" I tried my hardest just to forget everything -- Because of you ... "
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

I am legend

มีความคิดอยู่เหมือนกันว่า มะเร็งเป็นโรคร้ายที่ป้องกันได้ยาก...
หรือไม่รู้จะป้องกันอย่างไร!!
อย่าว่าแต่จะเอ่ยไปถึงการรักษาให้หายขาดเลย...เพราะเมื่อใครเป็นแล้ว จะถนอมชีวิตไว้ได้นานเท่าใด...เท่านั้นล่ะ

กับ HIV ...ยังเป็นโรคร้ายที่ป้องกันได้ ถ้าควบคุมพฤติกรรมไม่ให้เสี่ยงต่อโรคดังกล่าว
ถึงเมื่อเป็นแล้ว...ก็ยังไม่มีตัวยารักษาได้แน่นอน เหมือนมะเร็งก็ตาม
แต่ถ้าหลีก เลี่ยง และปฏิบัติตามเงื่อนไข...ก็สามารถป้องกันได้

การค้นคว้า หาตัวยามารักษามะเร็งจึงดูเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ยินดี
หากจะมีใครที่ทำสำเร็จขึ้นมาได้..

ก็..คงมีหลายคนที่ทุ่มเทความพยายาม..

แนวคิดที่จะใช้พิษต้านพิษ...หรือใช้พิษรักษาพิษ ก็คงเป็นอีกแนวทางหนึ่ง
โดยเฉพาะการใช้ไวรัส...จากโรคร้าย ๆ

ไวรัส...ที่คือตัวร้าย หรือพิษร้ายชนิดหนึ่งเหมือนกัน!!
คำพูดของหมอที่ค้นคว้าแนวทางรักษามะเร็งด้วยการใช้ไวรัสนี้..
ฟังดูน่าเชื่อถือ และ...เป็นไปได้

ไวรัสที่เป็นพิษร้าย ก็เหมือนรถยนต์พลังสูงที่ขับด้วยโจร ผู้ร้าย
ถ้าเปลี่ยนคนขับเป็น ตำรวจล่ะ?
ไวรัสก็จะถูกเปลี่ยนเป็น Helpful ไม่ใช่ Harmful
(สงสัยหมอคงจะลืมไปว่า...ตำรวจดี ๆ มีไม่มากนักน่ะ?)

จากแนวคิดสร้างการรักษามะเร็งจากไวรัส...
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของซอมบี้??
ไวรัสร้ายที่เปลี่ยนสภาพร่างกายคน สัตว์ ให้เป็นผีดิบตายซาก...มีชีวิตอยู่ด้วยการดื่มเลือด และถูกแสงแดดไม่ได้??

แต่ซอมบี้เรื่องนี้ ค่อนข้างเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ไม่เชื่องช้าเหมือนทุกเรื่องที่เคยดูมาน่ะ!
มิหนำซ้ำยังปีนป่ายต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือตึกสูง ๆ ชนิดจิ้งจกยังอาย..


เป็นอุทาหรณ์สอนใจเหมือนกันว่า
ในการค้นคว้าอะไรใหม่ ๆ ที่บอกว่าทำเพื่อสังคม เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อฯลฯ
สังวรสักนิดก็จะดี...ว่าที่คิดจะทำนั้น มีผลร้ายข้างเคียงอะไรบ้างหรือเปล่า
อย่าคาดหมายแต่ส่วนดีที่จะได้...
ถ้าจะให้ดี ควรทดลองซ้ำแล้ว ซ้ำอีก...ก่อนจะเผยแพร่แก่สาธารณะชน
ไม่เช่นนั้น...ผลร้ายที่ตามมา อาจไม่มีทางได้ย้อนกลับคืนมาแก้ไขได้!


เหมือนในเรื่องนี้...
เพียงสามปีต่อจากนั้น...ต่อจากการประกาศความสำเร็จว่าใช้ไวรัสรักษามะเร็งได้!!
กลุ่มคนตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองรักษา...
ก็คือกลุ่มคนตั้งต้น ที่แพร่เชื้อร้าย...ทำให้คนในมหานครนิวยอร์ก และทั้งโลก...ติดเชื้อ...และกลายเป็นซอมบี้หมดทุกหนทุกแห่ง

หลายครั้ง...เหมือนกันที่ได้รับฟังใครประกาศความสำเร็จแนวคิดใหม่ ๆ
จะรู้สึกหวาด ๆ อย่างไร ชอบกล...
ไม่ใช่เพราะมองโลกในแง่ร้าย... แต่ ที่พบเห็นมามาก...จะเป็นเหมือนในหนังเรื่องนี้ล่ะ...


การจำลองภาพบ้านเมืองที่รกร้าง ว่างเปล่า...
ดูวังเวงจริง ๆ ...
ถ้าเป็นเรา...ต้องอยู่คนเดียวในโลกนี้ ...คนเดียวจริง ๆ
ไม่มีมนุษย์แม้นแต่คนเดียวที่เหลืออยู่...นอกจากเรา!!
คงไม่แตกต่างจาก Dr. Robert Neville (Will Smith) ...

พูดคุยกับหุ่น และสุนัขแทน...
เปิดเทปข่าว...เทปหนัง และเพลง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศความโดดเดี่ยว
จิตใจจะไม่มีผลกระทบเลย...ก็คงเป็นเรื่องแปลก
เพราะฉะนั้น..เมื่อ Neville สูญเสียแซม (สุนัข) ที่เป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียว
สติของเขาก็แทบบ้า...

การประกาศตัวเปิดศึกในช่วงตะวันตกดินกับเหล่าซอมบี้
จึงไม่ใช่เพื่อการล้างแค้นให้แซม...เพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการแสดงออกถึงความเบื่อหน่าย...เบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงลำพัง อีกต่อไป!!

แต่จริง ๆ แล้ว...
กับบางคน...ถึงบ้านเมืองจะไม่ได้รกร้างว่างเปล่าเพราะเหตุโรคร้ายอย่างเรื่องนี้...
แต่ เพราะชีวิตที่ประสบกับเหตุทำร้ายใจอย่างรุนแรง...ก็น่าจะมีสายตาที่มองทุกสิ่งทุกอย่าง ว่างเปล่า...เหมือนกันล่ะน่ะ??
ว่างเปล่า...จนถึงกับมองว่า ไม่มีใครเข้าใจ หรือรู้ในสภาพเจ็บปวดของตนเองได้!
ถึงอยู่กับใครต่อใครหลายคน...แต่ในจิตใจเหมือนกับอยู่เพียงคนเดียว...


อีกอย่าง...ที่น่าสนใจ!!
คนที่ชอบความสันโดษ...เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด
ไม่พบปะผู้คน ไม่สนทนาวิสาสะ...ไม่สังคมกับใคร ๆ ทั้งสิ้น
อยู่กับนก ดอกไม้ ใบไม้ไปตามเรื่อง...เป็นระยะเวลามานานฯฯฯ
เมื่อจำเป็นต้องมาพบคน...ปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร??

ก็จะเป็นเหมือนกับที่ Neville พบกับ Anna และ Ethan!!
ความไม่คุ้นเคย...ความระแวง หรือแม้นแต่การพูดคุย
เป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจ...เหมือนการเริ่มต้นของมนุษยชาติใหม่!

เรื่องสุดท้ายที่น่าพูดถึง...ศรัทธา
ในที่นี้หมายถึงศรัทธาต่อ God!
ในยามที่สิ้นโลก สิ้นทุกอย่าง... ไม่เห็น God ช่วยอะไร??
ทำให้ ศรัทธาที่เคยมี...เคยเป็น หายไป...

จวบกระทั่ง Anna และ Ethan มาหาเขา...
กระจกนิรภัยในห้องแลปที่ร้าวเพราะการจู่โจมของหัวหน้าซอมบี้ และแตกร้าวคล้ายรูปผีเสื้อ...
รอยสักผีเสื้อบนลำคอของ Anna...
หลายอย่างสอดคล้อง...กับคำพูดสุดท้ายของลูกสาวเขา ...ผีเสื้อ..

ทางตันที่ไม่มีทางออก...ไม่มีทางหนีอีกแล้ว
แต่ยังมีผลการทดลองรักษาซอมบี้ที่อยู่รวมในห้องนิรภัยนี้...ที่มีอาการดีขึ้น!!
นี่เป็นเรื่องบังเอิญจนเกินไปหรือเปล่า?
หรือเป็น God' plan??? อย่างที่ Anna พูด??

นั่นคือศรัทธาที่กลับคืนมาของ Neville
ศรัทธาที่พร้อมสละชีวิตตนเอง...เพื่อให้ Anna และ Ethan รอด...รอดไปพร้อม ๆ กับหลอดเลือดเซรุ่มตัวยารักษาโรคร้ายนี้!!

