" I tried my hardest just to forget everything -- Because of you ... "
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

The War Lords - อหังการ์เจ้าสุริยา

ที่จริงการสร้างหนังเรื่องหนึ่ง ให้ออกมาสมจริงสมจัง..ไม่เคยคิดว่าจะต้องใช้ปัจจัยอะไรมากมายสักเท่าใด..
ไม่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลขนาดนี้
หรือไม่ต้องใช้สมอง ใช้ตัวแสดง ฯลฯ...

เพราะสิ่งที่เราเห็นเพียงฉากเดียว ...แต่ผู้สร้างอาจต้องเค้นสมองคิด
หา Locations นักแสดง...special effect
และ...อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะ

เรื่องนี้...ตั้งใจอยากดูเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่า...
ที่ทุ่มทุนมหาศาลมากปานนั้น หนังออกมาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน?
ฉากจะเป็นอย่างไร?
นักแสดงเอกทั้งสามคน ที่ปะทะการแสดงร่วมกัน...
แต่ละคนจะเฉือนบทบาทกันแค่ไหน อย่างไร?

โดยมวลรวม...ก็ยัง ไม่สะใจอย่างที่คาดไว้อยู่ดี

ก่อนอื่น...ต้องขอชมการหาสถานที่ถ่ายทำ
Locations หลายแห่งค่อนข้างเลือกไว้ดี..ตัดต่อ เชื่อมได้ความละเอียดที่ผู้สร้างมุ่งหวังไว้
ความสวยงามของสถานที่ ความอ้างว้างหดหู่ของเมือง ซากหักพังของผลการรบ
หรือแม้นแต่ความยิ่งใหญ่ของพระราชวัง
ที่จะสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ได้ ก็ต่อเมื่อ...มีพระราชพิธีให้เห็น ถึงอำนาจ..บารมี

จินตนาการของผู้สร้าง...เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ นับถือจริง ๆ
กว่าจะออกมาให้เห็นอย่างนี้...ไม่รู้ว่าต้องเค้นสมองคิด เสาะแสวงหา ลองแล้วลองอีกสักเท่าใด?
นั่น...ละ คือต้นทุน!!
ยิ่งอยากให้ได้ดีมากเท่าใด ก็ต้องลองใหม่อีกหลาย ๆ ครั้ง
ทุกครั้ง..ก็คือรายจ่าย!

ด้านผู้แสดง...
ทั้งสามตัวเอก...ไม่มีใครได้รับบทเด่นเกินกัน
ฝีมือการต่อสู้ ก็ต้องยกให้ Jet Li
แต่ถ้าในบทบาท...ก็ พอ ๆ กัน กินกันไม่ลง!!

แต่อาจเป็นเพราะบทบาทของหนัง ที่ส่งบทให้ยังไม่ถึงจุดอย่างที่ควรเป็น จึงดูเหมือนขาด ๆ อะไรไปนิด ๆ
ถ้าจะว่า...ก็อาจเป็นเพราะคนเขียนบท หรือการกำกับ มากกว่าฝีมือผู้แสดง

เนื้อเรื่อง....
ความคิดที่อยากสื่อให้คนดูรับรู้ให้ได้ว่า..
สงคราม ...จริง ๆ ทำไปเพื่ออิสระภาพ เพื่อต่อสู้การกดขี่ข่มเหง เพื่อความถูกต้อง จริงหรือ?

เพราะ...คนที่ได้ผลประโยชน์จากสงคราม
ไม่ได้ต้องการให้สงครามสงบ...ไม่ต้องการ Peace จริง ๆ
ทุก ๆ คนจึงเหมือนหมากตัวหนึ่งในกระดานเท่านั้น
บางครั้งอาจเป็นหนึ่งที่ต้องแลก...เพื่อตาเดินของอีกตัวหนึ่ง
หรือเพื่อความอยู่รอดของตัวหนึ่ง
โดยไม่สนใจว่า...นั่นคือหนึ่งชีวิตเหมือนกัน

สภาพการหักเล่ห์ ชิงเหลี่ยมจึงต้องมีอยู่ตลอดเวลา
เพื่อคานอำนาจระหว่างกันไว้..
หากเมื่อใดที่เพลี่ยงพล้ำ หรือมีกำลังหนุนด้อยเมื่อใด
นั่นคือจุดจบ...

