Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
ประวัติจางเฟย (เตียวหุย)

จางเฟย (AD 167-221)



จางเฟย(เตียวหุย)มีชื่อเรียกทางการว่าอี้เต๋อ(เอ๊กเต๊ก) บ้านเกิดอยู่ที่เมืองจว่อจวิ้น จางเฟยเข้าร่วมกับหลิวเป้ย(เล่าปี่)ตั้งแต่อายุยังเยาว์พร้อมกับกวนอวี่(กวนอู) กวนอวี่มีอายุมากกว่าจางเฟยไม่กี่ปี จางเฟยจึงนับถือกวนอวี่เสมือนพี่ชายของเขา

เมื่อหลิวเป้ยติดตามเฉาเชา(โจโฉ)ปราบหลวี่ปู้(ลิโป้)ลงได้สำเร็จ จางเฟยก็กลับสู่สวีโจว(ชีจิ๋ว)พร้อมกับหลิวเป้ย เฉาเชาได้แต่งตั้งจางเฟยเข้ารับตำแหน่งรองแม่ทัพ

ต่อมาหลิวเป้ยเป็นปรปักษ์กับเฉาเชา แล้วหนีไปพึ่งพิงหยวนเส้า(อ้วนเสี้ยว)กับหลิวเปี่ยว(เล่าเปียว)ตามลำดับ

ครั้นหลิวเปี่ยวถึงแก่อสัญกรรม เฉาเชาก็เข้ายึดครองจิงโจว หลิวเป้ยจึงต้องหลบหนีไปเจียงหนาน เฉาเชานำทัพไล่ติดตามเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนจนทันที่ฉางปัน เขตเมืองตานหยาง เมื่อหลิวเป้ยทราบว่าทัพใหญ่อันเกรียงไกรของเฉาเชากำลังไล่ตามเขาทันจึงละทิ้งครอบครัวหลบหนีไปตามลำพัง ให้จางเฟยทำหน้าที่ระวังหลังด้วยกำลังทหารม้าเพียงยี่สิบนาย จางเฟยทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแล้วเฝ้าระวังอยู่บนชายฝั่ง เขาเบิกตากว้าง ชูทวนแล้วร้องตะโกนว่า “ข้าคือจางอี้เต๋อ ผู้ใดไม่รักชีวิตให้เข้ามา” ทหารฝ่ายข้าศึกไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ หายนภัยของหลิวเป้ยจึงถูกคลี่คลายลงในครั้งนี้

หลังจากที่หลิวเป้ยได้ครองพื้นที่แถบเจียงหนาน จางเฟยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองอี้ตู รั้งตำแหน่งแม่ทัพปราบภัยพาล ทั้งได้รับการอวยยศมีบรรดาศักดิ์เป็น “ซินถิงโหว” ต่อมาเขาก็ถูกโยกย้ายไปยังเขตหนานจวิ้น

เมื่อหลิวเป้ยเคลื่อนทัพเข้าอี้โจว แล้วกลับโจมตีหลิวจาง(เล่าเจี้ยง) จางเฟยและจูเก๋อเลี่ยง(จูกัดเหลียง)เคลื่อนทัพเรือทวนแม่น้ำฉางเจียงเข้า สนับสนุนหลิวเป้ย สามารถตีเมืองและด่านต่างๆได้มากมาย

ครั้นเคลื่อนทัพมาถึงเมืองเจียงโจว แม่ทัพของหลิวจางนามเอี๋ยนหยัน(เงียมหงัน)ผู้รั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการเขตปาจวิ้น พ่ายแพ้แก่จางเฟยและถูกจับตัวได้ จางเฟยตะคอกใส่เอี๋ยนหยันว่า “เมื่อกองทัพอันเกรียงไกรของข้าได้มาถึง เหตุไฉนท่านจึงบังอาจหาญต่อกรโดยไม่ยอมจำนน” เอี๋ยนหยันกล่าวตอบว่า “กองทัพของท่านเข้ารุกรานเขตแคว้นบ้านเมืองของเรา เมืองนี้มีแต่แม่ทัพที่ยอมหัวขาด ไม่มีแม่ทัพที่ยอมจำนน” จางเฟยโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงออกคำสั่งให้ไพร่พลของเขาลากตัวเอี๋ยนหยันไปประหารชีวิต แต่เอี๋ยนหยันยังคงมีสีหน้าเป็นปกติไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวกับจางเฟยว่า “คิดจะฆ่าก็ฆ่าข้าซะ เหตุไฉนต้องทำทีเป็นเกรี้ยวกราดด้วยเล่า” จางเฟยเห็นดังนั้นก็ยกย่องว่าเป็นลูกผู้ชายอันประเสริฐจึงแก้เชือกที่พันธนาการร่างกายเอี๋ยนหยันออก แล้วให้การต้อนรับประดุจแขกผู้มาเยือน จางเฟยได้รับชัยชนะตลอดทางที่เคลื่อนทัพ สุดท้ายไปรวมพลกับหลิวเป้ยที่เมืองเฉิงตู(เชงโต๋)

