ตอนที่แล้ว 

เมื่อฉันอยากเรียนเมืองนอกฟรี - ตอนที่ 8 ไฟลนก้น

~*~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~

10 ตุลาคม 2002

5.00 น. นอนหลับตาอยู่คนเดียวในความมืด 

เฮ้ย...... เหนื่อยจังยังเหลือ Biography เราจะบอกว่าประวัติเราเป็นไงดีหว่าจะทำให้มันพิเศษยังไง
ดีหว่า ก็ชีวิตฉันเนี่ยมันแสนที่จะธรรมดาเสียเหลือเกิน......รูปไม่สวย พ่อไม่รวย เกียรตินิยมก็
ไม่มี ความสามารถก็ไม่โดดเด่นจนโดนใจใครได้

6.00 น. คิดไม่ออก หรือเราจะไม่ส่งดี แล้วค่อยไปเริ่มตอนปีหน้า

7.00 น. ต้องสู้ซิน่า แผ่นดินยังไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป....แต่สมองฉันมันน้อยกว่าแผ่นเป็นล้านโกกิเท่านี่นา

8.00 น. วิ่งไปรูดบัตร ด้วยเวลาที่เฉียดฉิว 8.01นาที(ที่บริษัทฉันสายได้ถึง 8.03 นาที ถ้าสายเกิน 3
ครั้งนับเป็นขาดงานหนึ่งครั้งแล้วก็หักเบี้ยขยัน)


10.00 น. ไอเดียเริ่มมาแล้ว...แต่.

..
”คุณดาวเรืองเดี๋ยวไปพบ vice president ที่ห้อง 105ด้วยนะค่ะ” เลขาคนสวยของ vice president
โทรศัพท์มา
"เอ....ไอ้เรือง เกิดอะไรกันวะหรือแกเอาเวลางานไปคิดเรื่องส่วนตัวมากไปหน่อยแต่มัน
ก็ไม่ได้ให้งานเสียนี่นา.....วันนี้ฉันคิดงานวิจัยได้ ตั้งสองชิ้นแล้ว.....งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ออก
มาอีกตั้งสามชิ้น ไม่เห็นมีแผนกไหน complain มานี่นา"
            วันนั้น ทุกคนจะเห็นฉันเดินเข้าห้อง 105 ปานดอกไม้ที่ถูกคนเด็ดทิ้งแล้วเอาเท้าขยี้ขยำ ทั้ง
เหี่ยว ทั้งสลด  แต่ตอนเดินออก หน้าบานเบะปานดอกทานตะวันยามเช้า.....ใช่เเล้วค่ะvice
 president เรียกไปชมพร้อมกับมอบหมายงานมาให้อีกกองพะเนิน......จะดีใจหรือเสียใจดีนะเนี่ย

12.00 น.
ด้วยความดีใจทำให้สมองแล่น ....รู้แล้วๆ ว่าจะเขียนอย่างไรและแล้วประวัติส่วนตัวของฉันก็ได้ถือ
กำเนิดขึ้นมาในช่วงพักกลางวันนั้นเอง


Autobiographical Statement

Iam a native of Thai , born in Yasothorn Province,Thailand in 1978.

Iwas interested in E.T.Engineering from the very beginning in high school, Ielected
 courses related to this field and upon entering Thailand university asa freshman .I
 immediately declared E.T.Engineering as a freshman as my major.Thus I have obtained
 a strong background and firm foundation which should provevaluable and useful for my
 studies at the graduate level.

Iam convinced that E.T.Engineering is anextremely important discipline, which holds
 much promise for the further and ismuch needed now, especially in developing
 countries such as my homeland.E.T.Technology is one of those areas which can help a
 country get on its feeteconomically. It is one of the leaders in the movement towards
 modernizationand improvement currently underway in Thailand. After I receive the
 knowledgeand Master’s degrees, I intend to return to Thailand and disseminate my
 knowledge through working at E.T.Engineering industry.