เมื่อชิงหยุน (Jet Li) ชักชวนให้กองโจรเข้าไปร่วมเป็นทหาร
จุดที่เสนอต่อขุนนางใหญ่เพื่อให้รับเป็นทหาร
..ไม่ใช่การรักชาติ เพื่อปกป้องประเทศ
แต่...เป็น "ผลประโยชน์" อะไรล่ะ...ที่ขุนนางใหญ่นั้นจะได้!!

เอ้อหู (หลิวเต๋อหัว) บอกว่ามีกองกำลังมาด้วย 800 คน...
ขุนนางใหญ่ทั้งสามกลับหัวเราะเยาะ!
กำลังเพียงแค่ 800 คน...จะทำอะไรได้??

ต่อเมื่อชิงหยุน บอกว่าจะใช้คนแค่นี้ล่ะ...รวมกับขอกำลังเสริมอีก 800 คน
จะตีเมืองให้ได้ภายใน 15 วัน!!
เมื่อขุนนางใหญ่นั้นยังหัวเราะ...เยาะเย้ยอยู่
เขาเสนอรุกต่ออีกทันทีว่า...จะตีเมืองภายใน 10 วัน!!!!
คราวนี้...เสียงหัวเยาะหยุดลงทันที
แล้วสามพี่น้องก็ทำสำเร็จจริง ๆ

เมื่อบ้านเมืองเกิดกลียุค...
ผู้นำหลงมัวเมาในอำนาจ ไม่ปกครองด้วยทศพิธราชธรรม
อย่าว่าแต่จะเกิดกบฎไท้ผิงขึ้นเลย..
ทุก ๆ คนที่เป็นขุนนางต่างก็เอาใจออกห่าง
ที่เลวอยู่แล้ว...ก็ยิ่งเลวมากขึ้น
กอบโกยอะไรได้ ก็ทำ!

หรือแม้นแต่ซ่องสุมกำลัง สร้างความวุ่นวายขึ้นเอง...เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากความวุ่นวายนั้น ๆ
จริง ๆ ไม่เคยนึกเลยว่า การก่อความวุ่นวาย...คนทำจะได้ประโยชน์อะไร!
หลาย ๆ กรณีมากเข้า...จึงยอมรับ
ที่เห็น ๆ เต็มตาในยุคนี้ก็มีเทียบให้ดูอยู่มาก...จริงไหม?


หากเทียบกับเรื่องอื่น ๆ ที่ยกแนวคิดเรื่องการรักชาติ...ยอมตายดีกว่าขายชาติ
เรื่องนี้...เป็นคนละประเด็นกันเลย
โจรที่ปล้นสะดมภ์เสบียงทัพหลวงมาเจือจานชาวบ้าน...
เมื่อเข้าตาจน...ก็ ยอมเป็นทหาร โดยไม่สนใจว่าจะเป็นช่วยหมิง หรือชิง
ในเมื่อ...ญาติพี่น้อง และท้องที่หิวโหย ไม่มีอาหาร ไม่มีการเป็นอยู่ที่ดี และแร้นแค้น!!
เอาเบี้ยหวัด เครื่องนุ่งห่ม เครื่องแบบทหาร...มาบรรเทา ก็ยังดีกว่า ชีวิตในปัจจุบัน!
แม้นว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต...ก็ยอม
เพราะที่อยู่...ก็ต้องแลกอยู่แล้ว!!


ชิงหยุน...บอกเอ้อหูว่าจำเป็นต้องฆ่าเซี่ยวซี และเกาจือ ทหารหนุ่มที่ข่มขืนชาวบ้านหลังได้ชัยชนะ...
เพราะ...เคยเห็นสภาพขอทานที่ถูกทหารกลุ้มรุมทำร้าย ตีแล้วตีอีกไม่ว่าขอทานนั้นจะบอบช้ำ เลือดออกมากแค่ไหนก็ตาม..
เขา...จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นมาอีก
สภาพความกดขี่ข่มเหง กับคนที่ไม่มีหนทางต่อสู้..เป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้

และที่สำคัญ เขาจำเป็นต้องฆ่าเพื่อรักษากฎวินัยของทัพ
แม้นว่าทหารหนุ่มทั้งสอง...จะเกี่ยวพันเครือญาติอย่างไรก็ตาม

