Photobucket - Video and Image Hosting
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Uneventful Days At Home

ช่วงนี้ชีวิตเรียบง่าย ไม่มีอะไรตื่นเต้น แปลกใหม่ ทุกวันผ่านไปเรื่อยๆเอื่อยๆเหมือนสายน้ำไหล จะว่าน่าเบื่อก็ไม่เชิง เพราะมันเป็นช่วงเวลาของการรอคอย เหมือนดักแด้ที่รอวันเติบโตเป็นผีเสื้อ เพียงแต่ว่าต้องใช้ความอดทนในการรอมากเสียหน่อย

U/S กับฟุคุดะคลีนิคครั้งสุดท้าย อายุครรภ์ได้ 9 สัปดาห์ เป็นการซาวนด์ทางช่องคลอด

Photobucket

คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวก่อนกลับบ้านให้ฉันเจาะเลือด 3 หลอดเพื่อตรวจหาโรคต่างๆเสียด้วย ตาอ้วนโทรเข้ามาที่คลีนิค บอกว่าตัดสินใจเลือกรพ.ฝากท้องได้แล้ว ทางฟุคุดะคลีนิคจึงยุติโพรเซสทุกอย่าง แล้วให้ฉันไปเริ่มต้นกับรพ.ใหม่เลย

ตาอ้วนเลือกsearchเนต ดูรายชื่อรพ.ที่ทางฟุคุดะคลีนิคให้มา สุดท้ายฟันธงว่าเอาOgawa Clinic เหตุผลหลักๆคือ ทางคลีนิคนี้มีshuttle busของคลีนิครับส่งหน้าบ้านวันละ 7 รอบ อยู่ไม่ไกลจากบ้าน(ห่างไป 1 สถานี) และผ่าคลอดแบบ帝王切開(Caesarean Section)

เมื่อตัดสินใจได้ดังนี้ ตาอ้วนจึงโทรไปนัดเวลาทางรพ. ซึ่งทางรพ.ก็ขอให้ฟุคุดะคลีนิคออกจดหมายเกี่ยวกับประวัติของฉันที่รักษากับทางฟุคุดะคลีนิคให้ด้วย จดหมายนี้ถูกผนึกปิดซีล (ฉันก็ไม่ได้อ่าน)

โรงพยาบาลเป็นอาคาร 4 ชั้น ตั้งอยู่ในละแวกบ้านอยู่อาศัย หากนั่งรถไฟจะต้องต่อรถแท๊กซี่อีกประมาณ 5 นาที หากจะเดินคงจะเหงื่อซึม

(เอารูปมาจากโฮมเพจของOgawa Clinic)

ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่คลีนิคขนาดเล็ก เป็นอะไรที่กึ่งกลางพอดี ทั้งรพ.มี 3 แผนก คือ แผนกสูติ-นรีเวช(産科-婦人科) แผนกกุมารเวช(小児科) และแผนกตรวจทั่วไป(内科) ตาอ้วนระบุเจาะจงว่าขอคุณหมอที่พูดภาษาอังกฤษได้ การตรวจครั้งแรกของฉันจึงเป็นอะไรที่ประทับใจสุดๆ เพราะคุณหมอพูดภาษาอังกฤษได้ดี มีประสบการณ์ทางสาขาสูติ-นรีเวชมา 15 ปี อายุยังไม่มาก

Photobucket

จะติก็เพียงแต่คุณหมอซาวนด์ช่องคลอดได้ไม่นุ่มนวลเท่าคุณหมอฟุคุดะเท่านั้นเอง คุณหมอซักประวัติของฉัน ของคุณแด๊ด ของแม่ว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า แล้วจดบันทึกลงไปในสมุดคู่มือสุขภาพแม่และลูกที่คนท้องทุกคนต้องมี(เมื่อรู้กำหนดคลอดที่แน่นอน เราสามารถไปขอสมุดนี้ได้จากทางเขต)

Photobucket

ฉันเดินออกจากห้องตรวจด้วยอารมณ์ที่แช่มชื่น ออกมานั่งรอที่ล็อบบี้

สักพักพยาบาลก็เชิญฉันเข้าไปใหม่ บอกว่าคุณหมอมีเรื่องสำคัญที่จะพูด คุณหมอถามฉันเรื่องการตรวจน้ำคร่ำ เนื่องจากอายุฉันเกิน 35 แล้ว คุณหมอแนะนำให้ตรวจ ฉันถามว่าทำtriple testก่อนดีหรือไม่ คุณหมอว่ามันบอกได้แค่มาความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน รายละเอียดของโรคบอกไม่ได้ และหากฉันต้องเสียเงินตรวจ 2 ครั้ง (คือทั้งตรวจเลือดคัดกรองหาค่าความเสี่ยง และตรวจน้ำคร่ำ) ฉันก็ควรเลือกตรวจน้ำคร่ำไปเลยจะประหยัดกว่า ตาอ้วนนั่งฟังคุณหมอบรรยายถึงวิธีการตรวจน้ำคร่ำ พี่แกบอกว่าขอกลับบ้านไปคิดก่อนนะหมอ สรุป ฉันเลยยังไม่ได้ถามราคาค่าตรวจเลย

