ประวัติหวงจง(ฮองตง)

หวงจง (AD???-222)


หวงจง(ฮองตง)มีชื่อทางการว่าฮั่นเซิง มีบ้านเกิดอยู่ที่หนานหยาง เขาได้รับการแต่งตั้งจากหลิวเปี่ยว(เล่าเปียว)ให้มีตำแหน่งรองแม่ทัพ รักษาการณ์อยู่ที่เมืองฉางซา(เตียงสา)ภายใต้บังคับบัญชาของหลิวปานผู้เป็นหลานชายของหลิวเปี่ยว

ครั้นเฉาเชา(โจโฉ)ยึดครองจิงโจว(เกงจิ๋ว )สำเร็จ หวงจงจำต้องยอมอ่อนน้อมต่อกองทัพฝ่ายเฉาเชาจึงได้รับราชการต่อไปในตำแหน่งหน้าที่เดิมภายใต้บังคับบัญชาของหานเสวียน(ฮันเหียน)ซึ่งรั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการฉางซาในขณะนั้น

เมื่อหลิวเป้ย(เล่าปี่)ยาตราทัพเข้ายึดครองเมืองต่างๆในแถบจิงโจวฝั่งใต้ หวงจงก็ได้เข้าร่วมกับหลิวเป้ยในช่วงเวลานั้นและยังมีส่วนร่วมอย่างมากในยุทธการยึดครองแคว้นสู่(จ๊ก)ในเวลาต่อมา นับตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งให้รับมอบหมายหน้าที่ที่ด่านเจียเหมิงให้นำทัพเข้าตีหลิวจาง(เล่าเจี้ยง) หวงจงมักนำทัพเข้าบุกทะลวงไปในกองทัพฝ่ายศัตรูเป็นบุคคลแรกจนกิตติศัพท์ความองอาจกล้าหาญของเขาเป็นที่โด่งดังไปทั่วสามเหล่าทัพ หลังจากที่ยึดครองมณฑลอี้โจว(เอ๊กจิ๋ว)เป็นผลสำเร็จ หวงจงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งขุนพลสยบภัยพาล

หวงจงนำทัพออกตั้งมั่นเผชิญหน้ากับเซี่ยโหวเอวียน(แฮหัวเอี๋ยน)ที่ภูเขาติงจวุนซาน(เตงกุนสัน) กองทัพของเซี่ยโหวเอวียนมีระเบียบวินัยและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หวงจงจึงสันนิษฐานว่ากองทัพที่เข้มแข็งเช่นนี้น่าจะยั่วยุให้เกิดอารมณ์ได้โดยง่าย ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ทหารของเขาเรียงรายยั่วยุเซี่ยโหวเอวียนกลางสมรภูมิ เซี่ยโหวเอวียนไม่อาจทานการยั่วเย้าได้ก็นำทหารออกรบจึงถูกทหารของหวงจงสังหารท่ามกลางสมรภูมิที่เร่งเร้าไปด้วยเสียงกลองศึก กองทัพของเซี่ยวโหวเอวียนจึงพ่ายแพ้ล่มสลายในการศึกครั้งนี้โดยที่กองทัพทั้งสองฝ่ายเพิ่งจะเริ่มเปิดศึกกันครั้งแรกเท่านั้น ด้วยชัยชนะครั้งนี้หวงจงจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งขุนพลพิทักษ์ประจิม

เมื่อหลิวเป้ยสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮั่นจงหวาง(ฮันต๋งอ๋อง) หวงจงก็ได้การแต่งตั้งเป็นหนึ่งในขุนพลพยัคฆ์เดช จูเก๋อเลี่ยงเคยกราบทูลฮั่นจงหวาง(หลิวเป้ย)ว่า “ชื่อเสียงของหวงจงความจริงยากที่จะนำไปเปรียบกับกวนอวี่(กวนอู)หรือหม่าเชา (ม้าเฉียว) แต่ผลแห่งการศึกครั้งนี้ทำให้หวงจงมีชื่อเสียงสถานะที่จะนำไปเปรียบกับพวกเขาได้ ทั้งจางเฟย(เตียวหุย)และหม่าเชาล้วนอยู่ร่วมเป็นพยานรู้เห็นในความแกล้วกล้าของหวงจงในการนำทัพทะลวงข้าศึกจึงไม่เป็นการยากที่จะโน้มน้าวพวกเขาเห็นด้วยคล้อยตาม แต่กวนอวี่ไม่ได้อยู่ที่นี่และหากเขาได้ยินกิตติศัพท์เรื่องนี้ เชื่อว่าคงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง” ฮั่นจงหวางตรัสตอบว่า “ข้าฯจะอธิบายต่อเขาเป็นการส่วนตัวเอง” ดังนั้นหวงจงจึงได้รับการแต่งตั้งให้มียศศักดิ์เทียบเท่ากวนอวี่และขุนพลพยัคฆ์คนอื่นๆ ทั้งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “กวนเน่ยโหว”

ในปีต่อมาหวงจงก็ถึงแก่กรรมและได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ย้อนหลังเป็น “กังโหว” หวงจงมีบุตรชายคนหนึ่งนามหวงซวีแต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์จึงไม่มีทายาทสืบสายตระกูลต่อไปอีก


หมายเหตุ : เฉินโซ่วมีบทสรุปวิจารณ์ห้าขุนพลพยัคฆ์เดชว่า

กวนอวี่ จางเฟย ฯลฯ ล้วนมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความห้าวหาญเก่งกาจ คนหนึ่งสามารถสู้ศึกศัตรูนับหมื่นและได้รับการยกย่องว่าเป็นเอกในยุคของพวกเขา กวนอวี่ได้ตอบแทนบุญคุณที่เคยได้รับจากเฉาเชา จางเฟยปล่อยตัวเอี๋ยนหยันด้วยคุณธรรมเป็นที่ยกย่องสรรเสริญไปทั้งประเทศ แต่อย่างไรก็ดีกวนอวี่มีความเย่อหยิ่งทะนงตน จางเฟยอารมณ์ดุร้ายขาดความเมตตา ข้อเสียเหล่านี้ได้นำพวกเขาไปพบกับจุดจบ ซึ่งเป็นสิ่งอันควรคาดหมายได้ตามปกติ ส่วนหม่าเชาทรยศต่อชนเผ่าและไร้คุณธรรม เป็นที่ผิดหวังของผู้คนกลับสามารถพลิกสถานะยากไร้กลับสู่ความรุ่งเรืองได้ ทั้งหวงจงและจ้าวอวิ๋น(จูล่ง)ต่างมีความเข้มแข็งกล้าหาญเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีของเจ้านายประดุจดั่งกรงเล็บและเขี้ยวของเทพอสูร แล้วเหตุใดจึงไม่สามารถนำพวกเขาไปเปรียบกับกวนอินและเซี่ยโหวอิน(บุคคลยุค โบราณทั้งสอง)เล่า

Create Date : 06 มิถุนายน 2553		2 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2553 4:03:01 น.
Counter : 1239 Pageviews.
Share Tweet