แต่...
เขากลับสั่งฆ่าทหารกวางโจว 4 พันคน..ที่ยอมแพ้ ทิ้งอาวุธ
เป็นการสังหารโหดคนไม่มีหนทางต่อสู้ หรือเปล่า?? ไม่รู้..
แต่คำอธิบายต่อเอ้อหู...ที่ผิดหวังการกระทำครั้งนี้คือ

ทหารทั้ง 4 พัน เป็นทหาร...ไม่ใช่ชาวบ้าน
ปล่อยเสือคืนป่ารังแต่จะเป็นภัย...
มิหนำซ้ำ เสบียงกรังที่มีก็ไม่เพียงพอ..
เขาฆ่า...เพราะที่เห็นเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง กลุ่มหนึ่งบนดานหมากรุกหรือเปล่า?
เรื่องจำเป็นต้องเดิน...อะไรจะมาเป็นอุปสรรคไม่ได้ทั้งสิ้น!!

แต่กับคนที่เคยรู้จักกัน ร่วมอยู่ ร่วมรบกันมาตลอด...
อู๋หยาง...ที่เป็นน้องร่วมสาบานคนเล็ก ซึ่งเป็นคนต้องออกคำสั่งฆ่า..
ยังรับไม่ได้กับความเป็นจริงที่ต้องทำ...
ทหารหลายคนที่ต้องลงมือ...ถึงกับอาเจียนกับการกระทำของตัวเอง...ที่เลี่ยงไม่ได้...ต้องฆ่าเพื่อนด้วยมือตัวเอง!!

เคยมีสักครั้งไหม...
ที่ต้องลงมือทำร้ายเพื่อนด้วยกัน...
แล้วรู้สึกว่า ยากจะลงมือ???
แต่ต้องตัดใจทำ...


ทำไมถึงจะเลี่ยงไม่ได้ล่ะ...
ทางตันจริงหรือ??
หรือไม่ยอมเลือกเอง...

แล้วโทษชะตาฟ้าดินกำหนดให้???


และ...
กับการกระทำอีกครั้ง...ของชิงหยุน
ที่สั่งฆ่า...เอ้อหู น้องร่วมสาบาน!!
แล้วอ้างว่า...ทำไปเพราะถูกวังหลวงบังคับ!!!

คำพูดดี ๆ ที่ชิงหยุนพูดแต่ต้น...หายไปไหนล่ะ?
แม้นหนังจะสื่อให้เห็นว่า...ชิงหยุนได้ร้องขอกับซูสีไทเฮา
ให้ลดภาษีกับชาวบ้านนานกิง 3 ปี...
แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ชิงหยุนทำ...ต่างกันจนรับไม่ได้!!
ฆ่าเพื่อนเอาตัวรอด...
ทำงานเพื่อหวังลาภยศ..

และเมื่อย้อนดูต้นเรื่อง...
ที่ชิงหยุนใช้ซากศพเพื่อนบังร่างตัวเอง...แล้วแสร้งตายในสนามรบ
ทุกคนตายหมด...ยกเว้นเขาคนเดียว!!
เป็นเรื่องน่าภูมิใจ...หรือน่าตกใจ ที่มีชีวิตรอด...เพียงคนเดียว
ทหารดี..เพื่อนดี เขาไม่ทิ้งกันไม่ใช่เหรอ??
อย่างนี้ ก็เป็นการสื่อ...ให้เห็นธาตุแท้ของชิงหยุนหรือเปล่า?

ผู้หญิง...ความสัมพันธ์ชั่ววูบระหว่างชิงหยุนกับภรรยาเอ้อหู..
ช่วงเดินทาง...
จะบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้...คงไม่ถูกต้องนัก
ผู้หญิงที่มีสามีแล้ว...โดยเฉพาะธรรมเนียมจีนโบราณยุคนั้น
การหวงเนื้อหวงตัวยิ่งเป็นเรื่องใหญ่...
การปล่อยตัวกับชิงหยุน...จึงเป็นเรื่องไม่สมควร

