|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติหม่าเชา(ม้าเฉียว)
หม่าเชา (AD ??? – 222)
หม่าเชา(ม้าเฉียว)มีชื่อเรียกทางการว่าเมิ่งฉี่ มีบ้านเกิดอยู่ที่อำเภอฝู่เฟิง เมืองเหมาหลิง บิดาของเขามีนามว่าหม่าเถิง(ม้าเท้ง)เคยร่วมมือกับเปียนจางและหานซุ่ย(หันซุย)ก่อกบฏแถบหัวเมืองตะวันตกในช่วงปลายรัชกาลฮั่นหลิงตี้(เลนเต้)
ชูผิงศก(ชื่อศักราชประจำรัชกาลของหลิงตี้)ปีที่สาม หม่าเถิงและหานซุ่ยนำคณะผู้ติดตามเข้าเฝ้าหลิงตี้ ณ เมืองฉางอาน ราชสำนักฮั่นโปรดอวยยศให้หานซุ่ยรับตำแหน่ง “เจินซีเจียงจวุน” (นายพลพิทักษ์ประจิม)ให้ประจำการอยู่เมืองจิงเฉิง ส่วนหม่าเถิงได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง “เจิ้งซีเจียงจวุน” (นายพลสยบประจิม) รักษาการณ์อยู่ที่ตวุนเม่ย
ต่อมาหม่าเถิงนำทัพเข้าตีนครฉางอันแต่ประสบความล้มเหลว จำต้องล่าถอยกลับไปสู่ดินแดนเหลียงโจว ผู้บัญชาการทัพนครหลวงมีนามว่าจงเหยารักษาการณ์เขตพื้นที่กวนจงส่งสาสน์ลับ ให้แก่หม่าเถิงและหานซุ่ยโดยรับปากว่าจะช่วยเหลือพวกเขา หม่าเถิงจึงมอบหมายให้หม่าเชาร่วมมือกับจงเหยานำทัพเข้าปราบกว๋อหยวนกับเกากานที่พื้นที่ผิงหยาง ในระหว่างการศึกแม่ทัพใต้บังคับบัญชาของหม่าเชานามผังเต๋อ(บังเต๊ก)สังหารกว๋อหยวนลงได้สำเร็จ แต่หม่าเถิงเกิดขัดแย้งกับหานซุ่ยจึงสั่งให้ถอนกำลังกลับเมืองของตน เขาจึงได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักในตำแหน่ง “นายพลพิทักษ์ราชสำนัก” ส่วนหม่าเชาได้รับแต่งตั้งตำแหน่งรองแม่ทัพพร้อมบรรดาศักดิ์ “ตูถิงโหว”
หม่าเชารวมรวบกองกำลังของตนกับหานซุ่ยเข้าด้วยกับ พร้อมกันนั้นก็เร่งทำสัญญาพันธมิตรกับหยางฉิว หลี่คัน เฉิงอี้และผู้นำกองกำลังอื่นๆแถบหัวเมืองตะวันตก จากนั้นเข้าจู่โจมท่าข้ามถง เฉาเชา(โจโฉ)ยืนทัพหน้าศึกเห็นหานซุ่ยกับหม่าเชายืนม้าอยู่หน้าทัพจึงเรียกร้องให้เจรจา หม่าเชาเชื่อมั่นในพลังยุทธของตนมากจึงวางแผนว่าจะบุกเดี่ยวจับตัวเฉาเชาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง แต่องครักษ์ของเฉาเชานามสวีจวู่(เคาทู)ถลึงตาจ้องเขม็ง หม่าเชาจึงไม่กล้าบุกฝ่าเข้าไปอย่างหักโหม การศึกครั้งนั้นเฉาเชาตกลงใจใช้แผนการของเจี่ยสวี่(กาเซี่ยง)โดยสร้างความแตกแยกระหว่างหม่าเชากับหานซุ่ยให้ต่างฝ่างต่างเกิดความหวาดระแวง ส่งผลให้ทัพพันธมิตรล่มสลายและพ่ายแพ้ในที่สุด
หม่าเชานำทัพที่แตกพ่ายล่าถอยจากการตามล่าของเฉาเชาจนถึงเมืองอานติ่ง จากนั้นรวบรวมกำลังทหารมุ่งเป้าปฏิบัติการช่วงชิงพื้นที่ทางภาคเหนือ หยางฝู่ได้อ้างถึงแถลงการณ์ของเฉาเชาที่ว่า “หม่าเชามีความแกล้วกล้าดั่งหลวี่ปู้(ลิโป้)กับหานซิ่น(ขุนพลคู่บารมีของ ฮั่นเกาจู่หลิวปัง) แต่มีความเหี้ยมโหดดุร้ายของชาวเผ่าเชียงโดยสายเลือด หากมันสามารถหนีรอดโดยที่ยังมีกำลังทหารเหลืออยู่ หัวเมืองต่างๆทางแถบหล่งซางคงต้องสูญสิ้นหมดเป็นแน่แท้” เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หม่าเชานำกองทัพกลับมาโจมตีหัวเมืองต่างๆแถบพื้นที่หล่งซาง แม้ว่าหัวเมืองแถบนั้นจะไม่ได้นำกองทัพออกต้านทานการรุกรานของหม่าเชาก็ดี แต่หม่าเชายังคงสังหารเว่ยคังผู้ว่าราชการมณฑลเหลียงโจวแล้วตั้งมั่นอยู่ที่เมืองอี้
หม่าเชาแต่งตั้งตนเองเป็นแม่ทัพปราบประจิม รั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลปิงโจวควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งภูมิภาคเหลียงโจว แต่แม่ทัพใต้บังคับบัญชาเก่าของเว่ยคังอาทิ หยางฝู่ เจียงอี้ เหลียงควน จ้าวชวีและอื่นๆได้สมคบคิดกันโค่นหม่าเชาลง หยางฝู่กับเจียงอี้ร่วมกันนำทัพขับไล่กองกำลังหม่าเชาออกจากเมืองหลู่ หม่าเชาได้นำทัพหวนเข้าโจมตีแต่ไม่สามารถเอาชัยทัพร่วมได้ เหลียงควนกับจ้าวชวีก็ปิดประตูเมืองอี้ทำให้ทัพหม่าเชาไม่สามารถกลับเข้าเมืองได้ ในสภาพที่กองทัพโดดเดี่ยวไม่มีที่พักพิง หม่าเชาจึงเข้าสวามิภักดิ์ต่อจางลู่ที่ฮั่นจง(ฮันต๋ง) แต่หม่าเชาเห็นว่าจางลู่ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นใหญ่ได้จึงบังเกิดความผิดหวัง ช่วงเวลานั้นหลิวเป้ย(เล่าปี่)ล้อมเมืองเฉิงตูอยู่ เมื่อหม่าเชาทราบข่าวจึงเขียนจดหมายถึงหลิวเป้ยเพื่อขอสวามิภักดิ์