Light up the darkness!!!
ใครล่ะจะทำ??


ในเมื่อโลกนี้ยังมีคนพยายามทำสิ่งเลวร้ายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
แล้วเราทำไมไม่พยายามทำในสิ่งดี ๆ ทุกวันบ้างล่ะ?

ชอบใจในบทบาทการแสดง การเข้าถึงบทบาท การทุ่มเทการแสดงอย่างสมจริง..ของ Will Smith
ชอบใจ plot เรื่อง...ที่เป็นโลกอนาคต อาจเป็นจริงหรือเลวร้ายกว่านี้ก็ได้
อาจไม่ใช่ไวรัสร้าย อาจไม่ใช่ซอมบี้...
แต่อาจเป็น เชื้อโรคร้าย...ที่เรียกว่า "สงคราม" ก็ได้...ที่ระบาดไปทุกหนทุกแห่ง ทำให้คนล้มตายหมดบ้านหมดเมือง...ยิ่งกว่าไวรัสในเรื่องนี้!!
เออ...แล้วใครจะค้นหายาแก้...เซรุ่มแก้ไวรัส "สงคราม" เหมือน Will Smith ล่ะ??

ให้ห้าดาวเต็ม!!




 

Create Date : 27 เมษายน 2551
2 comments
Last Update : 27 เมษายน 2551 17:20:05 น.
Counter : 447 Pageviews.

 

เพื่อนก็ดูแล้วค่ะ เสียดายที่ Will Smith ตาย
ได้ดูเรื่อง Invention ที่นิโคล คิดแมน เล่นก็แนวคล้ายๆ กันนี่แหล่ะค่ะ

ชอบเรื่องหลังมากกว่า T.T

 

โดย: เพื่อนค่ะ 27 เมษายน 2551 17:49:50 น.  

 

พี่งจะดูจบไปตะกี้เองครับ
และพึ่งรู้ว่า ซอมบี้ เรื่องนี้มันโหดดีแท้ สุดยอดๆ เลยฮะ

 

โดย: haro_haro 27 เมษายน 2551 20:30:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


icechick
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพลง “ Because Of You ”

นักร้อง “ Kelly Clarkson ”



เนื้อเพลง


I will not make the same mistakes that you did

will not let myself cause my heart so much misery

I will not break the way you did You fell so hard

I learned the hard way, to never let it get that far

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I lose my way

And it's not too long before you point it out

I cannot cry

Because I know that's weakness in your eyes

I'm forced to fake a smile, a laugh

Every day of my life

My heart can't possibly break

To take your heart away

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I watched you die

I heard you cry

Every night in your sleep

I was so young

You should have known better than to lean on me

You never thought of anyone else

You just saw your pain

And now I cry

In the middle of the night

Over the same damn thing

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

-------

ขอขอบคุณ:: http://www.esnips.com, Blog ป้ามด

________________

________________

________________

________________


LifE MessageS '' Zz ~~*

----

>> 1st Day : ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้ ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม...

---

>> 2nd Day : อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา และอย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

---

>> 3rd Day : ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”

---

>> 4th Day : นึกไว้เสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง

---

>> 5th Day : ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ

---

>> 6th Day : ชม เกินจริง = เป็นโทษ || ติ เกินเหตุ = เสียน้ำใจ

---

>> 7th Day : ยิ่งงานหนักเท่าไร ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต

---

>> 8th Day : การทำงาน ย่อมต้องมี "อุปสรรค" ทุกคนจึงกลัวอุปสรรค แต่อุปสรรค... กลัว "คนทำจริง"

---

>> 9th Day : ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

---

>> 10th Day : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

---

>> 11st Day : หัดทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้

---

>> 12nd Day : จิตใจของคุณก็เหมือนกับไข่ 1 ฟอง ที่ดูภายนอกแล้วแข็งแกร่ง. . . . . แต่เมื่อคุณลองกระเทาะ เปลือกออกมา ก็จะเห็นว่าคนๆนั้นๆ. . . . . . ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคุณเลย

---

>> 13rd Day : เขียนชื่อคนที่เราเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ

---

>> 14th Day : พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่

---

>> 15th Day : ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้

---

>> 16th Day : แค่.. "ซื่อสัตย์" และ "เก่ง" คงไม่พอ (อยู่ไม่ได้) ต้อง.. "ทันเกม" และ "มีปฏิภาณไหวพริบรอบคอบ" ด้วย

---

>> 17th Day : อย่ากลัวที่จะลงโทษคนที่ทำผิด...