Iam interested in coming to your Institution in particular because I feel thatyou are 
most qualified to teach me the things I want to learn. I realize thatthe education 
facilities currently available in Thailand are inadequate to meetthe demands of
contemporary scientific study. Therefore, I decided to come toGermany for Graduate
University. Of the university in Germany, yours has one ofthe finest reputations for
outstanding scholarship and accomplishment in myfield, therefore I apply to you for
admission.


Myextracurricular activities have some bearing on my eligibility for entry toyour graduate
university, so I will note them briefly here. I was involved insports especially basketball
playing, and also in the student government. I washeld the office of student body
treasure during my senior year. I was thevolunteer in town developed camp I also
joined many special interest and service clubs and gained a reputation as acommunity
leader. ( I was the president of culture section and the president ofsocial welfare
section). But as much as I enjoined all these outside activitiesI never let them interfere
with my main purpose, which was to be a goodstudent. In fact, many of these had
direct bearing on my schoolwork, and helpedme increase my understand and experience
in management.

Istudied hard and conscientiously in my university and will certainly continueto do so.
I feel confident that I am qualified to receive admittance to youruniversity. My past
academic achievements along with my goals for the futureshould convince you that I do
have the ability and the will to succeed.

Aftergraduating , I work at ABC company thatteach me about E.T. testing , quality
assurance , quality control and manybuyer standards.

So I have special testing knowledge. Afterward in DEF company ,www.def.com . At here
I firststarted in the R&D engineer who responded the new development of
E.T.Technology. In part of E.T.Technology, We have to find the newinnovation and new
design . Sometime wehave to apply the design and control the quality of new E.T. 
In part ofE.T.developing , We have the new development .Almost these new
developments,R&D section must test in lab and production ,then set up the regulation
condition before let the line production do. Then,I moved to be Technical salein final
buyer section . In this position ,I have to response to control the qualityproduct that is
ordered by customer and co-ordinate between plant and customer.

Ihave used spare time to study all the facets of E.T. Technoloy knowledge todevelope
my working but as there is less technology and knowledge for advancedin this field in
Thailand. I decided that the best thing for me would be toseek further education abroad.
For this reason, I applied to your university inthe master’s program in Master of Science
in E.T. Engineering .

Thank you very much for your courtesy and attention.


11 ตุลาคม 2002
5.00 น. ตื่นนอน
6.00 น. เตรียมเอกสาร 
สรุปเอกสารที่ฉันจะส่งไปสมัครเรียนที่เยอรมัน
1.จดหมายสมัครเรียน   พร้อมกับแปะรูป 2 นิ้วสีอันงดงามของฉันด้วย
2. DAADschloarschip application form อันนี้ได้กล่าวมาแล้วตั้งแต่ตอนต้น
3.Biography –typed พร้อมกับแปะรูปด้วย
4. Biography – handwritten เขียนด้วยมือขวา(เพราะฉันถนัดขวา) บนกระดาษ A4 ที่ไม่มีเส้น
เขียนตั้ง 4 รอบแน่ะกว่าจะได้อันที่ถูกใจ เพราะไม่อยากให้มีรอยลบหรือรอยลิควิค  แล้วเวลาเขียน
พยายามกดปลายปากกาอย่างแรง(อ่านหนังสือมา เขาบอกว่าคนที่เขียนหนังสือกดเส้นหนักๆจะเป็น
คนจริงจัง   เผื่อโปรเฟสเซอร์อ่านหนังสือเล่มเดียวกับเราเพราะฉะนั้นต้องป้องกันไว้ก่อน)
5. Study plan เสร็จเรียบร้อยฮ่า...ฮ่า..ฮ่า..(ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาย้อนไปอ่านข้างบน)
6. B.Eng certificate and transcript of records อันนี้ฉันส่งแค่สำเนานะ...ไม่มีตังค์ไปขอ
ตัวจริงที่มหาวิทยาลัยฉบับหนึ่งตั้ง 500บาทแนะ ( จริงๆแล้ว 50 บาทแต่บวกค่ารถเข้ากรุงเทพ,ค่า
มอเตอร์ไซค์ , ค่ากิน ค่าน้ำแล้วประมาณ 500 บาท)
7. Confirmation of employment ใบรับรองการทำงานแบบมีเงินเดือนกำกับเป็นภาษาอังกฤษ
8. Letter ofemployee recommendation ใบรับรองการทำงานแบบไม่มีมีเงินเดือนกำกับเป็นภาษา
อังกฤษอันนี้บริษัทโดยทั่วไปจะไม่ออกให้  แต่คารมอย่างไอ้เรือง...ก็เลยได้มา.