หลิวเป้ยให้ผู้ติดตามไปต้อนรับหม่าเชาและมอบหมายให้หม่าเชานำกองทัพเข้าร่วมการโอบล้อมเมืองเฉิงตู ผู้คนในเมืองเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หลิวจาง(เล่าเจี้ยง)จึงยอมจำนนต่อหลิวเป้ยในทันที หม่าเชาจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ผิงซีเจียงจวุน” (ขุนพลพิทักษ์ประจิม) รักษาการณ์ที่พื้นที่จวี้ นับเป็นการแต่งตั้งที่ให้เกียรติต่อเขาอย่างสูงนับตั้งแต่ครั้งที่เขาเคยได้รับบรรดาศักดิ์ตูถิงโหวจากราชสำนักฮั่น เมื่อหลิวเป้ยสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮั่นจงหวางก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้หม่าเชาเป็นแม่ทัพกองพลซ้าย จางอู่ศกปีที่หนึ่งก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารม้า รั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลเหลียงโจว มีบรรดาศักดิ์เป็นหลี่เซียงโหว
ครั้งหนึ่งหลิวเป้ยได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า “แม้คุณธรรมของข้าจะไม่แจ่มแจ้งแต่อย่างไรก็สืบเชื้อสายมาจากบรรพชนอันศักดิ์สิทธิ์ เฉาเชากับบุตรของมันควรถูกคนรุ่นหลังจดจำการกระทำอันชั่วร้ายและถูกก่นด่าประณาม ท่าน(หม่าเชา)มีชื่อเสียงกึกก้องทางภาคเหนือเป็นที่ยอมรับทั้งชาวฮั่นและชาวเผ่าเชียง ผู้คนต่างพร้อมใจกันติดตามท่านไปเป็นพันหลี่(ลี้)เพื่อปราบปรามทรราช ให้ท่านสั่งสอนไพร่พลของท่านให้รู้จักวัฒนธรรมของชาวฮั่น และการปูนบำเหน็จกับลงโทษจงกระทำให้แจ่มแจ้ง”
จางอู่ศกปีที่สอง หม่าเชามีอายุสี่สิบเจ็ดปี ก่อนวาระสุดท้ายของเขาจะมาถึงได้ขอร้องต่อหลิวเป้ยว่า “ข้าพระองค์เคยมีครอบครัวญาติพี่น้องกว่าสองร้อยคน แต่พวกเขาถูกเมิ่งเต๋อ(ชื่อทางการของเฉาเชา)สังหารจนหมดสิ้น เหลือแต่เพียงญาติผู้น้องของข้านามหม่าไต้(ม้าต้าย) เขาเป็นเลือดเนื้อเพียงหนึ่งเดียวที่จะสืบสายตระกูลของข้าพระองค์ต่อไปได้ ดังนั้นขอให้พระองค์โปรดเอ็นดูเกื้อกูลดูแลเขา ข้าพระองค์ก็จะจากไปอย่างไร้ความกังวล” หม่าเชาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ย้อนหลังเป็น “เอวี้ยเว่ยโหว” บุตรชายของเขานามหม่าเฉิงเป็นผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ หม่าไต้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ผิงเป่ยเจียงจวุน” (แม่ทัพพิทักษ์อุดร) มีบรรดาศักดิ์เป็น “เฉินชังโหว” บุตรีของหม่าเชาเข้าพิธีสยุมพรกับอันผิงหวางหลิวลี่(เล่าลี)ในเวลาต่อมา
Create Date : 06 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2553 4:05:10 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1367 Pageviews. |
|
|
|
โดย: J4mesz IP: 124.121.197.22 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:27:10 น. |
|
|
|
โดย: 三国演义 IP: 222.218.99.229 วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:17:10 น. |
|
|
|
โดย: ปรุฬห์ มะยะเฉี่ยว IP: 202.28.49.9 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:32:56 น. |
|
|
|
โดย: ปรุฬห์ มะยะเฉี่ยว IP: 202.28.49.9 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:33:44 น. |
|
|
|
โดย: ElClaSsicA วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:3:48:17 น. |
|
|
|
โดย: ปรุฬห์ มะยะเฉี่ยว IP: 202.28.51.72 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:14:58:16 น. |
|
|
|
โดย: mmm IP: 119.42.84.190 วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:12:25:49 น. |
|
|
|
โดย: ปรุฬห์ IP: 113.53.109.191 วันที่: 22 ธันวาคม 2558 เวลา:21:31:35 น. |
|
|
|
| |
|
|