เมื่อรู้ภายหลังว่าเป็นภรรยาของเอ้อหู-น้องร่วมสาบาน
ชิงหยุนยังไม่หยุดยั้งพฤติกรรม และความรู้สึกภายในของตนเอง
ถือได้ว่าเลวตั้งแต่ภายใน...และไม่ควบคุมสะกดความถูกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น

ในศึกกวางโจว...เอ้อหูเสี่ยงตายเข้าเมืองเพื่อเป็นไส้ศึก
นอกจากชิงหยุนไม่ห่วง...ยังใช้โอกาสนี้สร้างตราบาปกับภรรยาน้องตนเองอีก
รวม ๆ แบบเหมา ๆ จึงไม่รู้ว่า...
เพราะวังหลวง หรือเพราะตัวเอง...ที่อยากกำจัดเอ้อหูกันแน่??
จึงหลอกเอ้อหูไปสังหาร...

ฉากจุดจบของภรรยาเอ้อหู..
ที่อู๋หยาง...น้องร่วมสาบานคนเล็ก พิพากษาด้วยการฆ่า...เพื่อจบปัญหา
เขาบอกว่า...เขาคิดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้...
ถึงการฆ่าครั้งนี้ จะช่วยชีวิตเอ้อหูไม่ได้...แต่ตอนนี้คิดได้แค่นี้ล่ะ!!~

ช่วงระหว่างจะลงมีด...
และภรรยาเอ้อหูร้องขอความช่วยเหลือ....
เหมือน ๆ จะขะโมยซีนหนังผีฝรั่ง...มายังไงยังงั้น!!
เสียงสวดมนต์ก่อนตอกไม้กางเขน ....เสียงสาปแช่งอ้อนวอนของผีร้าย
ต่างอะไรกับ...เสียงพิพากษาของอู๋หยาง และเสียงขอชีวิตจากภรรยาเอ้อหู??


หรือ ภรรยาเอ้อหู...ที่เป็นชู้กับพี่ร่วมสาบานสามีตนเอง คือผีร้ายจริง ๆ ???
ผีร้ายที่ยังอยู่ในคราบร่างคนไง???

ฉากสุดท้ายของเอ้อหู...
ที่ถูกหลอกไปฆ่า...
ไม่ได้คิดเลยว่า...พี่ชายร่วมสาบานจะทรยศ ถึงกับวางแผนหลอกมาสังหาร
แม้นจะถูกลูกธนูยิงใส่ร่าง..ดอกแล้วดอกเล่า ก็ตาม...
สุดท้าย..
ก่อนจะสิ้นลม...คำเรียกสุดท้ายคือ "พี่ใหญ่"...

คำเรียกนี้...บอกว่า ...เสียใจที่ช่วยเหลือพี่ใหญ่ของตนเองไม่ได้
หรือว่า...
เสียใจ...ที่รู้ตัวแล้วว่า "พี่ใหญ่" นั่นล่ะ...คือคนหลอกตัวเองมาสังหาร???

ฉากสุดท้าย...จริง ๆ
วันที่ชิงหยุนจะได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนางใหญ่...
ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป็นวันที่สังหารเขามากกว่า!!
กว่าอู๋หยาง...ที่ตามมาฆ่าชิงหยุน เพื่อให้เป็นไปตามคำสาบานพี่น้อง
จะรู้...ก็ต่อเมื่อชิงหยุนถูกลอบยิง...ในช่วงปืนใหญ่ยิงสลุตฉลองตำแหน่ง

ก็คุ้นอีกน่ะแหละ...
เหมือน ๆ JFK ช่วงโดนลอบสังหาร...น่ะ??

ความผูกพัน...น้ำใจ ไมตรีระหว่างมิตรสหาย คือเรื่องที่สะท้อนได้ชัดเจนดี
คำที่บอกว่า...คนที่ไม่มีเพื่อน ยากจะอยู่ในโลกนี้
ก็จากความรู้ซึ้งในมิตรไมตรีจากเพื่อนที่ดี
แต่...
ถ้ามีเพื่อนอย่างชิงหยุน...
เกิดแล้วตายสิบแปดชาติ....คงไม่พอให้ชิงหยุนหักหลัง ทรยศกระมัง???

ถึงจะยังไม่ประทับใจเต็มร้อย...แต่ขอให้ ห้าดาว จากเต็มห้าดาว




 

Create Date : 30 มีนาคม 2551
5 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2551 9:54:13 น.
Counter : 2008 Pageviews.