หลังจากที่มณฑลอี้โจวถูกปราบปรามจนสงบราบคาบ จูเก๋อเลี่ยง ฝ่าเจิ้ง(หวดเจ้ง) จางเฟยและกวนอวี่ต่างได้รับรางวัลกันถ้วนหน้า แต่ละคนได้รับทองคำห้าร้อยตำลึง เงินหนึ่งพันตำลึง ผ้าไหมห้าพันพับ หนังสัตว์หนึ่งพันผืน ส่วนบุคคลอื่นๆได้รับการประทานรางวัลตามความดีความชอบที่กระทำในการศึก ครั้งนี้จางเฟยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเขตปาซี

ต่อมาเฉาเชายาตราทัพเข้าปราบปรามจางลู่(เตียวฬ่อ)เป็นผลสำเร็จ และได้มอบหมายให้เซี่ยโหวเอวียน(แฮหัวเอี๋ยน)กับจางเฮ่อ(เตียวคับ )รักษาการณ์ป้องกันพื้นที่ฮั่นจง

จางเฮ่อแบ่งแยกกองทัพจากเซี่ยโหวเอวียน แล้วตนเองนำทัพใหญ่มุ่งสู่เขตปาซีเพื่อกวาดต้อนพลเมืองในปาซีกลับมาฮั่นจง เขาเคลื่อนทัพผ่านตางฉวี่ เมิ่งโถว ตางสือ กองทัพของเขาเกิดการปะทะตามรายทางกับทัพจางเฟยมาแล้วกว่าห้าสิบวัน จางเฟยนำทหารราบกว่าหนึ่งหมื่นนายเคลื่อนทัพผ่านเส้นทางลัดเพื่อจู่โจมกองทัพจางเฮ่อ เมื่อมาถึงเส้นทางคับแคบที่ภูมิประเทศคับขันอันตราย จางเฟยก็นำทัพบุกทะลวงกองทัพจางเฮ่อจนส่วนหัวท้ายไม่อาจช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ จางเฟยจึงพิชิตจางเฮ่อลงได้สำเร็จ จางเฮ่อจำต้องละทิ้งค่ายที่เนินเขาหม่าหยวนหลบหนีกลับเมืองหนานเจิ้งโดยเส้นทางลัด กองทัพของเขาหลงเหลือผู้ติดตามเพียงสิบกว่าคน พื้นที่ปาจึงกลับคืนสู่ความสงบ

เมื่อหลิวเป้ยสถาปนาตนขึ้นเป็นฮั่นจงหวาง(ฮันต๋งอ๋อง) ก็ได้พระราชทานแต่งตั้งจางเฟยเป็นแม่ทัพกองพลขวาพร้อมเครื่องยศ ในปีจางอู่(ค.ศ.221) จางเฟยได้รับพระราชทานเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพประจำกองพลม้าและรถศึก รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งพระนคร มีบรรดาศักดิ์เป็น “ซีเซียงโหว”