วันนี้ฉันเจาะเลือด 3 หลอด ตรวจหาโรคเอดส์ ไวรัสตับB ภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน โลหิตจาง จ่ายเงินไป 32,120 เยน (โชคดีที่ทางรพ.รับบัตรเครดิต เพราะไม่ได้เตรียมเงินไปมาก ไม่งั้นเดี้ยงแน่ๆ)

หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ ตาอ้วนไปทำงานสายเพราะขับรถไปจ่ายค่ามัดจำคลอด 2 หมื่นเยนให้

ฉันคุยๆกับตาอ้วนว่า หากอายุครรภ์ครบ 5 เดือน จะบินกลับไทยไปเยี่ยมบ้าน ตาอ้วนก็เห็นดีเห็นงาม หม่าม้าทำตาเขียวปัดบอกว่า หากคุณหมอไม่ให้เดินทาง ยังไงก็ไม่ควรไปนะ

วันที่ 9 พฤษภา รพ.นัดตรวจครรภ์ตามปกติ เที่ยวนี้ฉันต้องไปนั่งรอคุณหมอ 30 นาที (ทั้งๆที่นัดเวลาไว้แล้วล่วงหน้า) เพราะคุณหมอต้องผ่าคลอดฉุกเฉินให้คนไข้คนหนึ่ง อย่างเคยเมื่อไปถึงรพ. ยื่นบัตรคนไข้ และบัตรประกันสังคมแล้ว ก็ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำ เก็บปัสสาวะ ชั่งน้ำหนัก และวัดความดัน (เป็นสิ่งที่คนท้องทุกคนต้องทำโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มารพ. และทำเองโดยไม่ต้องให้พยาบาลมาช่วย) โอย...น้ำหนักขึ้นมาอีกเกือบ 3 โล (1เดือนผ่านไป) คราวที่แล้วฉันก็ทำคุณหมอหนุ่มตระหนกกับน้ำหนักตัวไปทีนึงแล้ว

คราวนี้พยาบาลจับฉันให้เข้าพบกับผู้อำนวยการรพ.(院長先生)ตาอ้วนหัวเสีย บอกว่าจะขอตรวจกับคุณหมอหนุ่มเหมือนเคย พยาบาลอ้ำอึ้งบอกว่าคุณหมอหนุ่มลาออกไปแล้ว โฮ....ตาอ้วนย้ำว่าขอคุณหมอที่พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนฉันก็ใครก็ได้ เพราะเริ่มเซ็งเป็ดที่คุณหมอหนุ่มลาออกไป

อย่างเคยตาอ้วนก็มาเสนอหน้านั่งรอกับฉันในห้องตรวจ พยาบาลและผอ.รพ.เชิญให้ตาอ้วนออกไปนั่งรอข้างนอก พี่แกบอกว่าจะต้องนั่งด้วยเพราะเป็นล่ามให้ฉัน พยาบาลหันมาถามฉันว่า คุณพอฟังภาษาญี่ปุ่นออกไหม (ออกน่ะพอออก แต่ก็ติดนิสัยที่จะให้ตาอ้วนนั่งอยู่ข้างๆด้วย) ตาอ้วนไม่ยอม บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษากับหมอ หน้าตาพี่แกดูดุดันมาก หมอเริ่มระอา ปล่อยให้ตาอ้วนถามในสิ่งที่อยากถามก่อน

คือ ภรรยาผมอยากจะกลับไปเมืองไทยครับ ก็เลยอยากถามหมอว่าช่วงไหนที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทาง

@#$%@#$%*&

(เริ่มเถียงกันระหว่างตาอ้วน และคุณหมอ เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็ตัวลีบลงๆ ก้มหน้างุด)

ขอความกรุณาอธิบายโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายหน่อยครับ ผมต้องการจะรู้แค่ว่ากลับเมืองไทยได้หรือไม่ หากไม่ได้ทำไม มีความเสี่ยงอะไร
จริงๆที่เลือกรพ.นี้ ก็เพราะว่าคราวที่แล้วมีคุณหมอที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี สื่อสารกันได้ง่าย...
(กรี๊ด...ตาอ้วนบอกไปแบบนี้ คุณผอ.รพ.หน้าตึงเชียว)

ขึ้นชื่อว่าท้อง ไม่มีช่วงไหนที่ปลอดภัยหรอกครับ ทุกระยะมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น

แล้วถ้าให้คุณพ่อคุณแม่ที่ไทย เตรียมหารพ.ทางโน้นไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ไหมครับ