 

เราก็ชอบเรื่องนี้


ถ้ามีเพื่อนแบบผางชิงหยุน ขอไม่มีดีกว่า

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 30 มีนาคม 2551 10:09:14 น.  

 

ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ติดใจที่ภรรยาของเอ้อหู คือ ทำไมถึงไปมีอะไรกับชิงหยุน

ถ้าจำไม่ผิด ในฉากนั้น ฝ่ายหญิงเป็นคนเข้าหาก่อนด้วยซ้ำ (เพราะฝ่ายชายหิวข้าว ไม่ค่อยมีแรง... ฮา)

ส่วนที่มีอะไรต่อ ๆ มาเนี่ย

คิดว่า ชิงหยุนคงรักฝ่ายหญิงจริงล่ะ แต่ฝ่ายหญิงเนี่ย ไม่แน่ใจ

ก่อนภรรยาของเอ้อหูจะถูกฆ่า ยังพูดกับอู๋หยางว่า "นี่ ดูผ้าพวกนี้สิ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"

กำลังคิดว่า ตัวคนเขียนบท มองว่าผู้หญิงเป็นอะไรบางอย่างที่มันไม่ดี เป็นมาร เป็นกาลกิณี เป็นนางกากี อะไรแบบนั้นหรือเปล่า

ประมาณว่ามีอคติกับฝ่ายหญิง

ว่าแต่ต้องขอแซวหน่อยว่า ขนาดชอบไม่เต็มร้อยยังให้ 5 ดาวเต็มห้า แสดงว่า ต้องให้คะแนนมากกว่า 90 เต็มร้อยแน่ คือ มากกว่า 4.5 ดาว เลยปัดเป็นห้าเต็มเลย หุ ๆ ๆๆ

 

โดย: Plin, :-p 15 เมษายน 2551 20:52:01 น.  

 

หญิงที่เกิดในยุคนั้น ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ไม่อาจรักษาตัวให้บริสุทธ์ได้ตลอดเวลา โอกาสถูกย่ำยีมีสูง
ขอเพียงรักษาตัวไม่ให้ "ตาย" ก็ถือว่าดีแล้ว

ก่อนอู๋หยางจะฆ่า ภรรยาเอ้อหูรู้ตัวดีว่าไม่รอด ไม่มีโอกาสได้ใช้วาสนาที่เพิ่งได้มา และเสียดายกับทุกอย่างที่ต่อสู้ และได้ผ่านมาอย่างยากลำบาก
ทุก ๆ อย่างก็เหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่มีแก่นสาร
ก็ไม่รู้จะอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนา ...ถ้าไม่ใช่เพราะกิเลสตัณหาของตัวเอง

กับชิงหยุน...จึงเหมือนเป็นแค่ตัณหา หน้ามืดตามัวชั่วขณะ บุคลิกองอาจ สมชายชาตรี เพราะเป็นนายทหารที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัดมา...จึงเป็นจุดเด่นต้องตา ต้องใจ แต่ไม่ใช่ "ความรัก"

เพราะฉะนั้น หญิงคนนี้ (เฉพาะคนนี้)...จึงเปรียบเสมือนมารร้าย ผีร้าย ที่ขณะเอ้อหูจะฆ่าและประกาศความผิดพร้อม ๆ กับลงมีด ภรรยาเอ้อหูก็จะพูดอะไรมากมาย ทั้งร้องขอชีวิต ..
นี่..ถ้ามีคำสาปแช่งด้วยล่ะก็....จะเหมือนเอ๊กซอร์ซีส-หนังผีฝรั่งเต็ม ๆ

ก็ทำให้คิดว่า...คงไม่ใช่เพราะคนเขียนบทมีอคติกับหญิง ...แต่เพราะอยากจะสื่อออกมาว่า ...ยามศึกสงคราม ยามทุกข์ยาก หากจิตใจของผู้หญิงไม่มั่นคงเพียงพอ ยึดมั่นเพียงพอ
อาจทำเลวได้ทุกขณะที่มีอะไรมาสัมผัส ถูกตา ต้องใจ
ชีวิตที่แร้นแค้น กับสุขสบาย...มันต่างกันน่ะ!!

