Group Blog All Blog
|
เคยไหมครับ ไปขับรถชนรถชาวบ้านเขา ว่าจะเขียนตั้งนานแล้วล่ะครับ เพราะเหตุการณ์มันเกิดตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังอยากจะเขียนให้ได้อ่านกัน จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับพวกมือใหม่หัดขับอย่างผม คืนนั้นผมก็ไปสอนพิเศษแถวๆ หมู่บ้านปัญญา (ตรงแฟชั่น ไอส์แลนด์) สอนเสร็จประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ก็ขับรถมาเรื่อยๆ เพื่อกลับบ้านแถวๆ รามคำแหง ซอย 24 โดยใช้เส้นถนนนวมินทร์ (สุขาภิบาล 1) ผมก็ขับโดยใช้ความเร็วพอประมาณ (70 - 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง) พอมาถึงช่วงก่อนถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผมก็ตัดสินใจจะเปลี่ยนเลนไปเป็นเลนกลาง (ขับอยู่เลนขวา) เพราะผมเป็นมือใหม่ ถ้าขับเลนขวาแล้วมันต้องขับเร็ว ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนเลนส์ พอผมเปิดไฟซ้ายเพื่อขอเปลี่ยนเลน รถที่อยู่เลนกลางไม่ยอมให้ผมแซงรถเขา (เพิ่มความเร็วจนเกือบเท่ากับรถผม) ผมก็เลยตัดสินใจกลับเลนขวา แต่ตรงเลนขวาก็มีรถกระบะของคู่กรณีผมจอดรอกลับรถ (ถนนช่วงนี้ ตรงบริเวณกลับรถไม่ได้เว้นตรงเกาะกลางเข้าไป ทำให้เลนกลับรถกับเลนขวาคือเลนเดียวกัน) ผมได้พยายามเหยียบเบรค แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้รถหยุด จึงไปชนท้ายรถกระบะเข้าจนได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ รถผมกระโปรงหน้าโก่งเล็กน้อย กระจังด้านหน้าหัก (ไฟไม่แตก) ของคู่กรณีคือ กันชนหลังบุบ (แค่อย่างเดียว) พอชนเสร็จ ผมก็เตรียมพร้อมที่จะรับชะตากรรม พอลงจากรถผมก็ยกมือไว้ขอโทษเขาทันที เพราะผมรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ผิด แต่คู่กรณีของผมก็เริ่มใช้คำพูดเสียงดัง บังคับให้ผมเคลื่อนย้ายรถไปอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด (ความโง่ครั้งที่ 1) พอย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม เขา (คู่กรณี) ก็พูดว่า ให้ผมหาเงินให้เขา 4,000 บาท ค่าเสียหาย + เสียเวลา ผมก็เสียขวัญมาก พยายามพูดต่อรองให้เหลือ 2,000 (เพราะผมมีอยู่แค่นั้น) เขาก็ยอมและก็บังคับให้ผมไปกดเงินที่ ATM ที่โรงพยาบาลใหล้ที่เกิดเหตุ ระหว่างที่เดินผมก็โทรหาคุณพ่อคุณแม่ เพื่อบอกสถานการณ์ คุณพ่อของผมก็กำชับเลยว่า อย่า ให้เงินเขาเด็ดขาด ให้โทรเรียกประกันสถานเดียว ซึ่งผมก็โทรไปแล้วตอนหลังชน คุณพ่อก็โทรวานให้คนรู้จักช่วยไปดู พอเขามาถึงก็ช่วยอยู่กับผม แต่คู่กรณีผมพอรู้ว่าผมโทรหาคุณพ่อ ก็ขู่ผมหนัก และบอกว่าจะไม่ยอมลดค่าใช้จ่ายที่ผมต้องให้เขา