9. The otherdocuments อันนี้แหละที่จะทำให้ฉันโดดเด่นกว่าใครแน่ๆเล้ย...ฮ่า...ฮ่า...สิ่งที่ฉันส่ง
ไปด้วยก็มีดังนี้....(สิ่งที่ทำไปนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญา หากจะลอกเลียนแบบโปรดปรึกษาแพทย์
หรือใช้วิจารณญาณก่อนกระทำ)

• โปรชัวร์บริษัท ว่าบริษัทมีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง (อาจจะทำให้เขารู้ว่าไอ้งานที่ฉันทำน่ะ มันเหมือน
กับวิชาที่มหาวิทยาลัยคุณสอนอยู่นะเพราะฉะนั้นจงรับฉันเข้าไปเรียนด้วย)
• รูปสมัยเรียนที่ไปออกค่ายอาสาพัฒนา ฉันเลือกรูปที่มีคนถ่ายด้วยกันเยอะๆ และมี
รูปอาคารเรียนที่สร้างด้วยส่งไปสองรูป เขียนโยงด้วยปากกาด้วยนะว่า เนี่ยคือฉันเนี่ยคืออาคาร
เรียนที่พวกเพื่อนร่วมสถาบันและฉันช่วยกันสร้างขึ้นมา (เป็นการบ่งบอกว่าฉันนะเป็นคนที่ทำกิจกรรม
เพื่อส่วนรวม และมีประโยชน์เพราะฉะนั้นสมควรที่จะให้ทุนนะ) เอารูปที่ฉันดูโทรมๆหน่อย (จริงๆทุก
รูปฉันก็ดูโทรมทั้งนั้นแหละ คนไปทำงานค่ายอาสาพัฒนา  ความสวยจะลาพักร้อนอยู่ที่บ้าน)
* รูปสมัยเรียนขณะที่เล่นกีฬาบาสเกตบอลอยู่เลือกรูปที่ถ่ายกันเป็นทีมขณะที่อยู่ใน
สนามบาสเหงื่อซกเชียว 2 รูปเช่นกัน  รูปที่ส่งไปนี่ไม่มีรูปไหนที่มีความงามของฉันอยู่ด้วย 

หลักการส่งของฉัน
1. เอกสารทุกชุด ฉันจะทำก้อปปี้ แนบไป 4 ชุดเพราะฉันคิดว่าเลขสี่เป็นเลขนำโชค เอ้ย....ไม่ใช่
 เพราะฉันคิดว่าโปรเฟสเซอร์ที่จะพิจารณาว่าจะรับนักศึกษาคนไหนเข้าเรียนคงไม่มีคนเดียวอย่าง
น้อยต้อง มากกว่า 2 คนอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นการที่ฉันส่งทำสำเนาให้ 4 ชุดก็จะสร้างความ
สะดวกให้กับเขา และรวดเร็วในการพิจารณาอาจจะได้คะแนนจิตพิสัยเพิ่มอีกสัก 0.99 %
2. ฉันได้สอดเอกสารทุกอย่างเข้าไปในแฟ้มเอกสาร แบบแฟ้มเอกสารสำนักงานที่มีซองพลาสติก
ให้ด้วย เลือกแฟ้มที่มีสีน้ำเงินออกโทนดำ เนื่องจากโปรเฟสเซอร์ที่ฉันจะส่งเอกสารไปให้เป็นผู้ชาย 
 ฮ่า...และผู้ชายแท้ๆหลายๆคนชอบสีนี้.....ไม่ช่าย.....เผื่อเมื่อพิจารณาเสร็จเขาก็ต้องเอาเอกสารฉัน
ออกจากแฟ้มหลังจากนั้นเขาก็อาจจะเอาแฟ้มฉันไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไง ข้อนี้ฉันให้คะแนนตัวเอง
 เพิ่ม 1 %

