เปิดใจตรงนี้เลย...คำว่า"รัก"...ฉันมีอยู่แทบล้นใจ...แต่ยังไม่มีที่ใช้...ก็เท่านั้นเอง
Group Blog
 
 
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

"Speak Softly Love"โดย Andy Williams...บทเพลงรักของชายผู้มีอำนาจ และScoreจากภาพยนตร์ "The Godfather"


เขียนเมื่อ: วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2554 เวลา 13.12 น.

'...My life is yours and all because...you came into my world with love, so softly love.'




ใครที่เคยได้ดูภาพยนตร์มาเฟียเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดของHollywood ที่ชื่อว่า "The Godfather" จากฝีมือผู้กำกับแถวหน้าอย่าง Francis Ford Corpola และผู้ประพันธ์นิยายเรื่องนี้ Mario Puzo น่าจะคุ้นเคยกับเพลงBackground หรือ Score ของหนังเรื่องนี้ดี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งหนังภาคที่เป็นที่จดจำมากที่สุดคงจะเป็น The Godfather I และ II ส่วนตัวฉันชอบหนังเรื่องนี้ทั้งสามภาค ดูมาเป็นสิบรอบก็ไม่เบื่อ กลายเป็นหนังในดวงใจอันดับหนึ่ง(ซึ่งมีหลายเรื่อง)ของฉัน เป็นภาพในอุดมคติไปเลยว่ามาเฟียต้องมีลักษณะแบบนี้ หลงรัก Al Pacinoไปอีก คนอะไรจะเท่ห์ได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาเหงา และที่ชอบมากๆก็คือเพลงประกอบและScoreของหนังเรื่องนี้ ฟังแล้วคิดภาพหนังเป็นฉากๆ อินอีกอะไรอีก... เดี๋ยวจะเขียนเรื่องความชอบจากหนังเรื่องเป็นอีกเอนทรีหนึ่งต่างหาก ตอนนี้เอาเรื่องคร่าวๆและฟังเพลงไปก่อน



ภาคแรกเล่าถึงเรื่องราวของมาเฟียอิตาเลี่ยนในอเมริกาตระกูล Corleone ในยุคของผู้เป็นต้นตระกูลหรือ Vito Corleone ในวัยชรา(แสดงโดยMarlon Brando) ซึ่งแม้อายุจะมากจนมีหลานปู่เต็มบ้านแล้วก็ยังคงความน่าเกรงขามและเป็นที่เคารพนับถือกึ่งหวาดกลัวกับบรรดาผู้ใต้ปกครองของเขา ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นมาเฟีย แต่Vitoก็ยังมีความเมตตากรุณาต่อคนที่ยอมก้มหัวและเรียกเขาว่า "Godfather" เขาจึงได้รับความรักจากคนทั่วไปที่เคยได้รับความช่วยเหลือและความเมตตาจากเขาเสมอ Scoreของหนังจึงเป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจ ความยิ่งใหญ่ของมาเฟียผู้นี้ รวมไปถึงกลิ่นอายอิตาเลี่ยน ที่แม้จะอยู่บนแผ่นดินอเมริกาก็ยังสัมผัสได้แต่ความเป็นอิตาลีในรั้วบ้านCorleone จนถึงการถูกลอบทำร้ายของVito การส่งต่ออำนาจปกครองไปยังลูกชายคนเล็ก Micheal Corleone(แสดงโดยAl Pacino) ผู้ซึ่งจะเป็น Godfather หรือ Don คนต่อไป การจบชีวิตของVitoอย่างสงบและจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ของเจ้าพ่อมาเฟีย Don Michael Corleone



