Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

ตอนที่ 6 part 1

“หมายความว่ารันกำลังคบหากับแม่หนูคนนี้อยู่”

คุณหญิงวีรยาเรียกหายาลมหลังจากฟังเรื่องจากปากลูกชาย เธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวในห้องรับแขกที่ห้องชุดของวรันต์โดยมีบุตรชายและเด็กสาวแปลกหน้านั่งอยู่ด้วย

“ก็จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ พุดเขาออกจากบ้านมาอยู่กับผมชั่วคราวเพราะไม่แน่ใจว่าจะท้องหรือเปล่า”

“พุทโธ สังโฆ หนุ่มสาวสมัยนี้ทำไมมันไวไฟแท้ แล้วนี่อายุเท่าไรล่ะแม่หนูคนนี้เธอเรียนหนังสือจบชั้นอะไร” คุณหญิงควักหลอดยาลมขึ้นมาดม

“พุดจบมอปลายแล้วค่ะ” เด็กสาวบอกเสียงอ่อน นึกเกรงมารดาของวรันต์ หญิงสูงวัยมีแม้จะดูท่าทางใจดีแต่ในสถานการณ์แบบนี้พุทธชาดคิดว่าเธอคงไม่สามารถทำอารมณ์พูดคุยดีๆด้วยได้ ดวงตาเฉียบคมตวัดมองพุทธชาดตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิเคราะห์น่าเกรงขามไม่น้อย เธอจึงอยากเก็บปากเก็บคำให้มากที่สุด

“โอย อกจะแตกตาย พ่อรันทำไมทำกับแม่แบบนี้ ผู้หญิงดีๆมีมาให้เลือกเยอะแยะไม่เอา ดันมาคว้าเอาเด็กที่ไหนไม่รู้มาเป็นเมีย” พุทธชาดถึงกับก้มหน้างุด มารดาของวรันต์คงลืมไปว่า”เด็กที่ไหนไม่รู้” นั่งร่วมวงสนทนาอยู่ด้วย

“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับถ้าพุดเขาไม่ได้ท้องเขาก็จะกลับไปอยู่บ้าน” วรันต์พยายามอธิบายอย่างใจเย็น

“ง่ายขนาดนั้นเชียวเร้อ ไม่ใช่ว่าต้องตกกระไดพลอยโจรแต่งขันหมากไปขออีกนะ”

“แล้วนี่ไปพลั้งพลาดกันยังไงล่ะ ไม่ได้ป้องกันหรอกเรอะ” สตรีสูงศักดิ์ยังเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรงดมยาลมไม่วาง พุทธชาดถึงกับหน้าแดงด้วยความอับอาย

“โธ่ แม่ครับจะมาซักอะไรกันตอนนี้ ก็ล่วงเลยมาจนป่านนี้แล้ว” วรันต์บอกสั้นๆ พยายามพูดรายละเอียดให้น้อยที่สุด อดกลั้นไม่แสดงอาการโมโหหงุดหงิดยายเด็กตัวแสบให้มารดาเห็น

“เวลาอยู่ต่อหน้าคุณหญิงแม่ แกต้องทำเป็น เออ ออ เห็นด้วยที่ยายหนูพุกนั่นมาอยู่กับแก” วรันต์นึกถึงคำพูดของวรพลที่สั่งไว้ ไอ้เพื่อนตัวดีโทรศัพท์กลับมาหาเขาในตอนดึก

“ฉันกำลังไปสืบที่ผับแล้วก็ให้คนของป๊าสอบประวัติเด็กนั่นด้วย ตอนนี้อย่าเล่าอะไรให้คุณหญิงแม่ฟังเรื่องมันจะไปกันใหญ่”

“จะพยายามนะ อยากจะหักคอทิ้งวันละร้อยหน” เขาตอบไป ทรงพลถึงกับหลุดขำก๊าก

“แกนี่มันจริงๆเลยนะ ฉันก็ไม่เห็นว่ายายหนูพุกตัวจิ๊ดนั่นจะสร้างปัญหาอะไร ดูเงียบๆขี้กลัว แกเสียอีกตวาดเอาตวาดเอา ระวังเขาจะตกใจตายนะโว้ย”

“รู้น้อยไปสิ ลอยหน้าลอยตาเถียงฉอดๆล่ะไม่ว่า พอว่าให้ก็ทำหน้าหงิกหน้างอหนีไปแอบอยู่ในห้อง เห็นแล้วรำคาญลูกตา”

“เออ ทนเอาหน่อยก็แล้วกันขอสอบประวัติไม่นานหรอก แต่ไอ้ฉันก็ไม่อยากเชื่อนะว่ายายหนูนั่นทำงานอยู่ที่ผับ แกแน่ใจเหรอไอ้รันต์ว่าคืนนั้นอยู่กับยายหนูพุกจริงๆ”

“แน่สิ ฉันยังไปส่งที่บ้านเลย ที่ฉันบอกแกไปน่ะ”

“ถ้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า เรื่องมันอาจจะยิ่งยุ่งนะรัน”

“ทำไมแกคิดอย่างนั้น”

“ก็แกทำลูกสาวเขาเสียหายขนาดนั้นแกนึกว่าที่บ้านเขาจะยอมหรือ”

“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจนี่หว่า แกก็รู้นี่ว่าเรื่องมันเกิดเพราะไอ้เพื่อนชั่วของฉัน” วรันต์ด่าเข้าให้

“เอ๊ะ ไอ้นี่หลอกด่ากันนี่ฉันก็หวังดีอย่างให้เพื่อนมีความสุข ไหงมันเป็นแบบนี้ไปเสียได้ก็ไม่รู้ เออ แล้วเรื่องท้องไม่ท้องแกจะบอกคุณหญิงแม่ไหม”