---

>> 18th Day : อย่าขีดเส้นวงกลมรอบตัวเอง...

---

>> 19th Day : มันเป็นกรรม.. ที่เราต้องทำใจให้ได้ว่า.. "ไม่มีใครเข้าใจอะไรใครได้ง่ายๆ ..."

---

>> 20th Day : ความจริงย่อมคือความจริง ไม่มีวันตายจาก..

---

>> 21st Day : จะอยู่ช้าอยู่เร็วก็ยังไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้ก็ใช้เวลาทำในสิ่งที่อยาก

---

>> 22nd Day : เงินไม่มาก ...แต่บั่นทอนกำลังใจ

---

>> 23rd Day : นโยบายอยู่เหนือเหตุผล...

---

>> 24th Day : ทิฐิ..อยู่คนละฝั่งกับเหตุผล

---

>> 25th Day : จุดประสงค์จริง ๆ คือ...ความราบรื่นของการทำงานไม่ใช่หรือ?

---

>> 26th Day : ยศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความเพียร มีสติ มีการงานสะอาด

---

>> 27th Day : ใคร่ครวญก่อน แล้วจึงทำ!

---

>> 28th Day : ..เป็นผู้สำรวม มีชีวิตอันประกอบด้วย เมตตาธรรม คุณธรรม และ..ไม่ประมาท

---

>> 29th Day : หากคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ นั่นคือต้นทุนที่เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ

---

>> 30th Day : มีบางคน ยอมตายอย่างพร้อมใจ ก็ไม่ปรารถนาทำเรื่องต่ำช้าให้เป็นที่อัปยศ อดสู นั่นจึงเป็นวีระบุรุษที่ยอมตาย โดยไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ย่ำยี

---

>> 31st Day : จงเคารพ บูชา พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จงอย่า อ้อนวอน ขอร้องให้ท่านช่วย!

---

>> 32nd Day : จิตใจ มิใช่สิ่งที่ฝึกฝนได้ด้วย "ตำรา" แต่จะต้องฝึกฝนโดยผ่านการต่อสู้จริง ๆ โดยผ่านการปฏิบัติที่เป็นจริง

---

>> 33rd Day : การลำเอียง เข้าข้างตัวเอง เป็นอุปสรรคของการพัฒนาจิตใจ

---

>> 34th Day : ศัตรู มักอยู่ในพวกเดียวกัน

---

>> 35th Day : จงอย่ากลัว การมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

---

>> 36th Day : หัดวางตัวเอง ให้อยู่ในฐานะ "คู่ต่อสู้" และสร้างความหวั่นไหวให้กับจิตใจคู่ต่อสู้

---

>> 37th Day : ก้าวหน้าไปอีกขั้น ยิ่งทำให้ชีวิตลำบากไปกว่าเดิมหรือเปล่า? ...แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะวิบากแค่ไหน ก็ต้องเดินไปอยู่ดี!!

---

>> 38th Day : ปัญหา...ที่ได้ยินมักจะบอกว่า..."ไม่รู้" ถ้าไม่รู้ แล้วจะจัดการได้อย่างไร? โดยเฉพาะ ภายใต้ทรัพยากรจำกัด และพลิกผันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

---

>> 39th Day : แผน ไม่เคยหยุดนิ่ง กลยุทธ์ต้องเท่าทัน หรือดักหน้าด้วยซ้ำ คำว่า "พอ" เท่ากับ "ไม่มี" มีแต่ว่า "แค่นี้" จะทำให้ดีได้อย่างไร!

---

>> 40th Day : มองปัญหาต่างกัน ผูกไปถึงการมองสาเหตุ และการแก้ไขที่ต่างกัน หลักวินิจฉัยเหมือนกัน หรือต่างกันไม่มาก ผลออกมาก็จะต่างกันไม่มาก แต่ถ้าหลักวินิจฉัยต่างกัน + มีอัตตา ก็จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคได้ในองค์กร

---

>> 41st Day : ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การครอบครอง

---

>> 42nd Day : น้ำที่ลึกและใสจึงจะมีปลา ป่าที่รกและทึบจึงจะมีสัตว์ คนที่มีคุณธรรม ความมั่งคั่งถึงจะมาเยือน

---

~~ To Be Continue ...

From Me...

-----------

CrediT For Every Good Msg. :: Everywhere, Fw Mails & Some Person


Seconds

Friends' blogs
[Add icechick's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.