ที่ไม่ชอบถึงเต็มร้อย เพราะยังไม่เต็มอิ่มกับหลาย ๆ ฉาก ที่น่าจะดีกว่านี้ แต่ด้วยความยากลำบาก และพยายามสร้างได้ถึงเพียงนี้ ก็ต้องคารวะด้วยใจจริง ไม่ให้เต็มห้าดาวก็ออกจะใจร้ายไปหน่อยนะ...

 

โดย: icechick 16 เมษายน 2551 8:28:59 น.  

 

อันที่จริง ตอนที่อู๋หยางจะฆ่าภรรยาเอ้อหู เนี่ย

คิดอยู่เหมือนกันนะว่า ถ้าภรรยาเอ้อหู ไม่พูดว่า "นี่ ดูผ้าพวกนี้สิ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" อู๋หยางจะใจอ่อนลงบ้างไหม ประมาณว่า อู๋หยางคงเห็นว่า อ้อ... พี่สะใภ้เป็นคนเยี่ยงนี้เองเหรอ ฆ่าให้ตายคงไม่เป็นไร

คือ หาความชอบธรรมให้ตัวเอง

เพราะว่า ที่จริง อยากจะฆ่าพี่สะใภ้ให้ตายไปเพราะเชื่อว่า พี่ใหญ่ กับ พี่รอง จะไม่ทะเลาะกัน ก็ตลกไปหน่อย เพราะเดี๋ยว พี่ใหญ่ กับ พี่รอง นั่นแหละ จะร่วมมือกันมาเล่นงานตัวเอง

 

โดย: Plin, :-p 16 เมษายน 2551 9:11:19 น.  

 

555

 

โดย: icechick 17 เมษายน 2551 21:17:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


icechick
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพลง “ Because Of You ”

นักร้อง “ Kelly Clarkson ”



เนื้อเพลง


I will not make the same mistakes that you did

will not let myself cause my heart so much misery

I will not break the way you did You fell so hard

I learned the hard way, to never let it get that far

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I lose my way

And it's not too long before you point it out

I cannot cry

Because I know that's weakness in your eyes

I'm forced to fake a smile, a laugh

Every day of my life

My heart can't possibly break

To take your heart away

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I watched you die

I heard you cry

Every night in your sleep

I was so young

You should have known better than to lean on me

You never thought of anyone else

You just saw your pain

And now I cry

In the middle of the night

Over the same damn thing

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

-------

ขอขอบคุณ:: http://www.esnips.com, Blog ป้ามด

________________

________________

________________

________________


LifE MessageS '' Zz ~~*

----

>> 1st Day : ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้ ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม...

---

>> 2nd Day : อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา และอย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

---

>> 3rd Day : ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”

---

>> 4th Day : นึกไว้เสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง

---

>> 5th Day : ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ

---

>> 6th Day : ชม เกินจริง = เป็นโทษ || ติ เกินเหตุ = เสียน้ำใจ

---

>> 7th Day : ยิ่งงานหนักเท่าไร ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต

---

>> 8th Day : การทำงาน ย่อมต้องมี "อุปสรรค" ทุกคนจึงกลัวอุปสรรค แต่อุปสรรค... กลัว "คนทำจริง"

---

>> 9th Day : ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

---

>> 10th Day : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

---

>> 11st Day : หัดทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้

---

>> 12nd Day : จิตใจของคุณก็เหมือนกับไข่ 1 ฟอง ที่ดูภายนอกแล้วแข็งแกร่ง. . . . . แต่เมื่อคุณลองกระเทาะ เปลือกออกมา ก็จะเห็นว่าคนๆนั้นๆ. . . . . . ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคุณเลย

---

>> 13rd Day : เขียนชื่อคนที่เราเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ

---

>> 14th Day : พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่

---

>> 15th Day : ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้

---

>> 16th Day : แค่.. "ซื่อสัตย์" และ "เก่ง" คงไม่พอ (อยู่ไม่ได้) ต้อง.. "ทันเกม" และ "มีปฏิภาณไหวพริบรอบคอบ" ด้วย

---

>> 17th Day : อย่ากลัวที่จะลงโทษคนที่ทำผิด...

---

>> 18th Day : อย่าขีดเส้นวงกลมรอบตัวเอง...