การติดต่อรพ.หาหมอเป็นการreactในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วครับ ไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน แล้วยิ่งคุณทำเด็กหลอดแก้วเนี่ย หากเกิดอะไรขึ้น คุณก็ต้องกลับไปทำใหม่อีกรอบหนึ่ง จริงๆแล้วไม่ควรจะให้มีความเสี่ยงใดๆเกิดขึ้นด้วยซ้ำ
หากเป็นภรรยาผม หัวเด็ดตีนขาด ผมก็ไม่ให้ไป


(ตาอ้วนเริ่มจ๋อย เถียงไม่ทันหมอ)

ตอนนี้ภรรยาคุณเริ่มมีอาการบวมแล้วนะ

ไม่ใช่บวมค่ะหมอ แต่เป็นไขมัน

ไม่ใช่ครับ มันเป็นอาการบวม

พร้อมกันนั้นคุณหมอก็ถลกขากางเกงฉันขึ้น เอานิ้วกดไปที่เนื้อแถวๆเหนือข้อเท้า

เวลากินอาหารต้องลดเค็มแล้วนะ

เป็นไปได้ยังไงคะ ปกติหนูไม่กินเค็มนะ ติดจะกินหวานด้วย

หวานก็ต้องงด ต่อไปนี้กินอาหารจืดๆๆพอ

เจ้าตัวมีอาการแพ้ท้องครับ น้ำลายจะออกมาเยอะมาก ทำให้อยากอาเจียน มีทางแก้ยังไงครับ ตาอ้วนถามหมอ

อาการนี้ป็นอาการที่น่ายินดีครับ เพราะเป็นอาการของคนท้อง ไม่ใช่อาการร้ายแรงหรือผิดปกติครับ ที่ญี่ปุ่นนี่คุณหมอไม่โอ๋ไม่ปลอบคนไข้เลยพับผ่าสิ เอะอะก็ชอบบอกว่าคนท้องคนอื่นเค้าก็ทำกันได้ เช่น หากต้องขึ้นรถเมลมารพ. หมอก็จะบอกว่าคนท้องคนอื่นก็ขึ้นรถเมลเหมือนกัน

มียาแก้แพ้ท้องมั้ยคะ

ไม่ได้ผลหรอก หากรู้สึกอยากอาเจียนก็กินบิสกิต หรือคอนเนียขุเจลลี่แล้วกัน เอ่อ...ซื้อมากินได้อยู่อาทิตย์เดียว ก็กลับไปตามใจปากอีกแล้ว

แล้วยิ่งหากกลับเมืองไทย อาหารไทยใส่น้ำปลาใช่มั้ย ยิ่งต้องระวังใหญ่ แหม...คุณหมอขา..อาหารญปมันก็มีโชหยุนะคะ เค็มไม่ได้น้อยกว่าน้ำปลาไทยเลย (แค่คิดในใจ...ไม่กล้าพูด)

เมื่อตาอ้วนออกไปจากห้องตรวจ คุณหมอก็ซาวนด์ท้องฉัน (พอเข้าสัปดาห์ที่ 13 คุณหมอซาวนด์หน้าท้อง)

Photobucket

ยิ่งมองไม่ออกเข้าไปใหญ่ว่าอะไรเป็นอะไร คุณหมอบอกว่าตัวเล็กหัวใจเต้น 167 ครั้ง/นาที ปกติดี ก่อนออกจากห้องคุณหมอสำทับให้ฉันระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะไม่ให้กินปริมาณมาก และห้ามทำงานหนัก

สรุป โครงการวาดฝันกลับไทยของฉันก่อนคลอดมีอันพับล้มไปถาวร

ตอนนี้ติดเกาะไปไหนไม่ได้ อย่างดีก็เดินเที่ยวใกล้ๆบ้าน แล้วก็ถักผ้าห่มเตรียมให้ตัวเล็ก (โครงการ 2 ปีแล้วยังไม่เสร็จเลย)

Photobucket

หม่าม้าให้เนื้อตุ๋นกระป๋องมา 2 กระป๋อง บอกว่าให้ฉันเปิดกันวันที่ขี้เกียจทำกับข้าว ห้ามไปกินอะไรไร้สาระ ฉันเพิ่งลองเปิดมากิน อร่อยง่ะ แนะนำเลยค่ะ เพื่อนๆลองซื้อติดบ้านนะคะ วันไหนเบื่อๆขี้เกียจๆ ก็เปิดกระป๋อง เอาเนื้อเข้าเวฟ กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเลย

Photobucket


*หากจะฝากข้อความ เชิญที่ ปราศรัย นะคะ*

mahalo Image hosted by Photobucket.com




Create Date : 29 พฤษภาคม 2551
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 12:08:04 น. 0 comments
Counter : 1577 Pageviews.

fudge-a-mania
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add fudge-a-mania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.