3. ฉันได้ซื้อวิมัยบัตรของไปรษณีย์ไทยแนบไปด้วย2 ฉบับ ( ราคา  ณวันที่ 11 ตุลาคม 2002 ใบละ
53 บาท) ซึ่งวิมัยบัตรนี้ ถ้าโปรเฟสเซอร์เขาต้องการติดต่อกลับหรือส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์เขาก็
จะไม่ต้องเสียเงินค่าส่งให้ ซึ่งอันนี้สำคัญมาก เพราะในปีหนึ่งๆมีคนสมัครเรียนเยอะมากการส่ง
เอกสารไปให้คนหลายๆคนคงต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นหากเราส่งไปอาจจะได้คะแนน
เพิ่มอีก 1.9 %

15.30 น. 
"พี่ดำรง...ช่วยดูเอกสารให้หนูหน่อยซิคะ"
"หนูขอชื่อพี่เป็น....เอ่อ...บุคคลรับรองนะคะ” ฉันเอาเอกสารไปให้พี่ที่เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลดูก่อน
“โอเคเรียบร้อยแล้วคุณไปส่งได้เลย”
“เอ่อ  แป็บนึงค่ะ หนูรอฤกษ์งามยามดีอยู่ค่ะ”

15.59 น.
ในที่สุดฉันก็ได้ฤกษ์ส่งเอกสารซะทีฉันส่งเอกสารทาง DHL ไปประเทศเยอรมันผ่านทางบริษัทฉัน
ค่าส่งเกือบ 500 บาทแนะ ....แพ้ง...แพง  แต่ก็ต้องลงทุน เพราะ Dead line วันที่ 15 ตุลาคม 2002
และพี่เขาการันตีว่า 3 วันถึงแน่ๆ  ก็จะทันเวลาพอดี.....

15 ตุลาคม 2002
ป่านนี้เอกสารคงถึงแล้วล่ะนะ....เอ...แล้วเขาจะเมล์ติดต่อเรามาเลยหรือเปล่านะเนี่ย

17 ตุลาคม 2002
เปิดเมล์....ไม่มีเมล์มาเลยลงไปดูเอกสารจากไปรษณีย์ที่ฝ่ายบุคคลดีกว่า
“ ไม่มีเอกสารของแกเลยไอ้เรือง” เฮ้ย...เศร้า...จัง

20 ตุลาคม 2002
ไม่มีการติดต่ออะไรทั้งสิ้น
25  ตุลาคม 2002
เงียบกริบ

30   ตุลาคม 2002
เศร้าจัง.....ไปเมาดีกว่า

31 ตุลาคม 2002
ยางม่ายมีเมลลล์มาอีกเหยอ....โปรรรเฟสสสสสเซอร์ปายหนาย...ทามมายม่ายตอบเมลลลล์ซ้าาา
ที....ปวดหัวจัง

*-*-*-*-*-*-*-*-*-
สรุปความสำเร็จ(ปนความเศร้า) ของเดือนนี้

1.สอบ TOEFL เสร็จเรียบร้อยแล้วแต่  แง..แง...แง..
2.สมัครเรียนและสมัครทุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ แง..แง...แง..
3.เก็บเงินไม่ได้เลยเดือนนี้ ค่าสอบ ค่าเตรียมเอกสาร ค่าถ่ายรูป ค่าส่ง ค่า...ฯลฯ แง..แง...แง..

~*~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*