---

>> 19th Day : มันเป็นกรรม.. ที่เราต้องทำใจให้ได้ว่า.. "ไม่มีใครเข้าใจอะไรใครได้ง่ายๆ ..."

---

>> 20th Day : ความจริงย่อมคือความจริง ไม่มีวันตายจาก..

---

>> 21st Day : จะอยู่ช้าอยู่เร็วก็ยังไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้ก็ใช้เวลาทำในสิ่งที่อยาก

---

>> 22nd Day : เงินไม่มาก ...แต่บั่นทอนกำลังใจ

---

>> 23rd Day : นโยบายอยู่เหนือเหตุผล...

---

>> 24th Day : ทิฐิ..อยู่คนละฝั่งกับเหตุผล

---

>> 25th Day : จุดประสงค์จริง ๆ คือ...ความราบรื่นของการทำงานไม่ใช่หรือ?

---

>> 26th Day : ยศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความเพียร มีสติ มีการงานสะอาด

---

>> 27th Day : ใคร่ครวญก่อน แล้วจึงทำ!

---

>> 28th Day : ..เป็นผู้สำรวม มีชีวิตอันประกอบด้วย เมตตาธรรม คุณธรรม และ..ไม่ประมาท

---

>> 29th Day : หากคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ นั่นคือต้นทุนที่เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ

---

>> 30th Day : มีบางคน ยอมตายอย่างพร้อมใจ ก็ไม่ปรารถนาทำเรื่องต่ำช้าให้เป็นที่อัปยศ อดสู นั่นจึงเป็นวีระบุรุษที่ยอมตาย โดยไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ย่ำยี

---

>> 31st Day : จงเคารพ บูชา พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จงอย่า อ้อนวอน ขอร้องให้ท่านช่วย!

---

>> 32nd Day : จิตใจ มิใช่สิ่งที่ฝึกฝนได้ด้วย "ตำรา" แต่จะต้องฝึกฝนโดยผ่านการต่อสู้จริง ๆ โดยผ่านการปฏิบัติที่เป็นจริง

---

>> 33rd Day : การลำเอียง เข้าข้างตัวเอง เป็นอุปสรรคของการพัฒนาจิตใจ

---

>> 34th Day : ศัตรู มักอยู่ในพวกเดียวกัน

---

>> 35th Day : จงอย่ากลัว การมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

---

>> 36th Day : หัดวางตัวเอง ให้อยู่ในฐานะ "คู่ต่อสู้" และสร้างความหวั่นไหวให้กับจิตใจคู่ต่อสู้

---

>> 37th Day : ก้าวหน้าไปอีกขั้น ยิ่งทำให้ชีวิตลำบากไปกว่าเดิมหรือเปล่า? ...แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะวิบากแค่ไหน ก็ต้องเดินไปอยู่ดี!!

---

>> 38th Day : ปัญหา...ที่ได้ยินมักจะบอกว่า..."ไม่รู้" ถ้าไม่รู้ แล้วจะจัดการได้อย่างไร? โดยเฉพาะ ภายใต้ทรัพยากรจำกัด และพลิกผันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

---

>> 39th Day : แผน ไม่เคยหยุดนิ่ง กลยุทธ์ต้องเท่าทัน หรือดักหน้าด้วยซ้ำ คำว่า "พอ" เท่ากับ "ไม่มี" มีแต่ว่า "แค่นี้" จะทำให้ดีได้อย่างไร!

---

>> 40th Day : มองปัญหาต่างกัน ผูกไปถึงการมองสาเหตุ และการแก้ไขที่ต่างกัน หลักวินิจฉัยเหมือนกัน หรือต่างกันไม่มาก ผลออกมาก็จะต่างกันไม่มาก แต่ถ้าหลักวินิจฉัยต่างกัน + มีอัตตา ก็จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคได้ในองค์กร

---

>> 41st Day : ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การครอบครอง

---

>> 42nd Day : น้ำที่ลึกและใสจึงจะมีปลา ป่าที่รกและทึบจึงจะมีสัตว์ คนที่มีคุณธรรม ความมั่งคั่งถึงจะมาเยือน

---

~~ To Be Continue ...

From Me...

-----------

CrediT For Every Good Msg. :: Everywhere, Fw Mails & Some Person


Seconds

Friends' blogs
[Add icechick's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.