอาไปแล้วเค้าดูแลดีเหมือนเราอ่ะ กลัวเอาไปแล้วเอาไปใว้ในกรงขังไว้อ่ะ แล้วเจ้าตัวเล้ก ก็ยังต้องกินยาด้วย เพราะภูมิแพ้เค้ายังไม่หายดีเลย.....เดินกลับเข้าห้องมาด้วยใจห่อเหี่ยว เพราะหาไม่เจอ เดินกลับเข้าบ้านมา เห็นสามีก้มลงไปกับพื้นในห้องครัว แนนก็เลยบอกว่า แนนหาแล้วไม่มีอ่ะ เค้าบอกว่า เงียบๆๆดิ่ เค้าได้ยินเสียงมันหายใจ ฟืดฟาด ในครัวนี้แหล่ะ แต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหน แนนก็เลยเงี่ยหูฟัง เกียดก็ค่อยๆตามเสียงไป นู่น ปรากฏว่าเจ้าตัวดี นอนหลับอยู่ข้างหลังเครื่องทำกาแฟที่อยู่บนเคราท์เตอร์นู่น.......แหม่ๆๆๆๆ เจ้าตัวเเสบไม่มีที่นอนหรือไงฟะ เล่นเอาคนในบ้านใจหายใจฟ่ำกันไปเป็นแถว มันน่าจับมาตีก้นนักเชียว แม่มันเสียน้ำตาไปเป็นแก้วเลยนะเนี่ย มันยังหลับสบายซะงั้นหน่ะ ไม่ทุกข์ร้อนเลยนะ ไอ้ตัวดี ว่าแล้วก็จะวิ่งเข้าไปขย้ำมันซะหน่อย เกียดรีบห้ามใหญ่เลย บอกว่าเด๋วรอให้เค้า ตื่นก่อนค่อยแกล้ง ตอนนี้กำลังหลับสบาย ปล่อยเค้าไปก่อนเหอะนะ ดูทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ เเง่งๆๆๆๆๆๆๆพอตื่นมานะ บิดขี้เกียจแล้วก็ หาวซะปากกว้างเลย แนนยังคิดนะว่า เจ้าตัวแสบจะรู้ไหม๊เนี่ย ว่าวันนี้แม่มันร้องให้ไปมากมาย เพียงเพราะหามันไม่เจอเนี่ย เฮ้อ แต่สิ่งที่ดีกว่าหลังจากเสียน้ำตาไปแล้ว...... นั่นก็คือได้รู้ว่าเจ้าตัวเล็กยังอยู่ในบ้านหลังนี้ ไม่ได้หนีหายไปไหน สิ่งที่ทำให้แนนคิดว่าเจ้าตัวเล้กจะไปก็คือ เค้าเห็นคนเปิดประตูไม่ได้ เค้าชอบออกข้างนอก เพราะเค้ารู้ว่าข้างล่างตึก มีสนามหญ้า ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเปิดประตู ถ้าเค้าเห็น เค้าจะวิ่งแบบไม่คิดชีวิตไปที่นั่น แม้ออกไปได้แค่หัวก็ดีใจอ่ะ .... เอากะมาน.... เฮ้อ......เล่ามาซะยืดยาวเลย เพราะเจ้าตัวดีทำให้แม่มันใจหายใจคว่ำ สิ่งหนึ่งที่ยังคงรู้คือ แนนรักเจ้าตัวเล้กเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน สิ่งสำคัญที่รู้อยู่กับใจดีว่าสำคัญมากมาย เพียงแค่เสี้ยววินาที ที่ไม่เห็นว่าเคยอยู่ตรงที่ที่ควรอยู่ ก็ทำให้แนนรู้ว่า เราควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายร้อยเท่า เพราะถ้าหายไปแล้วหายเลย เราคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ และแนนต้องระวังมากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว... เลยมีคำสัญญากันเล็กน้อยว่า ต่อแต่นี้ แม่แนนจะไม่ว่าหนู แต่ห้ามเล่นอะไรพิเรนท์แบบนี้อีกนะ แม่ใจหายหมด.....
ดีนะคะที่แค่แอบเปลี่ยนที่นอน ขวัญเอ๋ยขวัญมานะคะ