ฮั่นจงหวาง(หลิวเป้ย)มีพระราชดำรัสว่า “ข้าฯคล้อยตามเจตนารมณ์แห่งสวรรค์ ทำการปราบปรามจลาจลเพื่อนำความสงบสุขมาสู่แผ่นดิน จนบัดนี้ก็ยังไม่สำเร็จสมความมุ่งหวัง ทุกวันนี้เหล่าโจรร้ายยังก่อความวุ่นวาย ประชาราษฎร์ไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุข ประชาชนต่างมุ่งหวังรอคอยให้ข้าฯกระทำการปราบความไม่สงบดุจดั่งนกกระเรียนที่ยืดคอคอยจ้องมองอยู่ ด้วยเหตุนี้ข้าฯจึงไม่อาจนั่งนอนได้อย่างสบายใจ แม้กระทั่งอาหารยังไม่สามารถรับประทานได้อย่างออกรส ข้าฯเรียกประชุมพลเพื่อให้พวกเจ้าได้ฟังคำสัตย์แห่งข้าฯในอันจะพิชิตเจตนารมณ์แห่งฟ้า ข้าฯต้องการความซื่อสัตย์ภักดีจากพวกเจ้า และข้าต้องการรวบรวมเหล่าปัญญาชนผู้มีสติปัญญาทั่วแผ่นดิน เพื่อให้การณ์สำเร็จสมดังหมาย ข้าฯจะใช้ความศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าประกาศต่อบรรดาขุนนางทั้งปวงว่า ข้าฯจะให้รางวัลแก่ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ภักดีและจะลงโทษเหล่าทุจริตทรชน”

แรกเริ่มเดิมทีจางเฟยถูกมองว่าด้อยกว่ากวนอวึ่ โดยพิจารณาจากความเก่งกล้าและพลกำลัง แต่ขุนนางในราชสำนักเว่ย(วุย)เช่นเฉิงอวี้(เทียหยก)สันนิษฐานว่า “ทั้งกวนอวี่และจางเฟยมีความสามารถต่อกรกับทหารนับหมื่น” กวนอวี่ปฏิบัติต่อคนใกล้ชิดเป็นอย่างดี แต่หยิ่งยโสจองหองต่อบรรดาขุนนางที่ไม่ใช่คนสนิท ในทางกลับกันจางเฟยให้การยกย่องสัตบุรุษ แต่ดูหมิ่นข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา หลิวเป้ยมักจะเตือนจางเฟยอยู่เสมอว่า “เจ้าลงมือฆ่าและเฆี่ยนตีทหารใต้บังคับบัญชาเป็นจำนวนมาก จงระวังไว้ว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะได้รับอันตรายเพราะทหารของเจ้าเอง” จางเฟยมีความวิตกกังวลแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนิสัยแต่อย่างไร

ครั้นหลิวเป้ยกรีฑาทัพเข้าตีรัฐอู๋(ง่อ) จางเฟยได้รับมอบหมายให้นำทัพหลายหมื่นเข้าร่วมสงครามด้วย จางเฟยมีกำหนดเคลื่อนทัพจากเมืองหลางจง(ลองจิ๋ว)เข้าสมทบกับทัพหลวงที่เมืองเจียงโจว แต่ก่อนที่เขาจะเดินทัพมาถึงก็ได้ถูกจางต้ะ(เตียวตัด)กับฟ่านเฉียง(ฮอมเกียง)ผู้เป็นทหารใต้บังคับบัญชาของเขาลอบสังหารแล้วตัดศีรษะไปสวามิภักดิ์ต่อซุนเฉวียน(ซุนกวน) หัวค่ายผู้ควบคุมค่ายของจางเฟยจึงส่งสาสน์รายงานให้หลิวเป้ยทราบ เมื่อหลิวเป้ยอ่านสาสน์จากหัวหน้าค่ายจบลงแล้ว หลิวเป้ยก็ร้องไห้คร่ำครวญว่า “จางเฟยตายเสียแล้ว”

จางเฟยได้รับการพระราชยศย้อนหลังเป็น “เอวี้ยเหิงโหว” บุตรชายคนโตของเขานามจางเป่า(เตียวเปา)เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังเยาว์ บุตรชายคนรองนามจางเส้าจึงเป็นผู้สืบบรรดาศักดิ์ต่อจากบิดา รับราชการเป็นขุนนางในราชสำนัก รั้งตำแหน่งราชเลขาฯ บุตรชายของจางเป่านามจางจวุ้นก็รับราชการในตำแหน่งราชเลขาฯเช่นกันและได้ติดตามจูเก๋อจาน(จูกัดเจี๋ยม)ไปทำศึกที่เหมียนจู่ ซึ่งเป็นสมรภูมิที่เขาเสียชีวิตจากการรบกับเติ้งไอ้(เตงงาย)



Create Date : 05 มิถุนายน 2553
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 0:16:40 น. 0 comments
Counter : 1988 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ElClaSsicA
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ElClaSsicA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.