ภาคสอง เป็นการนำเสนอชีวิตของGodfather สองรุ่น คือรุ่นของ Vito Corleone(แสดงโดยRobert De Niro) ในวัยเด็กที่Sicily, Italy การอพยพหนีภัยมาเฟียอิตาลีมาที่อเมริกา จนถึงการขึ้นมีอำนาจในฐานะมาเฟียที่อเมริกา สลับกับชีวิตของ Micheal Corleone(แสดงโดย Al Pacino) หลังจากขึ้นรับตำแหน่งDon ความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง เรื่อยไปจนถึงการพัฒนาความร้ายกาจน่ากลัวของCorleoneผู้ลูกคนนี้ จากที่เคยต้องการจะหนีจากชีวิตมาเฟียของผู้เป็นพ่อ แต่กลับต้องเข้ามารับหน้าที่นั้นเพื่อความอยู่รอดของพ่อผู้เป็นที่รักและคนในครอบครัว จนกระทั่งไม่อาจก้าวออกมาจากวิถีแห่งอำนาจนี้ได้ ชีวิตในฐานะมาเฟียที่กำลังรุ่งเรืองสุดขีดในขณะที่ชีวิตรักและครอบครัวของเขากลับดับลงเรื่อยๆ ผิดกับผู้เป็นพ่อที่สามารถประคองทั้งความเป็นมาเฟียและครอบครัวให้สมดุลและเติบโตไปด้วยกันได้อย่างดีเสมอมา



ภาคสาม เป็นเรื่องราวของ Micheal Corleone ในวัยชรา ที่พยายามจะลบล้างบาปทั้งปวงที่เคยทำไว้และเอาชีวิตครอบครัวที่แตกแยกคืนกลับมา แต่การล้างมือจากวงการนี้กลับเป็นเรื่องยากอย่างมาก ศัตรูมากมายที่ต้องการจะครอบครองอาณาจักรที่เขาเพียรสร้าง การแก้แค้นล้างบางของมาเฟียแต่ละตระกูลกลับมาอีกครั้ง ทำให้ความตั้งใจว่าจะล้างมือกลับกลายเป็นฉากหน้าให้หลานชายของเขาจัดการมาเฟียตระกูลอื่นที่คิดจะแข็งข้อให้สิ้นซากเป็นครั้งสุดท้าย แต่กลับทำให้ชีวิตที่เหลือของเขาพินาศลง ภาพสุดท้ายเป็นชายชราที่จากโลกนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว จุดจบของGodfatherผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีอำนาจและน่าหวาดกลัวมากที่สุด



Scoreของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงฟังดูยิ่งใหญ่ แสดงถึงความมีอำนาจของผู้เป็นGodfather แต่ก็ยังคงความละมุนละไมแบบItalian โดยScoreทุกเพลงแต่งโดยนักประพันธ์ชาวอิตาเลี่ยนที่ชื่อ Nina Rota เพลงที่จะเอามาให้ฟังเป็นThemeหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ชื่อThe Godfather Waltz ติดหูมากๆ เป็นScoreที่เราชอบมากที่สุดในบรรดาหนังที่เคยดูมา(แต่อันดับชอบมากที่สุดนั้นไม่ได้มีเรื่องเดียว)