“บอกสิ จะได้มีเหตุมีผลหน่อย ไม่งั้นคุณแม่ไล่เปิงแล้ว”

“ไอ้ชีพมันว่าไงล่ะ”

“มันถามข้อมูลมาให้ว่าจริงๆช่วงนี้ก็พอตรวจได้อยู่ แต่ผลมันจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นว่าจะให้ดีต้องรอให้รอบเดือนไม่มาค่อยพาไปตรวจที่คลินิก”

“แกก็รอหน่อยแล้วกัน อย่างน้อยยายหนูพุกก็ช่วยกันน้องลิลี่กับอีกสารพัดคุณหนูที่แม่แกจะหามาประเคนให้แกได้สักพักล่ะ”

การคาดหมายของทรงพลแม่นราวกับตาเห็น เพราะทันทีที่รู้เรื่องคุณหญิงวีรยาถึงกับลมแทบจับ

“รันนะ ทำไมทำอย่างนี้แล้วแม่จะมีหน้าไปทาบทามลูกสาวใครมาให้รันได้อีก มีเล็กมีน้อยซุกอยู่แบบนี้น่ะ”

“แม่ก็อย่าเพิ่งคิดมากยุคสมัยนี้มันก็แบบนี้พอใจก็อยู่ด้วยกันไม่พอใจก็เลิก แฟร์จะตาย” เขาปรายตามองไปทางพุทธชาดเหมือนจะบอกหล่อนเป็นนัยๆ

“ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริงๆล่ะรันจะทำยังไง”

“แม่ก็เตรียมเลี้ยงหลานสิครับ อยากได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงติดจะประชด

“ว๊าย จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนพิธีอะไรก็ไม่มี โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่หรือเปล่า เวลาออกงานเขาถามกันแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หรือจะให้เก็บไว้เป็นนางก้นครัว”

“แล้วนี่เธอไม่มีพ่อมีแม่หรือไงออกจากบ้านมาอยู่กับผู้ชายเขาดื้อๆแบบนี้น่ะเขาไม่ว่าเอาหรือ” คุณหญิงวีรยาหันมาซักพุทธชาดบ้าง

“พ่อแม่เสียหมดแล้วค่ะตั้งแต่หนูยังเล็ก” เธอบอกไปตามจริง

“อ้าว แล้วอยู่ยังไง อยู่กับใคร เขาไม่เป็นห่วงมาตามหาหรอกหรือ เกิดไปแจ้งความจะทำยังไง”

“อยู่กับป้าค่ะ เขาไม่ค่อยสนใจหนูหรอกค่ะป้าเขามีลูกอีกตั้งสองคน” นี่ก็ความจริงอีกเหมือนกัน

“อายุเขายังไม่ถึงสิบแปดครับ” วรันต์เสริม

“หมายความว่าไง แม่ไม่เข้าใจ”

“ก็พรากผู้เยาว์น่ะสิครับแม่”

“ต๊าย หมดกันชื่อเสียงป่นปี้หมดคราวนี้ รันนะรันทำอะไรนึกแต่สนุกไม่คิดหน้าคิดหลัง” คุณหญิงถึงกับทิ้งตัวเอนพิงพนักเก้าอี้ดมยาลมฟืดใหญ่ ฟูมฟายไม่เลิก

“พุดเขาไม่อยากกลับบ้านครับ ที่บ้านไม่ค่อยสนใจเขาก็เลยขออยู่ที่นี่ ผมเองก็ไม่อยากเสี่ยง รออีกสักเดือนสองเดือนเขาก็ครบสิบแปดแล้วค่อยว่ากัน”

“แล้วหลังจากนั้นล่ะรัน จะทำยังไงกัน”

“ก็ถ้าเขาท้อง ในกรณีที่เป็นลูกของผมก็คงต้องรับผิดชอบครับ แต่ถ้าไม่ก็คงต้องคุยกัน” พุทธชาดเม้มปากแน่น เธอเข้าใจว่าเขาจงใจพูดกำกวมว่า อาจจะ “ไม่ท้อง” หรืออาจจะท้องแต่เขา “ไม่ใช่พ่อเด็ก”

“แปลว่าต้องรออย่างต่ำก็เป็นเดือนเลยใช่ไหม”

“ครับ ช่วงนี้ผมก็คงต้องดูแลเขา ขอตัวไม่ออกงานนะครับ” เขารีบสรุปเข้าเป้า เห็นช่องทางเลี่ยงงานสังคมน่าเบื่อหน่ายที่มารดามักจะลากเขาไปอวดพวกลูกท่านหลานเธอโดยหวังว่าจะได้เกี่ยวดองกัน

“ย่ะ ใครจะกล้าพาไปโชว์ล่ะยะพ่อคุณ ผู้หญิงดีๆทั้งนั้นขืนรู้ว่าแม่สมรู้ร่วมคิดด้วยมีหวังโดนถอนหงอกกันตายพอดี”

“แล้วลิลี่”

“ก็คงต้องเลี่ยงๆไป แม่จะบอกว่าเป็นเด็กที่แม่ส่งไปช่วยรันทำงาน”

“แม่บอกเขาอย่ามาหาผมที่นี่สิครับ ผมไม่ค่อยสะดวก”

“เอาเถอะแม่จะบอกเขาให้ แต่แม่ก็ไม่ปล่อยให้เรื่องมันคาราคาซังนานหรอกนะ อีกอย่างหลังจบเรื่องนี้รันคงต้องคิดเรื่องแต่งงานจริงๆแล้วนะ”




 

Create Date : 28 มกราคม 2555
0 comments
Last Update : 28 มกราคม 2555 9:03:14 น.
Counter : 476 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดาวกันยา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ

Friends' blogs
[Add ดาวกันยา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.