ถ้าผมไม่ให้เขา 4,000 เขาจะไปฟ้องศาลแพ่ง ข้อหาขับรถโดยประมาท ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมเสียขวัญสุดๆ เพราะไม่เคยไปขับรถชนใคร เขาก็พยายามขู่ว่า ถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซต์ คนขับคงตายไปแล้ว และพยายามยัดเยียดข้อหาต่างๆ เช่น ขับรถเร็ว เมา อายุไม่ถึง 18 ไม่พกใบขับขี่ ซึ่งข้อกล่าวหาที่เขาว่าผม มันไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เมื่อประกันมา พี่เขาก็มาจัดการถ่ายรูป และหาร่องรอยความเสียหาย คู่กรณีก็ยังขู่ไม่หยุด "ถ้าไม่ให้เงิน จะไปฟ้งศาลแพ่ง" จนเมื่อคุณพ่อผมมาถึงในที่เกิดเหตุ เขาก็ลดอาการเกรี้ยวกราดลง แต่ก็ยังขอเงิน 4,000 จากคุณพ่อของผม ฝ่ายพี่ประกันก็เลยตัดสินให้ว่า ให้ผมและคู่กรณีไปโรงพัก เพื่อให้ผมไปจ่ายค่าปรับ และขอบันทึกว่า ผมไม่ได้หนี ซึ่งคู่กรณีผมก็ตกลง แต่มันเกิดเหตุว่า คู่กรณีบอกกับฝ่ายผมว่า จะตามไปทีหลัง เพราะแบตเตอรี่หมด เนื่องจากเปิดไฟฉุกเฉินไว้ตลอดเวลาครึ่งชั่วโมง ผมก็ไปรอที่โรงพักประมาณเกือบชั่วโมง (เครียดสุดๆ) แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่มา พี่ประกันก็เลยอาสาขับไปที่เกิดเหตุ ซึ่งปรากฏว่าคู่กรณีกับรถของเขาได้หายไปที่เกิดเหตุแล้ว ผมก็ตัดสินใจรอสักพัก (เผื่อว่าเขาหลงทาง) แต่เขาก็ไม่มาในที่สุด จนผมและพี่ประกันต้องถามคุณตำรวจร้อยเวรว่าผมจะต้องทำอะไร คุณตำรวจก็บอกว่า ไม่ต้องทำอะไร เพราะผมก็ไม่ได้หนี แถมให้ใบเครมประกันกับคู่กรณีแล้ว ถ้าเขาจะฟ้องก็ไม่มีประโยชน์ หลังจากวันที่เกิดเหตุผมก็เล่าให้กับคนรู้จักฟังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้แสดงทัศนะคติไว้ว่า 1. คู่กรณีของผมเกิดใจดีขึ้นมา (ทั้งๆ ที่ขู่จนผมต้องร้องไห้ด้วยความเครียด) หลังจากได้ใบเครมประกันก็ตัดสินใจกลับบ้าน 2. คู่กรณีของผมหลงทาง ไม่รู้จักทางไปโรงพัก เลยขี้เกียจจึงกลับบ้านไป 3. คู่กรณีของผมไม่มีใบขับขี่ (ซึ่งตอนที่พี่ประกันขอดู เพื่อเขียนชื่อและที่อยู่ในใบเครม เขาไม่ยอมให้ดู เพียงแต่บอกชื่อและที่อยู่ให้พี่ประกันจด -- ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว พี่ประกันบอกว่า เขามีสิทธิ์ไม่ให้ดู เพราะเขาเป็นผู้เสียหาย แต่ผมคิดว่า ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจ ก็น่าจะให้ดู เพื่อจะได้ง่ายต่อการขอชื่อที่อยู่) ซึ่งถ้าคู่กรณีของผมไม่มีใบขับขี่จริง เขาก็จะไปที่โรงพักไม่ได้ เพราะอาจจะได้ข้อหาเพิ่ม 4. รถที่เกิดเหตุไม่ใช่ของคู่กรณี อาจจะเป็นรถคนรู้จัก (จึงเป็นเหตุที่ต้องขู่เรียกเงินผมถึง 4,000 ทั้งๆ ที่รถเขาแค่กันชนเหล็กบุบ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ผมเล่ามา ผมอยากจะให้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่เป็น "มือใหม่หัดขับ" ให้มีสติให้มาก อย่าขวัญเสียจนเขาจับได้ว่าเรามือใหม่ (เหมือนผมในตอนนั้น) เมื่อเกิดเหตุให้โทรหาประกันทันที สุดท้ายนี้ผมต้องขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ไปหาผมถึงที่เกิดเหตุแบบเร็วมาก และคอยช่วยเหลือผมอยู่ไม่ห่าง และต้องขอบคุณพี่ประกัน (บริษัทวิริยะ) มากๆ ครับ เพราะพี่อยู่กับผมจนเหตุการณ์มันคลี่คลายไปได้ด้วยดี คอยปลอบและให้กำลังใจผมด้วย สุดท้ายจริงๆ ถ้าผู้กรณีของผมมาอ่านเข้า ผมต้องกราบขอโทษคุณจริงๆ นะครับ ผมอยากจะบอกว่า ผมยังเป็นนิสิตปริญญาโท งานประจำก็ยังไม่มี ครอบครัวก็บานะปานกลาง รถที่ซื้อมาได้เพราะผมไปเล่นเกมโชว์มา อย่าจองเวรจองกรรมกับผมเลยนะครับ    
เคยเจออุบัติเหตุตอนขับรถเหมือนกันค่ะ..แต่กรณีของอิชั้น เป็นแมงกะไซค์ ขี่ซิ่งมาชนด้านข้างรถเก๋งคันเก๋า(เก่า)ของอิชั้น ผลก็คือคนขี่ขาหัก แต่อิชั้นกลายเป็นคนผิดง่ะ เพราะดันไปเลี้ยวเข้าซอย (เปิดไฟเลี้ยวแล้ว..เค้าเห็นแล้ว แต่ไม่ยอมชะลอ กลับเร่งความเร็วใหญ่เลย ก็เลยชนตู้มเข้าให้) มารู้ทีหลัง ว่าคนขี่ ขโมยรถมอไซค์คันนี้มา แล้วซิ่งจะให้พ้นป้อมตำรวจที่อยู่ไม่ไกลกันนัก..คนซวยคือเราอ่ะนะคะ อยู่ดีไม่ว่าดี ช่วยตำรวจจับผู้ร้ายแท้ ๆ ต้องนอนสะดุ้งตัวสั่นอยู่ตั้งหลายคืนแน่ะ..
 โดย: i'm not superman
 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:2:37:59 น.ถ้าเจอแบบคุณ
เราก็คงขวัญหนีดีฝ่อเหมือนกันแหละค่ะ โดย: โสดในซอย
วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:21:36:09 น. เป็นเรา ๆ ก้อตกใจจ้าแต่เราเรียกประกันอย่างเดียว ไม่คุยด้วยหรอก ให้ประกันจัดการ โดย: icebridy
วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:21:46:40 น. |
ต้นคุง ณ โดราเอมอน
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก สาขาวิชาวิทยาศาสตรศึกษา ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ครัย ตอนนี้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ความใฝ่ฝัน คือ อยากจะเรียนให้จบปริญญาเอก เพราะอยากสอนคนที่เป็นครู ให้เป็นครูสอนคนที่ดี (งงมั้ยเนี่ยะ!) เคยออกทีวีด้วยครับ ไปเล่นเกมเศรษฐี The Champion ได้แชมป์ 7 สมัย (ออกอากาศวันที่ 8 - 21 กรกฎาคม 2549) ตอนนี้ติด AF มากๆ ไม่รู้จะทำยังไงให้หายติด ติดมันทุก season ด้วย ใครสามารถพาเข้าบ้าน AF ได้จะขอแต่งงานด้วยเลย Friends Blog |
||||||||||||
สวัสดีค่ะ
มาเยี่ยมเยียน ค่ะ ได้เวลา
เดินชมบ้านเพื่อน แล้วค่ะ
(@^_^@)
จุ๊ฟๆๆๆ