เพลง "The Godfather Waltz" โดย Nina Rota





ยามศึกเรารบ...ยามสงบเราก็รัก -บทรักของเจ้าพ่อ-



ส่วนเพลงประกอบภาพยนตร์(ที่มีคนร้อง)ที่ชื่อ "Speak Softly Love" โดย Andy Williams เป็นคนร้องต้นฉบับ(มีอีกหลายคนเอาเพลงนี้ไปCover รวมทั้งAl Martinoซึ่งรับบทเป็นตัวละครตัวหนึ่งในหนังชุดนี้ด้วย แต่ฉันคิดว่าAndy Williams เป็นเวอร์ชั่นที่เพราะและดีที่สุดของเพลงนี้) และประพันธ์เนื้อร้องโดย Nina Rota กับ Larry Kusik ส่วนทำนองส่วนหนึ่งมาจากScoreของหนังนั่นเอง ทำให้คนฟังอินไปกับเพลงและหนังได้ง่ายมากขึ้น เนื้อหาของเพลงเป็น...บทเพลงความรัก ซึ่งก็เป็นความรักของ Godfather นั่นแหละ แต่จะใช้กับคนทั่วไปก็ได้ เนื้อเพลงออกแนวบอกให้อีกฝ่ายหนึ่งทำ คือให้อีกฝ่ายบอกรักเขาอย่างแผ่วเบาและให้กอดเขาไว้แนบอก จากนั้นเราก็จะเป็นของกันและกัน อยู่ในโลกของเราสอง ด้วยความรักที่น้อยคนนักจะเคยสัมผัส(ขนาดนั้น) คำบอกรักที่แผ่วเบาซึ่งไม่มีใครได้ยินเรานอกจากท้องฟ้านั้นจะเป็นดั่งคำสาบานรักที่จะคงอยู่ตลอดไปจนกระทั่งตายจากกัน ชีวิตฉันเป็นของเธอและความรักทั้งหมดที่ฉันมีให้นั้นเป็นเพราะเธอก้าวเข้ามาในชีวิตฉันด้วยรักอันหวานละมุนที่เธอให้มา(สุดยอด!!!!) จากเนื้อเพลง ดูเหมือนคนร้องจะเป็นตัว Don เองที่ร้องให้หญิงที่รัก แม้เนื้อเพลงจะหวานมดขึ้นยังไง แต่ด้วยทำนองหรืออารมณ์เพลงเหมือนพูดไปคนเดียวก็ไม่รู้ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า เพลงนี้ Godfather ร้องให้หญิงคนรักเพื่อบอกเธอว่าฉันรักเธออะไรยังไง? และเธอเป็นคนเดียวที่รักฉันด้วยความอ่อนโยน ซอฟลี่ ซอฟลี่ ในขณะที่คนอื่นอยู่ด้วยความเคารพหวาดกลัวฉัน เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าคนมีอำนาจและน่าเกรงขามอย่างGodfather ก็ต้องการความรักความเข้าใจเหมือนกัน แต่ท้ายที่สุด...คนที่สามารถรักษาอำนาจความเป็นมาเฟียไว้ได้อย่างDon Corleone กลับรักษาชีวิตรักและครอบครัวให้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าไม่ได้(เศร้าจริงๆชีวิตพี่!!!...ถ้าเป็นไปได้ช่วยดูฉากจบของภาคสองคลอไปกับท่อนสุดท้ายของเพลงๆนี้ จะให้ความรู้สึกแบบ...โดดเดี่ยว วิงวอนให้เธอกลับมาในใจ เหงา...แบบรวยๆ)


เพลง "Speak Softly Love" ร้องโดย Andy Williams พร้อมเนื้อเพลง


*วิดิโอนี้เป็นแบบAuto Play กดคอนโทรลหยุดเล่นหรือเริ่มใหม่ก็ได้คะ*





Speak softly, love and hold me warm against your heart
I feel your words, the tender trembling moments start
We’re in a world, our very own
Sharing a love that only few have ever known


Wine-colored days warmed by the sun
Deep velvet nights when we are one


Speak softly, love so no one hears us but the sky
The vows of love we make will live until we die
My life is yours and all *becau-au-se
You came into my world with love so softly love


(instrumental interlude) ดนตรีอลังการ...


Wine-colored days warmed by the sun
Deep velvet nights when we are one


Speak softly, love so no one hears us but the sky
The vows of love we make will live until we die
My life is yours and all becau-au-se
You came into my world with love so softly love



*(because แบบลากเสียงคำว่า'cause ยาวๆ)



เอาLiveเพลงนี้ของAndy Williams ไปดูซักวิดิโอนะคะ เพราะมากๆ





“I will make him an offer he can’t refuse."




เจ้าช่อมาลี(PP_Skywalker)




 

Create Date : 30 มีนาคม 2554
2 comments
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 6:22:28 น.
Counter : 4187 Pageviews.

 

ต้องหาโอกาษ ดูซะหน่อยแล้ว
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

 

โดย: lowestprice2shop (chaiwo ) 30 มีนาคม 2554 21:58:13 น.  

 

@ lowestprice2shop

แนะนำให้ดูเลยคะ เราก็ผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง เพิ่งจะมาดูหนังเรื่องนี้จริงๆก็เมื่อ5ปีที่แล้ว ชอบมากๆ ดูจะเป็นอะไรที่ซีเรียสนะคะหนังเรื่องนี้ แต่มันก็ซีเรียสแบบเท่ห์ๆนะคะเราว่า ดูง่ายแน่นอน รับรองคะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ

 

โดย: เจ้าช่อมาลี (PP_Skywalker ) 17 เมษายน 2554 16:29:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


PP_Skywalker
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ขอบคุณมากๆคะ
Friends' blogs
[Add PP_Skywalker's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.